Categories
2024 Scandinavia Tour

ทัวร์โลโฟเทน ล่าแสงเหนือ โลโฟเทน

ทัวร์โลโฟเทน
แสงเหนือ ดวงดาว และบ้านสีแดง
สรุปไฮไลท์

☀️หมู่บ้าน Hamnøy – หมู่บ้านประมงเก่าแก่ที่มีบ้านไม้สีแดง (rorbu) ตั้งอยู่บนเสาริมน้ำ เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมที่สุดในโลโฟเตน

☀️Reine – หมู่บ้านชาวประมงที่ได้รับการจัดอันดับว่าสวยที่สุดในโลก มีบ้านไม้สีแดงล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชันรูปฟันฉลาม

☀️หาด Uttakleiv และ Haukland – หาดที่สวยงามโดดเด่น โดย Uttakleiv มีหินรูปหัวใจธรรมชาติ ส่วน Haukland ได้รับการโหวตให้เป็นหาดที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

☀️Henningsvær – “เวนิสแห่งโลโฟเตน” หมู่บ้านบนเกาะเล็กๆ ที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพาน มีสนามฟุตบอลวิวสวยที่สุดในโลกและแกลเลอรี่ศิลปะมากมาย

☀️หาด Ramberg – หาดทรายขาวละเอียดยาว 800 เมตร น้ำทะเลใสสีเทอร์ควอยซ์คล้ายทะเลคาริบเบียน

☀️Nusfjord – หมู่บ้านประมงโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นมรดกโลก มีโรงงานน้ำมันตับปลาโบราณและบ้านชาวประมงดั้งเดิม

☀️หมู่บ้าน Å – หมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ปลายสุดของถนน E10 มีพิพิธภัณฑ์ประมงและจุดชมวิวทะเลเปิด

☀️หาด Skagsanden – หาดทรายขาวที่มีภูเขา Hustinden สูง 1,000 เมตรเป็นฉากหลัง เป็นจุดเล่นเซิร์ฟและชมแสงเหนือยอดนิยม

☀️สะพาน Fredvang – สะพานคู่ยาว 800 เมตร สร้างปี 1988 เชื่อมระหว่างเกาะ มีจุดชมวิวทะเลและภูเขาที่สวยงาม

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 99,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 10 – 17 ตค 68 
    • 1 – 8 พย 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Lofoten
Lofoten
Lofoten

โปรแกรมทริป Norway Pure Lofoten

วันที่ 1

  • บินจากไทยไปออสโล โดยสายการบินไทย

วันที่ 2

  • บินไป Evenes (เมือง Narvik): ประตูสู่หมู่เกาะโลโฟเตน ท่ามกลางภูเขาและฟยอร์ด
  • เดินทางสู่ Svolvær: เมืองใหญ่ที่สุดในโลโฟเตน มีท่าเรือสวยงาม เรือประมงสีสันสดใสจอดเรียงราย ศูนย์กลางกิจกรรมท่องเที่ยว
  • พักที่ Svolvær

วันที่ 3

  • โบสถ์ Vågan: โบสถ์ไม้สไตล์โกธิคสร้างปี 1898 จุคนได้ 1,200 คน ใหญ่ที่สุดในโลโฟเตน
  • Leknes: ศูนย์กลางการค้าและบริการ จุดเชื่อมต่อไปยังหาดและหมู่บ้านต่างๆ
  • หาด Skagsanden: หาดทรายขาวมีภูเขา Hustinden สูง 1,000 เมตรเป็นฉากหลัง จุดเล่นเซิร์ฟและชมแสงเหนือยอดนิยม
  • หาด Ramberg: หาดทรายขาวละเอียดยาว 800 เมตร น้ำทะเลใสสีเทอร์ควอยซ์คล้ายทะเลคาริบเบียน
  • หมู่บ้าน Hamnøy: หมู่บ้านประมงเก่าแก่ บ้านไม้สีแดง (rorbu) ตั้งบนเสาริมน้ำ จุดถ่ายภาพยอดนิยมที่สุด
  • พักที่ Hamnøy

วันที่ 4

  • Sakrisøy: หมู่บ้านประมงบ้านสีเหลืองสดใส มีประวัติผลิตน้ำมันตับปลาและปลาตากแห้ง มีร้านของที่ระลึกงานหัตถกรรม
  • หมู่บ้าน Å: หมู่บ้านชาวประมงปลายสุดของถนน E10 มีพิพิธภัณฑ์ประมงและพิพิธภัณฑ์ขนมปัง จุดชมวิวทะเลเปิด
  • Reine: หมู่บ้านชาวประมงติดอันดับสวยที่สุดในโลก บ้านไม้สีแดงล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชันรูปฟันฉลาม
  • พักที่ Hamnøy

วันที่ 5

  • สะพาน Fredvang: สะพานคู่ยาว 800 เมตร สร้างปี 1988 เชื่อมระหว่างเกาะ มีจุดชมวิวทะเลและภูเขา
  • Nusfjord: หมู่บ้านประมงโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นมรดกโลก มีโรงงานน้ำมันตับปลาโบราณและบ้านชาวประมงดั้งเดิม
  • หาด Uttakleiv และ Haukland: Uttakleiv มีหินรูปหัวใจธรรมชาติ ส่วน Haukland มีทรายขาวรูปพระจันทร์เสี้ยว ได้รับโหวตเป็นหาดที่สวยที่สุดในนอร์เวย์
  • พักที่ Svolvær

วันที่ 6

  • Henningsvær: “เวนิสแห่งโลโฟเตน” หมู่บ้านบนเกาะเล็กๆ เชื่อมด้วยสะพาน มีสนามฟุตบอลวิวสวยที่สุดในโลก แกลเลอรี่ศิลปะและร้านค้างานฝีมือ
  • เดินทางกลับ Evenes: เมืองเล็กๆ มีทะเลสาบ Lavangsfjorden และโบสถ์ Evenes Kirke สร้างปี 1800
  • พักที่ Evenes

วันที่ 7

  • บินจาก Evenes กลับ ออสโล
  • บินกลับประเทศไทย

วันที่ 8

  • ถึงกรุงเทพฯ พร้อมความทรงจำดีๆ

Add Your Heading Text Here

Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Northernlight Roadtrip Scandinavia

ทัวร์โลโฟเทน ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน

ทัวร์โลโฟเทน
ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน
สรุปไฮไลท์

10 ไฮไลท์สำหรับทริปนอร์เวย์

☀️Haukland Beach (Lofoten): สัมผัสความงามของหาดทรายขาว น้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

☀️หมู่บ้าน Å (Lofoten): เยือนหมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ปลายสุดของเกาะ Lofoten สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม และชมทัศนียภาพอันงดงามของฟยอร์ด

☀️หมู่บ้านโบราณ Nusfjord (Lofoten): ย้อนเวลาสู่หมู่บ้านชาวประมงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุด ชมบ้านไม้สีสันสดใส และเรียนรู้ประวัติศาสตร์การประมง

☀️หมู่บ้าน Reine (Lofoten): ชมหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten มีบ้านสีแดงสดตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะ

☀️สะพาน Reinebrua (Lofoten): เก็บภาพความประทับใจกับสะพานที่เชื่อมระหว่างเกาะ เป็นจุดชมวิวพาโนรามาที่สวยงามของ Reine

☀️Hamnøy (Lofoten): ถ่ายภาพกระท่อมชาวประมงสีแดงสดบนโขดหิน ซึ่งเป็น Landmark สำคัญและเป็นภาพสัญลักษณ์ที่โด่งดังของ Lofoten

☀️Henningsvær (Lofoten): เยี่ยมชมเมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่มีชีวิตชีวา มีสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ริมทะเลอย่างโดดเด่น

☀️Lofotr Viking Museum (Borg): เรียนรู้เรื่องราวและประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้ง ผ่านการจัดแสดงโบราณวัตถุ และชมบ้านไวกิ้งจำลองขนาดใหญ่

☀️Arctic Cathedral (Tromsø): ตื่นตาตื่นใจกับมหาวิหารที่มีรูปทรงทันสมัยคล้ายภูเขาน้ำแข็ง เป็นสัญลักษณ์ของเมืองทรอมโซ

☀️ยอดเขา Storsteinen (Tromsø): ชมวิวเมืองทรอมโซ ฟยอร์ด และภูเขาโดยรอบแบบ 360 องศา จากจุดชมวิวบนยอดเขา

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 119,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 20 – 28 กย 68 
    • 11 – 19 ตค 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – Oslo

  • เดินทางจากกรุงเทพฯ สู่กรุง Oslo เมืองหลวงของนอร์เวย์

วันที่ 2: Oslo – Leknes (Lofoten)

  • Uttakleiv Beach: หาดหินกลมอันเป็นเอกลักษณ์ มีชื่อเสียงจากความสวยงามและเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม
  • Haukland Beach: หาดทรายขาวบริสุทธิ์ น้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

วันที่ 3: Lofoten

  • หมู่บ้าน Å: หมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ปลายสุดของเกาะ Lofoten สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม
  • พิพิธภัณฑ์ปลาคอด (Lofoten Stockfish Museum): เรียนรู้ประวัติและความสำคัญของการทำปลาคอดตากแห้ง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ Lofoten
  • หมู่บ้านโบราณ Nusfjord: หมู่บ้านชาวประมงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุด ชมบ้านไม้สีสันสดใสและโรงงานน้ำมันตับปลาคอดเก่าแก่
  • Hamnøy: หมู่บ้านที่มีกระท่อมชาวประมงสีแดงสดริมน้ำ เป็นภาพสัญลักษณ์ที่โด่งดังของ Lofoten

