สรุปทริป
☀️ชมเมืองหลวง Buenos Aires เมืองหลวงของอาเจนตินา
☀️ชมธารน้ำแข็ง Perito Moreno มหัศจรรย์น้ำแข็งมหึมา
☀️Treking ที่ Laguna de los Tres เป็นเส้นทางเดินป่ารูปตัว W
☀️พักใน Las torres โรงแรม 5 ดาว หนึ่งเดียวในอุทยาน
☀️คืนอื่นๆพักโรงแรม 4-5 ดาว
painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551โปรแกรมโดยย่อ
วันที่ 1 | พบกันที่สุวรรณภูมิ เชคอิน Turkish Airlines เที่ยวบิน TK69 22.55-06.10 เดินทางไปบัวโนสไอเรส
วันที่ 2 | เปลี่ยนเครื่องที่อิสตันบูล เดินทางต่อสู่บัวโนสไอเรส ถึงปลายทางเวลา 22.25
*พักที่เมือง Buenos Aires
วันที่ 3 | ชมกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงแห่งอาร์เจนตินา • จัตุรัสพลาซ่า เดอ มาโย • ถนน 9 de Julio
*พักที่เมือง Buenos Aires
วันที่ 4 | บินภายในไปเมืองเอลคาลาฟาเต้ • เดินเล่มชมเมือง
*พักที่เมือง El Calafate
วันที่ 5 | ธารน้ำแข็งเปริโต โมเรโน่ • ถ่ายรูปกับทะเลสาบ Lago Argentino
*พักที่เมือง El Calafate
วันที่ 6 | หมู่บ้าน El Chalten จุดชมวิว Mirador de Los Cóndores
*พักที่เมือง El Chalten
วันที่ 7 | Trek – Laguna Torre (ไปกลับ 20 กม)
*พักที่เมือง El Chalten
วันที่ 8 | Trek – Laguna de los Tres (ไปกลับ 20 กม)
*พักที่เมือง El Chalten
วันที่ 9 | เดินทางไปยังอุทยาน Torres del Paine
*พักที่เมือง Las Torres
วันที่ 10 | Trek – Las Torres Base Viewpoint (ไปกลับ 21 กม 8-10 ชม)
*พักที่เมือง Las Torres
วันที่ 11 | Trek – Francés Valley (ไปกลับ 21 กม 10-12 ชม)
*พักที่เมือง Las Torres
วันที่ 12 | Trek – Grey Glacier Lookout (ไปกลับ 11 กม 8-9 ชม)
*พักที่เมือง Las Torres
วันที่ 13 | เดินทางสู่เมือง Punta Arenas
*พักที่เมือง Las Torres
วันที่ 14 | ชมเมือง Punta Arenas ช่วงเช้า • เย็นบินไปเมือง ซานติเอโก
*พักที่เมือง Las Torres
วันที่ 15 | City tour ซาติเอโก • ค่ำต่อเครื่องไปบัวโนสไอเรส • เชคอินสายการบิน Turkish Airlines TK16 เวลา 23.55
วันที่ 16 | 22.35 (ถึงอิสตันบลู) รอต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ
วันที่ 17 | ต่อไฟลท์ TK68 กลับกรุงเทพ เวลา 01.55 • 15.15 ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ.
เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคปาตาโกเนียในประเทศอาร์เจนตินา จังหวัดซันตาครูซ (Santa Cruz) ชื่อของเมืองมาจากพุ่มไม้เล็กๆ ที่มีดอกไม้สีเหลืองและผลเบอร์รีสีน้ำเงินเข้มที่พบได้ทั่วไปใน Patagonia ตั้งอยู่ในส่วนใต้ของประเทศ ใกล้กับอุทยานแห่งชาติลอสกลาเซีย (Los Glaciares National Park) ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของเมือง
เป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่สำคัญและได้รับความสนใจมากที่สุดในปาตาโกเนีย มีความยาวประมาณ 28 กิโลเมตร และมีความกว้างประมาณ 6 กิโลเมตรในส่วนที่กว้างที่สุด ธารน้ำแข็งนี้ไหลลงสู่งทะเลสาบเกรย์ (Lago Grey) ทำให้ทะเลสาบนี้มีสีฟ้าอมเทาที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเกิดจากการสะท้อนของแสงกับน้ำแข็งที่ละลายจากธารน้ำแข็ง
ธารน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นจากการละลายของธารน้ำแข็งเมื่อหลายพันปีที่แล้ว ปัจจุบันทะเลสาบนี้มีความยาวประมาณ 160 กิโลเมตร และมีความกว้างสูงสุดประมาณ 20 กิโลเมตร ความลึกเฉลี่ยของทะเลสาบประมาณ 150 เมตร โดยจุดที่ลึกที่สุดอาจลึกถึง 500 เมตร ทะเลสาบนี้ได้รับน้ำจากธารน้ำแข็งหลายแห่ง รวมถึงธารน้ำแข็งเปริโต โมเรโน (Perito Moreno Glacier) ที่มีชื่อเสียง
เส้นทางเดินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งใน El Chaltén เส้นทางสู่ Laguna Torre เลียบแม่น้ำ Río Fitz Roy โดยตลอด มีทัศนียภาพอันน่าทึ่งของเทือกเขา Torre Massif ตลอดทั้งวัน และสามารถชมทิวทัศน์ของหุบเขาที่อยู่ติดกันและยอดเขา Fitz Roy ที่ถูกบังไว้ด้านหลังยอดเขา Cerro เราออกเดินจากเนินเขาเหนือเมือง มีความชันในช่วงแรก จากนั้นเดินขึ้นลงอย่างช้าๆ เพลิดเพลินกับวิวแรกของหุบเขา Torre จากนั้นเดินผ่านป่า Lenga และข้างแม่น้ำ Río Fitz Roy ที่เชี่ยวกราก เส้นทางยังคงค่อนข้างราบเรียบตลอดทั้งวัน จนกระทั่งกิโลเมตรสุดท้ายพาคุณขึ้นไปยัง Campo de Agostini และริมฝั่ง Laguna Torre ที่นี่จะได้พบกับวิวใกล้ชิดของเทือกเขา Torre Massif ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในทะเลสาบน้ำแข็ง
เส้นทางเดินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งใน El Chaltén เส้นทางสู่ Laguna Torre เลียบแม่น้ำ Río Fitz Roy โดยตลอด มีทัศนียภาพอันน่าทึ่งของเทือกเขา Torre Massif ตลอดทั้งวัน และสามารถชมทิวทัศน์ของหุบเขาที่อยู่ติดกันและยอดเขา Fitz Roy ที่ถูกบังไว้ด้านหลังยอดเขา Cerro เราออกเดินจากเนินเขาเหนือเมือง มีความชันในช่วงแรก จากนั้นเดินขึ้นลงอย่างช้าๆ เพลิดเพลินกับวิวแรกของหุบเขา Torre จากนั้นเดินผ่านป่า Lenga และข้างแม่น้ำ Río Fitz Roy ที่เชี่ยวกราก เส้นทางยังคงค่อนข้างราบเรียบตลอดทั้งวัน จนกระทั่งกิโลเมตรสุดท้ายพาคุณขึ้นไปยัง Campo de Agostini และริมฝั่ง Laguna Torre ที่นี่จะได้พบกับวิวใกล้ชิดของเทือกเขา Torre Massif ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในทะเลสาบน้ำแข็ง
เป็นภูเขาหินแกรนิตที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ซับซ้อน โดยการยกตัวและการกัดเซาะของธารน้ำแข็งได้สร้างสรรค์รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของยอดเขาทั้งสาม ซึ่งประกอบด้วย Torres del Paine ทั้งสามยอดได้แก่: Torres Central, Torres Norte, Torres Sur
อุทยานนี้เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดของอาร์เจนตินาและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1981 ด้วยความงดงามทางธรรมชาติที่โดดเด่นและความหลากหลายทางธรณีวิทยา
ถูกตั้งชื่อตามนักสำรวจชาวอาร์เจนตินาชื่อฟรานซิสโก โมเรโน (Francisco Moreno) ผู้มีบทบาทสำคัญในการสำรวจปาตาโกเนียในศตวรรษที่ 19 ธารน้ำแข็งนี้เป็นส่วนหนึ่งของสนามน้ำแข็งปาตาโกเนียใต้ (Southern Patagonian Ice Field) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกนอกขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้
อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงอยู่ในภูมิภาคปาตาโกเนียน ในประเทศชิลี อุทยานแห่งชาติ Torres del Paine มีทิวเขาที่โด่งดังอย่าง Cuernos del Paine และ Torres del Paine ซึ่งเป็นภูเขาที่มีรูปร่างสลักตั้งตรงที่สุดและปลายที่แหลมคม
เป็นเส้นทางเดินป่ารูปตัว W ที่โด่งดังที่สุดในอุทยานแห่งชาติ Torres del Paine ประเทศชิลี เส้นทางนี้มีความยาวประมาณ 75 กิโลเมตร
ทะเลสาบที่ก่อตัวขึ้นจากการละลายของธารน้ำแข็งในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา และได้รับน้ำจากแม่น้ำ Paine ที่มีต้นน้ำมาจากธารน้ำแข็งและทะเลสาบใกล้เคียง ทะเลสาบนี้มีน้ำที่ใสและมีสีฟ้าอมเขียว ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของทะเลสาบในปาตาโกเนีย อันเกิดจากการสะท้อนของแร่ธาตุที่ละลายจากธารน้ำแข็ง
เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติโทเรส เดล ไปย์เน (Torres del Paine National Park) ในภูมิภาคปาตาโกเนีย ทางตอนใต้ของประเทศชิลี โรงแรมแห่งนี้เป็นจุดพักที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอุทยาน และเป็นหนึ่งในสถานที่พักที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคนี้
