สรุปไฮไลท์
☀️Seljalandsfoss – น้ำตกความสูง 60 เมตรที่คุณสามารถเดินลอดผ่านด้านหลังได้ ตั้งอยู่บนหน้าผาหินลาวายุคโบราณ
☀️Jokulsarlon Glacier Lagoon – ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่เกิดจากการละลายของ Vatnajökull ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีภูเขาน้ำแข็งลอยอยู่ตลอดปี
☀️Reynisfjara Beach – หาดทรายสีดำที่ขึ้นชื่อที่สุดในไอซ์แลนด์ โดดเด่นด้วยแท่งหินบะซอลต์ทรงเรขาคณิต
☀️Landmannalaugar – ดินแดนภูเขาสีรุ้งที่เกิดจากแร่ rhyolite ในชั้นหิน พร้อมเส้นทางเดินป่าและบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติกลางหุบเขา
☀️Gullfoss – น้ำตกสองชั้นขนาดใหญ่ในแม่น้ำ Hvítá ที่ได้ชื่อว่า “น้ำตกทองคำ” เป็นไฮไลท์ของ Golden Circle
☀️Stuðlagil Canyon – หุบเขาหินบะซอลต์ที่เพิ่งเปิดให้เที่ยวในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีแท่งหินที่เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบราวกับถูกแกะสลัก
☀️Dettifoss – น้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป ด้วยแรงน้ำมหาศาลที่ไหลตกจากหน้าผาสูง 44 เมตร
☀️ล่องเรือชมปลาวาฬ – ประสบการณ์ล่องเรือในอ่าว Eyjafjörður เพื่อชมวาฬหลังค่อม วาฬมิงค์ และวาฬเพชฌฆาต
☀️Sky Lagoon / Blue Lagoon – น้ำพุร้อนกลางแจ้งชื่อดัง น้ำมีสีฟ้าน้ำนมจากแร่ธาตุธรรมชาติ อุณหภูมิประมาณ 37-40 องศาเซลเซียส
☀️ซากเครื่องบิน DC-3 – เครื่องบินกองทัพสหรัฐฯ ที่ตกในปี 1973 บนทุ่งลาวา กลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมกลางธรรมชาติอันเวิ้งว้าง
ค่าทริปและการจองทริป
- ค่าทริป
- ห้องคู่-ห้อง 3 คน ท่านละ 159,000 บาท
- พักเดี่ยวเพิ่ม 35,000 บาท
- วันเดินทาง
- 20-29 มิย 68
- 21-30 กค 68
- 8-17 สค 68
- สนใจจองทริป
- ทักเราที่ Line @painaima
- โทร 089-4789334
สรุปทริป
✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
ค่าทริป ไม่รวม
⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment
โปรแกรมทริป Iceland Off road
วันที่ 1: กรุงเทพฯ – โคเปนเฮเกน
- ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าสู่กรุงโคเปนเฮเกน รอต่อเครื่องสู่ไอซ์แลนด์
วันที่ 2: โคเปนเฮเกน – Keflavik – เที่ยวชายฝั่งทางใต้
- Seljalandsfoss สามารถเดินลอดผ่านด้านหลังได้ ความสูง 60 เมตร ตั้งอยู่บนหน้าผาหินลาวายุคโบราณ
- Skogafoss น้ำตกทรงพลังที่มีความสูงและกว้างเกือบเท่ากัน เป็นที่รู้จักในเรื่องสายรุ้งที่มักปรากฏในช่วงกลางวัน และตำนานหีบสมบัติโบราณที่ซ่อนอยู่หลังม่านน้ำ
วันที่ 3: ธารน้ำแข็ง – แคนยอน – หาดทรายดำ
- Jokulsarlon Glacier Lagoon ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่เกิดจากการละลายของ Vatnajökull ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีภูเขาน้ำแข็งลอยอยู่ตลอดปี
- Lava Field ทุ่งลาวาที่เย็นตัวกลายเป็นพื้นหินกว้างไกล เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีต
- Mulagljufur Canyon หุบเขาธรรมชาติที่ซ่อนตัว โอบล้อมด้วยสายน้ำตกและป่าดิบเขา
- Fjaðrárgljúfuråแคนยอนยาว 2 กิโลเมตรที่เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำหลังยุคน้ำแข็ง ลักษณะโค้งเว้าสวยงามราวกับภาพวาด
- Reynisfjara Beach หาดทรายสีดำที่ขึ้นชื่อที่สุดในไอซ์แลนด์ โดดเด่นด้วยแท่งหินบะซอลต์ทรงเรขาคณิต
- Dyrhólaey แหลมที่ยื่นออกไปในทะเลพร้อมช่องหินขนาดใหญ่ สถานที่ดูนกทะเลยอดนิยม โดยเฉพาะนกพัฟฟิน
- ซากเครื่องบิน DC-3 เครื่องบินกองทัพสหรัฐฯ ตกในปี 1973 บนทุ่งลาวา กลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมกลางธรรมชาติอันเวิ้งว้าง
วันที่ 4: ไฮแลนด์ – น้ำพุร้อน – น้ำตกทองคำ
- Landmannalaugar ดินแดนภูเขาสีรุ้งอันเป็นผลจากแร่ rhyolite ในชั้นหิน ประกอบด้วยเส้นทางเดินป่าหลายเส้น และบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติกลางหุบเขา
- Haifoss หนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ ความสูงถึง 122 เมตร ตั้งอยู่ริมหน้าผาอย่างน่าตื่นตา
- Geysir น้ำพุร้อนที่เป็นต้นแบบของคำว่า “geyser” ในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีการพุ่งน้ำจากใต้ดินสูงถึง 30 เมตร
- Gullfoss น้ำตกสองชั้นขนาดใหญ่ในแม่น้ำ Hvítá ที่มีพลังและความงดงามจนได้ชื่อว่าเป็น “น้ำตกทองคำ” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของ Golden Circle
วันที่ 5: เส้นทางไฮแลนด์ – ภูเขาหลากสี – ทะเลสาบภูเขาไฟ
- Kerlingarfjöll ภูเขาในเขตที่ราบสูง มีไอน้ำร้อนพวยพุ่งและแร่ธาตุสีสันสดใส เกิดจากพลังความร้อนใต้พิภพ
- Akureyri เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ ตั้งอยู่ริมอ่าว Eyjafjörður ได้รับฉายาว่า “เมืองหลวงแห่งภาคเหนือ” เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและธรรมชาติ
- Myvatn ทะเลสาบภูเขาไฟที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะนกน้ำสายพันธุ์หายาก
- Hverir พื้นที่ภูมิศาสตร์ความร้อนใต้พิภพที่มีบ่อโคลนเดือด ไอน้ำกำมะถัน และพื้นดินที่เปลี่ยนสีเป็นโทนแดงและเหลือง
วันที่ 6: ธรรมชาติเหนือขั้ว – น้ำตก – แคนยอนลึกลับ
- Stuðlagil Canyon หุบเขาหินบะซอลต์ที่เพิ่งเปิดให้เที่ยวในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีแท่งหินที่เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ ราวกับถูกแกะสลักโดยมือมนุษย์
- Dettifoss น้ำตกที่ได้ชื่อว่าทรงพลังที่สุดในยุโรป ด้วยแรงน้ำมหาศาลที่ไหลตกจากหน้าผาสูง 44 เมตร
- Ásbyrgi Canyon แคนยอนรูปทรงเกือกม้า ขนาดยาว 3.5 กิโลเมตร เชื่อกันว่าเป็นรอยเท้าของม้าแปดขาของเทพโอดินในตำนานนอร์ส
วันที่ 7: เมือง Akureyri – ล่องเรือชมปลาวาฬ
- เดินเที่ยวในเมือง Akureyri ชมสถาปัตยกรรมแบบสแกนดิเนเวียน และสวนพฤกษศาสตร์ที่อยู่เหนือสุดของโลก
- ล่องเรือในอ่าว Eyjafjörður ซึ่งเป็นจุดชมปลาวาฬยอดนิยม โดยเฉพาะวาฬหลังค่อม วาฬมิงค์ และวาฬเพชฌฆาต
วันที่ 8: Reykjavik – น้ำพุร้อนธรรมชาติ
- Harpa Concert Hall อาคารแสดงศิลปะและคอนเสิร์ตริมทะเล ออกแบบด้วยกระจกหลายเหลี่ยมที่สะท้อนแสงธรรมชาติอย่างงดงาม
- Sun Voyager ประติมากรรมโลหะทรงเรือไวกิ้ง สื่อถึงการเดินทางสู่อนาคตและเสรีภาพ
- Sky Lagoon / Blue Lagoon น้ำพุร้อนกลางแจ้งชื่อดังของไอซ์แลนด์ แวดล้อมด้วยภูมิทัศน์ลาวา น้ำมีสีฟ้าน้ำนมจากแร่ธาตุธรรมชาติ อุณหภูมิประมาณ 37-40 องศาเซลเซียส
วันที่ 9: เดินทางกลับ
- เดินทางสู่สนามบิน Keflavik
- ต่อเครื่องที่โคเปนเฮเกนกลับสู่ประเทศไทย
วันที่ 10: เดินทางถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