วันที่ 4: Lofoten

  • หมู่บ้าน Reine: หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่สวยงาม มีบ้านสีแดงสดตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะ
  • สะพาน Reinebrua: สะพานที่เชื่อมระหว่างเกาะ เป็นจุดชมวิวพาโนรามาที่สวยงามของ Reine
  • จุดชมวิว (Reine): ขึ้นไปยังจุดที่สูงขึ้นเพื่อชมทัศนียภาพแบบกว้างไกลของฟยอร์ดและ Lofoten
  • หมู่บ้านสีเหลือง Sakrisøy: หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบ้านทาสีเหลืองสดใสเป็นเอกลักษณ์
  • Hamnøy: กลับมาถ่ายภาพกระท่อมสีแดงบนโขดหิน ซึ่งเป็น Landmark สำคัญของ Lofoten

วันที่ 5: Lofoten – Svolvær

  • Ramberg Beach: หาดทรายสีขาวละเอียด ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าครามและบ้านสีแดง
  • สะพานข้ามเกาะ Fredvang: สะพานที่มีลักษณะโค้งคล้ายกับ Atlantic Ocean Road เป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงาม
  • Henningsvær: เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงมีชีวิตชีวา มีสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ริมทะเลอย่างโดดเด่น
  • Svolvær: เมืองหลักของ Lofoten มีท่าเรือที่คึกคักและเป็นศูนย์กลางการเดินทาง

วันที่ 6: Borg – Harstad

  • Lofotr Viking Museum (Borg): พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวและโบราณวัตถุเกี่ยวกับชาวไวกิ้ง มีบ้านไวกิ้งจำลองขนาดใหญ่
  • ภูเขาเคิปเพน (Keipen) (Harstad): ภูเขาที่สูงที่สุดในเมือง Harstad สามารถมองเห็นวิวเมืองและสภาพแวดล้อมโดยรอบ
  • Kasfjord City – Mini Town (Harstad): เมืองจำลองขนาดเล็กที่มีอาคารต่างๆ กว่า 100 หลัง
  • Trondenes Church (Harstad): โบสถ์ยุคกลางที่สวยงาม ตั้งอยู่บนแหลม Trondenes

วันที่ 7: Harstad – Tromsø

  • Tromsø Cathedral: โบสถ์ไม้ที่เก่าแก่และมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในเมืองทรอมโซ
  • Arctic Cathedral (Tromsdalen Church): มหาวิหารที่มีรูปทรงทันสมัยคล้ายภูเขาน้ำแข็ง เป็นสัญลักษณ์ของทรอมโซ
  • ยอดเขา Storsteinen (Fjellheisen): ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อชมวิวเมืองทรอมโซ ฟยอร์ด และภูเขาโดยรอบแบบ 360 องศา
  • อ่าวและท่าเรือ (Tromsø): บริเวณที่มีชีวิตชีวา มีบ้านเรือนสีสันสดใสและร้านค้าต่างๆ

วันที่ 8: Tromsø – Oslo – กรุงเทพฯ

  • เดินทางจากทรอมโซกลับสู่กรุง Oslo เพื่อต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 9: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
Categories
07-Jul 2024 Northernlight Roadtrip Scandinavia

ทัวร์ Extreme เทรคนอร์เวย์ Lofoten • Kjerag • Trolltunga • Preikestolen

ทัวร์ Extreme เทรคนอร์เวย์
Lofoten • Kjerag • Trolltunga • Preikestolen
สรุปไฮไลท์

☀️รวมที่สุดของเส้นทางเทรคั้ง Lofoten และ Trolltunga ในทริปเดียวกัน ไปครั้งเดียวเที่ยวครบทุกที่

☀️Reinebringen – จุดชมวิวพาโนรามาอันสวยงามที่มองเห็นหมู่บ้าน Reine และฟยอร์ดโดยรอบจากมุมสูง เป็นหนึ่งในวิวที่เป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน

☀️Trolltunga – “ลิ้นแห่งโทรล” แท่นหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผาสูง 700 เมตรเหนือทะเลสาบ Ringedalsvatnet เป็นแลนด์มาร์คระดับโลกของนอร์เวย์และจุดถ่ายภาพที่มีความตื่นเต้นที่สุด

☀️Kjeragbolten – ก้อนหินกลมขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ระหว่างซอกผาสูง 984 เมตร เหนือฟยอร์ด Lysefjord ทำให้เกิดภาพถ่ายที่น่าตื่นเต้นเหมือนกำลังลอยอยู่เหนือความสูง

☀️Preikestolen – “แท่นเทศนา” ผาหินแกรนิตรูปสี่เหลี่ยมสูง 604 เมตร ที่ยื่นออกไปเหนือฟยอร์ด Lysefjord สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Mission Impossible

☀️หมู่บ้าน Reine – หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ ด้วยบ้านไม้สีแดงที่ตั้งอยู่ริมน้ำโดยมีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชัน

☀️รถไฟ Flåmsbana – หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดในโลก ระยะทาง 20 กิโลเมตรที่ลัดเลาะไปตามเทือกเขาและผ่านน้ำตกสวยงาม

☀️ล่องเรือชม Nærøyfjord – ฟยอร์ดที่แคบที่สุดในโลกที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก มีความกว้างเพียง 250 เมตรในบางจุด ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชันและน้ำตก

☀️ภูเขา Segla – ยอดเขารูปทรงสามเหลี่ยมที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะ Senja ที่คนไทยยังไม่ค่อยได้ไปเยือน มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา

☀️หมู่บ้าน Henningsvaer – “เวนิสแห่งโลโฟเทน” หมู่บ้านชาวประมงที่สวยงามตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ หลายเกาะเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน มีร้านค้าและร้านอาหารที่มีเสน่ห์

☀️หาด Kvalvika – หาดทรายขาวที่มองเห็นได้จากยอดเขา Ryten เป็นหาดที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชัน สามารถมองเห็นวิวของมหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 179,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป นอร์เวย์ Trek

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – ออสโล

  • เช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ณ เคาน์เตอร์สายการบิน Thai Airways

  • ออกเดินทางสู่เมืองออสโล (Oslo) เมืองหลวงแห่งประเทศนอร์เวย์

  • พักผ่อนตลอดการเดินทางบนเครื่องบิน

วันที่ 2: ออสโล – เลคเนส

  • เดินทางถึงสนามบินออสโล

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เที่ยวบินภายในประเทศต่อไปยังเลคเนส (Leknes) ประตูสู่หมู่เกาะโลโฟเทน

  • เช็คอินเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

  • รับประทานอาหารค่ำ ชมบรรยากาศยามค่ำคืนของเมือง

วันที่ 3: หมู่เกาะโลโฟเทน – Å – Nusfjord – Reine – Reinebringen

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เยี่ยมชมหมู่บ้าน Å หมู่บ้านที่อยู่ใต้สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน

  • ชมหมู่บ้านโบราณ Nusfjord หมู่บ้านชาวประมงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในโลโฟเทน

  • รับประทานอาหารกลางวัน

  • เที่ยวชมหมู่บ้าน Reine หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

  • เดินเทรคสู่จุดชมวิว Reinebringen เพื่อชมวิวพาโนรามาของหมู่บ้าน Reine จากมุมสูง (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 4: Ryten Hike – Henningsvaer

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เริ่มการเดินเทรคบนเส้นทาง Ryten Hike หนึ่งในเส้นทางยอดนิยมของหมู่เกาะโลโฟเทน ชมวิวชายหาด Kvalvika อันงดงามจากมุมสูง (ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก ระหว่างการเดินเทรค

  • เดินทางไปยัง Henningsvaer หมู่บ้านประมงที่ได้ชื่อว่าเป็น “เวนิสแห่งโลโฟเทน”

  • เดินเล่น ช้อปปิ้งซื้อของที่ระลึก และถ่ายภาพความงดงามของหมู่บ้าน

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 5: Floya Hike – เดินทางสู่เกาะ Senja

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เดินเทรคไปยังจุดชมวิว Floya สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของหมู่เกาะโลโฟเทน (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารกลางวัน

  • เดินทางไปยังเกาะ Senja เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของนอร์เวย์

  • เช็คอินที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

  • รับประทานอาหารค่ำ

วันที่ 6: Segla Hike – ทรอมโซ

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เดินเทรคขึ้นภูเขา Segla สัญลักษณ์ของเกาะ Senja ที่มีรูปทรงเฉพาะตัวอันโดดเด่น (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารกลางวัน

  • เดินทางสู่เมืองทรอมโซ (Tromso) เมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือ

  • ชมเมืองทรอมโซ เยี่ยมชมอ่าวและท่าเรือ บ้านเรือนสีสันสดใสริมน้ำ

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 7: ทรอมโซ – เบอร์เกน

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เดินทางไปยังสนามบินทรอมโซ

  • บินภายในประเทศสู่เมืองเบอร์เกน (Bergen)

  • เช็คอินที่พัก

  • เที่ยวชมเมืองเบอร์เกน เยี่ยมชมย่าน Bryggen ริมอ่าวซึ่งเป็นมรดกโลกจาก UNESCO

  • เดินเล่นตลาดปลา และถนนคนเดินในเมืองเก่า

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 8: รถไฟ Flåmsbana – Flam – Stegastein – Nærøyfjord – Trolltunga Base Camp

  • รับประทานอาหารเช้า

  • นั่งรถไฟสาย Flåmsbana หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดในโลก

  • เยี่ยมชมเมือง Flam เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของฟยอร์ดที่ลึกและยาวที่สุดในโลก

  • รับประทานอาหารกลางวัน

  • ชมวิวพาโนรามาของ Aurland ฟยอร์ดจากจุดชมวิว Stegastein

  • ล่องเรือชม Nærøyfjord ฟยอร์ดที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก

  • เดินทางไปยัง Trolltunga Base Camp เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเทรควันพรุ่งนี้

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 9: Trolltunga

  • รับประทานอาหารเช้าแต่เช้า

  • เริ่มการเดินเทรคสู่ Trolltunga หรือ “ลิ้นโทรล” หินที่ยื่นออกมาจากหน้าผาสูง เป็นแลนด์มาร์คระดับโลกของนอร์เวย์ (ใช้เวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมง ไป-กลับ)

  • รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิกระหว่างทาง

  • ถ่ายรูปบนหิน Trolltunga กับวิวทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์เบื้องล่าง

  • เดินทางกลับมายังที่พัก

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนหลังจากวันที่เหนื่อยล้า

วันที่ 10: เดินทางสู่ Kjerag Lysebotn

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เดินทางไปยัง Kjerag Lysebotn

  • พักผ่อนตามอัธยาศัยริมฟยอร์ด เตรียมพร้อมสำหรับการเทรควันพรุ่งนี้

  • รับประทานอาหารกลางวันและอาหารค่ำ

วันที่ 11: Kjerag Lysebotn walk – Jørpeland

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เริ่มการเดินเทรคสู่ Kjeragbolten ก้อนหินกลมขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ระหว่างซอกผา (ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก

  • เดินทางกลับมายังเมือง Jørpeland เมืองเล็กๆ ริมชายฝั่งตะวันตกของนอร์เวย์

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 12: Preikestolen Walk – สตาวังเงอร์

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เดินเทรคไปยัง Preikestolen หรือ “แท่นเทศนา” ผาหินแกรนิตสูง 604 เมตรที่ยื่นออกไปเหนือฟยอร์ด สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Mission Impossible (ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารกลางวัน

  • เดินทางสู่เมืองสตาวังเงอร์ (Stavanger) เมืองหลวงแห่งน้ำมันของยุโรป

  • ชมเมืองเก่า และเดินเล่นตามถนนที่ปูด้วยหินในย่านเมืองเก่า

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 13: สตาวังเงอร์ – ออสโล – กรุงเทพฯ

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เที่ยวชมเมืองสตาวังเงอร์เพิ่มเติมในช่วงเช้า

  • เดินทางไปยังสนามบินสตาวังเงอร์

  • บินภายในประเทศสู่ออสโล

  • ต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน Thai Airways

  • พักผ่อนบนเครื่องบิน

วันที่ 14: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจจากการเดินทาง

Categories
07-Jul 2024 Roadtrip Scandinavia

ทัวร์เทรคนอร์เวย์ ไฮไลท์ Kjerag • Trolltunga • Preikestolen

ทัวร์เทรคนอร์เวย์
ไฮไลท์ Kjerag • Trolltunga • Preikestolen
สรุปไฮไลท์

☀️สตาวังเกอร์: ย่าน Gamle Stavanger บ้านไม้สีขาวที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ, มหาวิหารยุคไวกิ้ง, อนุสาวรีย์ดาบสามเล่ม

☀️เบอร์เกน: เมืองมรดกโลก Bryggen Wharf อาคารไม้สีสันสดใสริมน้ำจากยุคฮันเซียติก

☀️Kjeragbolten: หินมหัศจรรย์ติดค้างระหว่างหน้าผา (เดิน 12 กม.)

☀️Preikestolen (Pulpit Rock): หน้าผาอายุ 10,000 ปี สูง 604 ม.

☀️Trolltunga: “ลิ้นโทรลล์” แผ่นหินยื่นจากหน้าผา (เดิน 28 กม.)

☀️Lysefjord: ฟยอร์ดลึก 422 ม. ยาว 42 กม.

☀️Nærøyfjord: ฟยอร์ดมรดกโลกที่แคบที่สุดในโลก (กว้างเพียง 250 ม.)

☀️น้ำตกสวยที่สุด: Kjosfossen, Låtefossen (น้ำตกคู่), Tvindefossen

☀️Flåmsbana: รถไฟสายที่ชันและสวยที่สุดในโลก

☀️Stegastein Viewpoint: จุดชมวิวที่ยื่นออกจากหน้าผา 30 ม.

☀️กระเช้า Fløibanen: ชมวิวพาโนรามาเบอร์เกนจากยอดเขา Mount Fløyen

ค่าทริปและการจองทริป
สรุปทริป
  • ค่าทริป
    • ห้องคู่-ห้อง 3 คน ท่านละ 129,000 บาท
    • พักเดี่ยวเพิ่ม 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 27 มิย – 6 กค  68
    • 11-20 กค. 68
    • 15-24 สค. 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334

✅️  รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️  โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️  กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️  นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️  ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔  วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔  ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔  ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Place
Place
Place

โปรแกรมทัวร์ นอร์เวย์ Summer trek

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – ออสโล

  • บินตรงด้วย Thai Airways เที่ยวบิน TG954 (21:30 น.)
  • ออสโล เป็นเมืองหลวงของนอร์เวย์ เมืองที่ผสมผสานความทันสมัยกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลก และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น

วันที่ 2: สตาวังเกอร์ – ลีเซบ็อตน์

  • เยี่ยมชมเมืองเก่าสตาวังเกอร์ บ้านไม้สีขาวอายุ 200 ปี – หนึ่งในชุมชนบ้านไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป เรียกว่า “Gamle Stavanger” มีบ้านไม้สีขาวกว่า 170 หลัง เรียงรายบนถนนหินกรวดแคบๆ สะท้อนวิถีชีวิตชาวประมงในอดีต
  • ชมอนุสาวรีย์ดาบสามเล่ม (Sverd i fjell) – อนุสาวรีย์ขนาดใหญ่สูง 10 เมตร สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการรวมนอร์เวย์เป็นอาณาจักรเดียวในศตวรรษที่ 9
  • มหาวิหารสตาวังเกอร์ (Stavanger Cathedral) – โบสถ์เก่าแก่ที่สุดในนอร์เวย์ สร้างในศตวรรษที่ 12 ในสไตล์โกธิค
  • เดินทางสู่หมู่บ้านลีเซบ็อตน์ (Lysebotn) – หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ปลายสุดของฟยอร์ด Lysefjord ที่ลึกที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ มีประชากรเพียงไม่กี่สิบคน ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชัน

วันที่ 3: Kjerag

  • เดินป่าระยะทาง 12 กม. (7-8 ชม.) – เส้นทางเดินป่าที่ท้าทายผ่านภูมิประเทศที่สวยงาม มีการปีนขึ้น-ลงสลับกัน 3 ช่วงใหญ่
  • Kjeragbolten – หินทรงกลมที่ติดอยู่ระหว่างช่องเขา สูงจากพื้นฟยอร์ด 984 เมตร เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม ด้วยความท้าทายของการยืนบนก้อนหินที่แขวนอยู่เหนือความสูงกว่าพันเมตร
  • วิวพาโนรามาของ Lysefjord – หนึ่งในฟยอร์ดที่สวยที่สุดของนอร์เวย์ มีความยาว 42 กิโลเมตร

วันที่ 4: Jørpeland

  • เมือง Jørpeland – เมืองเล็กๆ ที่ได้ฉายาว่า “เมืองประตูสู่ Preikestolen” มีประชากรประมาณ 7,000 คน
  • ศูนย์กลางเมืองมีร้านค้าท้องถิ่น ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารนอร์ดิกแท้ๆ และคาเฟ่ที่อบอุ่น
  • Jørpelandsholmen – เกาะเล็กๆ ที่เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพาน เป็นจุดพักผ่อนยอดนิยมของคนท้องถิ่น
  • Preikestolen Hiking Center – ศูนย์ข้อมูลที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเส้นทางเดินป่าและธรรมชาติในพื้นที่

วันที่ 5: Preikestolen – Odda

  • Preikestolen (Pulpit Rock) – หน้าผารูปทรงสี่เหลี่ยมที่ยื่นออกไปเหนือฟยอร์ด สูง 604 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ดังที่สุดในโลก
  • เส้นทางเดินป่าระยะทาง 8 กิโลเมตร (ไป-กลับ) ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง มีความยากระดับปานกลาง
  • น้ำตกคู่ Låtefossen – น้ำตกคู่ที่สวยงาม ไหลลงมาจากทั้งสองด้านและมาบรรจบกันใต้สะพาน เป็นจุดแวะถ่ายรูปที่สำคัญ
  • เมือง Odda – เมืองเล็กๆ ริมฟยอร์ด เป็นฐานที่ดีสำหรับการเดินทางไป Trolltunga ล้อมรอบด้วยภูเขาและธารน้ำแข็ง Folgefonna

วันที่ 6: Trolltunga

  • เดินป่าระยะไกล 20 กม. (10-12 ชม.) – หนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่ท้าทายและมีชื่อเสียงที่สุดของนอร์เวย์
  • Trolltunga (ลิ้นโทรล) – หน้าผาที่ยื่นออกไปในอากาศคล้ายลิ้น สูง 700 เมตรเหนือทะเลสาบ Ringedalsvatnet
  • ทัศนียภาพรอบทางประกอบด้วยภูเขา ทะเลสาบ และธารน้ำแข็งในอุทยานแห่งชาติ Hardangervidda

วันที่ 7: Flamsbana

  • รถไฟสาย Flamsbana – หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่ชันที่สุดในโลก (ความชัน 5.5%) ระยะทาง 20 กิโลเมตรจาก Myrdal สู่ Flåm ผ่านอุโมงค์ 20 แห่ง
  • จุดชมวิวน้ำตก Kjosfossen – รถไฟจะจอดให้ผู้โดยสารลงมาชมน้ำตกสูง 93 เมตร
  • Nærøyfjord – ฟยอร์ดที่แคบที่สุดในโลก (ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก) มีความกว้างเพียง 250 เมตรในบางช่วง ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง 1,800 เมตร
  • หมู่บ้าน Flåm – หมู่บ้านเล็กๆ ที่น่ารักริมฟยอร์ด มีร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์รถไฟ

วันที่ 8: เบอร์เกน

  • น้ำตก Tvindefossen – น้ำตกสวยงามสูง 152 เมตรระหว่างทางไปเบอร์เกน
  • ย่าน Bryggen Wharf – ย่านท่าเรือเก่าแก่ที่เป็นมรดกโลก มีอาคารไม้สีสันสดใสเรียงรายริมน้ำ สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14
  • กระเช้า Fløibanen – นำผู้โดยสารขึ้นไปบนยอดเขา Fløyen ที่สูง 320 เมตร ให้วิวพาโนรามาของเมืองเบอร์เกนและอ่าวโดยรอบ
  • ตลาดปลา (Fish Market) – ตลาดเก่าแก่ริมท่าเรือที่มีอาหารทะเลสดใหม่และอาหารท้องถิ่น

วันที่ 9-10: เดินทางกลับ

  • ออสโล – หากมีเวลาสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง พิพิธภัณฑ์มุนช์ หรือโรงโอเปร่าออสโลที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น
  • บินกลับกรุงเทพฯ เที่ยวบิน TG955
Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Roadtrip Scandinavia

ทัวร์นอร์เวย์ ล่าแสงเหนือโลโฟเทน-ล่องฟยอร์ดฟลอม

ทัวร์นอร์เวย์
ล่าแสงเหนือโลโฟเทน-ล่องฟยอร์ดฟลอม
สรุปไฮไลท์

10 ไฮไลท์ทริปนอร์เวย์

☀️หมู่บ้าน Hamnøy และ Reine – กระท่อมชาวประมงสีแดงสดตัดกับภูเขาสูงตระหง่านและฟยอร์ดสีคราม สร้างภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของโลโฟเทนที่สวยงามที่สุด

☀️หาดทราย Ramberg และ Uttakleiv – หาดทรายขาวและน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น พร้อมหาดหินกลมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโลโฟเทน

☀️หมู่บ้าน Sakrisøy – หมู่บ้านสีเหลืองสดใสแห่งเดียวในโลโฟเทน ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ สร้างความแตกต่างจากบ้านสีแดงทั่วไปในภูมิภาคนี้

☀️เมือง Tromsø – “ประตูสู่ดินแดนอาร์กติก” และจุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มหาวิหาร Arctic Cathedral ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น

☀️รถไฟสาย Flåmsbana – การเดินทางบนเส้นทางรถไฟที่ชันและงดงามที่สุดในยุโรป ลัดเลาะผ่านภูเขา หุบเขา และน้ำตก ชมทัศนียภาพที่เปลี่ยนไปตลอดเส้นทาง

☀️Stegastein Viewpoint – จุดชมวิวที่ยื่นออกไป 30 เมตรเหนือ Aurlandsfjord ที่ความสูง 650 เมตร มอบทัศนียภาพพาโนรามาของฟยอร์ดที่น่าทึ่ง

☀️การล่องเรือชม Nærøyfjord – สัมผัสฟยอร์ดที่แคบที่สุดและงดงามที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ล้อมรอบด้วยผาหินสูงชันและน้ำตกที่ไหลลงสู่ผืนน้ำสีมรกต

☀️น้ำตก Tvindefossen – น้ำตกสูงประมาณ 150 เมตร ที่มีความงดงามตามธรรมชาติ

☀️Bryggen ในเมือง Bergen – อาคารไม้โบราณสีสันสดใสริมอ่าวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สะท้อนประวัติศาสตร์การค้าในยุคฮันเซียติก

☀️Mount Fløyen – ชมจุดชมวิวที่สูง 320 เมตรเหนือเมือง Bergen มองเห็นวิวเมืองแลท่าเรือ

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 129,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 20 – 29 มิย. 68
    • 19 – 28 กย. 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

bergen
lofoten
lofoten

โปรแกรมทริป นอร์เวย์ -ล่าแสงเหนือโลโฟเทน-ล่องฟยอร์ดฟลอม

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – ออสโล

  • พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางสู่ออสโล ประเทศนอร์เวย์
  • เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางสู่ดินแดนแห่งฟยอร์ดและแสงเหนือ

วันที่ 2: ออสโล – Leknes – Hamnøy

  • เดินทางถึงออสโล จากนั้นบินภายในประเทศสู่เมือง Leknes ประตูสู่หมู่เกาะโลโฟเทน
  • Uttakleiv และ Haukland Beach – หาดหินกลมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยหินรูปหัวใจที่มีชื่อเสียง ท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาอันตระการตา
  • Ramberg Beach – หาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ ตัดกับน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ ฉากหลังเป็นบ้านแดงสดใส สร้างภาพที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม
  • เข้าพักที่หมู่บ้าน Hamnøy หมู่บ้านประมงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่เกาะโลโฟเทน ด้วยกระท่อมแดงริมน้ำและฉากหลังเป็นภูเขาสูงตระหง่าน

วันที่ 3: หมู่บ้าน Å – Nusfjord – Reine – Hamnøy

  • หมู่บ้าน Å (ออกเสียงว่า “ออ”) – หมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนบนหมู่เกาะโลโฟเทน เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์การประมงของภูมิภาค
  • Nusfjord – หมู่บ้านชาวประมงโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในนอร์เวย์ ด้วยกระท่อมไม้สีแดงเรียงรายริมท่าเรือ และพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์การประมง
  • Reine – หมู่บ้านชาวประมงที่โด่งดังที่สุดของโลโฟเทน ด้วยทัศนียภาพของกระท่อมสีแดงตัดกับฟยอร์ดสีคราม และภูเขาสูงชัน
  • จุดชมวิวสะพาน Reinebrua – ชมวิวพาโนรามาอันงดงามของฟยอร์ดและหมู่บ้านโลโฟเทนจากมุมสูง
  • พักค้างคืนที่ Hamnøy

วันที่ 4: Sakrisøy – Fredvang – Henningsvær – Harstad

  • Sakrisøy – หมู่บ้านที่โดดเด่นด้วยบ้านสีเหลืองสดใสแห่งเดียวในโลโฟเทน ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ มีร้านขายของที่ระลึกและอาหารทะเลแห้งแบบดั้งเดิม
  • สะพานข้าม Fredvang – สะพานเชื่อมเกาะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนอร์เวย์ คล้ายกับ Atlantic Ocean Road สร้างขึ้นในปี 1988 ทอดยาวข้ามทะเลอันกว้างใหญ่
  • Henningsvær – “เวนิสแห่งโลโฟเทน” เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงคึกคักด้วยกิจกรรมประมง มีร้านค้า แกลเลอรี่ และสนามฟุตบอลริมทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก
  • เดินทางสู่เมือง Harstad เพื่อพักค้างคืน

วันที่ 5: Harstad – Tromsø

  • เดินทางจาก Harstad สู่เมือง Tromsø – “ประตูสู่ดินแดนอาร์กติก” และเมืองที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
  • City Tour – เที่ยวชมเมือง Tromsø ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์เหนือ
  • Arctic Cathedral – โบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นคล้ายภูเขาน้ำแข็ง
  • Tromsø Harbor – ท่าเรือที่สวยงามให้บรรยากาศผ่อนคลาย
  • Polaria – พิพิธภัณฑ์และศูนย์แสดงเกี่ยวกับเขตอาร์กติก
  • พักค้างคืนที่ Tromsø และชมแสงเหนือ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

วันที่ 6: Tromsø – Bergen – Voss

  • ช่วงเช้าสำรวจเมือง Tromsø เพิ่มเติม
  • บินภายในประเทศสู่เมือง Bergen – เมืองมรดกโลกริมอ่าวที่สวยงาม
  • เดินทางต่อไปยังเมือง Voss – เมืองเล็กๆ ในเขต Hordaland ที่โอบล้อมด้วยภูเขา ทะเลสาบ และน้ำตก เป็นศูนย์กลางกีฬาผจญภัย
  • พักค้างคืนที่ Voss

วันที่ 7: Flåmsbana – Myrdal – Flåm – Nærøyfjord – Voss

  • Flåmsbana – นั่งรถไฟสายโรแมนติกที่ชันและงดงามที่สุดในยุโรป ลัดเลาะขุนเขาและหุบเขาลึก
  • Myrdal – สถานีรถไฟบนภูเขาที่เชื่อมต่อระหว่าง Flåmsbana กับรถไฟสาย Bergen
  • Flåm – หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ส่วนในสุดของ Aurlandsfjord ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของฟยอร์ดที่ยาวและลึกที่สุดในโลก
  • Stegastein Viewpoint – จุดชมวิวที่ยื่นออกไป 30 เมตรเหนือ Aurlandsfjord ที่ความสูง 650 เมตร ให้ทัศนียภาพแบบพาโนรามาที่น่าทึ่ง
  • ล่องเรือ Nærøyfjord – ชมฟยอร์ดที่แคบที่สุดและงดงามที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
  • น้ำตก Tvindefossen – น้ำตกสูงประมาณ 150 เมตร มีความงดงามตามธรรมชาติและเชื่อกันว่ามีพลังในการรักษาโรค
  • กลับมาพักที่ Voss

วันที่ 8: Voss – Bergen

  • เดินทางกลับสู่เมือง Bergen – เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของนอร์เวย์
  • Bryggen – เยี่ยมชมอาคารไม้โบราณสีสันสดใสเรียงรายริมอ่าว ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
  • Bryggen Wharf – เดินเล่นบริเวณท่าเรือเก่าแก่ที่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญของยุโรปเหนือ ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์
  • Mount Fløyen – นั่งรถรางไต่ภูเขาสู่จุดชมวิวที่สูง 320 เมตร มองเห็นวิวพาโนรามาของเมือง Bergen ทะเล และฟยอร์ดโดยรอบ
  • พักค้างคืนที่ Bergen

วันที่ 9: Bergen – ออสโล – กรุงเทพฯ

  • บินภายในประเทศสู่ ออสโล
  • เดินทางกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 10: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความทรงจำอันแสนประทับใจ
Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Roadtrip Scandinavia Tour

แลปแลนด์ & โลโฟแทน

Finland Lapland
สรุปไฮไลท์

☀️รวมสองสุดยอดประเทศที่ไปดูแสงเหนือไว้ด้วยกัน

☀️ชมแสงเหนือ (Aurora Borealis) – ปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

☀️พัก Igloo Glass House  – นอนชมดาวและแสงเหนือบนเตียงอุ่นๆ

☀️นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ – กิจกรรมวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวซามิ

☀️เยือนหมู่บ้านซานตาคลอส – พบซานตาตัวจริงและส่งโปสการ์ดจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล

☀️ขึ้นกระเช้า Fjellheisen – ชมวิวพาโนรามาของเมืองทรอมโซและฟยอร์ด

☀️เยือน Henningsvaer – “เวนิสแห่งโลโฟเทน” หมู่บ้านชาวประมงสวยงาม

☀️ชมหมู่บ้าน Reine – หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

☀️จุดถ่ายรูปสะพาน Hamnoy – แลนด์มาร์คอันเป็นสัญลักษณ์ของโลโฟเทน

☀️ชายหาดอาร์กติกสุดพิเศษ – Uttakleiv และ Haukland Beach

☀️หมู่บ้านโบราณ Nusfjord – สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวโลโฟเทน

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 139,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป .......

วันที่ 1: จุดเริ่มต้นการผจญภัยในดินแดนแสงเหนือ

  • สนามบินสุวรรณภูมิ, กรุงเทพฯ – จุดเริ่มต้นของการเดินทางอันน่าตื่นเต้น
  • เดินทางสู่ Ivalo, แลปแลนด์, ฟินแลนด์ – เมืองเล็กๆ ที่เป็นประตูสู่ดินแดนแห่งแสงเหนือและกิจกรรมในฤดูหนาว

วันที่ 2: สัมผัสวัฒนธรรมซามิและโดมแก้วใต้แสงเหนือ

  • เดินทางสู่หมู่บ้านทางเหนือของฟินแลนด์ – ดินแดนที่เงียบสงบและมีวัฒนธรรมชาวซามิ (Sami)
  • ขี่กวางเรนเดียร์ – พาหนะดั้งเดิมของชาวแลปป์ สัมผัสความอบอุ่นและความน่ารักของกวางเรนเดียร์
  • เข้าพักที่ Kakslauttanen Arctic Resort, Saariselkä – ที่พักโดมแก้วให้คุณนอนชมแสงเหนือจากเตียงอุ่นๆ

วันที่ 3: ดินแดนซานตาคลอสและวงกลมอาร์กติก

  • โบสถ์ Rovaniemi, ฟินแลนด์ – โบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นพร้อมภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่
  • Santa Claus Village, Rovaniemi – หมู่บ้านซานตาคลอสอย่างเป็นทางการ พบกับซานตาคลอสและส่งโปสการ์ดจาก Arctic Circle Post Office
  • จุดตัดเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล – ถ่ายรูปที่เส้นแบ่งเขตขั้วโลกเหนือที่ 66°33′39″ เหนือ

วันที่ 4: ทรอมโซ – เมืองหลวงแห่งแสงเหนือ

  • บินสู่เมือง Tromso, นอร์เวย์ – เมืองที่มีชีวิตชีวา ขึ้นชื่อว่าเป็น “ประตูสู่ขั้วโลกเหนือ” ตั้งอยู่ใต้ Aurora Oval
  • กระเช้าไฟฟ้า Fjellheisen – พาขึ้นไปยัง Storsteinen ที่สูง 421 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชมวิวพาโนรามาของเมือง

วันที่ 5: เดินทางสู่หมู่เกาะโลโฟเทน

  • เมือง Evenes, นอร์เวย์ – เมืองเล็กๆ ในภูมิภาค Nordland เป็นจุดพักและเปลี่ยนถ่ายไปยังโลโฟเทน
  • Svolvaer, หมู่เกาะโลโฟเทน – เมืองใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางของหมู่เกาะที่มีความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง

วันที่ 6: หมู่บ้านชาวประมงและชายหาดงดงาม

  • Henningsvaer – หมู่บ้านชาวประมงบนเกาะเล็กๆ ได้รับขนานนามว่าเป็น “เวนิสแห่งโลโฟเทน” มีบ้านสีแดงสดใส
  • Uttakleiv Beach – ชายหาดชื่อดังด้วยทรายขาวและหินกลมมนกระจายทั่วหาด
  • Haukland Beach – ชายหาดสวยงามด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามและทรายขาวละเอียด

วันที่ 7: หมู่บ้านโบราณและจุดชมวิวแลนด์มาร์ค

  • Nusfjord – หมู่บ้านชาวประมงโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดี มีบ้านไม้เก่าแก่สีเหลือง
  • Reine – หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่มีทัศนียภาพงดงามราวภาพวาด ถูกยกให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์
  • Sakrisoy – หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบ้านสีเหลืองสดใสบนเกาะเล็กๆ ที่เชื่อมต่อด้วยสะพาน
  • Hamnoy – จุดชมวิวแลนด์มาร์คที่มีสะพาน Hamnoy เชื่อมระหว่างเกาะ พร้อมวิวภูเขา Olstind อันเป็นสัญลักษณ์

วันที่ 8: เดินทางกลับ

  • บินจาก Evenes สู่ Oslo, นอร์เวย์ – ออกจากดินแดนแห่งความงามของโลโฟเทนสู่เมืองหลวง
  • ต่อเครื่องบินกลับประเทศไทย – เตรียมตัวเดินทางกลับพร้อมความทรงจำอันล้ำค่า

วันที่ 9: กลับถึงบ้าน

  • เดินทางถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ – กลับถึงบ้านพร้อมความทรงจำพิเศษจากทริปแสงเหนือและโลโฟเทนม

Categories
2024 2025 Roadtrip Scandinavia

ทัวร์นอร์เวย์ซัมเมอร์ เบอร์เกน ฟลอม ไกแรงเก้อ

ทัวร์นอร์เวย์ซัมเมอร์
เบอร์เกน ฟลอม ไกแรงเก้อ
สรุปไฮไลท์

☀️ฟยอร์ดมรดกโลก – ล่องเรือชม Nærøyfjord และ Geirangerfjord ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก

☀️น้ำตกอันงดงาม – ชมน้ำตก Seven Sisters ที่โด่งดัง และน้ำตก Tvindefossen ที่มีความสูงถึง 152 เมตร

☀️ย่านประวัติศาสตร์ Bryggen Wharf – เยี่ยมชมอาคารไม้เก่าแก่สไตล์ Hanseatic จากศตวรรษที่ 14 ที่เป็นมรดกโลก

☀️ถนนมหาสมุทรแอตแลนติก – เส้นทางที่น่าทึ่งที่สุดในโลกที่ทอดยาวข้ามทะเล เชื่อมเกาะต่างๆ ด้วยสะพาน 8 แห่ง

☀️ธารน้ำแข็ง Briksdal – สัมผัสความยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็งในอุทยานแห่งชาติ Jostedal Glacier

☀️จุดชมวิว Stegastein – แพลตฟอร์มรูปทรงโค้งมนที่สร้างยื่นออกจากหน้าผา ให้วิวพาโนรามาที่น่าตื่นตาตื่นใจ

☀️ถนน Stalheimskleiva – ถนนที่ชันที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเหนือ ให้ความตื่นเต้นและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

☀️มหาวิหารนิดารูส – คริสตจักรโกธิคขนาดใหญ่ที่สุดในแถบนอร์ดิกที่ใช้เวลาสร้างกว่า 900 ปี

☀️เมืองทรอนด์เฮม – เมืองประวัติศาสตร์ยุคไวกิ้งอายุกว่าพันปี พร้อมย่านเมืองเก่า บริกเก่น ที่เต็มไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่สีสันสดใส

☀️เมืองอาเลซุนด์ – เมืองที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโวที่หาชมได้ยากในยุโรปเหนือ

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 139,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Place
Place

โปรแกรมทริป นอร์เวย์ เบอร์เกน ฟลอม ไกแรงเก้อ

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – Bangkok

  • พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางสู่นอร์เวย์

วันที่ 2: ออสโล – เบอร์เกน

  • ถึงออสโล ต่อเครื่องบินภายในประเทศสู่เบอร์เกน
  • เยี่ยมชมย่านประวัติศาสตร์ Bryggen Wharf (มรดกโลก UNESCO)
  • พักที่เมืองเบอร์เกน

วันที่ 3: เบอร์เกน – หุบเขา Bordalsgjelet – น้ำตก Tvindefossen – ฟยอร์ด Nærøyfjord – ฟลอม

  • ชมหุบเขา Bordalsgjelet Gorge
  • แวะเมือง Voss และน้ำตก Tvindefossen
  • ผ่านถนน Stalheimskleiva (ถนนชันที่สุดในยุโรปเหนือ)
  • ล่องเรือชมฟยอร์ด Nærøyfjord (มรดกโลก)
  • พักที่เมืองฟลอม

วันที่ 4: ฟลอม – จุดชมวิว Stegastein – สตริน

  • ชมวิวพาโนรามาที่ Stegastein Viewpoint
  • ชม Nordfjord และเมืองโลเอน
  • เยี่ยมชมหมู่บ้าน Olden
  • พักที่เมืองสตริน

วันที่ 5: สตริน – ฟยอร์ด Geirangerfjord – ธารน้ำแข็ง Briksdal

  • ชมวิวที่ Flydalsjuvet
  • นั่งรถ “Troll” ชมธารน้ำแข็ง Briksdal
  • ชมน้ำตก Seven Sisters ที่ Eagle Bend
  • ชมวิวที่ Dalsnibba Mountain Plateau
  • พักที่เมืองไกแรงเกอร์

วันที่ 6: ล่องเรือไกแรงเกอร์ฟยอร์ด – อาเลซุนด์

  • ล่องเรือชมไกแรงเกอร์ฟยอร์ด (มรดกโลก)
  • ชมน้ำตก Seven Sisters และตำนานความรัก
  • เที่ยวชมเมืองอาเลซุนด์ สถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว
  • พักที่เมืองอาเลซุนด์

วันที่ 7: อาเลซุนด์ – ถนนมหาสมุทรแอตแลนติก – คริสเตียนซุนด์

  • เดินทางบนถนนมหาสมุทรแอตแลนติก (Atlantic Ocean Road)
  • ชมสะพานสโตร์เซย์ซุนเด็ต (สะพานสู่ความว่างเปล่า)
  • เที่ยวชมเมืองคริสเตียนซุนด์และย่านเมืองเก่า อินล์แลนเด็ต
  • พักที่เมืองคริสเตียนซุนด์

วันที่ 8: คริสเตียนซุนด์ – ทรอนด์เฮม

  • เดินทางสู่เมืองทรอนด์เฮม
  • เยี่ยมชมมหาวิหารนิดารอส (คริสตจักรโกธิคใหญ่ที่สุดในนอร์ดิก)
  • ชมสะพานไม้เก่าแก่กัมเล บีโบร (สะพานแห่งความสุข)
  • เดินเล่นย่านบริกเก่น (Bakklandet) ย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำ
  • พักที่เมืองทรอนด์เฮม

วันที่ 9: ทรอนด์เฮม – ออสโล – เดินทางกลับ

  • บินภายในประเทศสู่ออสโล
  • ต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 10: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
Categories
06-Jun 07-Jul 2024 Scandinavia

ทัวร์เกาะแฟโร ทะเลสาบมายา • นกพัฟฟิน • บ้านหลังคาหญ้า

ทัวร์เกาะแฟโร
ทะเลสาบมายา • นกพัฟฟิน • บ้านหลังคาหญ้า
สรุปไฮไลท์

☀️เกาะแฟโร (Faroe Islands) – หมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือที่มีประชากรเพียงราว 50,000 คน

☀️หมู่บ้าน Kirkjubour – หมู่บ้านทางตอนใต้ของเกาะ Streymoy

☀️หมู่บ้าน Tjørnuvík – หมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนเหนือสุดของเกาะ Streymoy

☀️Eiði – หมู่บ้านเล็กๆ บนเกาะ Eysturoy

☀️Gjógv – หมู่บ้านอันเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1584

☀️Trollanes village – หมู่บ้านเล็กๆ บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ

☀️Viðareiði – หมู่บ้านที่อยู่ไกลสุดทางตอนเหนือ

☀️เสาหิน Trollkonufingur – ลักษณะที่คล้ายนิ้วของแม่มด

☀️ทะเลสาบ Trælanípan – ทะเลสาบภาพลวงตา

☀️ยอดเขา Slættaratindur – จุดที่สูงที่สุดในหมู่เกาะแฟโร

☀️Kalsoy Island – เกาะที่ได้ชื่อว่าเป็น “หลุมศพของเจมส์บอนด์”

☀️ประภาคาร Kallur lighthouse – ประภาคารบนอันโด่งดัง

☀️น้ำตก Múlafossur Waterfall – น้ำตก signature ตั้งอยู่บนเกาะ Vagar

☀️Mykines Island – เดินเที่ยวชมรอบเกาะบ้านเกิดของนกพัฟฟิน

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 129,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 13 – 21 มิย. 68
    • 25 กค. – 2 สค. 68 
    • 7 – 15 สค. 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป หมู่เกาะแฟโร

วันที่ 1 : กรุงเทพฯ – โคเปนเฮเกน

  • บินสู่โคเปนเฮเกน: เที่ยวบิน TG950 เวลา 01:20-07:40 น.
  • ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สู่ประเทศเดนมาร์ก

วันที่ 2 : โคเปนเฮเกน – หมู่เกาะแฟโร

  • เดินทางสู่หมู่เกาะแฟโร: ถึงโคเปนเฮเกนเวลา 07:40 น. และเดินทางต่อไปยังหมู่เกาะแฟโร
  • เกาะแฟโร (Faroe Islands): หมู่เกาะที่มีประชากรราว 18 เกาะ ในเขตการปกครองตัวเองของเดนมาร์ก เป็นหมู่เกาะที่มีประชากรเพียงหกหมื่นคน หมู่เกาะแฟโรจึงมีฉายาว่าเป็น “เกาะแห่งหมะ”
  • เสาหิน Trollkonufingur: ลักษณะที่คล้ายนิ้วของแม่มด เป็นแลนด์มาร์กธรรมชาติที่โดดเด่น
  • หมู่บ้าน Tjørnuvík: หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Streymoy ทางตอนเหนือสุดของหมู่เกาะแฟโร
  • หมู่บ้าน Kirkjubour: หมู่บ้านที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะ Streymoy เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศาสนาในสมัยยุคกลาง
  • ที่พัก: Torshavn (เมืองหลวงของหมู่เกาะแฟโร)

วันที่ 3 : Torshavn

  • Faroe Museum: พิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1952 เป็นที่รวบรวมและจัดแสดงผลงานศิลปะและวิถีชีวิตของชาวแฟโร
  • จุดชมวิว Sornfelli: จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของหมู่เกาะแฟโร
  • ทะเลสาบ Trælanípan: ทะเลสาบที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล เมื่อมองจากมุมที่เหมาะสมจะเห็นเป็นภาพลวงตาเหมือนกับภูเขาเป็นแอ่งและน้ำอยู่ข้างบน
  • ที่พัก: Torshavn

วันที่ 4 : Vestmanna – ทัวร์เกาะต่างๆ

  • Vestmanna Torshavn: เมืองเล็กๆ บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ Streymoy เป็นจุดเริ่มต้นของทัวร์ล่องเรือชมหน้าผาและถ้ำ
  • หมู่บ้าน Saksun: บ้านและโบสถ์ที่มีหลังคาหญ้า ตั้งอยู่ในทะเลสาบธรรมชาติที่เปิดออกสู่มหาสมุทร
  • Eiði: หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Eysturoy มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
  • Gjógv: หมู่บ้านอันเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1584 ชื่อของหมู่บ้านมาจากช่องแคบตามธรรมชาติที่ทอดยาวจากหมู่บ้านลงสู่ทะเล
  • ยอดเขา Slættaratindur: จุดที่สูงที่สุดในหมู่เกาะแฟโร (882 เมตร) ให้วิวพาโนรามาที่สวยงาม
  • ที่พัก: Torshavn

วันที่ 5 : เกาะ Mykines

  • นั่งเรือ Ferry ไปยัง Mykines Island: เกาะที่อยู่ทางตะวันตกสุดของหมู่เกาะแฟโร
  • เดินเที่ยวชมรอบเกาะ: เกาะ Mykines เป็นบ้านเกิดของนกพัฟฟิน (Puffin) นกทะเลที่มีจะงอยปากสีสันสดใส สามารถพบเห็นได้ในช่วงฤดูร้อน
  • ที่พัก: Torshavn

วันที่ 6 : ทัวร์เกาะทางตอนเหนือ

  • เกาะ Kalsoy: ได้ฉายาว่าเป็น “หลุมศพของเจมส์บอนด์” จากภาพยนตร์เรื่อง No Time to Die ซึ่งมีฉากสำคัญถ่ายทำที่นี่
  • ประภาคาร Kallur lighthouse: ประภาคารบนหน้าผาสูงอันโด่งดัง ให้วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลและเกาะใกล้เคียง
  • Trollanes village: หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ
  • หมู่บ้าน Mikladatur: หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเสน่ห์
  • Klaksvík: เมืองใหญ่อันดับสองของหมู่เกาะแฟโร ศูนย์กลางการประมงและการค้าทางตอนเหนือ
  • หมู่บ้าน Viðareiði: หมู่บ้านที่อยู่ไกลสุดทางตอนเหนือ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาและทะเล
  • ที่พัก: Torshavn

วันที่ 7 : ทัวร์ทางทะเล – เดินทางกลับโคเปนเฮเกน

  • ล่องเรือไปยังจุดชมวิว Drangarnir: เกาะหินที่มีช่องโค้งเป็นเอกลักษณ์ สร้างภาพที่น่าประทับใจ
  • หมู่บ้าน Gasadalur: หมู่บ้านอันมีภาพที่โด่งดังที่สุดภาพหนึ่ง อยู่ท่ามกลางภูเขาและทะเล
  • น้ำตก Múlafossur Waterfall: น้ำตกที่สวยงามไหลลงสู่มหาสมุทรโดยตรง ตั้งอยู่บนเกาะ Vagar ของหมู่เกาะแฟโร
  • เดินทางกลับโคเปนเฮเกน: เที่ยวบิน RC452 เวลา 16:20-19:25 น.
  • ที่พัก: โคเปนเฮเกน

วันที่ 8 : โคเปนเฮเกน – กรุงเทพฯ

  • อิสระช่วงเช้า: ท่องเที่ยวในเมืองโคเปนเฮเกนตามอัธยาศัย
  • เดินทางกลับกรุงเทพฯ: เที่ยวบิน TG951 เวลา 14:25-06:00 น. (+1)

วันที่ 9 : ถึงกรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ: โดยสวัสดิภาพในช่วงเช้า
Categories
06-Jun 07-Jul 08-Aug 2024 Scandinavia

ทัวร์แฟโร กรีนแลนด์ ทะเลสาบมายา • นกพัฟฟิน • บ้านหลังคาหญ้า

ทัวร์แฟโร กรีนแลนด์
ทะเลสาบมายา • นกพัฟฟิน • บ้านหลังคาหญ้า
สรุปไฮไลท์

☀️หน้าผา Trælanípan (หน้าผาทาส) – “ทะเลลอยฟ้า” ทะเลแยกเป็นสองระดับคล้ายมีทะเลแขวนอยู่กลางอากาศ

☀️น้ำตก Múlafossur – น้ำตกซิกเนอเจอร์ไหลจากหน้าผาสูงชันลงสู่มหาสมุทรโดยตรง โดยมีฉากหลังเป็นหมู่บ้าน Gasadalur และภูเขาสูง สร้างภาพที่เหมือนหลุดออกมาจากนิทาน

☀️หมู่บ้านหลังคาหญ้าโบราณ – Saksun และ Gjógv ที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมดั้งเดิมท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม

☀️เกาะ Mykines – “สวรรค์ของนกพัฟฟิน” ที่คุณจะได้เห็นนกพัฟฟินนับหมื่นตัวในระยะใกล้ๆ (ช่วงพฤษภาคม-สิงหาคม)

☀️ประภาคาร Kallur – จุดชมวิวบนหน้าผาสูงชันที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนเกาะ Kalsoy ซึ่งเป็นฉากถ่ายทำในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์เรื่อง “No Time to Die”

☀️โขดหิน Drangarnir – โขดหินรูปโค้งกลางทะเลที่เป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะแฟโร

☀️Ice Cap Point 660 – โอกาสพิเศษในการเดินบนแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ที่ปกคลุมพื้นที่ 80% ของประเทศ

☀️ธารน้ำแข็ง Russell Glacier – กำแพงน้ำแข็งมหึมาสูงกว่า 60 เมตร ที่มีโอกาสได้เห็นการแตกตัวของก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่

☀️ล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งที่ Disko Bay – สัมผัสใกล้ชิดกับภูเขาน้ำแข็งยักษ์หลากรูปทรงที่ลอยอยู่ในอ่าว บางก้อนสูงเทียบเท่าตึก 15 ชั้น

☀️Ilulissat Icefjord – มรดกโลกยูเนสโก ธารน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวเร็วที่สุดในโลก (40 เมตรต่อวัน) และผลิตน้ำแข็งมากที่สุด ทำให้เกิดภูเขาน้ำแข็งมหึมาลอยในอ่าว

☀️โอกาสชมแสงอาทิตย์เที่ยงคืน – ในช่วงฤดูร้อน พระอาทิตย์จะไม่ตกดิน ทำให้ท้องฟ้าเป็นสีทองตลอดคืน (พฤษภาคม-กรกฎาคม) หรือช่วงส่งท้ายฤดูกาลในเดือนสิงหาคม

☀️วัฒนธรรมอินูอิตดั้งเดิม – เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองกรีนแลนด์ผ่านหัตถกรรมท้องถิ่น งานแกะสลักงาช้างทะเล กระดูกวาฬ และผลิตภัณฑ์จากหนังแมวน้ำ

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 189,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 25 กค – 6 สค 68 
    • 8 – 20 สค 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป Greenland Faroe

 วันที่ 1 – เริ่มต้นการเดินทาง

  • บินสู่ดินแดนแห่งตำนานไวกิ้ง

วันที่ 2 – สัมผัสมนต์เสน่ห์ทอร์สฮาฟน์

  • ทอร์สฮาฟน์ – เมืองหลวงที่เล็กที่สุดในยุโรป แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของบ้านหลังคาหญ้า ท่าเรือโบราณ และร้านอาหารระดับมิชลิน
  • Trælanípan (หน้าผาทาส) – สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สร้างภาพลวงตาของ “ทะเลลอยฟ้า” จุดชมวิวที่คุณจะเห็นทะเลแยกเป็นสองระดับ สร้างภาพที่น่าทึ่งราวกับมีทะเลแขวนอยู่กลางอากาศ
  • ย่านเมืองเก่า Tinganes – ที่ตั้งของรัฐบาลท้องถิ่นในอาคารไม้หลังคาหญ้าสีแดงโดดเด่น ซึ่งเป็นรัฐสภาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง

วันที่ 3 – สำรวจหมู่บ้านในฝัน

  • Vestmanna – ล่องเรือชมหน้าผาสูงชันและถ้ำมหัศจรรย์ที่เป็นบ้านของนกทะเลนับพันตัว
  • Saksun – หมู่บ้านในฝันที่ซ่อนตัวในหุบเขา มีบ้านหลังคาหญ้าดั้งเดิม และทะเลสาบน้ำเค็มที่รายล้อมด้วยภูเขาสูง
  • Eiði – หมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีวิวของ “ยักษ์และแม่มด” หินโขดขนาดใหญ่กลางทะเล
  • Gjógv – หมู่บ้านที่สวยที่สุดในแฟโร ชื่อหมายถึง “ช่องแคบ” ซึ่งเป็นท่าเรือธรรมชาติที่ถูกสร้างขึ้นโดยคลื่นลมทะเล
  • Slættaratindur – มองเห็นยอดเขาสูงที่สุดของหมู่เกาะ (882 เมตร) ในวันที่อากาศดีสามารถมองเห็นถึงไอซ์แลนด์!

วันที่ 4 – ผจญภัยที่เกาะ Mykines

  • เกาะ Mykines – “สวรรค์ของนกพัฟฟิน” เกาะที่อยู่ทางตะวันตกสุดของแฟโร
  • สะพานข้ามเกาะ – เดินข้ามสะพานแขวนสุดหวาดเสียวไปยังเกาะเล็กๆ Mykineshólmur ที่มีประภาคารเก่าแก่
  • นกพัฟฟิน – ชมนกพัฟฟินนับหมื่นตัวที่อาศัยอยู่ตามหน้าผา เป็นโอกาสอันหาได้ยากในการถ่ายภาพนกที่น่ารักเหล่านี้ในระยะใกล้ๆ (ช่วงฤดูผสมพันธุ์ พฤษภาคม-สิงหาคม)

วันที่ 5 – เรื่องเล่าและตำนานบนเกาะ

  • เกาะ Kalsoy – อุโมงค์เล็กๆ ทอดยาวตลอดเกาะ และเป็นฉากถ่ายทำในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์เรื่อง “No Time to Die”
  • ประภาคาร Kallur – เดินเท้าสู่จุดชมวิวที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ประภาคารตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันที่ทอดตัวสู่มหาสมุทรแอตแลนติก
  • Mikladalur – ชมรูปปั้น “Kópakonan” หรือหญิงสาวแมวน้ำ ตำนานพื้นบ้านอันโด่งดังของชาวแฟโร
  • Viðareiði – หมู่บ้านที่อยู่เหนือสุดของเกาะแฟโร มีโบสถ์สีขาวอายุกว่า 130 ปี ตั้งโดดเด่นท่ามกลางวิวภูเขาและทะเล

วันที่ 6 – มหัศจรรย์ทางธรรมชาติและอำลาแฟโร

  • ล่องเรือชม Drangarnir – โขดหินรูปโค้งกลางทะเลที่เป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะแฟโร ต้องล่องเรือหรือเดินเท้าหลายชั่วโมงเท่านั้นจึงจะเข้าถึงได้
  • หมู่บ้าน Gasadalur – หมู่บ้านที่สวยที่สุดและโดดเดี่ยวที่สุด ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาสูง เพิ่งมีถนนเชื่อมต่อในปี 2004 ผ่านอุโมงค์ยาว 1.4 กม.
  • น้ำตก Múlafossur – น้ำตกอันโด่งดังที่ไหลจากหน้าผาลงสู่มหาสมุทรโดยตรง ฉากหลังเป็นหมู่บ้านและภูเขา สร้างภาพที่เหมือนในนิทาน
  • เดินทางสู่โคเปนเฮเกน – อำลาหมู่เกาะแฟโร มุ่งหน้าสู่เมืองหลวงของเดนมาร์กเพื่อเตรียมตัวสู่การผจญภัยครั้งใหม่ในกรีนแลนด์

วันที่ 7 – สู่ดินแดนน้ำแข็ง

  • เดินทางจากโคเปนเฮเกนสู่ Kangerlussuaq – ประตูสู่กรีนแลนด์
  • Kangerlussuaq – เมืองที่ตั้งอยู่ปลายฟยอร์ดยาว 170 กม. เคยเป็นฐานทัพอากาศของสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเย็น

วันที่ 8 – สัมผัสแผ่นน้ำแข็งยักษ์

  • Ice Cap Point 660 – เดินทางด้วยรถ 4×4 สู่จุดที่สามารถเข้าถึงแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ได้ แผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ปกคลุมพื้นที่ 80% ของประเทศ
  • ธารน้ำแข็ง Russell Glacier – ตื่นตาตื่นใจกับกำแพงน้ำแข็งยักษ์สูงกว่า 60 เมตร มีโอกาสได้เห็นการถล่มของก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมา
  • บินสู่ Ilulissat – เมืองแห่งภูเขาน้ำแข็ง
  • ยามค่ำคืนที่ Ilulissat – ชมแสงสีทองยามพระอาทิตย์ตกกระทบภูเขาน้ำแข็งในอ่าว สร้างภาพที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม

วันที่ 9 – มหัศจรรย์น้ำแข็งที่ Disko Bay

  • เดินเส้นทาง Blue Trail – เส้นทางเดินชมวิวที่สวยที่สุดใน Disko Bay เห็นภูเขาน้ำแข็งลอยอยู่ในอ่าว
  • ล่องเรือชม Iceberg – สัมผัสประสบการณ์แบบใกล้ชิดกับภูเขาน้ำแข็งยักษ์ที่มีรูปทรงแปลกตา บางก้อนสูงกว่าตึก 15 ชั้น
  • ปรากฏการณ์แสงพระอาทิตย์เที่ยงคืน – ในช่วงฤดูร้อน พระอาทิตย์จะไม่ตกดินทำให้ท้องฟ้าเป็นสีทองตลอดคืน (พฤษภาคม-กรกฎาคม) หรือช่วงส่งท้ายฤดูกาลในสิงหาคม

วันที่ 10 – วัฒนธรรมอินูอิตและธารน้ำแข็งมรดกโลก

  • ธารน้ำแข็ง Ilulissat Icefjord – มรดกโลกยูเนสโก ธารน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวเร็วที่สุดในโลก (40 ม./วัน) และผลิตน้ำแข็งมากที่สุด
  • โบสถ์ Zion – โบสถ์ไม้สีแดงอายุกว่า 240 ปี (สร้างปี 1779) เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในกรีนแลนด์
  • พิพิธภัณฑ์บ้านเกิด Knud Rasmussen – บ้านของนักสำรวจขั้วโลกที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรีนแลนด์
  • เยี่ยมชมตลาดปลาและหัตถกรรมท้องถิ่น – สัมผัสวิถีชีวิตของชาวอินูอิต ชมงานแกะสลักงาช้างทะเล กระดูกวาฬ และหนังแมวน้ำ

วันที่ 11 – อำลากรีนแลนด์

  • เวลาอิสระช่วงเช้า – โอกาสสุดท้ายในการซื้อของที่ระลึกหรือเดินชมเมือง
  • เดินทางกลับโคเปนเฮเกน

วันที่ 12 – อำลายุโรปเหนือ

  • อิสระ พักผ่อนหรือเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
  • เดินทางกลับกรุงเทพฯ – ด้วยเที่ยวบิน TG951 (14:25-06:00+1)

วันที่ 13 (20 ส.ค.) – ถึงบ้านพร้อมความทรงจำ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
Categories
2025 Iceland-Greenlad-Faroe Scandinavia Tour

ทัวร์ Summer ไอซ์แลนด์ Westfjord and grand tour รอบเกาะ

ทัวร์ Summer ไอซ์แลนด์
Westfjord and grand tour รอบเกาะ
สรุปไฮไลท์

☀️เรคยาวิก: เมืองหลวงสุดชิคที่อยู่เหนือสุดของโลก! สัมผัสวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา อาหารอร่อย และสถาปัตยกรรมสุดเก๋

☀️บลูลากูน: สปาน้ำแร่ร้อนใต้ดินชื่อดังระดับโลก! ผ่อนคลายในน้ำสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ อุดมไปด้วยแร่ธาตุดีต่อผิว แถมวิวก็สวยจนลืมหายใจ

☀️วงแหวนทองคำ (Golden Circle): เส้นทางยอดฮิตที่พาคุณไปเจอกับแลนด์มาร์คสุดอลังการ ทั้งอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์, เขตความร้อนใต้พิภพ Geysir และน้ำตก Gullfoss

☀️สโกกาฟอสส์: น้ำตกยักษ์สุดอลังการ ที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายรูป! เดินขึ้นไปชมวิวจากด้านบน หรือจะเดินลอดด้านหลังน้ำตกก็ฟินไปอีกแบบ

☀️เซลยาแลนส์ฟอสส์: น้ำตกสุดUnseen ที่คุณสามารถเดินลอดไปด้านหลังได้! เตรียมกล้องให้พร้อม เก็บภาพมุมมองสุดพิเศษ

☀️โจกุลซาร์ลอน: ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ลึกที่สุดในไอซ์แลนด์! ชมก้อนน้ำแข็งสีฟ้าอมเขียวลอยละล่อง หรือจะไปเดินเล่นบนหาดทรายดำ Diamond Beach ที่มีเศษน้ำแข็งใสราวกับเพชรก็สวยงาม

☀️อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล: ผืนน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป! จะเดินป่าบนธารน้ำแข็ง สำรวจถ้ำน้ำแข็ง หรือล่องเรือในทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอนก็ตื่นตาตื่นใจ

☀️ลันด์มันนาเลยการ์: เขตความร้อนใต้พิภพสุดUnseen! ภูเขาสีรุ้ง น้ำพุร้อน และเส้นทางเดินป่ารอให้คุณไปสัมผัสความงามอันเป็นเอกลักษณ์

☀️คาบสมุทรสไนล์แฟลส์เนส: ไอซ์แลนด์ฉบับย่อ! ที่นี่มีทั้งภูเขา Kirkjufell สุดโดดเด่น หาดทรายดำ Djúpalónssandur และธารน้ำแข็ง Snæfellsjökull

☀️Westfjords: ดินแดนบริสุทธิ์ที่ซ่อนตัว: หลีกหนีความวุ่นวาย สู่ดินแดน Westfjords ที่ยังคงความดิบและงดงามของธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์ พบกับน้ำตก Dynjandi สุดอลังการ หน้าผา Látrabjarg ที่เป็นสวรรค์ของนกพัฟฟิน และเมือง Ísafjörður ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 149,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป ไอซ์แลนด์ Summer

วันที่ 1:  เริ่มต้นการผจญภัย

  • 22:00 น. พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ
  •  00:05 น. บินสู่โคเปนเฮเกนด้วย Thai Airways TG950

วันที่ 2:  เหนือสุดแดนไอซ์

  • 06:35 น. ถึงโคเปนเฮเกน เปลี่ยนเครื่องสู่ Keflavik
  • เดินทางสู่ Kirkjufell (ภูเขาหมวกแม่มด) – ภูเขารูปทรงโดดเด่นที่ปรากฏใน Game of Thrones
  • พักที่ Grundarfjörður – หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีวิวทิวทัศน์ฟยอร์ดสวยงาม

วันที่ 3:  Westfjords ดินแดนซ่อนเร้น

  • Dynjandi – น้ำตกที่สวยที่สุดของ Westfjords มีลักษณะเป็นชั้นๆ คล้ายเค้กแต่งงาน กว้าง 60 เมตร สูง 100 เมตร
  • Látrabjarg – หน้าผาสูงที่เป็นบ้านของนกนับล้านตัว รวมทั้งนกพัฟฟินที่น่ารัก สามารถเข้าใกล้ได้มากที่สุดในโลก
  • Ísafjörður – เมืองหลักของ Westfjords มีประวัติศาสตร์การประมงยาวนาน และอาหารทะเลแสนอร่อย

วันที่ 4:  ภาคเหนือ

  • Hvitserkur – หินลาวาโบราณรูปไดโนเสาร์หรือช้างที่โผล่จากทะเล มีตำนานว่าเป็นโทรลล์ที่กลายเป็นหิน
  •  Akureyri – เมืองใหญ่อันดับสองของไอซ์แลนด์ มีสวนพฤกษศาสตร์ที่อยู่เหนือสุดของโลก และโบสถ์ Akureyrarkirkja ที่มีเอกลักษณ์

วันที่ 5:  น้ำและไฟ

  •  Godafoss – “น้ำตกแห่งเทพเจ้า” กว้าง 30 เมตร สูง 12 เมตร มีตำนานว่าผู้นำยุคโบราณโยนรูปปั้นเทพเจ้านอร์สลงน้ำตกนี้หลังรับคริสต์ศาสนา
  • Hverir – ทุ่งเกย์เซอร์ที่ยังคุกรุ่น มีบ่อโคลนเดือด หลุมน้ำร้อน และปล่องไอน้ำ กลิ่นกำมะถันฟุ้งกระจาย
  • Dettifoss – น้ำตกทรงพลังที่สุดในยุโรป กว้าง 100 เมตร สูง 45 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 193 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
  • Eastfjord – ชมภูมิประเทศฟยอร์ดที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็ง มีทัศนียภาพงดงามของภูเขาสูงชันริมทะเล

วันที่ 6:   เกล็ดเพชรและธารน้ำแข็ง

  • Jokulsarlon – ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ลึกที่สุดในไอซ์แลนด์ (248 เมตร) ก้อนน้ำแข็งสีฟ้าอมเขียวลอยเด่นในน้ำ
  •  Diamond Beach – หาดทรายดำที่มีเศษน้ำแข็งใสราวเพชรกระจัดกระจายอยู่ทั่ว เกิดจากก้อนน้ำแข็งที่ถูกซัดเข้าฝั่ง
  • Skaftafell – อุทยานธารน้ำแข็งในเขต Vatnajökull (ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป) มีเส้นทางเดินป่า น้ำตก และทิวทัศน์ภูเขาดำสลับน้ำแข็งขาว

วันที่ 7:  Golden Circle

  • Skogafoss – น้ำตกกว้าง 25 เมตร สูง 60 เมตร มักเกิดรุ้งกินน้ำในวันแดดจ้า เชื่อกันว่ามีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ข้างหลัง
  • Seljalandsfoss – น้ำตกเอกลักษณ์ที่สามารถเดินลอดไปด้านหลังได้ สูง 60 เมตร
  • Geysir – แหล่งกำเนิดคำว่า “geyser” มี Strokkur ที่พวยพุ่งสูง 30 เมตรทุก 6-10 นาที
  • Thingvellir – อุทยานแห่งชาติที่เป็นที่ตั้งรัฐสภากลางแจ้งแห่งแรกของโลก (ปี 930) และจุดแยกตัวของเปลือกโลกยูเรเซียและอเมริกาเหนือ

วันที่ 8:  Reykjavik

  • ล่องเรือชมวาฬ (3 ชม.) – มีโอกาสเห็นวาฬมิงค์ วาฬหลังค่อม โลมา และนกทะเลหลายชนิด
  • Hallgrimskirkja – โบสถ์ลูเทอแรนที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ (74.5 เมตร) สถาปัตยกรรมได้แรงบันดาลใจจากเสาหินบะซอลต์
  • Blue Lagoon – สปาน้ำแร่กลางแจ้งชื่อดัง อุณหภูมิน้ำ 37-40°C อุดมด้วยซิลิกาและแร่ธาตุที่ดีต่อผิว

วันที่ 9:  เดินทางกลับ

  •  เดินทางสู่สนามบิน Keflavik
  •  13:50 น. บินสู่ Copenhagen, ต่อเครื่องกลับไทยด้วย Thai Airways TG951

วันที่ 10: 

  • 06:20 น. ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม