Categories
06-Jun 07-Jul 08-Aug 2024 Scandinavia

ทัวร์กรีนแลนด์ แฟโร

GREENLAND FAROE
Roadtrip
สรุปทริป
☀️เที่ยวชม 2 ประเทศกรีนแลนด์และแฟโร เก็บทุก Highlight สำคัญ
☀️ธารน้ำแข็ง Eqip sermia ฟังเสียงผาน้ำแข็งที่แตกออกจากกลาเซียขนาดใหญ่
☀️ล่องเรือชม Iceberg ที่ Disko Bay
ทะเลไอซ์เบิร์ก ก้อนน้ำแข็งขนาดตึก 20 ชั้น ที่ลอยอยู่กลางมหาสมุทร
☀️ดูฝูงวาฬพ่อแม่ลูก แหวกว่ายเล่นน้ำกลางอ่าว
☀️เมือง Illulissat เมืองศูนย์กลางกิจกรรมแห่ง Greenland
☀️เดินกลาเซีย 360 ที่ Kangerlussuaq
☀️พลาดไม่ได้ที่ทะเลสาบมายา Trælanípan
☀️แลนด์มาร์คชื่อดังของหมู่เกาะแฟโร น้ำตก Mulafossur สุดอลังที่ไหลจากหน้าผาสูงลงสู่ทะเล
☀️เก็บภาพความน่ารักของนกพัฟฟิน ที่เกาะ Mykines ที่สามารถชมได้เฉพาะในช่วงหน้าร้อน
☀️นั่งเรือชมถ้ำกลางมหาสมุทรที่แปลกตา
☀️ไป Hiking สั้นๆสู่ประภาคาร Kallur บนเกาะ Kalsoy และหลุมศพเจมส์บอนด์
 
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง 25 กค – 6 สค 68 / 8 – 20 สค 68
💰 ค่าทริป 189,000
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ วีซ่า (เราแนะนำให้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
การจอง / ติดต่อ
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋 painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋 เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เตรียมตัวเดินทางสู่ Copenhagen ประเทศเดนมาร์ก เที่ยวบินที่ TG950 01.20-07.40


วันที่ 2 |
บินภายในไปแฟโร RC453 12.25-13.40 คือกลุ่มเกาะจำนวน 18 เกาะใน เขตการปกครองตัวเองเดนมาร์ก เป็นหมู่เกาะที่มีประชากรของแกะมากกว่าคน หมู่เกาะแฟโรจึงมีฉายาว่าเป็น “เกาะแห่งแกะ” ไปโดยปริยาย • ทะเลสาบ Trælanípan ที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล เมื่อถ่ายรูปออกมาจะเห็นเป็นภาพลวงตา เหมือนกับภูเขาเป็นแอ่งและมีน้ำอยู่ข้างใน 

พักที่เมือง Torshavn 


วันที่ 3 |
ล่องเรือชม Vestmanna ถ้ำและผาหินกลางทะเล • หมู่บ้าน Saksun บ้านและโบสถ์ที่มีหลังคาหญ้า • Eiði เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Eysturoy • Gjogv หมู่บ้านอันเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1584 • เดินสู่ยอดเขา Slættaratindur ที่สูงที่สุดใน Faroe 

พักที่เมือง Torshavn 


วันที่ 4 |
นั่งเรือ Ferry ไปยัง Mykines Island Hike ชมรอบเกาะบ้านเกิดของนกพัฟฟิน

พักที่เมือง Torshavn 


วันที่ 5 |
ไปเกาะ Kalsoy Island อันเป็นหลุมศพของ เจมส์บอนด์ • Kallur lighthouse ประภาคารบนหน้าผาสูงอันโด่งดัง • Trøllanes village หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ • ชมวิวที่หมู่บ้าน MikladalurKlaksvík เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของหมู่เกาะแฟโร • ชุมชน Viðareiði เป็นหมู่บ้านที่อยู่ไกลสุดที่ถนนไปถึง
 

พักที่เมือง Torshavn 


วันที่ 6 |
ล่องเรือไปยังจุดชมวิว Drangarnir เกาะหินที่มีซุ้มโค้งเป็นเอกลักษณ์ • หมู่บ้าน Gasadalur หมู่บ้านอันมีภาพโด่งดังไปทั่วโลก • Múlafossur Waterfall เป็นน้ำตกที่สวยงามตั้งอยู่บนเกาะ Vagar ของหมู่เกาะแฟโร • บินกลับโคเปนเฮเกน RC452 16.20-19.25

พักที่เมือง Copenhagen


วันที่ 7 |
เที่ยวชมเมืองโคเปนเฮเกน • บินไปเมือง Kangerlussuaq GL783 16.30-18.20

พักที่เมือง Kangerlussuaq


วันที่ 8 |
Ice Cap Point 660 ชั้นน้ำแข็งที่ปกคลุมพื้นโลก • ธารน้ำแข็งรัสเซล Russell Glacier หน้าผาน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 60 เมตร • บินไปเมือง Ilulissat เมืองถูกโอบล้อมด้วยธารน้ำแข็ง (Icefjord) GL512 17.00-17.45

พักที่เมือง Ilulissat


วันที่ 9 |
เดิน Trail ไปถ่ายรูป Disko Bay • ล่องเรือชม Iceberg ที่ Disko Bay เป็นที่รู้จักจากภูเขาน้ำแข็งจำนวนมากที่ลอยอยู่ในอ่าว • นั่งเรือชมวาฬ

พักที่เมือง Ilulissat


วันที่ 10 | ธารน้ำแข็ง อิควิป เซอร์เมีย
เป็นธารน้ำแข็งเก่าแก่อายุหลายหมื่นปี ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพียงแห่งเดียวที่มนุษย์สามารถเข้าไปชมได้อย่างใกล้ชิดที่สุด • Zion Church สร้างมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในกรีนแลนด์ยุคนั้น • เดินชมเมือง

พักที่เมือง Ilulissat


วันที่ 11 |
บินกลับเมืองโคเปนเฮเกน (ใช้เวลาทั้งวัน) GL271 08.45-09.10 / GL271 09.35-10.55 / GL780 12.10-19.40

พักที่เมือง Copenhagen


วันที่ 12 |
เดินทางไปยังสนามบินกลับกรุงเทพฯ TG951 14.25-06.00


วันที่ 13 | 
ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Trøllkonufingur

หรือนิ้วมือแม่มด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเสน่ห์และน่าสนใจในหมู่เกาะแฟโร ตั้งอยู่บนเกาะ Vágar มีความสูงประมาณ 313 เมตร เสาหินนี้เป็นหินยาวและแคบที่ยื่นออกมาจากทะเล และมีตำนานท้องถิ่นที่เล่าขานกันว่าเป็นนิ้วของแม่มดที่ถูกแช่แข็งขณะที่เธอพยายามทำลายหมู่เกาะแฟโรด้วยการผูกเกาะเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อลากไปยังไอซ์แลนด์

หมู่บ้าน Kirkjubøur

เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในประเทศหมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของหมู่เกาะแฟโร

หมู่บ้าน Kirkjubøur

เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในประเทศหมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของหมู่เกาะแฟโร

Klaksvík

เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของหมู่เกาะแฟโร ตั้งอยู่บนเกาะ Borðoy ทางตอนเหนือของหมู่เกาะ เป็นศูนย์กลางการค้าและการประมง และยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว

ทะเลสาบ Trælanípan

เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในทะเลนอร์ทแอตแลนติก ระหว่างนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ ชื่อ "Trælanípan" มาจากภาษาแฟโร หมายถึง "แพของทาส" ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทั้งทะเลสาบ Sørvágsvatn (หรือ Leitisvatn) ซึ่งเป็นทะเลสาบใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะแฟโร

Drangarnir

เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และสวยงามที่สุดในหมู่เกาะแฟโร, เดนมาร์ก ประกอบด้วยหินสองก้อนใหญ่ที่ยื่นออกมาจากทะเล และมีช่องว่างระหว่างกันที่เรียกว่า Drangarnir ตั้งอยู่ระหว่างเกาะ Vágar และเกาะ Tindhólmur ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูมิทัศน์ที่น่าทึ่งและเป็นภาพที่โดดเด่นของหมู่เกาะแฟโร

Vestmana

มาจากคำในภาษานอร์สโบราณ (Old Norse) "Vestmann" ซึ่งหมายถึง "ชายจากตะวันตก" โดยชื่อเมืองนี้เกี่ยวข้องกับชาวไอริชและชาวสก็อตที่อพยพเข้ามาอาศัยในหมู่เกาะแฟโรตั้งแต่ยุคกลาง

Russell Glacier

เป็นส่วนหนึ่งของระบบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีความสำคัญในฐานะธารน้ำแข็งที่ไหลลงมาจากแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ และไหลเข้าสู่พื้นที่ใกล้เมือง Kangerlussuaq ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าพื้นที่อื่น ๆ ของแผ่นน้ำแข็ง

Ilulissat

เป็นเมืองสำคัญที่ตั้งอยู่ในกรีนแลนด์ฝั่งตะวันตก ห่างจากแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ไม่กี่กิโลเมตร เมืองนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่มีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Ilulissat Icefjord ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

Disko Bay

หรือ Ilulissat Icefjord ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่มีภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่มากมายที่ลอยออกสู่ทะเล เป็นธารน้ำแข็งที่มีการเคลื่อนตัวเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

Eqip Sermia Ice Cave

เป็นถ้ำที่เกิดขึ้นจากการละลายของธารน้ำแข็ง ซึ่งแสดงถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายในถ้ำสามารถเห็นโครงสร้างของน้ำแข็งที่งดงามและเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศและเวลา

Zion Church

โบสถ์ไม้เก่าแก่ประจำเมือง ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1779 โดยเป็นโบสถ์ของนิกายลูเธอรัน (Lutheran) ซึ่งเป็นนิกายที่มีอิทธิพลมากที่สุดในแฟโร

Categories
02-Feb 03-Mar 2025 Russia

ทัวร์ไบคาล

BAIKAL
สรุปทริป
☀️ หมู่บ้านลิสต์เวียนก้า เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันตกของทะเลสาบไบคาล
☀️ ทดลองนั่ง สุนัขลากเลื่อน กิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดที่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงามของทะเลสาบไบคาล
☀️ นั่ง Ski lift สู่ เนินหินเชียร์สกี ในระหว่างทางขึ้นไปยังยอดเขาหรือเนินสกี
☀️ เกาะโอลคอน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในทะเลสาบไบคาล
☀️ แหลมบูรคาน ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของทะเลสาบไบคาล ยังเป็นที่นิยมในการจัดพิธีทางศาสนาและเทศนาต่างๆ
☀️ หินสามพี่น้อง หรือ THREE BROTHER ROCK เป็นหมู่หินที่เรียงตั้งเป็นแนวตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
☀️ ถ่ายรูปฟองอากาศแข็งตัว • ลายน้ำแข็ง • ก้อนน้ำแข็งรูปทรงแปลกตา ฟองอากาศที่เกิดขึ้นเมื่อน้ำขังซึมไปในพื้นดินหรือใต้ผิวน้ำที่แช่ตัวอยู่
 
รายละเอียด
🗓️ 7-12 กพ 68
🗓️ 13-18 กพ 68
💰 ค่าทริป 59,900
 
✅️ โรงแรมระดับ 4 ดาว ในเมือง Irkutsk และโรงแรมท้องถิ่นมีน้ำอุ่น ห้องไม่หนาว
✅️ อาหารครบทุกมื้อ มีอาหารไทยเสริม
✅️ รถ Minibus ในเขตเมือง
✅️ รถตู้ท้องถิ่น บนเกาะโอคลอน
✅️ ค่ากิจกรรม ตามระบุในโปรแกรม
✅️ ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง (ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
 ไม่รวมทิป
 
 การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 25000 บาท ส่วนที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334
 
📋 painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋 เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางสู่เมืองอิรคุตสก์ ประตูสู่ไซบีเรียและทะเลสาบไบคาล

พักที่เมือง Irkutsk


วันที่ 2 |
หมู่บ้านลิสต์เวียนก้า หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบไบคาล • ทดลองนั่งสุนัขลากเลื่อน • ทดลองขับ Snowmobile • นั่ง Ski Ligt สู่ เนินหินเชียร์สกี จุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในลิสต์เวียนก้า • ชมพิพิธภัณฑ์ไบคาลเพื่อเรียนรู้เรื่องระบบนิเวศน์ของทะเลสาบไบคาล

พักที่เมือง Listvynska

วันที่ 3 | เกาะโอลคอน เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนทะเลสาบไบคาล • สถูปพุทธแบบธิเบตCape Dragon Island Ogoy จุด Check in สำคัญของทริปไบคาลจุดหนึ่ง

พักที่เมือง Olkhon

วันที่ 4 | แหลมบูรคาน หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของทะเลสาบไบคาลที่เป็นที่ตั้งของ โขดหินชามาน  • ชมหินสามพี่น้อง หรือ Three brother rock • แหลมโคบอย

พักที่เมือง Olkhon


วันที่ 5 |
เกาะโอลคอน • เมืองอิรคุตสก์

พักที่เมือง Irkutsk

วันที่ 6 | ไปสนามบินเดินทางกลับกรุงเทพฯ

Categories
02-Feb 03-Mar 2025 Northernlight Roadtrip Russia

ทัวร์มูรมันสก์รัสเซีย นั่งรถไฟชมแสงเหนือ

MURMANSK ARCTIC TRAIN
สรุปทริป
☀️ เส้นทาง มูรมันสก์ อาร์คติกเทรน
☀️ 7 วัน 6 คืน  
☀️ Teriberka เมืองชนบทของประเทศรัสเซีย ตั้งอยู่ในแคว้นมูรมันสก์
☀️ หมู่บ้านซามี่ (Sami Village) หมู่บ้านเล็กๆของชนเผ่าพื้นเมืองที่มีอาชีพล่าสัตว์
☀️ ล่าแสงออโรร่า หรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ที่เกิดในฤดูหนา
☀️ ชมความน่ารักและให้อาหารฝูงกวางใน ฟาร์มกวางเรนเดียร์
☀️ ภูเขาคิบินี (Khibiny Mountains) จุดศูนย์กลางของคาบสมุทรโคล่า
☀️ เดินทางสู่เมือง Petrozavodsk ด้วย Night Arctic Train
☀️ Red Square ลานประวัติศาสตร์ใจกลางกรุงมอสโกที่มีความสำคัญ
☀️ Saint Basil’s Cathedral วิหารที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองชัยชนะเหนือมองโกลที่ยกทัพมาเมืองคาซาน
 
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง 11 – 22 กพ 68 / 20 – 31 ธค 68
💰 ค่าทริป  xxx
 

✅️ โรงแรมระดับ 4 ดาว ในเมือง Irkutsk และโรงแรมท้องถิ่นมีน้ำอุ่น ห้องไม่หนาว
✅️ อาหารครบทุกมื้อ มีอาหารไทยเสริม
✅️ รถ Minibus ในเขตเมือง
✅️ รถตู้ท้องถิ่น บนเกาะโอคลอน
✅️ ค่ากิจกรรม ตามระบุในโปรแกรม
✅️ ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง (ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
 ไม่รวมทิป

 
 การจอง / ติดต่อ 
📱 มัดจำท่านละ xxxxx บาท ส่วนที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334
 
📋 painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋 เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางสู่เมือง Murmansk


วันที่ 2 |
MurmanskTeriberka เมืองชนบทของประเทศรัสเซีย ตั้งอยู่ในแคว้นมูรมันสก์ • อ่าวเทอริเบอก้า สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังของรัสเซีย เรื่อง Leviathan • Alyosha Memorial อนุสาวรย์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเหล่าทหารกองทัพของโซเวียต • ล่าแสงออโรร่า หรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ที่เกิดในฤดูหนา

ทัวร์มูรมันสก์

วันที่ 3 | หมู่บ้านซามี่ (Sami Village) หมู่บ้านเล็กๆของชนเผ่าพื้นเมืองที่มีอาชีพล่าสัตว์ • Majestic Idols ประติมากรรมอันเป็นตัวแทนของธรรมชาติ • ชมความน่ารักและให้อาหารฝูงกวางใน ฟาร์มกวางเรนเดียร์Husky Farm ชมความน่ารักของสุนัขแสนรู้ • สัมผัสประสบการณ์นั่งรถเทียมสุนัขฮัสกี้ลากเลื่อน (Husky Sledding)ล่าแสงออโรร่า หรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ที่เกิดในฤดูหนา

วันที่ 4 | ภูเขาคิบินี (Khibiny Mountains) จุดศูนย์กลางของคาบสมุทรโคล่า • เมืองหิมะ (Snow Village) ที่สร้างขึ้นจากหิมะทั้งหมด • เดินทางสู่เมือง Petrozavodsk ด้วย Night Arctic Train


วันที่ 5 |
เมือง Petrozavodsk เมืองหลวงของสาธารณรัฐคาเรเลีย ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ “โอเนกา” ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่กว้างใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคนี้


วันที่ 6 | Red Square
ลานประวัติศาสตร์ใจกลางกรุงมอสโกที่มีความสำคัญ • ห้างสรรพสินค้า GUM ตั้งอยู่ย่านจตุรัสแดง เป็นห้างที่เก่าแก่มากที่สุดในกรุงมอสโก • Lenin’s Mausoleum • Saint Basil’s Cathedral เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองชัยชนะเหนือมองโกลที่ยกทัพมาเมืองคาซาน • Minin & Pozharsky Monument • Izmailovsky Souvenir Market ตลาดขายของฝากราคาไม่แพง สินค้าที่ขึ้นชื่อได้แก่ตุ๊กตาแม่ลูกดก งานไม้ต่างๆ • ไปสนามบิน กลับกรุงเทพฯ


วันที่ 7 |
ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Categories
FullBoard Mid Asia

ทัวร์จอร์เจีย อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน

Georgia Armenia Azerbaijan
Roadtrip
สรุปทริป
☀️ เส้นทาง จอเจียร์ อัลเมเนีย อาเซอไบจัน
☀️ 10 วัน 7 คืน 
 
รายละเอียด
 
🗓️ เดินทาง  
💰 ค่าทริป  
 
 ✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาติ 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋เงื่อนใขยกเลิกทริป กดที่นี่
 
โปรแกรมโดยย่อ

Day 1 : Bangkok 

  • ช่วงคำนัดพบที่สนามบินสุวรรณภูมิ

Day 2 : Dubai – Baku – Gobustan – Rock Painting – Mud Volcanoes

  • เดินทางถึงสนามบินบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน
  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองโกบัสตาน (Gobustan) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองบากู เป็นบริเวณที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีการแกะสลักภาพบนหินของมนุษย์ที่งดงาม
  • ให้ท่านชมความสวยงามของภูเขาหินที่มีการแกะสลักภาพที่เป็นรูปต่างๆ ณ พิพิธภัณฑ์เปิด Rock Painting Open-air Museum ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2007 เช่น ภาพการล่าสัตว์ รูปคนเต้นรำ เรือ หมู่ดาวและสัตว์ต่างๆ
  • นำท่านเดินทางสู่ ภูเขาโคลน หรือ Mud Volcanoes หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอาร์เซอร์ไบจาน และถูกบันทึกลงในกินเนส (Guinness World Record) เมื่อ 5 ก.ย. 2004 ชมความแปลกประหลาดและสวยงามของภูเขาโคลนที่มีชื่อเสียง (Mud Domes) ซึ่งเกิดขึ้นที่บริเวณนี้มีอยู่ประมาณ 700 แห่ง ภูเขาดินโคลนนี้เกิดจากดินเหลวที่อยู่ใต้ดิน ก๊าซและน้ำที่ร้อนเมื่อถูกผสมรวมกัน ก็จะมีการพุ่งขึ้นมาบนพื้นดินเป็นรูปกรวยหรือโดมที่สวยงาม
  • คืนนี้พักที่เมือง Baku

Day 3 : Baku – Icheri Shekher – Palace of Shirvansshakh -Caravansaray – Ateshgah of Baku – Absheron – YanarDag – Tbilisi 

  • นำท่านเที่ยวชม เมืองบากู (Baku) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของอาเซอร์ไบจาน ตั้งอยู่ชายฝั่งทางใต้ของคาบสมุทรเล็ก ๆ ที่ยื่นออกไปในทะเลแคสเปียนชื่ออับชิรอน (Abseron) ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วน คือ ย่านเมืองเก่า (อิตแชรีแชแฮร์) ตัวเมืองปัจจุบัน และตัวเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยโซเวียต
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Icheri Shekher หรือ Inner Town of Baku เมืองนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นโดยมีกำแพงป้อมล้อมรอบและรอบกำแพงจะมีการสร้างเป็นป้อมหอคอยซึ่งมีทั้งหมด 25 แห่งและมีประตูทางเข้าออกถึง 5 แห่ง
  • นำท่านชม พระราชวังแห่งราชวงศ์เชอร์วาน (Palace of Shirvanshahs) สถานที่พำนักของกษัตริย์แห่งราชวงศ์ชีวานผู้ซึ่งครองราชย์มาอย่างยาวนาน ในช่วงศตวรรษที่ 14-17
  • แวะชม คาราวานซาราย (Caravansaray) หรือที่พักแรมของกองคาราวานในยุคค้าขายแห่งเส้นทางสายไหมที่เดินทางมาแวะพักที่เมืองนี้ ที่ถูกสร้างขึ้นมาในศตวรรษที่ 18 และศตวรรษที่ 19
  • เดินทางไปยัง Ateshgah of Baku หรือ Fire Temple of Baku วัดศาสนาฮินดูที่รูปทรงคล้ายปราสาท ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาวเปอร์เซียและชาวอินเดีย มีจารึกบ่งชี้ว่า สถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับบูชาสักการะตามหลักความเชื่อทางศาสนาของคนท้องถิ่น คือ ศาสนาฮินดู ศาสนาซิกซ์ และศาสนาโซโรอัสเตอร์ (ศาสนาโบราณของชาวอิหร่าน) สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 ไว้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา
  • จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่แหลมอับเชรอน Absheron ซึ่งเป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่บนชั้นของก๊าซธรรมชาติที่ปะทุอยู่ในเปลวไฟอย่างต่อเนื่อง
  • นำท่านสู่ ยูนาร์แดก (Yanar Dag) หรือที่แปลได้ในภาษาท้องถิ่นว่า “Burning Mountain”เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติไฮโดรคาร์บอนที่พวยพุ่งออกมาจากพื้นพิภพผ่านชั้นหินทรายขึ้นมาเป็นแหล่งไฟธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้ประเทศอาเซอร์ไบจานถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งอัคคี (Land of Fire)
  • นำท่านเดินทางสู่สนามบินบากูเพื่อเช็คอินออกเดินทางไปสู่ สนามบิน ทบิลิซี่ โดยสายการบินภายในประเทศ
  • เดินทางถึงสนามบินทบิลิซี่ ประเทศจอร์เจีย
  • คืนนี้พักที่เมือง Tbilisi

Day 4 : Tbilisi – Georgia – Ananuri Fortress – Zhinvali reservoir  Gergeti Trinity Church – Kazbegi

  • ระหว่างทางให้ท่านได้ชมป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress) เป็นสถานที่ก่อสร้างอันเก่าแก่มีกำแพงล้อมรอบและตั้งอยู่ริมแม่น้ำอรักวี ที่ตั้งอยู่ห่างจากทบิลิซีประมาณ 45 กม.ซึ่งถูกสร้างขึ้นให้เป็นป้อมปราการในศตวรรษที่ 16-17 ภายในยังมีโบสถ์ 2 หลังที่ถูกสร้างได้อย่างงดงามและยังมีหอคอยที่สูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่
  • ชมทิวทัศน์อันสวยงามของเบื้องล่างและอ่างเก็บน้ำซินวาลี (Zhinvali Reservoir) และยังมีเขื่อนซึ่งเป็นสถานที่สำคัญสำหรับนำน้ำที่เก็บไว้ส่งต่อไปยังเมืองหลวง พร้อมกับผลิตกระแสไฟฟ้าอีกด้วย
  • นำท่านสัมผัสบรรยากาศในการท่องเที่ยว โดยการนั่ง 4WD เพื่อชมโบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 14 หรือมีชื่อเรียกกันว่าสมินดา ซาเมบา (Tsminda Sameba) ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกที่นิยมกันของโบสถ์ศักดิ์แห่งนี้สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำชคเฮรี ที่อยู่บนเทือกเขาของคาซเบกี้
  • นำท่านเดินทางสู่เมืองคาซเบกิ (Kazbegi) ซึ่งเป็นชื่อเมืองอันดั้งเดิม แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อ สเตพ้านท์สมินด้า (Stepantsminda) หลังจากนักบุญในนิกายออร์โธด๊อก ชื่อสเตฟานได้มาพำนักอาศัยและก่อสร้างสถานที่สำหรับจำศีลภาวนาขึ้นมาเมืองคาซเบกี้ เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำเทอร์กี้ที่มีความยาวประมาณ 157 กม. และตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,740 เมตร ในฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิที่อยู่ปานกลาง และในฤดูหนาวมีอากาศเย็นและยาวนาน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและพักผ่อน
  • คืนนี้พักที่เมือง Kazbegi

Day 5 : Museum of Stalin – Mtskheta – Gori – Uplistsikhe – Tbilisi 

  • นำท่านชมพิพิธภัณฑ์ของสตาลิน (Museum of Stalin) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ พร้อมทั้งเรื่องราวต่างๆของสตาลิน และยังมีการแสดงถึงประวัติชีวิตตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเสียชีวิต
  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิทสเคต้า (Mtskheta) ที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือ ห่างจากกรุงทบิลิซีประมาณ 20 กม. เมืองนี้นับว่าเป็นเมืองที่มีความเก่าแห่งหนึ่งของประเทศและในปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการปกครองของแคว้นมอสเคต้าและเทียนิตี้ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 คน เนื่องจากมีโบราณสถานทางด้านประวัติศาสตร์มากมายหลายแห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1994 
  • จากนั้นนำท่านชม วิหารสเวติสโคเวลี (Svetitskhoveli Monastery) สัญลักษณ์ของการเปลี่ยนความเชื่อมานับถือศานาคริสต์ซึ่งกลายมาเป็นศาสนาประจำชาติเมื่อปี ค.ศ. 337 และเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นในคริสตวรรษที่ 11 ภายในจะมีภาพเขียนเฟรสโก้ที่สวยงามประดับอยู่
  • นำท่านไปชมวิหารจวารี (Jvari Monastery) ซึ่งเป็นวิหารในรูปแบบของคริสต์ศาสนาออร์โธดอกซ์ที่ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6 วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีแม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำมิควารี และแม่น้ำอรักวีและถ้ามองออกไปข้ามเมืองมิทสเคต้าไปยังบริเวณที่กว้างใหญ่ซึ่งในอดีตเคยเป็นอาณาจักรของไอบีเรีย (Kingdom of Iberia) ซึ่งได้เคยปกครองดินแดนในบริเวณนี้ตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงราวคริสต์ศตวรรษที่ 5
  • ออกเดินทางไปยัง เมืองกอรี (GORI) ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตก เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดชีดา คาร์ทลี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ในอดีตเคยมีความสำคัญทางด้านทหารในยุคกลางเป็นที่ตั้งของกองกำลังที่อยู่บนถนนสายสำคัญที่เชื่อมกับทางด้านตะวันออกและด้านตะวันตก นอกจากนั้นเมืองนี้ยังเป็นเมืองบ้านเกิดของ โจเซฟ สตาลิน อดีตผู้นำที่มีชื่อเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตและอเล็กซานเดอร์ นาดีราซี ผู้เป็นนักออกแบบชื่อดังในด้านจรวดขีปนาวุธข้ามทวีปของโซเวียต
  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัพลิสต์ซิเคห์ (Uplistsikhe) เป็นบริเวณถ้ำที่ถูกทำขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคการเริ่มต้นราวศตวรรษที่ 8-7 ก่อนคริสตกาล ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางการค้าขายสินค้าจากอินเดียสู่ทางด้านเหนือแถบหมู่บ้านมทวารีและหุบเขารีโอนีไปยังทะเลดำและต่อไปยังด้านตะวันตก ทำให้เกิดการพัฒนาการเป็นเมืองต่างๆหลายเมือง และอัพลิสต์ซิคห์ ก็เป็นเมืองหนึ่งที่เป็นศูนย์กลางการค้าได้ถูกสร้างขึ้นในราวพันปีก่อนคริสตกาล ต่อมาก็ได้ถูกขยายออกไปจนกว้างขวาง
  • เดินทางกลับเมือง Tbilisi เมืองหลวงของ ประเทศจอร์เจีย (Georgia)
  • นำท่านเที่ยวชม ย่านเมืองเก่าแห่งนครหลวงทบิลิซี่ (Old town of Tbilisi) ซึ่งมองไปทางไหนก็เห็นแต่ความอ่อนหวานของสีสันอาคารบ้านเรือน สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่ผสมผสานศิลปะแบบเปอร์เซียและยุโรป อาจกล่าวได้ว่า นี่คือการบรรจบกันของตะวันออกและตะวันตกของประเทศที่ตั้งอยู่ระหว่างสองทวีปอย่างจอร์เจีย เกิดเป็นศิลปะแบบจอร์เจียที่มีเอกลักษณ์
  • คืนนี้พักที่ เมือง Tbilisi

Day 6 : Tbilisi – Peace bridge – Narigala Fortress – Metekhi Church  Sadakhlo

  • นำท่านถ่ายรูปกับสะพานสันติภาพ (Peace bridge) สะพานความยาว 150 เมตรซึ่งเชื่อมระหว่างตัวเมืองเก่าและเมืองใหม่ เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.2010 จัดว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่สวยงามชิ้นหนึ่งซึ่งพาดผ่านแม่น้ำคูรา
  • จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้าเคเบิ้ลขึ้นชม ป้อมนาริกาลา (Narigala Fortress) ป้อมปราการโบราณสมัยยุคศตวรรษที่ 4 ซึ่งนักประวัติศาสตร์ยกย่องว่าเป็นป้อมปราการป้อมหนึ่งบนเส้นทางสายไหมที่แข็งแกร่งและตีได้ยากที่สุด อิสระให้ท่านได้เก็บภาพมุมสูงของเมืองทบิลิซตามอัธยาศัย
  • หลังจากนั้นนำท่านชม โบสถ์เมเตคี (Metekhi Church) โบสถ์เก่าแก่อายุราว 800 ปีซึ่งสร้างอุทิศให้แก่พระแม่มารีตั้งอยู่เหนือเนินผาสูงริมแม่น้ำมิทควารี (Mtkvari River) โดยมีอนุสาวรีย์ทรงม้าของกษัตริย์ Vakhtang Gorgasali ผู้สถาปนาทบิลิซีเป็นนครหลวง ตั้งตระหง่านอยู่คู่กัน ในอดีตโบสถ์ถูกทำลายและได้รับการบูรณะอยู่หลายครั้ง เคยถูกใช้เป็นคุกในยุคที่ราชวงศ์ซาร์สปกครอง และเปลี่ยนมาเป็นโรงละครในยุคโซเวียต และได้รับการบูรณะล่าสุดปลายปี 1980 เพื่อเป็นโบสถ์ออร์โธดอกซ์ของเมือง
  • เดินทางสู่ เมืองซาดาโคล (Sadakhlo) อยู่ทางด้านใต้ซึ่งเป็นเมืองพรมแดนที่อยู่ติดกับอาร์เมเนียและยังตั้งอยู่ใกล้กับประเทศอาร์เซอร์ไบจาน ตลอดเส้นทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์และธรรมชาติอันสวยของเทือกเขาคอเคซัสน้อย ที่อยู่ระหว่างอาร์เมเนียและอาร์เซอร์ไบจาน นำท่านผ่านด่านเมืองซาดาโคลและข้ามพรมแดนโดยมีเมืองอะลาเวอดี (Alaverdi) ที่เป็นเมืองชายแดนของอาร์เมเนียที่อยู่ติดกับจอร์เจีย
  • คืนนี้พักที่เมือง Sadakhlo

Day 7 : Sadakhlo – Haghpat city – Sanahin  Monastery 

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองฮักห์พาท (Haghpat) เป็นเมืองในหมู่บ้านของจังหวัดลอรี่ที่อยู่ทางด้านเหนือของอาร์เมเนียเมืองนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเพราะเป็นที่ตั้งของวัดอารามโบราณทั้งสองแห่งให้ท่านได้ชมความสวยงามของอารามฮักห์พาท (Haghpat Monastery) ซึ่งถือได้เป็นผลงานชิ้นเอกของทางด้านศาสนาและทางด้านสถาปัตยกรรมในการก่อสร้างในยุคกลางอารามแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นโดยนักบุญนิชาน (Saint Nishan) ในราวศตวรรษที่ 10 ซึ่งอยู่ในระหว่างการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์อะบาส ที่ 1 (King Abas I) อารามแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกในปีค.ศ.1996ซึ่งอดีตเป็นเพียงตัวโบสถ์เล็กๆ ของนักบุญนิชานที่ถูกสร้างขึ้นช่วงปีค.ศ.967 ต่อมาก็ได้ถูกสร้างขยายให้ใหญ่โตขึ้นและมีการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบอาร์เมเนียน
  • ชมอารามโบราณสองแห่ง อารามฮัคพัท (Haghpat Monastry) และอารามซานาฮิน (Sanahin Monastery) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองฮักห์พาท (Haghpat) ทางตอนเหนือของประเทศ โดยอารามทั้งสองแห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1996 สร้างขึ้นในยุครุ่งเรืองของราชวงศ์คลูริเคียน (Klurikain Dynasty) ราวคริสต์ศตวรรษที่ 10-13 มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างแบบไบแซนไทน์กับแบบพื้นถิ่นคอเคเซียน สำหรับอารามทั้งสองยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้จะผ่านกาลเวลามานับพันปีแล้วก็ตาม
  • คืนนี้พักที่เมือง Haghpat

Day 8 : Dilijan – Sevan city – Geghard – Khor Virap

  • เดินทางสู่เมืองดีลีจาน (Dilijan) สถานที่แห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “สวิตเซอร์แลนด์น้อยแห่งอาร์เมเนีย” (Little Switzerland of Armenia) ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร จึงทำให้อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี
  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซวาน (Sevan) ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเซวาน (Lake Sevan) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดและทะเลปิดในประเทศอาร์เมเนียและคอเคซัสทะเลสาบนี้เป็นหนึ่งในทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลกทะเลสาบเซวานล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำฮราซดานและแม่น้ำมาสริค ล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบเซวาน (การล่องเรือขึ้นกับสภาพอากาศ) ตัวเมืองนี้ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,900 เมตร เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1842 ซึ่งเป็นหมู่บ้านพักอาศัยของชาวรัสเซียที่มีชื่อว่า เยเลนอฟก้า (Yelenovka) จนถึงปีค.ศ.1935 จึงได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น เซวาน 
  • นำท่านแวะชมอารามเซวาน (Sevan Monastery) หรือมีชื่อเรียกว่า เซวานาแว๊งค์ (Sevanavank) ซึ่งคำว่าแว๊งค์เป็นภาษาอาร์เมเนีย มีความหมายว่า โบสถ์วิหาร สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณแหลมที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของฝั่งทะเลสาบเซวาน ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.874 โดยเจ้าหญิงมาเรียม ซึ่งเป็นธิดาของกษัตริย์อะช๊อต ที่ 1 ซึ่งอยู่ในช่วงของการต่อสู้กับพวกอาหรับที่ปกครองดินแดนแห่งนี้
  • นำท่านเดินทางสู่วิหารเกกฮาร์ด (Geghard Monastery) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความสวยงามของอาร์เมเนียเพราะเป็นวิหารที่สร้างอยู่ท่ามกลางเทือกเขาที่สวยงามและยังมีส่วนที่สร้างโดยการตัดหินเข้าไปในภูเขาอีกด้วยแม้ตัวอาคารของวิหารเกกฮาร์ดนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-13 แต่สำนักสงฆ์โบราณแห่งนี้ ได้ถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อราวศตวรรษที่ 4 อิสระให้ท่านชมส่วนของห้องโถงของตัวโบสถ์ที่มีการตัดหินสร้างเป็นโดมแกะสลักอย่างสวยงามที่ถูกตกแต่งด้วยความศรัทธาในศาสนาคริสต์วิหารที่สร้างโดยการตัดหินให้กลายเป็นห้องโถงและได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2000
  • จากนั้นนำท่านเข้าชมวิหารการ์นี (Garni Temple) ซึ่งในอดีตเมื่อประมาณ 1,700 ปีมาแล้วบริเวณนี้เคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์อาร์เมเนียซึ่งในปัจจุบันยังคงมีหลงเหลืออยู่ ซากห้องสรงน้ำ (Royal Bath House) และอาคารทรงกรีกที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 ตามพระราชประสงค์ของกษัตริย์ Tiridates ด้านข้างของวิหารทรงกรีกก็มีซากโบสถ์คริสต์ที่สร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 9 หลงเหลืออยู่ วิหารแห่งนี้ถูกทำลายด้วยแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1679
  • Garni Gorge เป็นช่องเขาที่สวยงามสะดุดตา หน้าผาเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเสาหินบะซอลต์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ความเป็นธรรมชาตินี้คนท้องถิ่นขนานนามว่า “ซิมโฟนีออฟสโตน”
  • นำท่านไปชมวิหารคอร์วิราพ (Khor Virap) เป็นสถานที่มีชื่อเสียงที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับพิธีจาริกแสวงบุญให้กับผู้มีชื่อเสียง คือ ท่านกรีกอร์ ลูซาวอริช (Grigor Lusavorich) ผู้ซึ่งกลายมาเป็นนักบุญเกกอรี่ที่ เป็นผู้เผยแผ่ทางด้านศาสนาฯ และต่อมาได้ถูกจองจำอยู่ในคุกนี้ถึง 13 ปีโดยคำสั่งของกษัตริย์ทิริเดท ที่ 3 แห่งอาร์เมเนีย ภายหลังท่านได้รับการยอมรับนับถือและแต่งตั้งให้เป็นพระสังฆราชองค์แรก
  • คืนนี้พักเมืองเยเรวาน

Day 9 : Yerevan

  • หลังอาหารเช้า ชมเมืองเยเรวาน
  • Armenian Genocide Memorial & Museum อนุสรณ์การสังหารหมู่ของอาร์เมเนียในจักรวรรดิออตโตมันในปี 1915 ถึง 1922 บนยอดเขาด้านบนเป็นอนุสรณ์ของยอดแหลมสูง 44 เมตรถัดจากแผ่นหินบะซอลต์ 12 แผ่นที่พาดผ่านเพื่อป้องกันเปลวไฟนิรันดร์
  • ชม The Iranian Blue Mosque มัสยิดบลูในเยเรวานเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในและเป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมเมื่อเดินทางไปเยเรวาน มัสยิดเก่าแก่นี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เรียกว่า Blue Mosque เพราะสีน้ำเงินเป็นสีเด่นที่พบได้ทั้งทางเข้าและบนกระเบื้อง
  • ชมบริเวณรอบๆ ตัวเมืองหลวง เช่น จัตุรัสสาธารณะ (Republic Square) มหาวิทยาลัยของรัฐ (State University) ชมวิวทิวทัศน์ของเมือง (City Panorama)
  • จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Yerevan Cascade อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์เปิด (Open-air museum) ของเมืองเยเรวาน ซึ่งมีความงดงามทางศิลปะเป็นอย่างยิ่ง ประกอบด้วยกลุ่มบันได 5 ชั้น ซึ่งรายล้อมด้วยสวนดอกไม้และรูปปั้นมากมาย ซึ่งเป็นส่วนเชื่อมต่อไปยังพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ โรงละครโอเปร่า และอนุสาวรีย์อิสรภาพ
  • ชมความสวยงามของ วิหารเอคมิอัดซิน (Echmiadzin Cathedral) ซึ่งแต่เดิมนั้นเป็นที่รู้จักกันในนามของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งพระแม่เจ้า (Holy Mother of God Church) เป็นโบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 4 และได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก
  • นำท่านเดินทางสู่ สนามบินสวาร์นอท เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

Day 10 : Bangkok

  • เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ

***รายการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม***

error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม