




ทัวร์ฟินแลนด์ บอลติก
เที่ยวบอลติก พักอิกลูนอนดูแสงเหนือ
จุดเด่นทริป
- พักที่พักหรู Glass Igloo ชมแสงเหนือ
- ชม Santa claus village
- ถ่ายรูปโบสถ์ Kemi Church
- ล่องเรือตัดน้ำแข็งซัมโป
- Snow Castle
- ชมโบสถ์หิน
- ช้อปปิ้งถนน Aleksanterinkatu
- เมืองเก่าทาลลินน์
- ช้อปปิ้งบนถนนวีรู
- ชมปราสาททราไก
โปรแกรมเต็ม
ทัวร์ฟินแลนด์ บอลติก
DAY 1: Bangkok
- นัดพบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แถว S ประตู 8 ทีมงานอำนวยความสะดวกเช็คอินสายการบิน Finnair เที่ยวบินที่ AY144 ออกเดินทางเวลา 23.05 น. ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชม แวะเปลี่ยนเครื่องที่ เฮลซิงกิ
DAY 2 : Helsinki – Ivalo – Kakslauttanen Arctic Resort
เดินทางถึงสนามบินเฮลซิงกิ จากนั้นรอเวลาเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อไปยังเมือง Ivalo โดยสายการบิน Finnair เที่ยวบินที่ AY601 (เวลา 07.00)
ถึงสนามบินอิวาโล จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านอิกลูแคคสลอตทาเนน (IGLOO VILLAGE KAKSLAUTTANEN) ตั้งอยู่เหนือเส้นเขตขั้วโลกเหนือเขตแลปแลนด์ (LAPLAND) ของประเทศฟินแลนด์ โดยสถานที่แห่งนี้อยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บของอากาศที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ และยังมีวิวทิวทัศน์ให้ชื่นชมความสวยงามของป่าเขา ท่ามกลางหิมะขาวโพลนที่ท่านจะต้องประทับใจไม่มีวันลืม
นำท่านสัมผัสกิจกรรมอันดับหนึ่งของการท่องเที่ยวแบบตะลุยหิมะ ด้วยการขับขี่ สโนว์โมบิล (SNOWMOBILE) พาหนะที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทางบนหิมะหรือน้ำแข็ง โดยท่านจะได้รับคำแนะนำในการขับขี่ที่ถูกต้อง สนุกสนาน และปลอดภัย จากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและชำนาญเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวแบบสโนว์โมบิลซาฟารี โดยทางบริษัท ฯ จะมีการจัดเตรียมเครื่องกันหนาวให้ท่านอย่างครบถ้วนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
- พักที่ Kakslauttanen Arctic Resort
DAY 3 : Ivalo – Rovaniemi – Santa Claus Village
- นำท่านมุ่งหน้าสู่ เมืองโรวาเนียมิ (Rovaniemi) ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพทุ่งหิมะแห่งแลปแลนด์ และหากโชคดีท่านอาจได้พบเห็นฝูงกวางเรนเดียร์ที่ออกหากินในเวลากลางวัน ตลอดเส้นทางท่านจะได้เห็นภูมิประเทศอันแปลกตา หิมะ สลับกับทิวสน
- ชม หมู่บ้านซานตาคลอส (Santa Claus Village) ตั้งอยู่บนเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล ภายในหมู่บ้านมีที่ทำการไปรษณีย์ สำหรับท่านที่ต้องการส่งของขวัญไปยังคนที่ท่านรัก และยังมีร้านขายของที่ระลึก ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก หรือถ่ายรูปกับคุณลุงซานต้าที่ใจดีเป็นที่ระลึกในการมาเยือน อิสระให้ท่านเดินเล่นเที่ยวชมในหมู่บ้าซานตาคลอส
- นำท่านแวะชม ที่ทำการไปรษณีย์ซานตาคลอส (Santa Claus Main post office) ท่านสามารถเลือกซื้อไปรษณียบัตรหลากหลายสีสันเพื่อเขียนอวยพรครอบครัวและมิตรสหาย พร้อมทั้งฝากซานต้าคลอสส่งกลับมายังประเทศไทยได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์นี้
- พักที่ Rovaniemi
Day 4 : Rovaniemi – Kemi – Sampo Icebreaker
- เดินทางไปยังเมือง Kemi ประมาณ 1.30 ชมนำท่านเดินชมเมือง Kemi เมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ริมอ่าวน้ำลึกบอธเนีย (Gulf of Bothnia) บริเวณทางตอนเหนือของทะเลบอลติค (Baltic Sea) มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 22,000 คน แต่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่มีความสำคัญของแลปแลนด์
- ถ่ายรูปกับโบสถ์ Kemi Church ซึ่งเป็นโบสถ์ ศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนท์ ที่ถูกสร้างและออกแบบตาม สถาปัตยกรรมแบบโกธิคโดยสถาปนิกชื่อ ดังชาวฟินแลนด์นาม Josef Stenback
- นำท่าน ล่องเรือตัดน้ำแข็งซัมโป (Sampo Ice Breaker) ล่องบนน้ำทะเลซึ่งเย็นยะเยือกจนกลายเป็นน้ำแข็ง สัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่น่าตื่นตาตื่นใจกับการลอยตัวในทะเลน้ำแข็ง ด้วยชุดความร้อนพิเศษ (Warm Impermeable Survival Suits) ซึ่งปกป้องร่างกายท่านจากความเย็นอันหนาวยะเยือกที่ระดับต่ำกว่าลบยี่สิบองศาเซลเซียส
- พักที่ Kemi
Day 5 : Kemi – Snow Castle – Helsinki – Talinn
- นำท่านชม Snow Castle อันเป็นผลงานประติมากรรมระดับโลก โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 19 ในทุก ๆ ปีของฤดูหนาว จะมีการรังสรรค์ผลงานอันยิ่งใหญ่ ทีมงานผู้ชำนาญการจะเริ่มการแกะสลัก และนำเอาน้ำแข็งก้อนมหึมามาตกแต่งเป็นรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการจำลองแบบให้เป็นเมืองน้ำแข็งที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโดยฝีมือมนุษย์
- นำท่านไปยังสถานีรถไฟ เพื่อนั่งรถไฟด่วนไปยังเมืองเฮลซิงกิ
รอบ เวลา 16.39-23.35 - พักที่ Helsinki
Day 6 : Helsinki – Rock Chruch – Aleksanterinkatu
นำท่านชม โบสถ์แห่งความรักเทมเปลิโอคิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ โบสถ์หิน (ROCK CHURCH) เริ่มสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1968 ใช้เวลาในการก่อสร้าง 1 ปีเต็ม ถือเป็นโบสถ์ที่แปลกตามาก แต่เดิมเป็นภูหินแกรนิตใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเมือง สร้างขึ้นจากการระเบิดชั้นหินธรรมชาติ ออกแบบโดย Timo และ Tuomo Suomalainen สถาปนิกพี่น้องชาวฟินแลนด์ และเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1969 ปัจจุบันโบสถ์แห่งนี้เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวมาก ผู้คนเชื่อว่าใครที่มาจุดเทียนอธิษฐานเกี่ยวกับความรัก จะสมหวังทุกประการ
- ช้อปปิ้งยังถนน Aleksanterinkatu เป็นถนนสายที่สำคัญของเมืองและบรรดาขาช้อปทั้งหลาย เป็นถนนที่มีความยาวที่สุดของเมือง อยู่ใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดี และสถานที่ที่มีชื่อเสียงอีกหลายแห่ง ทั้งสองฝั่งถนนนั้นเต็มไปด้วยร้านค้าขายของแบรนด์ดังต่างๆ และร้านอาหารอีกมากมายที่ดึงดูดผู้คนเป็นจำนวนมาก นับเป็นถนนคนเดินที่มีชีวิตชีวา คึกคักไปกับแสงสี เหมาะแก่การพบปะ รวมตัว สังสรรค์ โดยจะเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน และทุกๆ ปีในเดือนพฤศจิกายน ช่วงวันคริสต์มาส นักท่องเที่ยวจะแห่มาชมการตกแต่งไฟคริสมาสต์ที่สวยงามตระการตา แต่ละร้านมีการประดับประดาด้วยแสงไฟอีกด้วย
- เดินทางสู่ท่าเรือ FERRY เพื่อนั่งเรือไปยังเมือง Tallinn (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง)
- พักที่ Talinn
Day 7 : Tallinn – Parnu
- Tallinn เมืองหลวงของประเทศเอสโตเนีย เป็นเมืองหลวงที่เกิดใหม่หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต อดีตเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เดนมาร์ก สวีเดน และสหภาพโซเวียต เมืองที่ร่ำรวยไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่ตั้งอยู่บริเวณยุโรปเหนือ ทาลลินน์ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเฉกเช่นเดียวกันกับริก้า และวิลนีอุสเมืองหลวงของของกลุ่มประเทศบอลติก
- นำท่านชม เมืองเก่าของทาลลินน์ (TALLINN OLD TOWN SQUARE) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองแห่งยุคกลางที่สวยที่สุดในยุโรปเหนือ
- เดินชม ย่านทุมเปีย TOOMPEA (เมืองบน) ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาททุมเปีย ปัจจุบันได้ใช้เป็นอาคารรัฐสภาและหน่วยงานราชการ
- จากนั้นนำท่านชม โบสถ์อเล็กซานเดอร์เนฟสกี้ (ALEXANDER NEVSKY CATHEDRAL) โบสถ์รัสเซียนออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอสโทเนีย บันทึกภาพตัวเมืองเก่าแบบพาโนรามาจากจุดชมวิว
- เดินลัดเลาะแนวกำแพงเมืองสู่จตุรัสกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของศาลากลางรายล้อมด้วยอาคารที่ต่างยุคสมัยกันตั้งแต่ศตวรรษที่ 15-17 ให้ท่านอิสระช้อปปิ้งบน ถนนวีรู (VIRU STREET) ได้ตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองพาร์นู (Parnu) เมืองตากอากาศริมฝั่งทะเลบอลติกที่เป็นที่นิยมอันดับหนึ่งของประเทศ ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศกับอาคารบ้านเรือนที่ก่อสร้างในแบบเอสโทเนียนดั้งเดิมซึ่งไม่เหมือนที่ใดในยุโรป (ประมาณ 2 ชม.)
- พักที่ Parnu
DAY 8 : Parnu – Riga Old Town Square
- เดินเล่นย้านตัวเมืองที่มีถนนช้อปปิ้งสายสั้นๆแต่เป็นเสน่ห์เอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะสร้างด้วยศิลปะในยุคอาร์ตนูโว
- นำท่านเดินทางไปยัง เมือง Riga เมืองหลวงของประเทศลัตเวีย(ประมาณ 3 ชม.)
- ชมย่าน OLD TOWN SQUARE บันทึกภาพ อาคาร HOUSE OF BLACK HEAD อนุสาวรีย์โรแลนด์ โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ จัตุรัสโดมสแควร์ที่ตั้งของมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศบอลติก ก่อนพาท่านสุ่ตลาดกลางที่ขายสินค้าการเกษตร เช่น ผัก ผลไม้ประจำฤดูกาลราคาถูก โดยที่อาคารแห่งนี้ดัดแปลงมาจากสถานีจอดเรือเหาะ (ZEPPELIN) ที่เคยเปิดให้บริการในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 นอกจากนี้ยังถือว่าอาคารสามหลังนี้ยังเป็นสัญญาลักษณ์ของกรุงริก้าอีกด้วย
- พักที่ Riga
DAY 9 : Riga – Rundale – Trakai Castle
- ชม เมืองริก้า (Riga) เมืองหลวงแห่งศิลปะอาร์ตนูโวที่เฟื่องฟูที่สุดในเขตบอลติก ผ่านชมย่านถนนอัลเบิร์ตและเอลิซาเบธที่ยังคงความงดงามของสถาปัตยกรรมในยุคนั้นได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
- ชม พระราชวังรุนดาเล (RUNDALE PALACE) ที่สร้างในสมัยจักรพรรดินีแอนอิวาโนวาแห่งรัสเซีย เพื่อมอบให้กับชู้รักคนโปรด เคาน์ทไบรอนแห่งเคอร์แลนด์ ตัวพระราชวังออกแบบโดยบาโธเลมิว ราสเตลลี สถาปนิกชื่อดังชาวอิตาเลียน ที่รับใช้ราชสำนักรัสเซียในการออกแบบพระราชวังเฮอร์มิเทจที่นครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทำให้พระราชวังแห่งนี้มีความงดงามไม่แพ้ที่ใดในยุโรป นอกจากนี้พระราชวังรุนดาเลยังได้รับยกย่องให้เป็นสุดยอดของการออกแบบสถาปัตยกรรมทีเป็น การประยุกต์ของสองวัฒนธรรมระหว่างเยอรมันและรัสเซียได้อย่างลงตัวที่สุดในทวีปยุโรป
- นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองทราไก (TRAKAI) เมืองเล็กๆที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ และอดีตเมืองหลวงเก่าของลิทัวเนีย ก่อนที่จะมีการสร้างกรุงวิลนีอุส ตัวเมืองถูกล้อมรอบด้วยทะเลสาบ
- ชม ปราสาททราไก เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ภายในทะเลสาบ Galve เมืองTrakai ประเทศลิทัวเนีย ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดย Kestutis ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นรูปแบบโกธิค ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศลิทัวเนีย ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ในการจัดเทศกาลต่างๆ มากมาย
- พักที่ Vilnius
DAY 10 : Vilnius Old Town – St. Anne’s Church – Bangkok
- นำท่านชม เมืองเก่าวิลนีอุส เจ้าของสมญานาม “กรุงโรมแห่งบอลติก” เพราะเป็นศุนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก เมื่อครั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของโปแลนด์
- แวะเก็บภาพที่ โบสถ์เซนต์แอนน์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดในวิลนีอุส เป็นโบสถ์แบบโรมันคาทอลิกที่ตั้งอยู่ในเมืองเขตเก่า แต่เดิมในช่วงศตวรรษที่ 14 เคยเป็นโบสถ์ไม้ และในปี ค.ศ 1495-1500 มีพระฟรานซิสกันได้สร้างโบสถ์ที่ทำจากหินขึ้นมาในปี ค.ศ 1874 โบสถ์เซนแอนน์ได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกด้วย จากนั้นเดนิทางไปยังสนามบิน
- เดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบิน FINNAIR เที่ยวบินที่ AY1108 แวะเปลี่ยนเครื่องที่เฮลซิงกิ ถึงเวลา 15.30 น.
- ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน FINNAIR เที่ยวบินที่ AY141
DAY 11 : Bangkok
- เดินทางถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ
***รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม***
วันที่จัด
- ยังไม่มีกำหนดการจัด สามารถรวมกรุ๊ปให้เราจัดให้ได้ ตั้งแต่ 6 ท่านขึ้นไป
- เหมือนเพื่อนพาเที่ยว
- กลุ่มขนาดเล็กขนาด 4-6 ท่าน
- ทีมงานคนไทยขับรถพาเที่ยว
- ปรับเปลี่ยนโปรแกรมได้ (เฉพาะกรุ๊ปเหมา)
- เหมาะสำหรับผู้ชอบความคล่องตัวและยืดหยุ่นในการเดินทาง
- สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เช่นการยกกระเป๋าหรือสั่งอาหารเอง
- รวม วีซ่า กิจกรรม การเดินทางทุกชนิดตามโปรแกรม
- เข้าพัก โรงแรมระดับ 3-4 ดาว ขึ้นกับพื้นที่
- รวม ประกันการเดินทาง
- สินน้ำใจแล้วแต่จะให้ ไม่บังคับ
** สิ่งที่ไม่รวมในค่าทริปคือตั๋วเครื่องบิน และ อาหารกลางวัน/เย็น
- Classic Trip เหมาะสำหรับผู้ใหญ่หรือครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ลุยมากนัก
- ใช้รถ Bus ท้องถิ่น คันใหญ่ สะอาด นั่งสบาย (คนขับเป็นคนท้องถิ่น)
- รวม ค่าตั๋วเครื่องบิน
- รวม ดำเนินการเรื่องวีซ่า
- รวม ค่ากิจกรรมและการเดินทางทุกชนิด
- เข้าพัก โรงแรมระดับ 3-4 ดาว ขึ้นกับพื้นที่
- รวม อาหารครบทุกมื้อ
- รวม ประกันการเดินทาง
- รวม ทิปไกด์