Categories
Russia

ทัวร์อัลไต รัสเซีย

ทัวร์อัลไต รัสเซีย

จากเทือกเขาที่ยิ่งใหญ่ ใจกลางทวีปเอเชีย เดินทางบนรถไฟสายทรานไซบีเรีย สู่ทะเลสาไบคาล

สรุปทริป

โปรแกรมเต็ม

DayBangkok – Novosibirsk – Altai

  • นัดพบที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อเช็คอินสัมภาระและเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
  • ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (BKK) ด้วยเที่ยวบิน S7 860 สายการบิน S7 Airlines มุ่งหน้าสู่ดินแดนไซบีเรียอันกว้างใหญ่ของประเทศรัสเซีย
  • เดินทางถึงสนามบินตอลมาเชโว (Tolmachevo – OVB) สนามบินนานาชาติของเมืองโนโวซิบีร์สก์ (Novosibirsk) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระและพักรับประทานอาหารในตัวเมือง ก่อนเดินทางต่อไปยังเขตเทือกเขาอัลไต (Altai Mountains) ส่วนที่อยู่ในประเทศรัสเซีย ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ราว 6 ชั่วโมงเดินทางเข้าที่พัก

Day Altai – Chemal – Cheposh

  • เริ่มต้นสำรวจอัลไตผ่านสาธารณรัฐอัลไต (Altai Republic) หนึ่งในบรรดาหน่วยปกครองระดับสาธารณรัฐทั้งหมด 22 แห่งของรัสเซีย ด้วยการออกเดินทาง
  • ไปยังหมู่บ้านเชมาล (Chemal) แหล่งพักผ่อนตากอากาศของอัลไตที่ขึ้นชื่อสมัยสหภาพโซเวียต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำคาตุน (Katun) ซึ่งมีต้นกำเนิดจากธารน้ำแข็งบนยอดเขาเบลูคา (Belukha) ยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาอัลไต
  • มุ่งหน้าสู่วิหารออร์โธด็อกซ์รัสเซียบนเกาะพัทมอส (Patmos) ที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำคาตุน เกาะแห่งนี้ตั้งชื่อตามเกาะพัทมอสในประเทศกรีซ ส่วนวิหารสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1855 เพื่อเป็นอนุสรณ์ของการเผยแพร่คริสต์ศาสนาในดินแดนอัลไต ลัดเลาะไปตามเส้นทางริมเขาเลียบแม่น้ำคาตุนจนถึงจุดบรรจบของแม่น้ำคาตุนกับแม่น้ำเชมาล ผ่านทิวทัศน์มุมกว้างของแม่น้ำสองสายที่ไหลมาบรรจบกัน มุ่งหน้าสู่สถานีไฟฟ้าพลังน้ำเชมาล (Chemal Hydroelectric Power Station) อนุสรณ์ทางสถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีช่วงต้นสหภาพโซเวียตที่ถูกสร้างขึ้นโดยแรงงานของนักโทษผู้ถูกคุมขังในค่ายกักกันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1935 
  • เดินทางสู่หมู่บ้านเชปอช (Cheposh) ที่ตั้งของศูนย์ศึกษาวัฒนธรรม เดเซียทีรุชก้า (Desyatiruchka) หมายถึงตุ๊กตาพื้นบ้านรัสเซียที่มีสิบแขน ในอดีตทำขึ้นเพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่หญิงสาวที่กำลังจะแต่งงานออกเรือน เพื่อให้สิบแขนสิบมือของตุ๊กตาเป็นสัญลักษณ์ของความช่วยเหลือต่อหญิงสาวในกิจการงานบ้านและการเรือน ร่วมทำความรู้จักและเข้าใจวิถีชีวิตชาวรัสเซียที่มาตั้งรกรากในดินแดนแถบนี้ตั้งแต่ราวต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 นอกจากนั้นทุกคนยังจะได้มีโอกาสทำตุ๊กตาพื้นบ้านรัสเซียเพื่อเป็นที่ระลึกด้วยตนเองอีกด้วย 
  • เดินทางกลับเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

Day : Altai – Chuya Highway – Mount Kalbak-Tash – Kurai Steppe

  • นั่งรถออกเดินทางสำรวจไปตาม ชูยา ไฮเวย์ (Chuya Highway) ถนนสายหลักที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ความอัศจรรย์ของภูมิประเทศ และธรรมชาติที่น่าตื่นตะลึง ทอดยาวจากโนโวซิบีร์สก์ ผ่านที่ราบสูงและแนวช่องเขาระหว่างภูเขาน้อยใหญ่ของเทือกเขาอัลไตไปจนสุดเขตแดนของประเทศรัสเซีย ก่อนเชื่อมต่อกับพรมแดนของประเทศมองโกเลีย โดยตลอดการเส้นทางราว 330 กิโลเมตร เราจะได้พบกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิประเทศและธรรมชาติรอบตัว จากช่องเขาแคบคดเคี้ยวเรื่อยมาจนถึงที่ราบสูงกว้างใหญ่ระหว่างเขา จากเขตป่าสนไม่ผลัดใบแบบไทกาจนถึงเขตทุ่งหญ้าสเตปป์ตามลำดับ
  • ผ่านช่องเขาเซมินสกี (Seminsky Pass) บนความสูง 1,894 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล นอกจากจะเป็นจุดเชื่อมต่อทางภูมิประเทศและเขตธรรมชาติของอัลไตตอนเหนือและอัลไตตอนกลางแล้ว บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1956 ในวาระครบรอบ 200 ปี ที่ชนชาวอัลไตตกลงใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรรัสเซีย 
  • ช่องเขาชิเก-ทามาน (Chike-Taman Pass)ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,460 เมตร และความงดงามของธรรมชาติและภูมิประเทศ ทำให้ช่องเขานี้เป็นจุดชมวิวที่เหมาะกับการถ่ายภาพและการดื่มด่ำธรรมชาติตลอดสองข้างทางไปพร้อมกับรถที่กำลังวิ่งขึ้นลงไปตามแนวเขาอันกว้างใหญ่ ผ่านจุดบรรจบของแม่น้ำชูยาและแม่น้ำคาตุน หนึ่งในเส้นทางผจญภัยทางน้ำที่สวยงามที่ดึงดูดนักล่องแก่งจากทุกสารทิศ
  • พบกับภาพสลักหินในเขต เนินเขาคาลบัค-ตาช (Mount Kalbak-Tash) หลักฐานทางโบราณคดีและมานุษยวิทยาว่าด้วยการมีอยู่และวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนบริเวณนี้ในอดีต ภาพสลักทั้งหมดมีจำนวนกว่า 500 เรื่องราว โดยภาพที่เก่าแก่ที่สุดในจำนวนภาพสลักที่พบทั้งหมดสามารถนับอายุย้อนไปได้ราว 8,000 ปี

  • สิ้นสุดการเดินทางที่ทุ่งหญ้าสเตปป์คูราย (Kurai Steppe) ที่ราบสูงระหว่างเทือกเขาบนความสูงกว่า 1,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จุดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการชมทิวทัศน์อันงดงามของแนวเขาชูยาเหนือ (North Chuya Ridge)

  • เดินทางกลับเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

Day : Altai – Uch Enmek – Karakol Valley

  • ออกเดินทางสู่เขตที่ราบสูงอูลากัน (Ulagan Plateau) หนึ่งในแหล่งขุดค้นทางโบราณคดีที่พบอารยธรรมของชาวไซเธียน (Scythians) ผ่านประตูแดง (Red Gate) หน้าผาหินลาวาดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ระหว่างช่องเขาขาด มีสีออกแดงเนื่องจากมีหินแร่ปรอทซินนาบาร์ (Cinnabar) อยู่เป็นจำนวนมาก มีการค้นพบว่ามีการใช้แร่นี้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์เพื่อเก็บรักษาซากมัมมี่ในอารยธรรมปาซิริค (Pazyryk Сulture) ที่เคยรุ่งเรืองในดินแดนบริเวณนี้
  • เดินทางวกกลับเข้าสู่ ชูยา ไฮเวย์ มุ่งหน้าไปยังอุทยานธรรมชาติและชาติพันธุ์ อุช-เอ็นเม็ก (Uch-Enmek) พบกับเขตอนุรักษ์ธรรมชาติพิเศษที่สำคัญแห่งหนึ่งของอัลไต หุบเขาคาราโคล (Karakol Valley) ซึ่งมีความสวยงามและสำคัญอย่างมากต่ออารยธรรมโบราณของชนพื้นเมืองบริเวณนี้ พร้อมกันนั้นร่วมเรียนรู้วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองอัลไตในปัจจุบัน ร่วมรับประทานอาหารพื้นบ้านและร่วมกิจกรรมท้องถิ่นกับชนพื้นเมือง
    ***
    (โปรแกรมเสริม) เดินทางด้วยรถและเดินเท้าต่อไปยัง อารู-เคม (Aru-Kem) ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของชาวอัลไตที่ตั้งอยู่บนเขาเหนือระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร เพื่อชมทิวทัศน์ของเทือกเขาพร้อมรับรู้ตำนานว่าด้วยหญิงงามแห่งอัลไต***
  • ออกเดินทางด้วยรถยนต์กลับไปยังโนโวซิบีรส์ก (ค้างคืนบนรถ 10 ชม.)

Day : Novosibirsk – Akademgorodok – West Siberian Railway Museum – Novosibirsk Zoo

  • เมื่อข้ามแม่น้ำออบ (Ob) ก่อนเข้าถึงตัวเมืองโนโวซิบีร์สก์ ทางฝั่งขวาของแม่น้ำจะพบกับอคาเดมโกโรดอก (Akademgorodok) เขตพื้นที่พิเศษที่ตั้งขึ้นในสมัยสหภาพโซเวียตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1957 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของการค้นคว้าวิจัยขนาดใหญ่ในเขตไซบีเรียพร้อมกับรักษาสภาพแวดล้อมให้เป็นธรรมชาติที่สุด ภายในเมืองวิชาการแห่งนี้เราจะได้ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันการศึกษาและการวิจัยต่างๆที่เกิดขึ้นในไซบีเรียทั้งสมัยโซเวียตและในปัจจุบัน
  • ชมพิพิธภัณฑ์รถไฟไซบีเรียตะวันตก (West Siberian Railway Museum) พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงบรรดาหัวรถจักรและตู้รถไฟที่ใช้ในการขนส่งคมนาคมหลากหลายประเภท รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในการขนส่งทางรถไฟในเขตไซบีเรียตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

  • เที่ยวรอบตัวเมืองโนโวซิบีร์สก์ ที่หลังจากก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1897 ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 70 ปี ในการก้าวขึ้นมาเป็นเมืองที่มีประชากรเกินล้านคน มีความสำคัญด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจจนได้รับสมญาว่า “ชิคาโกแห่งไซบีเรีย” กระทั่งปัจจุบันถือเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสามของรัสเซีย เป็นรองแค่เพียงมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

  • แวะทักทายสัตว์ป่านานาชนิดทั้งที่มีถิ่นกำเนิดในไซบีเรีย รัสเซีย และจากทุกมุมโลกที่สวนสัตว์โนโวซิบีร์สก์ (Novosibirsk Zoo) หนึ่งในสวนสัตว์ขนาดใหญ่ที่สุดของรัสเซียและยุโรปในปัจจุบัน พระเอกของสวนสัตว์แห่งนี้คือเสือดาวหิมะ (Snow Leopard) ที่พบในเขตไซบีเรีย เทือกเขาอัลไตและหิมาลัย สถานะใกล้จะสูญพันธุ์ในธรรมชาติ ดาราประจำสวนสัตว์ตัวอื่นๆ ได้แก่ หมีขาว (Polar Bear) และไลเกอร์ (Liger) หรือเสือผสมสิงโต

  • เดินทางสู่สถานีรถไฟโนโวซิบีร์สก์ ออกเดินทางด้วยรถไฟไปยังคราสโนยาร์สก์ (ค้างคืนบนรถไฟ / 12 ชม.)

Day : Krasnoyarsk – Stolby Nature Sanctuary

  • (เช้า) ถึงสถานีรถไฟคราสโนยาร์สก์ รับประทานอาหารเช้าก่อนออกเที่ยวรอบเมืองที่มีประวัติเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียมายาวนานเกือบ 400 ปี ปัจจุบันเป็นหนึ่งใน 15 เมืองของรัสเซียที่มีประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคน คราสโนยาร์สก์ตั้งอยู่บนที่ราบสูงโดยมีแม่น้ำเยนิเซ (Yenisei) หนึ่งในแม่น้ำสายหลักของไซบีเรียไหลผ่านทำให้เป็นชัยภูมิที่เหมาะแก่การสร้างเมือง โดยมีการพบหลักฐานการตั้งรกรากของผู้คนในบริเวณนี้นับย้อนไปได้กว่า 35,000 ปีมาแล้ว
  • หลังจากนั้นออกเดินทางไปยังเขตเทือกเขาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเข้าสู่อุทยานธรรมชาติสโตลบึย (Stolby Nature Sanctuary) คำว่า “สโตลบึย” เป็นคำในภาษารัสเซียหมายถึงกลุ่มเสาหิน ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาในเขตป่าสนไซบีเรีย ด้วยทิวทัศน์ที่งดงามและไม่เหมือนใครเมื่อมองลงมายังเมืองคราสโนยาร์สก์ ทำให้ในปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ดึงดูดนักผจญภัยที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในรูปแบบของการเดินป่าและปีนเขา
  • เดินทางสู่สถานีรถไฟคราสโนยาร์สก์ ออกเดินทางด้วยรถไฟไปยังอิรคุทสก์ (ค้างคืนบนรถไฟ / 17 ชม.)

Day : Baikal – Irkutsk 

  • (บ่าย) ถึงสถานีรถไฟอิรคุทสก์ เดินทางเข้าที่พักก่อนออกท่องเที่ยวรอบตัวเมืองอิรคุทสก์ (Irkutsk)
  • อิรคุทสก์เป็นเมืองเก่าแก่มีอายุมากกว่า 300 ปี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของทะเลสาบไบคาล ริมแม่น้ำอันการา (Angara) แม่น้ำเพียงสายเดียวที่ไหลออกจากทะเลสาบไบคาล ในอดีตก่อนการปฏิวัติรัสเซียถือเป็นเมืองค้าขายที่สำคัญของจักรวรรดิรัสเซีย มีบทบาทสำคัญในฐานะเมืองศูนย์กลางการค้าระหว่างรัสเซียกับจีน ต่อมาเป็นแหล่งแปรรูปทองคำที่ได้มาจากแหล่งในไซบีเรียตะวันออก ในสมัยสหภาพโซเวียตกลายเป็นเมืองสำหรับคุมขังนักโทษการเมืองที่ถูกเนรเทศ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของรัสเซียเนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ใกล้และมีสาธารณูปโภคสะดวกสบายที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังทะเลสาบไบคาล ในบางครั้งถูกเรียกว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งไซบีเรียตะวันออก”

  • เดินทางกลับเข้าที่พัก

Day : Baikal – Listvyanka – Limnological Museum

  • ออกเดินทางจากอิรคุทสก์ไปยังลิสต์เวียนก้า (Listvyanka) ชุมชนติดทะเลสาบไบคาล ระยะทางราว 70 กม. ระหว่างทางแวะชมพิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมและชาติพันธุ์ทาลท์ซึย (The Taltsy Museum) พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งในรูปของหมู่บ้านที่จัดแสดงสถาปัตยกรรมที่ทำจากไม้ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 – 19 ของชาวรัสเซียและชาวบูเรียทที่ได้ตั้งรกรากอยู่บริเวณรอบทะเลสาบไบคาล ร่วมเรียนรู้วัฒนธรรมพื้นบ้านของผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบทะเลสาบไปคาลไปด้วยกัน
  • ถึงลิสต์เวียนก้า เข้าชมพิพิธภัณฑ์ชลธารวิทยาไบคาล (Baikal Limnological Museum) ที่จัดแสดงและให้ความรู้เกี่ยวกับทะเลสาบไบคาล ทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกและมีปริมาณน้ำจืดมากที่สุดในโลก เรียนรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของไบคาล สภาพแวดล้อมและธรรมชาติ รวมถึงพันธุ์พืชและสัตว์หายากที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศน์ผ่านอะควาเรียม ไม่ว่าจะเป็นปลาโอมุล สเตอร์เจียน และที่ขาดไม่ได้ แมวน้ำไบคาล ที่อพยพจากมหาสมุทรเข้ามาอาศัยในทะเลสาบตั้งแต่ยุคโบราณผ่านระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร
  • เดินเล่นชมทิวทัศน์รอบทะเลสาบก่อนจะขึ้นไปยังโขดหินเชียร์สกี (Cherskiy rock) จุดชมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลสาบไบคาล จากจุดนี้สามารถมองเห็นความกว้างใหญ่ของทะเลสาบไบคาลที่ทอดยาวไปจนสุดลูกหูลูกตาและแลนด์มาร์คต่างๆของไบคาล ทั้งต้นธารแม่น้ำอันการา โขดหินหมอผี และท่าเรือไบคาล
  • เดินทางกลับเข้าที่พัก

Day : Baikal – Circum-Baikal Railway

  •  ออกเดินทางท่องเที่ยวรอบทะเลสาบไปตามทางรถไฟรอบไบคาล (Circum-Baikal Railway)* เส้นทางประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905 ได้รับการขนานนามว่าเป็น “หัวเข็มขัดทองคำ” ของเส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย หรือ “สายเข็มขัดเหล็ก” ของจักรวรรดิรัสเซีย ก่อนจะได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวใน่วงทศวรรษ 1980
  • โดยตลอดเส้นทางท่องเที่ยวทางด้านทิศใต้ของทะเลสาบมีแนวอุโมงค์ซึ่งผ่านประวัติศาสตร์ในสงครามกลางเมืองเมื่อครั้งการปฏิวัติรัสเซีย เส้นทางลัดเลาะแนวเขาเลียบทะเลสาบ สิ่งก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ ระบบนิเวศน์ รวมถึงทัศนียภาพที่งดงามเหล่านี้ ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศให้มาชื่นชมความสวยงามของทะเลสาบไบคาลจากมุมมองบนขบวนรถที่แล่นไปช้าๆอย่างไม่ขาดสาย
    ***ในกรณีที่ไม่สามารถจัดโปรแกรมรถไฟรอบทะเลสาบได้เนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่อำนวย จะเปลี่ยนเป็นการล่องไปรอบทะเลสาบด้วยเรือยนต์หรือเรือโฮเวอร์คราฟท์ (Хивус-10) ในเส้นทางรอบทะเลสาบไบคาลฝั่งทิศตะวันตกตามความเหมาะสมแทน***
  • เดินทางกลับที่พัก

Day 10 : Baikal – Arshan

  • ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านอาร์ชาน (Arshan) ระยะทางราว 230 กม. ตามเส้นทางที่ลัดเลาะไปตามเทือกเขาซายาน (Sayan Mountains) ฝั่งตะวันออก ซึ่งนำเราไปสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวบูเรียตที่ตั้งอยู่ในบริเวณหุบเขาทุนกิน (Tunkin Valley) หลังจากนั้นเดินเท้าต่อไปยังหมู่บ้านอาร์ชาน หนึ่งในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่งดงามที่สุดของหุบเขา บริเวณเชิงเขาซายาน ห่างจากชายแดนมองโกเลียเพียงไม่ถึง 100 กิโลเมตร
  • ในตัวหมู่บ้านมีตลาดพื้นเมืองที่สามารถหาซื้อของที่ระลึกและสมุนไพรพื้นบ้านเป็นของฝาก ขณะที่เมื่อเดินต่อไปตามเส้นทางผ่านป่า จะพาเราไปสู่วิวของแม่น้ำคินการา (Kyngara) ณ จุดที่แม่น้ำไหลลงสู่น้ำตกขนาดย่อม จุดนี้เราสามารถสัมผัสกับแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่ไหลผ่านใกล้กับวัดในศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาที่ชาวบูเรียตนับถือ
  • เดินทางกลับที่พักในอิรคุทสก์

Day 11 : Irkutsk – Bangkok

  • ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอิรคุทสก์ (IKT) เพื่อเช็คอินสัมภาระและเตรียมตัวก่อนออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน S7 761 สายการบิน S7 Airlines เวลา 11.30 กลับสู่กรุงเทพมหานคร เดินทางถึง กทม เวลา 17.05 น  โดยสวัสดิภาพ

***รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม***

วันที่จัด

รวม

แกลลอรี่ทัวร์อัลไต รัสเซีย

ทริปอื่นๆที่น่าสนใจ

ไปไหนมาดอทคอม • 089-4789334 • 02-045-3445 • Line : @painaima.com • painaima@gmail.com • ติดต่อเรา

ไปไหนมาดอทคอม • ติดต่อเรา

Categories
Russia

ทัวร์ไบคาล

ทัวร์ไบคาล

Highlight

ไบคาล 6 วัน

ไบคาล ทรานไซบีเรีย 7 วัน

ไบคาล ทรานไซบีเรีย มูรมันก์ 12 วัน

Day 1 : Bangkok – Irkutsk

  • ช่วงบ่าย พบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
  • ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองอีร์คุตสค์ ประเทศรัสเซีย ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก ภายในตัวเมืองอีรคุตสค์
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ โรงแรม Angara 4* หรือเทียบเท่า

Day 2 : Listvynska – Dogsledge – Snowmobile – Chersky Peak  (B/L/D)

  • เดินทางสู่หมู่บ้านลิสต์เวียนก้า ห่างจาก Irkutsk ราว 70 กิโลเมตร เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบไบคาลที่มีสิ่งน่าสนใจและกิจกรรมหลายอย่างรอเราอยู่
  • สุนัขลากเลื่อน กิจกรรมที่ทุกท่านใฝ่ฝันจะได้ร่วมสักครั้ง เราจะพาท่านนั่งบน Sledge ที่ลากด้วยสุนัขประมาณ 6-8 ตัว ไปตามทางที่โรยด้วยเกล็ดหิมะ *(โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพหิมะที่ปกคลุมว่ามีมากเพียงพอหรือไม่)
  • ร่วมทดลองขับ SNOWMOBILE พาหนะที่ใช้เดินทางของคนในพื้นที่อันหนาวเหน็บ ในช่วงเวลาหน้าหนาวที่หิมะหนานุ่มปกคลุมอยู่ทั้งเมือง จัดให้นั่งคันละ 2 ท่าน
  • นั่ง Ski lift สู่ เนินหินเชียร์สกี เพื่อชมทิวทัศน์ของทะเลสาบไบคาล จากชายฝั่งด้านทิศตะวันตกของทะเลสาบ มุมอันสวยงามของธรรมชาติ
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ โรงแรม Angara หรือเทียบเท่า

Day 3 : Olkhon – Khorgoy – Ogoy – Buddhist Stupa – Khuzhir (B/L/D)

  • เดินทางสู่ เกาะโอลคอน ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนทะเลสาบไบคาล เมื่อถึงปลายแผ่นดินใหญ่ เราจะเปลี่ยนเป็นรถตู้ท้องถิ่นสไตล์รัสเซียแท้ๆ ที่จะสามารถวิ่งไปบนผืนน้ำแข็งได้
  • แวะพักยืดเส้นยืดสาย ชมวิว ณ จุดชมวิวก่อนข้ามสู่เกาะ Olkhon ที่นี่มีอนุสาวรีย์ของชายพเนจรตั้งอยู่ ริมอ่าว Kurkutsky Bay อนุสาวรีย์นี้เป็นตัวแทนของชายพเนจรในบทเพลงพื้นบ้านผู้ที่หนีการถูกลงโทษ พยายามข้ามทะเลสาบไบคาลกลับสู่เมืองอีรคุตสค์ ด้วยเรือสภาพผุพัง จากจุดนี้เราสามารถมองวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบไบคาลได้อย่างชัดเจน
  • เปลี่ยนยานพาหนะสำหรับเดินทางเป็นรถตู้ท้องถิ่นสไตล์รัสเซียที่จะพาเราตะลุยไปบนแผ่นผืนน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ ด้วยฝีมือคนขับขั้นเทพ ส่วนสัมภาระของเราจะเดินทางไปรอล่วงหน้าที่ โรงแรม เราจะได้เห็น รถตู้ UAZ เรียกอีกอย่างว่า “Buchanka” เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 1941 ในสมัยสงครามโลก จนถึงทุกวันนี้ก็ยังผลิตอยู่ และมีสโลแกนว่า “ทำไมต้องคิดค้นสิ่งใหม่เมื่อสิ่งเก่ายังทำงานได้ดีอยู่”
  • จะแวะถ่ายรูปจุดสวยๆ หลายจุด เช่น ถ้ำ น้ำตกน้ำแข็งที่เกิดจากน้ำแข็ง (ในแต่ละปีมีรูปร่างต่างกันไป) ตามสภาวะของอากาศ ความหนาวเย็น และสายลม
  • ชม แหลมคอร์กอย ทางตอนใต้ของเกาะ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการพบ “ซากกำแพงหินโบราณ” ที่สันนิษฐานว่าอาจเคยใช้เป็นแนวป้องกันข้าศึกในอดีต
  • เดินทางสู่ เกาะโอกอย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะโอลคอน ตั้งอยู่ในเขตทะเลน้อย สถูปพุทธแบบทิเบต สูง 8 เมตร ประดิษฐานบนเกาะเมื่อปี 2005 เพื่อสักการะบูชาบนเกาะ
  • Cape Dragon Island Ogoy อยู่ที่ปลายแหลมของเกาะ เป็นจุด Check in สำคัญของทริปไบคาลจุดหนึ่ง
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ Olkhlon ลักษณะเป็น โรงแรมขนาดเล็ก มีน้ำอุ่น ภายในห้องอุ่น ไม่หนาว

Day 4 : Burkan – Shaman Rock – Three Rock – Khoboy Cape (B/L/D)

  • เดินชมแหลมบูรคาน หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของทะเลสาบไบคาล ที่เป็นที่ตั้งของ “โขดหินชามาน” สถานที่ประกอบพิธีกรรมของหมอผีสื่อวิญญาณตามความเชื่อของชาวไบคาล ก่อนการเผยแพร่ศาสนาพุทธจากทิเบตมายังบริเวณนี้ พร้อมกันกับที่ให้เวลาท่านได้ถ่ายภาพทิวทัศน์ไว้เป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย
  • ชมหินสามพี่น้อง หรือ THREE BROTHER ROCK ตำนานท้องถิ่นกล่าวว่ามีพี่น้องสามตนซึ่งเป็นนกอินทรี พวกเขาจะบินเหนือเกาะและเพลิดเพลินกับท้องฟ้า ครั้งหนึ่งพวกเขาผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับพ่อ เขาได้กินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว เขาจึงถูกสาบให้กลายเป็นหิน
  • แหลมโคบอย ทางตอนเหนือสุดของเกาะโอลคอน พร้อมสัมผัสความงามของผืนน้ำแข็งสีฟ้าแวววาวที่โด่งดังในช่วงฤดูหนาว แนวถ้ำน้อยใหญ่ ถ่ายรูปกับน้ำแข็งรูปทรงแปลกตาสีฟ้า สีส้มตามการสะท้อนของแสงแดดและท้องฟ้า 
  • ถ่ายรูปฟองอากาศแข็งตัว • ลายน้ำแข็ง • ก้อนน้ำแข็งรูปทรงแปลกตา • น้ำตกน้ำแข็ง • ถ้ำน้ำแข็ง • รถตู้ UAZ
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ Olkhlon

Day 5 : Olkhon – City tour Irkutsk (B/L/D)

  • อำลาเกาะโอลคอน เดินทางกลับสู่ตัวเมืองอีรคุตสค์ตามเส้นทางเดิม
  • นำท่านเที่ยวชมภายในตัวเมืองอีรคุตสค์ อาทิเช่น
  • โบสถ์คาซาน
  • ถนนคาร์ล มาร์กซ์ ที่รายล้อมด้วยอาคารสถาปัตยกรรมสมัยปลายศตวรรษที่ 19 โบราณสถานสำคัญภายในสำนักชีสนา
  • อนุสาวรีย์ยาคอฟ โปคาบอฟ ผู้ก่อตั้งเมืองอีรคุตสค์
  • ประตูชัยมอสโก อนุสรณ์แห่งการครองราชย์ครบ 10 ปีของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1
  • เปลวไฟนิรันดร์ ที่สร้างเพื่อรำลึกถึงทหารเกณฑ์จากดินแดนไซบีเรียผู้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองเมนสกี ซึ่งเป็นอาคารที่เคยถูกใช้งานหลากหลายรูปแบบตลอดสมัยจักรวรรดิรัสเซียและโซเวียต
  • อนุสาวรีย์นายพลคอลชัค หนึ่งในผู้นำการเคลื่อนไหวของกลุ่มรัสเซียขาวในสงครามกลางเมืองหลังการปฏิวัติรัสเซีย
  • อนุสาวรีย์จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ผู้ดำริให้สร้างทางรถไฟประวัติศาสตร์สายทรานส์ไซบีเรีย
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ โรงแรม Angara หรือเทียบเท่า

Day 6 : Irkutsk – Bangkok (B)

  • เดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

Day 1 : Bangkok

  • ช่วงบ่าย พบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
  • เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองอีรคุตสค์ ประเทศรัสเซีย
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ โรงแรม Angara หรือเทียบเท่า

Day 2 : Irkutsk City Tour – Listvynska – Dogsledge  Snowmobile – Hovercraft – Chersky Peak (B/L/D)

  • นำท่านเที่ยวชมภายในตัวเมืองอีรคุตสค์ อาทิเช่น
  • อนุสาวรีย์ยาคอฟ โปคาบอฟ ผู้ก่อตั้งเมืองอีรคุตสค์
  • ประตูชัยมอสโก อนุสรณ์แห่งการครองราชย์ครบ 10 ปีของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1
  • เปลวไฟนิรันดร์ ที่สร้างเพื่อรำลึกถึงทหารเกณฑ์จากดินแดนไซบีเรียผู้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองเมนสกี ซึ่งเป็นอาคารที่เคยถูกใช้งานหลากหลายรูปแบบตลอดสมัยจักรวรรดิรัสเซียและโซเวียต
  • อนุสาวรีย์นายพลคอลชัค หนึ่งในผู้นำการเคลื่อนไหวของกลุ่มรัสเซียขาวในสงครามกลางเมืองหลังการปฏิวัติรัสเซีย
  • อนุสาวรีย์จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ผู้ดำริให้สร้างทางรถไฟประวัติศาสตร์สายทรานส์ไซบีเรีย
  • เขตประวัติศาสตร์ ย่าน 130 ที่เต็มไปด้วยอาคารไม้ตามแบบสมัยต้นศตวรรษที่ 18
  • ได้เวลาสมควร เดินทางสู่หมู่บ้านลิสต์เวียนก้า ห่างจาก Irkutsk ราว 70 กิโลเมตร เมืองเล็กๆริมทะเลสาบไบคาลที่มีสิ่งน่าสนใจและกิจกรรมหลายอย่างรอเราอยู่
  • สุนัขลากเลื่อน กิจกรรมที่ทุกท่านใฝ่ฝันจะได้ร่วมสักครั้ง เราจะพาท่านนั่งบน Sledge ที่ลากด้วยสุนัขประมาณ 6-8 ตัว ไปตามทางที่โรยด้วยเกล็ดหิมะ *(โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพหิมะที่ปกคลุมว่ามีมากเพียงพอหรือไม่)
  • ร่วมทดลองขับ SNOWMOBILE พาหนะที่ใช้เดินทางของคนในพื้นที่อันหนาวเหน็บ ในช่วงเวลาหน้าหนาวที่หิมะหนานุ่มปกคลุมอยู่ทั้งเมือง จัดให้นั่งคันละ 2 ท่าน
  • นั่ง Hovercraft เรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ที่จะพาคุณเคลื่อนที่ไปบนน้ำแข็งในประสบการณ์แปลกใหม่
  • นั่ง Ski lift สู่ เนินหินเชียร์สกี เพื่อชมทิวทัศน์ของทะเลสาบไบคาล จากชายฝั่งด้านทิศตะวันตกของทะเลสาบ มุมอันสวยงามของธรรมชาติ
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ โรงแรม Angara หรือเทียบเท่า

 Day 3 : Transiberia

  • นั่งรถไฟทรานไซบีเรีย (Trans-Siberian Railway) เปิดประสบการณ์นั่งรถไฟสายตำนาน ที่นักเดินทางทุกคนต้องเคยฝันไว้ตั้งแต่เด็กๆ สู่เมือง Ulan Ude ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8 ชม. พบกับทัศนียภาพอันสวยงามระหว่างการเดินทางบนเส้นทางระดับตำนานเส้นนี้ ที่มีชื่อเสียงดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก
  • เดินทางถึงเมือง Ulan-Ude เมืองหลวงของสาธารณรัฐบูเรียเตียของประเทศรัสเซียและยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของแคว้นไซบีเรียด้วย ส่วนตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำเซเลนกาโดยทางฝั่งใต้จะเป็นทะเลทรายยาวไปจนถึงมองโกเลีย เมืองที่ตั้งริมฝั่งแม่น้ำ Uda ยังมีกลิ่นอายของความเป็นเอเชียหลงเหลืออยู่มาก
  • ชมวัดไอโวลกินสกีดัตสัน วัดของพุทธศาสนานิกายมหายานที่ก่อสร้างตามสไตล์ของทิเบตมีคัมภีร์โบราณภาษาทิเบตและต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นสมบัติอันล้ำค่า Ivolginsky Datsan มีความหมายว่าศาสนสถานสำหรับการเรียนรู้ เบิกบาน และความสุขสร้างขึ้นในปี 1945 ในฐานะศูนย์รวมจิตวิญญาณแห่งพุทธศาสนา
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Ulan Ude

Day 4 : Datsan – Ust barguzin – Icecave

  • ชม Lenin Head รูปปั้นศรีษะของเลนินขนาดยักษ์ ผู้นำนักปฏิวัติมาร์กซิสคนแรกของโซเวียต รูปหล่อนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2513 มีความสูง7.7 เมตร และหนัก 42 ตัน ตั้งอยู่ ณ จตุรัสใจกลางเมือง ถนนสายหลักในเมือง ยังคงชื่อ Lenina Street ที่เป็นที่ตั้งของทั้งพิพิธภัณฑ์, โรงแรม และร้านค้าต่างๆ มากมาย
  • เดินทางสู่เมือง Ust barguzin เป็นอีกเมืองริมทะเลสบาบไปคาลที่ผู้คนยังมาเยือนน้อยจึงมีความสงบอยู่มาก
  • เมื่อถึงเมือง เปลี่ยนเป็นรถคันเล็กเพื่อเตรียมตัวไปถ่ายรูปกับมหัศจรรย์ Frozen icelake ที่น้อยคนนักจะได้มาเห็นในฝั่งนี้
  • ชม Ice Cave ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของถ้ำน้ำแข็งที่ยังคงบริษุทธิ์อยู่มากๆ คุณจะต้องทึ่งกับลวดลายของเส้นน้ำแข็งชัดเจนและอลังการ กว่าที่ใดๆ ถ่ายรูปตามสบายไม่ติดหัวใคร และไม่มีใครแย่งมุม
  • คืนนี้พักที่ Ust barguzin

Day 5 :  Ice crossing – Khoboy Cape – Three Rock

  • Ice crossing เดินทางข้าม Open Sea หรือทะเลเปิด อันกว้างใหญ่ของทะเลสาบไบคาล จากฝั่งตะวันออกไปตะวันตก ชม ความสวยงามของ Blue Ice ระหว่างการเดินทาง ที่น้อยคนนักจะได้เห็น
  • แหลมโคบอย ปลายสุดแหลมของเกาะโอลคอน ที่เราจะพบเป็นจุดแรกหลังจากเดินทางข้ามทะเลเปิด แหลมนี้อยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะโอลคอน ถ่ายรูปกับกองน้ำแข็งสีฟ้า Blue ice แปลกตา และถ้ำน้ำแข็ง หามุมส่วนตัวของคุณเพื่อถ่ายรูปไปอวดเพื่อนๆ
  • ชมหินสามพี่น้อง หรือ THREE BROTHER ROCK ตำนานท้องถิ่นกล่าวว่ามีพี่น้องสามตนซึ่งเป็นนกอินทรี พวกเขาจะบินเหนือเกาะและเพลิดเพลินกับท้องฟ้า ครั้งหนึ่งพวกเขาผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับพ่อ เขาได้กินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว เขาจึงถูกสาบให้กลายเป็นหิน และเราจะแวะพักทานอาหารแบบ Picnic กันที่นี่
  • เสาไม้แกะสัญลักษณ์ เป็นความเชื่อของชาวชามาน ถูกหุ้มด้วยริบบิ้นสีสดใสพริ้วไหวในสายลม เสาทั้ง 13 ต้นนี้เป็นตัวแทนของเทพเจ้า 13 องค์ ของเกาะ
  • ถ่ายรูปกับ Shaman Rock หินศักสิทธิ์แห่งชาวชามาน อันเป็น จุดหมายสำคัญอีกแห่งของเกาะโอลคอน
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ Olkhlon

Day 6 : Olkhon – Khorgoy – Ogoy – Buddhist Stupa – Irkutsk

  • พาแวะถ่ายรูปจุดสวยๆ หลายจุด เช่น ถ้ำน้ำแข็ง น้ำตกน้ำแข็งซึ่งในแต่ละปีจะมีรูปร่างต่างๆกันไปตามสภาวะของอากาศ ความหนาวเย็น และสายลม
  • เดินทางสู่ เกาะโอกอย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะโอลคอน ตั้งอยู่ในเขตทะเลน้อย นมัสการ สถูปพุทธแบบทิเบต สูง 8 เมตร ประดิษฐานบนเกาะเมื่อปี 2005 เพื่อสักการะบูชา บนเกาะ ชม แหลมคอร์กอย ทางตอนใต้ของเกาะ
  • แวะถ่ายรูปกับ Cape Dragon Island Ogoy อยู่ที่ปลายแหลมของเกาะ เป็นจุด Check in สำคัญของทริปไบคาลจุดหนึ่ง
  • จากนั้นอำลาเกาะโอลคอน เดินทางกลับสู่ตัวเมืองอีรคุตสค์
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ โรงแรม Angara หรือเทียบเท่า

Day 7 :  Irkutsk – Bangkok

  • เดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
  • 15.30 น. กลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

Day 1 : Bangkok – Irkutsk

  • ช่วงบ่าย พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ
  • ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองอิรคุตสค์ ประเทศรัสเซีย
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ โรงแรม Angara 4* หรือเทียบเท่า

Day 2 : Listvynska – Dogsledge – Snowmobile – Chersky Peak  Baikal Museum (B/L/D)

  • เดินทางสู่หมู่บ้านลิสต์เวียนก้า ห่างจาก Irkutsk ราว 70 กิโลเมตร เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบไบคาลที่มีสิ่งน่าสนใจและกิจกรรมหลายอย่างรอเราอยู่
  • สุนัขลากเลื่อน กิจกรรมที่ทุกท่านใฝ่ฝันจะได้ร่วมสักครั้ง เราจะพาท่านนั่งบน Sledge ที่ลากด้วยสุนัขประมาณ 6-8 ตัว ไปตามทางที่โรยด้วยเกล็ดหิมะ *(โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพหิมะที่ปกคลุมว่ามีมากเพียงพอหรือไม่)
  • ร่วมทดลองขับ SNOWMOBILE พาหนะที่ใช้เดินทางของคนในพื้นที่อันหนาวเหน็บ ในช่วงเวลาหน้าหนาวที่หิมะหนานุ่มปกคลุมอยู่ทั้งเมือง จัดให้นั่งคันละ 2 ท่าน

นั่ง Ski lift สู่ เนินหินเชียร์สกี เพื่อชมทิวทัศน์ของทะเลสาบไบคาล จากชายฝั่งด้านทิศตะวันตกของทะเลสาบ มุมอันสวยงามของธรรมชาติ

  • ชมพิพิธภัณฑ์ไบคาลเพื่อเรียนรู้เรื่องระบบนิเวศน์ของทะเลสาบไบคาล ที่ประกอบไปด้วยพืชและสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ที่น่าสนใจ รวมไปถึงดาวเด่นของพิพิธภัณฑ์ “แมวน้ำไบคาล” นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการจำลองสภาพใต้น้ำของทะเลสาบไบคาลให้ชมกันอย่างใกล้ชิด
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ โรงแรม Angara 4* หรือเทียบเท่า

Day 3 : Olkhlon – Khorgoy – Ogoy – Buddhist Stupa – Khuzhir (B/L/D)

  • เดินทางสู่ เกาะโอลคอน ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนทะเลสาบไบคาล (280 กม-4 ชม ) เมื่อถึงปลายแผ่นดินใหญ่ เราจะเปลี่ยนเป็นรถตู้ท้องถิ่นสไตล์รัสเซียแท้ๆ ที่จะสามารถวิ่งไปบนผืนน้ำแข็งได้
  • แวะพักยืดเส้นยืดสาย ชมวิว ณ จุดชมวิวก่อนข้ามสู่เกาะ Olkhlon ที่นี่มีอนุสาวรีย์ของชายพเนจรตั้งอยู่ ริมอ่าว Kurkutsky Bay อนุสาวรีย์นี้เป็นตัวแทนของชายพเนจรในบทเพลงพื้นบ้านผู้ที่หนีการถูกลงโทษ พยายามข้ามทะเลสาบไบคาลกลับสู่เมืองอิรคุตสก์ ด้วยเรือสภาพผุพัง จากจุดนี้เราสามารถมองวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบไบคาลได้อย่างชัดเจน
  • เปลี่ยนยานพาหนะสำหรับเดินทางเป็นรถตู้ท้องถิ่นสไตล์รัสเซียที่จะพาเราตะลุยไปบนแผ่นผืนน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ ด้วยฝีมือคนขับขั้นเทพ ส่วนสัมภาระของเราจะเดินทางไปรอล่วงหน้าที่ โรงแรม เราจะได้เห็น รถตู้ UAZ เรียกอีกอย่างว่า “Buchanka” เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 1941 ในสมัยสงครามโลก จนถึงทุกวันนี้ก็ยังผลิตอยู่ และมีสโลแกนว่า “ทำไมต้องคิดค้นสิ่งใหม่เมื่อสิ่งเก่ายังทำงานได้ดีอยู่”
  • จะแวะถ่ายรูปจุดสวยๆ หลายจุด เช่นถ้ำ น้ำตกน้ำแข็งที่เกิดจากน้ำแข็ง (ในแต่ละปีมีรูปร่างต่างกันไป) ตามสภาวะของอากาศ ความหนาวเย็น และสายลม ชม แหลมคอร์กอย ทางตอนใต้ของเกาะ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการพบ “ซากกำแพงหินโบราณ” ที่สันนิษฐานว่าอาจเคยใช้เป็นแนวป้องกันข้าศึกในอดีต

เดินทางสู่ เกาะโอกอย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะโอลคลอน ตั้งอยู่ในเขตทะเลน้อย สถูปพุทธแบบทิเบต สูง 8 เมตร ประดิษฐานบนเกาะเมื่อปี 2005 เพื่อศักการะบูชาบนเกาะ Cape Dragon Island Ogoy อยู่ที่ปลายแหลมของเกาะ เป็นจุด Check in สำคัญของทริปไบคาลจุดหนึ่ง

  • คืนนี้เราจะพักกันที่ Mini Hotel Guest house หรือเทียบเท่า มีน้ำอุ่น มี Heater

Day 4 : Shaman Rock – Three Rock – Khoboy Cape (B/L/D)

  • แหลมบูรคาน หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของทะเลสาบไบคาล ที่เป็นที่ตั้งของ “โขดหินชามาน” สถานที่ประกอบพิธีกรรมของหมอผีสื่อวิญญาณตามความเชื่อของชาวไบคาล ก่อนการเผยแพร่ศาสนาพุทธจากทิเบตมายังบริเวณนี้ พร้อมกันกับที่ให้เวลาท่านได้ถ่ายภาพทิวทัศน์ไว้เป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย
  • รู้จักชาว ชามาน เกาะ Olkhon นั้นเป็นที่อยู่ของชนพื้นเมือง Buryat ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยทางตอนเหนือของ Mongols เกาะนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางอันศักดิ์สิทธิ์ของชาแมนในซีกโลกเหนือและเชื่อกันว่าเป็น“ หนึ่งในห้าพื้นที่” ของพลังงานชามานิก
  • เสาไม้แกะสัญลักษณ์ เป็นความเชื่อของชาวชามาน ถูกหุ้มด้วยริบบิ้นสีสดใสพริ้วไหวในสายลม เสาทั้ง 13 ต้นนี้เป็นตัวแทนของเทพเจ้า 13 องค์ของเกาะ ถ่ายรูปกับน้ำแข็งรูปทรงแปลกตาสีฟ้า สีส้มตามการสะท้อนของแสงแดดและท้องฟ้า
  • ชมหินสามพี่น้อง หรือ THREE BROTHER ROCK ตำนานท้องถิ่นกล่าวว่ามีพี่น้องสามตนซึ่งเป็นนกอินทรี พวกเขาจะบินเหนือเกาะและเพลิดเพลินกับท้องฟ้า ครั้งหนึ่งพวกเขาผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับพ่อ เขาได้กินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว เขาจึงถูกสาบให้กลายเป็นหิน
  • แหลมโคบอย ทางตอนเหนือสุดของเกาะโอลคอน พร้อมสัมผัสความงามของผืนน้ำแข็งสีฟ้าแวววาวที่โด่งดังในช่วงฤดูหนาว แนวถ้ำน้อยใหญ่
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ Mini Hotel Guest house หรือเทียบเท่า มีน้ำอุ่น มี Heater
  • ถ่ายรูปฟองอากาศแข็งตัว • ลายน้ำแข็งที่ร่อนร้าว • ก้อนน้ำแข็งรูปทรงแปลกตา • น้ำตกน้ำแข็ง • ถ้ำน้ำแข็ง • รถตู้ UAZ

Day 5 : Ice crossing – Chivyrkuy Bay – Sacred Nose Penninsula (B/L/D)

  • เดินทางข้ามแผ่นน้ำแข็ง Ice crossing ผืนน้ำแข็งขนาดใหญ่ข้ามไปยังอีกฝั่งชม Chivyrkuy Bay อ่าวที่มีชื่อเสียงที่สุดของทะเลสาบไบคาลฝั่งตะวันออก ท่ามกลางภูเขาหิมะสีขาวและน้ำแข็งสีฟ้าใสในทะเลสาบ
  • Sacred Nose Penninsula อันเป็นคาบสมุทรที่เปรียบเสมือนจมูกแห่งไบคาลก็ว่าได้ เป็นคาบสมุทรขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียวในทะเลสาบ Baikal 53 กิโลเมตรและกว้างถึง 20 กิโลเมตร ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ 1877 เมตร มีลำธารและแม่น้ำหลายสิบสายไหลผ่าน ชมทะเลสาบไบคาลในมุมที่คนอื่นไม่เคยเห็น
  • พักที่ Chivyrkuy Bay

Day 6 : Barguzin Bay – Ulan Ude – Ivolginsky Datsan – Lenin Head (B/L/D)

  • เดินทางสู่ Barguzin Bay ข้ามผืนแผ่นน้ำแข็ง อันกว้างใหญ่ สู่ชายฝั่งตะวันออกของทะเลสาบไบคาล ชมความสวยงามอันน่าตื่นตาซึ่งถูกขนานนามว่า “end of the world”
  • เดินทางเข้าสู่เมือง Ulan-Ude เมืองหลวงของสาธารณรัฐบูเรียเตียของประเทศรัสเซียและยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของแคว้นไซบีเรียด้วย ส่วนตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำเซเลนกาโดยทางฝั่งใต้จะเป็นทะเลทรายยาวไปจนถึงมองโกเลีย เมืองที่ตั้งริมฝั่งแม่น้ำ Uda ยังมีกลิ่นอายของความเป็นเอเชียหลงเหลืออยู่มาก
  • วัดไอโวลกินสกี้ ดัตซัน วัดของพุทธศาสนานิกายมหายานที่ก่อสร้างตามสไตล์ของทิเบตมีคัมภีร์โบราณภาษาทิเบตและต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นสมบัติอันล้ำค่า สร้างขึ้นในปี 1945 ในฐานะศูนย์รวมจิตวิญญาณแห่งพุทธศาสนา
  • Lenin Head รูปปั้นศรีษะของเลนินขนาดยักษ์ ผู้นำนักปฏิวัติมาร์กซิสคนแรกของโซเวียต รูปหล่อนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2513 มีความสูง 7 เมตร และหนัก 42 ตัน ตั้งอยู่ ณ จัตุรัสใจกลางเมือง ถนนสายหลักในเมือง ยังคงชื่อ Lenina Street ที่เป็นที่ตั้งของทั้งพิพิธภัณฑ์, โรงแรม และร้านค้าต่างๆ มากมาย
  • เดินเล่นที่ย่าน Arbat ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าของ Ulan Ude ให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศร้านรวง และอาหารท้องถิ่นหลากเมนูที่ขึ้นชื่อ
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ โรงแรม Hotel Buryatia หรือเทียบเท่า

Day 7 : Ulan Ude – Irkutsk (B/L/D)

  • นั่งรถไฟทรานไซบีเรีย (Trans-Siberian Railway) สู่เมือง Irkutsk ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8 ชม. พบกับทัศนียภาพอันสวยงามระหว่างการเดินทางบนเส้นทางระดับตำนานเส้นนี้ ที่มีชื่อเสียงดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ โรงแรม Angara 4* หรือเทียบเท่า

Day 8 : Irkutsk – Murmansk (B/L/D)

  • นำท่านเที่ยวชมภายในตัวเมืองอิรคุตสค์ อาทิเช่น เขตประวัติศาสตร์ ย่าน 130 ที่เต็มไปด้วยอาคารไม้ตามแบบสมัยต้นศตวรรษที่ 18
  • ถนนคาร์ล มาร์กซ์ ที่รายล้อมด้วยอาคารสถาปัตยกรรมสมัยปลายศตวรรษที่ 19 โบราณสถานสำคัญภายในสำนักชี
  • อนุสาวรีย์ยาคอฟ โปคาบอฟ ผู้ก่อตั้งเมืองอิรคุตสก์
  • ประตูชัยมอสโก อนุสรณ์แห่งการครองราชย์ครบ 10 ปีของจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 1
  • เปลวไฟนิรันดร์ ที่สร้างเพื่อรำลึกถึงทหารเกณฑ์จากดินแดนไซบีเรียผู้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองเมนสกี ซึ่งเป็นอาคารที่เคยถูกใช้งานหลากหลายรูปแบบตลอดสมัยจักรวรรดิรัสเซียและโซเวียต
  • อนุสาวรีย์นายพลคอลชัค หนึ่งในผู้นำการเคลื่อนไหวของกลุ่มรัสเซียขาวในสงครามกลางเมืองหลังการปฏิวัติรัสเซีย
  • อนุสาวรีย์จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ผู้ดำริให้สร้างทางรถไฟประวัติศาสตร์สายทรานส์ไซบีเรีย
  • เดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางสู่เมืองมูรมันสค์
  • เดินทางเข้าที่พักในเมือง Murmansk ***หลังเชคอินโรงแรม ถ้าอากาศเปิดนำท่านออกล่าแสงเหนือ

Day 9 : Murmansk – Teriberka (B/L/D)

  • นำท่านเดินทางเข้าสู่เมือง เทอริเบอก้า (Teriberka) ซึ่งเป็นเมืองชนบทของประเทศรัสเซีย ตั้งอยู่ในแคว้นมูรมันสค์ แถบชายผั่งทะเลบาร์เร้นทส์ (Barents Sea) สัมผัสกับความหนาวเย็นท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและธรรมชาติอันสวยงาม
  • เที่ยวชมบริเวณ อ่าวเทอริเบอก้า ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ บริเวณนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังของรัสเซีย เรื่อง Leviathan จากนั้นเยี่ยมชมวิถีชีวิตของ หมู่บ้านชาวประมง ที่น่าประทับใจอีกด้วย
  • รับประทานอาหารเที่ยงแบบปิคนิค พาท่านเที่ยวชมเมืองเทอริเบอก้า จนได้เวลาอันสมควร จึงนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองมูรมันสค์
  • นำท่านล่าแสงออโรร่าหรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ที่เกิดในฤดูหนาว มองเห็นได้เฉพาะพื้นที่เหนือเส้น รุ้ง 66 ในวันที่ฟ้ามืดสนิทไร้แสงและเมฆรบกวน เราจะเห็นกลุ่มหมอกสีเขียวที่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างสนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ กับอนุภาคที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ โดยปรากฏการณ์ แสงออโรร่านั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้นด้วย

*** หากเส้นทางไปเทอริเบอก้า ไม่สามารถเดินทางได้ เช่นหิมะตกหนัก ถนนปิด เราจะเปลี่ยนเส้นทางไปที่  Safari Snow Village แทน ***

  • คืนนี้เราจะพักกันที่เมือง Murmansk

Day 10  : Murmansk – Sami Village  (B/L/D)

  • พาชม หมู่บ้านซามี่ (Sami Village) หมู่บ้านเล็กๆของชนเผ่าพื้นเมืองที่มีอาชีพล่าสัตว์ โดยลักษณะของหมู่บ้านได้สร้างคล้ายกับพิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้วิถีชีวิตชนเผ่า Majestic Idols ประติมากรรมอันเป็นตัวแทนของธรรมชาติ ได้แก่ ไฟ โลก น้ำ อากาศ โดยมีความเชื่อว่าหากมาอธิษฐานขอพรกับประติมากรรมชิ้นนี้ จะทำให้เกิดความโชคดีแก่ตนเอง
  • ฟาร์มกวางเรนเดียร์ ภายในหมู่บ้านจะเห็นชนเผ่าเลี้ยงกวางเรนเดียร์ไว้สำหรับลากเลื่อน และมีสัตว์อื่นๆ อีกมากเช่น สุนัขจิ้งจอก กระต่ายป่า สัมผัสกับความน่ารักแสนรู้ของสุนัขลากเลื่อน ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหิมะอันขาวโพลน
  • นำท่านล่าแสงออโรร่าหรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ที่เกิดในฤดูหนาว มองเห็นได้เฉพาะพื้นที่เหนือเส้น รุ้ง 66 ในวันที่ฟ้ามืดสนิทไร้แสงและเมฆรบกวน เราจะเห็นกลุ่มหมอกสีเขียวที่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างสนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ กับอนุภาคที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ
  • คืนนี้เราจะพักกันที่เมือง Murmansk 

Day 11 : Murmansk – Moscow – Bangkok (B/-/-)

  • ชมอนุสาวรีย์อโลชา (Alyosha Memorial) ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเหล่าทหารกองทัพของโซเวียตที่สามารถตรึงกองกำลังเพื่อหยุดยั้งการรุกคืบจากกองทัพเยอรมัน เป็นรูปปั้นขนาดสูงถึง 5 เมตร สูงเป็นอันดับสองของรัสเซียและมีน้ำหนักกว่า 5,000 ตัน
  • เดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

Day 12 : Bangkok

  • กลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

10-15 กพ. 66
เริ่มต้น 45,900 บาท

ไปไหนมาดอทคอม • 089-4789334 • 02-045-3445 • Line : @painaima.com • painaima@gmail.com • ติดต่อเรา

ไปไหนมาดอทคอม • ติดต่อเรา

Categories
Northernlight Russia

ทัวร์มูรมันสก์รัสเซีย นั่งรถไฟชมแสงเหนือ

ทัวร์มูรมันสก์

Highlight

Day 1 : Bangkok – Moscow – Murmansk

  • ช่วงเช้า พบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

Day 2 : Murmansk – Teriberka

  • เดินทางสู่ เมือง เทอริเบอก้า (Teriberka) เมืองชนบทของประเทศรัสเซีย ตั้งอยู่ในแคว้นมูรมันสค์ แคว้นชายฝั่งทะเลบาร์เร้นทส์ (Barents Sea) สัมผัสกับความหนาวเย็นท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและธรรมชาติอันสวยงาม
  • อ่าวเทอริเบอก้า ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ บริเวณนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังของรัสเซีย เรื่อง Leviathan ชมวิถีชีวิตของ หมู่บ้านชาวประมง ที่น่าประทับใจ
  • อนุสาวรีย์อโลชา (Alyosha Memorial) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเหล่าทหารกองทัพของโซเวียตที่สามารถตรึงกองกำลังเพื่อหยุดยั้งการรุกคืบจากกองทัพเยอรมัน เป็นรูปปั้นขนาดสูงถึง 5 เมตร สูงเป็นอันดับสองของรัสเซียและมีน้ำหนักกว่า 5,000 ตัน
  • นำท่านล่าแสงออโรร่า หรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ที่เกิดในฤดูหนาว มองเห็นได้เฉพาะพื้นที่เหนือเส้นรุ้ง 66 ในวันที่ฟ้ามืดสนิทไร้แสงและเมฆรบกวน เราจะเห็นกลุ่มหมอกสีเขียวที่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างสนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ กับอนุภาคที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ เมืองมูรมันสค์

Day 3 : Murmansk – Sami Village

  • เดินทางสู่ หมู่บ้านซามี่ (Saami Village) หมู่บ้านเล็กๆของชนเผ่าพื้นเมืองที่มีอาชีพล่าสัตว์ โดยลักษณะของหมู่บ้านได้สร้างคล้ายกับพิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้วิถีชีวิตชนเผ่า ภายในจะเห็นชนเผ่าเลี้ยงกวางเรนเดียร์ไว้สำหรับลากเลื่อน และมีสัตว์อื่นๆอีกมากมาย เช่น สุนัขจิ้งจอก กระต่ายป่า
  • ชม Majestic Idols ประติมากรรมอันเป็นตัวแทนของธรรมชาติ ได้แก่ ไฟ โลก น้ำ อากาศ โดยมีความเชื่อว่าหากมาอธิษฐานขอพรกับประติมากรรมชิ้นนี้ จะทำให้เกิดความโชคดีแก่ตนเอง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของสุขภาพที่ดี รวมถึงเรื่องความรักก็จะสมปรารถนาอีกด้วย
  • เที่ยวชมความน่ารักและให้อาหารฝูงกวางใน ฟาร์มกวางเรนเดียร์ จากนั้นท่านจะได้สัมผัสกับความน่ารักแสนรู้ของสุนัขลากเลื่อน ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหิมะอันขาวโพลน
  • Husky Farm ให้ท่านได้ชมความน่ารักของสุนัขแสนรู้ ฮัสกี้ เป็นสุนัขพันธุ์ฉลาดเฉลียวและแข็งแรงมาก โดยอาศัยอยู่ในเขตหนาว ซึ่งชาวแลปป์ได้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบนน้ำแข็งหรือหิมะ ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์นั่งรถเทียมสุนัขฮัสกี้ลากเลื่อน (Husky Sledding)
  • นำท่านล่าแสงออโรร่าหรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ที่เกิดในฤดูหนาว มองเห็นได้เฉพาะพื้นที่เหนือเส้น รุ้ง 66 ในวันที่ฟ้ามืดสนิทไร้แสงและเมฆรบกวน เราจะเห็นกลุ่มหมอกสีเขียวที่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างสนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ กับอนุภาคที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Kirovsk

Day 4 : Snowmobiles – Snow village

  • เดินทางสู่ภูเขาคิบินี (Khibiny Mountains) จุดศูนย์กลางของคาบสมุทรโคล่า สนุกสนานไปกับการนั่ง Snowmobile กลางทุ่งหิมะอันหนาวเย็นท่ามกลางป่าไม้และทะเลสาบน้ำแข็งของภูมิประเทศเขตอาร์กติกที่ไม่เหมือนใคร
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองหิมะ (Snow Village) ที่สร้างขึ้นจากหิมะทั้งหมด ที่มีการสร้างประติมากรรมน้ำแข็งเป็นรูปร่างต่างๆที่สวยงาม มีทั้งอาคาร,รูปปั้น, โบสถ์น้ำแข็ง, อุโมงค์ถ้ำ, เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
  • เตรียมตัวไปยังสถานีรถไฟ เพื่อไปเมือง Petrozavodsk ด้วย Night Arctic train (พักห้องละ 4 ท่าน)

Day 5 : Petrozavodsk

  • ตื่นรับแสงแรกแห่งวันบนเส้นทางสาย Arctic Train ถึงเมือง Petrozavodsk เวลา 50 น. เมือง “เปโตรซาวอดสค์”  อดีตเคยเป็นแหล่งผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญในสมัยจักรวรรดิรัสเซีย ขณะที่ในสมัยโซเวียตเคยถูกยึดครองโดยกองทัพฟินแลนด์ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของปรากฏการณ์ลึกลับบนท้องฟ้าในช่วงปี ค.ศ. 1977
  • ชมวิวเขตปกครองพิเศษคาเรเลีย ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ สีขาวจากหน้าต่างรถไฟ
  • เดินทางถึง Petrozavodsk เมืองหลวงของสาธารณรัฐคาเรเลีย ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ “โอเนกา” ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่กว้างใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคนี้
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Petrozavodsk

Day 6 : Petrozavodsk – Moscow – Bangkok

  • เดินทางไปยัง Moscow โดยสายการบินภายในประเทศ
  • แวะช้อปปิ้งที่ ตลาดอิสไมโลโว ตลาดขายของฝากราคาไม่แพง สินค้าที่ขึ้นชื่อได้แก่ตุ๊กตาแม่ลูกดก งานไม้ต่างๆ
  • เตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินเชเรมิตเตโวเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

 Day 7 : Bangkok

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ

Day 1 : Bangkok – Moscow – St.Petersburg

  • ช่วงเช้า พบกันที่ท่่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
  • เดินทางถึงเซนท์ปีเตอร์เบิร์ก เดินทางเข้าเมือง
  • คืนนี้พักที่ Best western Hotel หรือเทียบเท่า

Day 2 : St.Petersburg

  • เมือง peterburg ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เดิมชื่อว่าเมืองเปโตรกราดและเลนินกราด เป็นเมืองท่าที่สำคัญในประเทศรัสเซียและเคยเป็นเมืองหลวงของรัสเซียนาน 206 ปี
  • ชม จัตุรัสพระราชวัง ศูนย์กลางของเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กอีกหนึ่งมรดกโลก ที่นี่ได้บันทึกเหตุการณ์สำคัญในทางประวัติศาสตร์ของประเทศรัสเซียที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงการลุกฮือซึ่งนำไปสู่การปฏิวัติล้มระบอบซาร์
  • พระราชวังแคทเธอรีน ตั้งอยู่ในเมือง Pushkin เป็นพระราชวังฤดูร้อนที่งดงามมาก สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ในปี คศ. 1717 เพื่อเป็นที่พักผ่อนในฤดูร้อนกับพระมเหสี พระนางแคทเธอรีนที่ 1 สีของพระราชวังนี้สีฟ้าแทนพระเนตรของพระนางเเละสีทองแทนพระเกศา มีสวนแห่งความสุข ความทรงจำและห้องภาพต่างๆด้วยศิลปะคลาสสิกภายในเน้นตกแต่งประดับประดาผนังห้องด้วยลายปูนปั้นต่างๆ เพดานเขียนภาพแฟรสโก้
  • ห้องอำพัน ตั้งอยู่ภายในพระราชวังแคทเธอรีน เป็นห้องที่ผนังทำด้วยอำพันทั้งสิ้น 6 ตัน ทั้งห้องตกแต่งด้วยทองคำเปลวและกระจก มีความมหัศจรรย์ สวยงามเป็นอย่างมากจนทุกคนต้องตลึง
  • วิหารเซนต์ไอแซค ใช้เป็นสถานที่ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญต่างๆ เช่นพิธีราชาภิเษกหรือใช้ทำพิธีก่อนพระราชาจะออกไปรบ โดมของวิหารประดับด้วยทองคำแท้น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม ด้านนอกเป็นเสาหินอ่อนขนาดใหญ่ จึงทำให้มีความโดดเด่นเป็นสง่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
  • อนุสาวรีย์ซาร์ปีเตอร์บนหลังม้า เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่สร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศให้กับพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราช ผู้ซึ่งวางรากฐานอันมั่นคงให้กับเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กรวมถึงจักรวรรดิรัสเซีย
  • จัตุรัสรัฐสภา อดีตเคยเป็นจตุรัสกลางเมือง เคยถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Decemrists square ในปี 1925 เพื่อระลึกถึงการครบรอบ 100 ปีของการเกิดปฏิวัติเดือนธันวาคมในปี 1825 และถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้งในปี 2008 มาเป็น Senetor square จนถึงทุกวันนี้
  • สเตรลคา (Strelka) หรือ “แหลม” ในภาษาอังกฤษ เป็นจุดชมวิวมหานครที่น่าตื่นตาตื่นใจ จากจุดนี้สามารถชมเมืองเป็นฉากหลงอันยิ่งใหญ่ มีแม่น้ำเนวาอันกว้างใหญ่เป็นฉากหน้า
  • Rostral column เสาหินสีแดง 2 ต้น สร้างเมื่อ ค.ศ. 1810 เคยเป็นประภาคารสำหรับการเดินเรือ เสา 2 ต้นนี้ สูง 32 เมตร ตั้งอยู่บนเกาะวาซิลเยฟสกี้ฝั่งแม่น้ำเนวา ตรงข้ามพระราชวังฤดูหนาว (Hermitage) อีกด้านของเสาเป็นอาคารตลาดหลักทรัพย์ รูปแบบเสาเป็นรูปหัวเรือและมีแม่ย่านางเรือ ฐานสลักหินรูปเทพเจ้า Neptune และ Merkury เทพผู้ปกครองท้องทะเลและการเดินเรือ
  • ชม “ป้อมปีเตอร์และปอล” ตั้งอยู่บน เกาะวาซิลเยฟสกี้ เป็นสิ่งก่อสร้างแรกที่สร้างในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตั้งอยู่ ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนวา ป้อมปราการสร้างขึ้นเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม เพื่อคุ้มกันเมืองจากศัตรูทางน้ำ รวมถึง อนุสรณ์แห่งชัยชนะสงครามเหนือสวีเดน
  • คืนนี้พักที่ Best western Hotel หรือเทียบเท่า

Day 3 : St.Petersburg – Murmansk

  • นำชม พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเฮอร์มิเทจ หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก อาคารจัดแสดงหลักตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเนวา อดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งรัสเซียในช่วงฤดูหนาว รวบรวมผลงานชิ้นเอกของศิลปินระดับโลก เครื่องใช้ของราชวงศ์ รวมถึงบรรณาการจากราชวงศ์ทั่วโลก จัดแสดงในห้องซึ่งประดับประดาอย่างงดงามกว่าพันห้อง
  • ชม “ถนนเนฟสกี” ถนนสายหลักใจกลางเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กที่สองข้างทางเต็มไปด้วยทิวทัศน์อาคารซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18
  • ออกเดินทางไปยังมูรมันสค์ โดยสายการบินภายในประเทศ
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ เมืองมูรมันสค์ หลังเชคอินพาท่านออกล่าแสงเหนือ

Day 4 : Murmansk – Teriberka

  • เดินทางสู่ เมือง เทอริเบอก้า (Teriberka) เมืองชนบทของประเทศรัสเซีย ตั้งอยู่ในแคว้นมูรมันสค์ แถบชายฝั่งทะเลบาร์เร้นทส์ (Barents Sea) สัมผัสกับความหนาวเย็นท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและธรรมชาติอันสวยงาม
  • อ่าวเทอริเบอก้า ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ บริเวณนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังของรัสเซีย เรื่อง Leviathan ชมวิถีชีวิตของ หมู่บ้านชาวประมง ที่น่าประทับใจ
  • อนุสาวรีย์อโลชา (Alyosha Memorial) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเหล่าทหารกองทัพของโซเวียตที่สามารถตรึงกองกำลังเพื่อหยุดยั้งการรุกคืบจากกองทัพเยอรมัน เป็นรูปปั้นขนาดสูงถึง 35.5 เมตร สูงเป็นอันดับสองของรัสเซียและมีน้ำหนักกว่า 5,000 ตัน
  • นำท่านล่าแสงออโรร่า หรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ที่เกิดในฤดูหนาว มองเห็นได้เฉพาะพื้นที่เหนือเส้น รุ้ง 66 ในวันที่ฟ้ามืดสนิทไร้แสงและเมฆรบกวน เราจะเห็นกลุ่มหมอกสีเขียวที่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างสนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ กับอนุภาคที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ เมืองมูรมันสค์

Day 5 : Murmansk – Sami Village

  • เดินทางสู่ หมู่บ้านซามี่ (Sami Village) หมู่บ้านเล็กๆของชนเผ่าพื้นเมืองที่มีอาชีพล่าสัตว์ โดยลักษณะของหมู่บ้านได้สร้างคล้ายกับพิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้วิถีชีวิตชนเผ่า ภายในจะเห็นชนเผ่าเลี้ยงกวางเรนเดียร์ไว้สำหรับลากเลื่อน และมีสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น สุนัขจิ้งจอก กระต่ายป่า
  • ชม Majestic Idols ประติมากรรมอันเป็นตัวแทนของธรรมชาติ ได้แก่ ไฟ โลก น้ำ อากาศ โดยมีความเชื่อว่าหากมาอธิษฐานขอพรกับประติมากรรมชิ้นนี้ จะทำให้เกิดความโชคดีแก่ตนเอง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของสุขภาพที่ดี รวมถึงเรื่องความรักก็จะสมปรารถนาอีกด้วย
  • เที่ยวชมความน่ารักและให้อาหารฝูงกวางใน ฟาร์มกวางเรนเดียร์ จากนั้นท่านจะได้สัมผัสกับความน่ารักแสนรู้ของสุนัขลากเลื่อน ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหิมะอันขาวโพลน
  • Husky Farm ให้ท่านได้ชมความน่ารักของสุนัขแสนรู้ ฮัสกี้ เป็นสุนัขพันธุ์ฉลาดเฉลียวและแข็งแรงมาก โดยอาศัยอยู่ในเขตหนาว ซึ่งชาวแลปป์ได้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบนน้ำแข็งหรือหิมะ ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์นั่งรถเทียมสุนัขฮัสกี้ลากเลื่อน (Husky Sledding) ได้เวลาสมควรเดินทางต่อสู่เมือง Kirovsk
  • นำท่านล่าแสงออโรร่าหรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ที่เกิดในฤดูหนาว มองเห็นได้เฉพาะพื้นที่เหนือเส้น รุ้ง 66 ในวันที่ฟ้ามืดสนิทไร้แสงและเมฆรบกวน เราจะเห็นกลุ่มหมอกสีเขียวที่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างสนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ กับอนุภาคที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ
  • คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Kirovsk

Day 6 : Snowmobiles – Snow village

  • เดินทางสู่ภูเขาคิบินี (Khibiny Mountains) จุดศูนย์กลางของคาบสมุทรโคล่า สนุกสนานไปกับการนั่ง Snowmobile กลางทุ่งหิมะอันหนาวเย็นท่ามกลางป่าไม้และทะเลสาบน้ำแข็งของภูมิประเทศเขตอาร์กติกที่ไม่เหมือนใคร
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองหิมะ (Snow Village) ที่สร้างขึ้นจากหิมะทั้งหมด ที่มีการสร้างประติมากรรมน้ำแข็งเป็นรูปร่างต่างๆที่สวยงาม มีทั้งอาคาร,รูปปั้น, โบสถ์น้ำแข็ง, อุโมงค์ถ้ำ, เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
  • เตรียมตัวไปยังสถานีรถไฟ เพื่อไปเมือง Petrozavodsk ด้วย Night Arctic train (พักห้องละ 4 ท่าน)

Day 7 : Petrozavodsk

  • ตื่นรับแสงแรกแห่งวันบนเส้นทางสาย Arctic Train ถึงเมือง Petrozavodsk เวลา 14.50 น. เมือง “เปโตรซาวอดสค์”  อดีตเคยเป็นแหล่งผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญในสมัยจักรวรรดิรัสเซีย ขณะที่ในสมัยโซเวียตเคยถูกยึดครองโดยกองทัพฟินแลนด์ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของปรากฏการณ์ลึกลับบนท้องฟ้าในช่วงปี ค.ศ. 1977 
  • ชมวิวเขตปกครองพิเศษคาเรเลีย ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ สีขาวจากหน้าต่างรถไฟ ช่วงบ่าย เดินทางถึง Petrozavodsk เมืองหลวงของสาธารณรัฐคาเรเลีย ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ “โอเนกา” ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่กว้างใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคนี้
  • พักที่ Petrozavodsk

Day 8 : Petrozavodsk – Moscow

  • เดินทางไปยังเมือง Moscow โดยสายการบินภายในประเทศ
  • นำชม จัตุรัสแดง สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 เพื่อปรับปรุงด้านความปลอดภัยให้กับพระราชวังเครมลิน จึงเป็นลานประวัติศาสตร์ใจกลางกรุงมอสโกที่มีความสำคัญ เป็นแลนมาร์คของรัสเซียมาอย่างยาวนาน เป็นศูนย์กลางของการค้าขายในสมัยก่อน ต่อมาได้ถูกปรับปรุงพัฒนาตามยุคสมัย และรายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญต่างมากมาย นอกจากนั้นจัตุรัสแดงยังถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับการเดินสวนสนามของทหาร การประกอบพิธีสำคัญระดับประเทศ
  • ห้างสรรพสินค้า GUM ตั้งอยู่ย่านจัตุรัสแดง เป็นห้างที่เก่าแก่มากที่สุดในกรุงมอสโก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1895 มีความโดดเด่นขึ้นชื่อด้านสถาปัตยกรรมแบบยุคโบราณที่สวยงามโดดเด่น ลักษณะของห้างสร้างเป็นตัวอาคารสูง 3 ชั้น ภายนอกดูหรูหรา ตกแต่งได้อย่างสวยงาม ภายในโออ่าใหญ่โต มีสินค้าให้เลือกมากมาย
  • สุสานเลนิน หลังจากที่ วลาดีมีร์ เลนิน อดีตผู้นำปฏิว้ติรัสเซียได้เสียชีวิตลงแล้ว ก็ได้มีการสร้างสุสานเลนินขึ้นมาที่บริเวณจตุรัสแดง กลางกรุงมอสโก จนแล้วเสร็จ เมื่อปี ค.ศ. 1929 รูปแบบของสุสานมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เป็นทรงพีระมิด มีความสูงราว 12 เมตร โดยมีกระบวนการต่างๆที่เก็บรักษาร่างของเลนินไว้ เช่น การเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เป็นต้น สำหรับสุสานเลนินแห่งนี้ได้เปิดให้ประชาชนได้เคารพศพและเข้าชมอีกด้วย
  • วิหารเซนต์บาซิล ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสแดง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1555 เพื่อฉลองชัยชนะเหนือมองโกลที่ยกทัพมาเมืองคาซาน ด้วยรูปแบบของวิหารเซนต์บาซิล ที่มีลักษณะแปลกตาแต่สวยงามลงตัว เพราะสร้างให้มีโดมรูปทรงหัวหอม 8 โดม ล้อมรอบโดมที่ 9 ซึ่งอยู่ตรงกลาง จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ในกรุงมอสโกที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร จึงดึงดูดความสนใจของผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี
  • อนุสาวรีย์มินินและโปชาร์สกี อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัสแดง เป็นอนุสาวรีย์ที่หล่อด้วยทองสำริด สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2361 หลังจากที่มินินและโปชาร์สกี้ สองผู้นำอาสาสมัครนำกองกำลังเพื่อต่อสู้กับกองทัพโปลที่เข้ามารุกรานในเขตเครมลิน จนได้รับชัยชนะในที่สุด จึงมีการสร้างอนุสาวรีย์แห่งนี้ขึ้นมา
  • คืนนี้พักที่ Best western หรือเทียบเท่า

Day 9 : Moscow – Bangkok

  • เครมลินแห่งกรุงมอสโก สถานที่ซึ่งมากไปด้วยความสำคัญของรัสเซีย เพราะเป็นคำเรียกป้อมปราการในกรุงมอสโก มีความสำคัญคือเป็นศูนย์กลางของกรุงมอสโกมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 มาจนถึงปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้ จึงเป็นศูนย์รวมอำนาจรัฐของรัสเซียมาจนถึงปัจจุบัน เครมลินจึงเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการหลายแห่ง และใช้เป็นที่พักอาศัยของผู้นำรัสเซีย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก เมื่อ ค.ศ. 1990
  • หอระฆังพระเจ้าซาร์อิวานมหาราช สร้างโดยเจ้าชายอิวาน ความสูงมากถึง 81 เมตร จึงกลายเป็นหอระฆังที่มีความสูงมากที่สุดในโลก ส่วน “ระฆังพระเจ้าซาร์” เป็นระฆังที่มีน้ำหนักกว่า 200 ตัน จึงถูกเรียกว่าเป็นระฆังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเช่นกัน ตัวระฆังภายนอกได้ถูกสลักลวดลายต่างๆไว้อย่างวิจิตรสวยงาม
  • ชม ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ เป็นปืนที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1586 ขนาดของปืนมีน้ำหนักมากถึง 40 ตัน จึงกลายเป็นปืนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณด้านหน้าปืน ปรากฎลูกกระสุนอยู่ 4 ลูก โดยแต่ละลูกมีน้ำหนักราว 1 ตัน
  • ชมภายใน จัตุรัสวิหาร ที่ล้อมรอบด้วยวิหาร 3 แห่ง ซึ่งเคยใช้ประกอบพิธีของสมาชิกราชวงศ์โรมานอฟ ได้แก่วิหารแม่พระรับเกียรติ ที่ใช้ประกอบพิธีราชาภิเษก วิหารแม่พระรับสาร โบสถ์ประจำราชวงศ์สำหรับงานพิธีมงคล และ วิหารอัครทูตสวรรค์ สถานที่บรรจุพระศพของสมาชิกราชวงศ์ซาร์รัสเซียยุคก่อนจักรวรรดิ
  • แวะช้อปปิ้งที่ ตลาดอิสไมโลโว ตลาดขายของฝากราคาไม่แพง สินค้าที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ ตุ๊กตาแม่ลูกดก งานไม้ต่างๆ
  • ได้เวลาสมควรเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินเชเรมิตเตโว เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

Day 10 : Bangkok

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ

ยังไม่มีบิน

ไปไหนมาดอทคอม • 089-4789334 • 02-045-3445 • Line : @painaima.com • painaima@gmail.com • ติดต่อเรา

ไปไหนมาดอทคอม • ติดต่อเรา

error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม