Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Northernlight Roadtrip Scandinavia

ทัวร์นอร์เวย์ โลโฟเทน ทรอมโซ

LOFOTEN TROMSO
Roadtrip
สรุปทริป
☀️ เส้นทาง โลโฟเทน ทรอมโซ
☀️ 9 วัน 6 คืน  
☀️ ล่าแสงเหนือทุกคืน (ขึ้นกับสภาพอากาศ)
☀️ เก็บทุก Highlight ถ่ายรูปทุกจุด แม้กระทั่งฝาท่อ รับรองได้รูปทำคอนเทนต์ ให้เพื่อนกดไลค์รัวๆ
☀️ Reine วิวทะเลสาบ Reinefjord ล้อมรอบด้วยภูเขา
☀️ Hamnøy ซิกเนเจอร์บ้านสีแดงบนโขดหินที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูง
☀️ Henningsvaer เมืองชิคๆน่ารักๆ เดินเล่นได้ content
☀️ Tromso เมืองที่พบเจอแสงเหนือได้บ่อยที่สุด
☀️ พักโรงแรม 4 ดาว และ บ้านพักสไตล์ Rorbuer อันเป็นเอกลักษณ์
☀️ มีช่างภาพถ่ายรูปให้
 
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง 21 – 29 มีค 68 / 20 – 28 กย 68 / 11 – 19 ตค 68
💰 ค่าทริป 109,000
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ วีซ่า (เราแนะนำให้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋 painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋 เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
 
 
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบิน เคาน์เตอร์สายการบิน Thai Airways บินไปยังเมือง Oslo


วันที่ 2 |
บินภายในไป เมือง Leknes ชม Uttakleiv and Haukland Beach หาดหินกลมหนึ่งเดียวใน Lofoten
*พักที่เมือง Leknes

วันที่ 3 | หมู่บ้านสุดเกาะ A หมู่บ้านสุดท้ายของเกาะ Lofoten • หมู่บ้านโบราณ Nusfjord หมู่บ้านชาวประมงที่ถูกอนุรักษณ์ไว้ได้ดีที่สุดในเกาะ
*พักที่เมือง Hamnoy


วันที่ 4 | หมู่บ้านไฮไลท์ Reine
หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten • จุดชมวิวสะพาน Reinebrua บนยอดเขาแบบพาโนรามาของฟยอร์ดและ Lofoten • หมู่บ้านสีเหลือง Sakrisoy หมู่บ้านสีเหลืองที่มีเพียงแห่งเดียวใน Lofoten • เมือง Hamnoy Landmark สำคัญของ Lofoten ภาพถ่ายบ้านสีแดงบนโขดหินที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชัน
*พักที่เมือง Hamnoy


วันที่ 5 |
แวะถ่ายรูป Ramberg beach หาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีเทอควอยซ์ และวิวบ้านสีแดงสดที่น่าจดจำ • สะพานข้ามเกาะ Fredvang สะพานรูปแบบคล้ายกับ Atlandtic Ocean Road • Henningsvaer เป็นเมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมง ที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงทำประมงกันอย่างคึกคัก
*พักที่เมือง Svolvaer


วันที่ 6 |
Lofotr Viking Museum ที่แสดงเรื่องราวและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้งไว้มากมาย • เดินทางสู่เมือง Harstad เมืองแห่งไวกิ้งที่มีชีวิตชีวาใจกลางนอร์เวย์และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน • วิวภูเขาเคิปเพน เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเมือง Harstad • Kasfjord City – Mini Town เมืองจำลอง เมืองประกอบด้วยอาคารเล็ก ๆ กว่า 100 หลัง • Trondenes Church โบสถ์แพริชอันงดงามที่ตั้งอยู่เหนือผืนน้ำอันสงบนิ่งรอบๆ แหลม Trondenes
*พักที่เมือง Harstad


วันที่ 7 |
เดินทางสู่ Tromso เมืองที่เป็นเมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือ • ชม Tromso Cathedral เป็นโบสถ์ที่สร้างด้วยไม้ที่มีชื่อเสียงของเมือง • พาขึ้นกระเช้าไฟฟ้า Fjellheisen สู่ยอดเขา Storsteinen ชมวิวเมืองทรอมโซ แบบพาโนรามา 360 องศา • ชมอ่าวและท่าเรือ ในเขตเมืองทรอมโซและบ้านสีสันสดใสในบรรยากาศสุดชิล
*พักที่เมือง Tromso


วันที่ 8 | 
เดินทางสู่ Oslo ต่อเครื่องกลับไทย


วันที่ 9 |
ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Hamnoy

หมู่บ้านอันเลื่องชื่อ Hamnoy เป็นหมู่บ้านที่มีฉากธรรมชาติงดงามมาก มีทิวเขาตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง และมีบ้านชาวประมงสีแดงตั้งอยู่ริมโขดหิน อันเป็นภาพจำของคนทั้งโลกที่มีต่อ Lofoten พาถ่ายรูปที่จุดชมวิวหลักของเมืองโลโฟเทนบนจุดชมวิวหลักหน้าหมู่บ้าน Hamnoy ที่ถือว่าเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของช่างภาพทั่วโลก และที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งมุมที่ดีที่สุดของการดูแสงเหนือบนเกาะโลโฟเทน

ทัวร์โลโฟเทน
Reine

หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten พาไปจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งอ่าวที่จอดเรืออันมีฉากหลังเป็นขุนเขาสูงชันและฉากหน้าเป็นบ้านชาวประมงสีแดงตั้งเรียงรายอยู่

Sakrisoy

หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบ้านสีสันแตกต่างจากหมู่บ้านอื่น ที่เชิงเขา Olstind ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สำคัญแห่งหนึ่งของ Lofoten และที่นี่ ตระกูลของ Gylseth ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการประมง และอาหารทะเลที่มีคุณภาพสูงมาเกือบ 130 ปีแล้ว

ฟยอร์ด
Svolvaer

เมืองที่มีประวัติยาวนานถึงการตั้งถิ่นฐานในเขต Nordland กว่า 1200 ปี เมืองเเห่งนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรของเหล่าสัตว์น้ำ จนกลายเป็นเเหล่งจับปลาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ มีการติดต่อซื้อขายกับโลกภายนอก รวมถึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของหมู่เกาะ Lofoten อีกด้วย

Reine

หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten พาไปจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งอ่าวที่จอดเรืออันมีฉากหลังเป็นขุนเขาสูงชันและฉากหน้าเป็นบ้านชาวประมงสีแดงตั้งเรียงรายอยู่

Tromso

เมืองที่ตั้งอยู่ในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการชมแสงเหนือหรือออโรร่า แสงเหนือเกิดจากการที่อนุภาคจากดวงอาทิตย์ชนกับชั้นบรรยากาศของโลก และ Tromsø ตั้งอยู่ในเขตออโรร่าโอวัล ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้บ่อยครั้งในช่วงฤดูหนาว

Tromso

เมืองที่ตั้งอยู่ในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการชมแสงเหนือหรือออโรร่า แสงเหนือเกิดจากการที่อนุภาคจากดวงอาทิตย์ชนกับชั้นบรรยากาศของโลก และ Tromsø ตั้งอยู่ในเขตออโรร่าโอวัล ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้บ่อยครั้งในช่วงฤดูหนาว

ทัวร์โลโฟเทน
Reine

หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten พาไปจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งอ่าวที่จอดเรืออันมีฉากหลังเป็นขุนเขาสูงชันและฉากหน้าเป็นบ้านชาวประมงสีแดงตั้งเรียงรายอยู่

ทัวร์โลโฟเทน
Sakrisoy

หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบ้านสีสันแตกต่างจากหมู่บ้านอื่น ที่เชิงเขา Olstind ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สำคัญแห่งหนึ่งของ Lofoten และที่นี่ ตระกูลของ Gylseth ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการประมง และอาหารทะเลที่มีคุณภาพสูงมาเกือบ 130 ปีแล้ว

ทัวร์โลโฟเทน
Reine

หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten พาไปจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งอ่าวที่จอดเรืออันมีฉากหลังเป็นขุนเขาสูงชันและฉากหน้าเป็นบ้านชาวประมงสีแดงตั้งเรียงรายอยู่

Reine

หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten พาไปจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งอ่าวที่จอดเรืออันมีฉากหลังเป็นขุนเขาสูงชันและฉากหน้าเป็นบ้านชาวประมงสีแดงตั้งเรียงรายอยู่

Tromso

เมืองที่ตั้งอยู่ในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการชมแสงเหนือหรือออโรร่า แสงเหนือเกิดจากการที่อนุภาคจากดวงอาทิตย์ชนกับชั้นบรรยากาศของโลก และ Tromsø ตั้งอยู่ในเขตออโรร่าโอวัล ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้บ่อยครั้งในช่วงฤดูหนาว

ทัวร์โลโฟเทน painama.com
Fredvang

สะพาน Fredvangskrysset ที่มีลักษณะเฉพาะตัวของนอร์เวย์ มีลักษณะคล้ายกับ Ocean Road สร้างขึ้นเมื่อปี 1988 นี้เอง เชื่อมต่อเกาะ Fredvang กับโลกภายนอก

Nusfjord

หนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุดในนอร์เวย์ และ Rorbuer ของหมู่บ้านนี้เป็นโนบูเออร์ดั้งเดิมตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 รวมถึงยังค้นพบหลักฐานว่าหมู่บ้านนี้มีคนอาศัยอยู่มาตั้งแต่ 425 ก่อนคริสตกาล

ราวตากปลาคอด

ปลาค็อดตากแห้งเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของเกาะแห่งนี้ ที่เราจะเห็นราวตากผ้าที่เอาไว้ตากปลาอยู่ทั่วทั้งเกาะ แค่นึกกลิ่นก็ลอยมาแล้วเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงอื่นๆก็คงหนีไม่พ้นจะเป็น น้ำมันตับปลาจากปลาค็อด (Cod Liver Oil) และฟาร์มเลี้ยงปลาแซลมอน (Salmon) สายพันธุ์สายพันธุ์แอตแลนติก ที่เลี้ยงในทะเลเพื่อให้ใกล้เคียงกับสภาพตามธรรมชาติที่สุด

Henningsvaer

เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมง ที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงทำประมงกันอย่างคึกคัก หมู่บ้านชาวประมง ที่สวยเหมือนโปสการ์ด มีประชากรประมาณ 500 คน และยังเป็นท่าเรือของชาวประมงที่ยังใช้งานอยู่เป็นประจำสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม สมัยก่อนเข้าถึงได้ทางเรือเท่านั้น จนได้รับฉายาว่า "เวนิสแห่งโลโฟเทน"

Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Roadtrip Scandinavia

ทัวร์นอร์เวย์ โลโฟเทน เบอร์เกน

LOFOTEN BERGEN FLAM
Roadtrip
สรุปทริป
☀️ เก็บทุกไฮไลท์ เราต้องได้รูป
☀️ ล่าแสงเหนือทุกคืน (ขึ้นกับสภาพอากาศ)
☀️ Reine วิวทะเลสาบ Reinefjord ล้อมรอบด้วยภูเขา
☀️ Hamnøy ซิกเนเจอร์บ้านสีแดงบนโขดหินที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูง
☀️ Sakrisoy หมู่บ้านสีเหลืองเพียงแห่งเดียวของ Lofoten
☀️ Nusfjord หมู่บ้านที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี
☀️ Henningsvaer หมู่บ้านสุดชิค ที่มีสนามบอลอันโด่งดัง
☀️ เมือง Tromso มหานครแห่งแสงเหนือ
☀️ วิวอ่าว Tromso บ้านเรือนสไตล์นอร์ดิค
☀️ โบสถ์และจุดชมวิวของเมือง
☀️ Bergen มรดกโลก อาคารโบราณสีสันฉูดฉาดริมอ่าว
☀️ Flamsbana รถไฟที่สวยที่สุดของ Norway
☀️ ล่องเรือท่ามกลางฟยอร์ดที่มีน้ำทะเลใสนิ่งราวกระจกและภูผาอันสูงชัน
☀️ จุดถ่ายรูปลับๆ ที่เราหามาให้ไม่ซ้ำใคร อีกหลายมุม
☀️ พักโรงแรม 4 ดาว และ บ้านพักสไตล์ Rorbuer อันเป็นเอกลักษณ์
 
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง 21 – 30 มีค 68 / 20 – 29 มิย 68 / 19 – 28 กย 68
💰 ค่าทริป 129,000
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เดินทางโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 3-4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ วีซ่า (เราแนะนำให้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
 การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋 painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋 เงื่อนใขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบิน เคาน์เตอร์สายการบิน Thai Airways บินไปยังเมือง Oslo เมืองหลวงแห่งนอร์เวย์

วันที่ 2 | ถึง Oslo บินภายในไปเมือง Evenes Uttakleiv and Haukland Beach หาดหินกลมหนึ่งเดียวใน Lofoten • Ramberg beach หาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีเทอควอยซ์และวิวบ้านสีแดงสดที่น่าจดจำ • พักที่หมู่บ้านอันเลื่องชื่อ Hamnoy เป็นหมู่บ้านที่มีฉากธรรมชาติงดงาม
*พักที่เมือง Hamnoy

วันที่ 3 |หมู่บ้าน Å village ออกเสียงว่า ออ เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ปลายสุดของเกาะ Lofoten • หมู่บ้านโบราณ Nusfjord หนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุดในนอร์เวย์ • Reine หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten • จุดชมวิวสะพาน Reinebrua ชมวิวบนยอดเขาแบบพาโนรามาของฟยอร์ดและ Lofoten

*พักที่เมือง Hamnoy

วันที่ 4 | Sakrisoy หมู่บ้านสีเหลืองหนึ่งเดียวใน Lofoten • สะพานข้ามเกาะ Fredvang ที่มีลักษณะเฉพาะตัวของนอร์เวย์ มีลักษณะคล้ายกับ Ocean Road สร้างขึ้นเมื่อปี 1988 นี้เอง • Henningsvaer เป็นเมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมง ที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงทำประมงกันอย่างคึกคัก • เดินทางกลับเมือง Evenes

*พักที่เมือง Evenes

วันที่ 5 | เดินทางไปเมือง Tromso เมืองที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือมากที่สุดเมืองหนึ่ง • City tour เที่ยวชมเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกและชมวิหารและท่าเรือให้บรรยากาศสุดชิล

*พักที่เมือง Tromso

วันที่ 6 | Tromso • บินภายในไปยังเมือง Bergen มรดกโลกที่ตั้งอยู่ริมอ่าว • เดินทางต่อไปยังเมือง Voss เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในเขต Hordaland

*พักที่เมือง Voss


วันที่ 7 |
นั่งรถไฟสายพิเศษ Flåmsbana เส้นทางรถไฟที่งดงามที่สุดในนอร์เวย์ • เมือง Myrdal หมู่บ้านเล็กๆทางผ่านไปยังเมืองฟลัม • เมือง Flam เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ส่วนในสุดของฟยอร์ดที่ยาวและลึกที่สุดในโลก • Stegastein viewpoint จุดชมวิว Aurland ฟยอร์ดแบบพาโนรามา • ล่องเรือ Nærøyfjord ชมฟยอร์ดที่ยาวที่สุดและลึกที่สุดในนอร์เวย์ • น้ำตก Tvindefossen น้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมถนนมีความสูงประมาณ 152 เมตร

*พักที่เมือง Voss

วันที่ 8 | เดินทางไปยังเมือง Bergen ชมอาคารไม้ Bryggen สีสันสดใสเรียงรายกันริมอ่าว • Bryggen Wharf ท่าเรือสุดคลาสสิคในนอร์เวย์และเป็นแหล่งมรดกโลก • นั่งรถรางสู่ยอดเขา Fløyen ชมเมืองเบอร์เกนจากมุมสูง

*พักที่เมือง Bergen

วันที่ 9 | บินสู่ Oslo • เดินทางกลับประเทศไทย

วันที่ 10 | ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Hamnoy

หมู่บ้านอันเลื่องชื่อ Hamnoy เป็นหมู่บ้านที่มีฉากธรรมชาติงดงามมาก มีทิวเขาตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง และมีบ้านชาวประมงสีแดงตั้งอยู่ริมโขดหิน อันเป็นภาพจำของคนทั้งโลกที่มีต่อ Lofoten พาถ่ายรูปที่จุดชมวิวหลักของเมืองโลโฟเทนบนจุดชมวิวหลักหน้าหมู่บ้าน Hamnoy ที่ถือว่าเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของช่างภาพทั่วโลก และที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งมุมที่ดีที่สุดของการดูแสงเหนือบนเกาะโลโฟเทน

ทัวร์โลโฟเทน
Reine

หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten พาไปจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งอ่าวที่จอดเรืออันมีฉากหลังเป็นขุนเขาสูงชันและฉากหน้าเป็นบ้านชาวประมงสีแดงตั้งเรียงรายอยู่

Sakrisoy

หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบ้านสีสันแตกต่างจากหมู่บ้านอื่น ที่เชิงเขา Olstind ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สำคัญแห่งหนึ่งของ Lofoten และที่นี่ ตระกูลของ Gylseth ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการประมง และอาหารทะเลที่มีคุณภาพสูงมาเกือบ 130 ปีแล้ว

ฟยอร์ด
Svolvaer

เมืองที่มีประวัติยาวนานถึงการตั้งถิ่นฐานในเขต Nordland กว่า 1200 ปี เมืองเเห่งนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรของเหล่าสัตว์น้ำ จนกลายเป็นเเหล่งจับปลาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ มีการติดต่อซื้อขายกับโลกภายนอก รวมถึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของหมู่เกาะ Lofoten อีกด้วย

Reine

หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten พาไปจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งอ่าวที่จอดเรืออันมีฉากหลังเป็นขุนเขาสูงชันและฉากหน้าเป็นบ้านชาวประมงสีแดงตั้งเรียงรายอยู่

Tromso

เมืองที่ตั้งอยู่ในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการชมแสงเหนือหรือออโรร่า แสงเหนือเกิดจากการที่อนุภาคจากดวงอาทิตย์ชนกับชั้นบรรยากาศของโลก และ Tromsø ตั้งอยู่ในเขตออโรร่าโอวัล ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้บ่อยครั้งในช่วงฤดูหนาว

Tromso

เมืองที่ตั้งอยู่ในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการชมแสงเหนือหรือออโรร่า แสงเหนือเกิดจากการที่อนุภาคจากดวงอาทิตย์ชนกับชั้นบรรยากาศของโลก และ Tromsø ตั้งอยู่ในเขตออโรร่าโอวัล ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้บ่อยครั้งในช่วงฤดูหนาว

ทัวร์โลโฟเทน
Reine

หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten พาไปจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งอ่าวที่จอดเรืออันมีฉากหลังเป็นขุนเขาสูงชันและฉากหน้าเป็นบ้านชาวประมงสีแดงตั้งเรียงรายอยู่

ทัวร์โลโฟเทน
Sakrisoy

หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบ้านสีสันแตกต่างจากหมู่บ้านอื่น ที่เชิงเขา Olstind ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สำคัญแห่งหนึ่งของ Lofoten และที่นี่ ตระกูลของ Gylseth ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการประมง และอาหารทะเลที่มีคุณภาพสูงมาเกือบ 130 ปีแล้ว

ทัวร์โลโฟเทน
Reine

หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten พาไปจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งอ่าวที่จอดเรืออันมีฉากหลังเป็นขุนเขาสูงชันและฉากหน้าเป็นบ้านชาวประมงสีแดงตั้งเรียงรายอยู่

Reine

หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten พาไปจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งอ่าวที่จอดเรืออันมีฉากหลังเป็นขุนเขาสูงชันและฉากหน้าเป็นบ้านชาวประมงสีแดงตั้งเรียงรายอยู่

ทัวร์โลโฟเทน painama.com
Fredvang

สะพาน Fredvangskrysset ที่มีลักษณะเฉพาะตัวของนอร์เวย์ มีลักษณะคล้ายกับ Ocean Road สร้างขึ้นเมื่อปี 1988 นี้เอง เชื่อมต่อเกาะ Fredvang กับโลกภายนอก

Nusfjord

หนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุดในนอร์เวย์ และ Rorbuer ของหมู่บ้านนี้เป็นโนบูเออร์ดั้งเดิมตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 รวมถึงยังค้นพบหลักฐานว่าหมู่บ้านนี้มีคนอาศัยอยู่มาตั้งแต่ 425 ก่อนคริสตกาล

ราวตากปลาคอด

ปลาค็อดตากแห้งเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของเกาะแห่งนี้ ที่เราจะเห็นราวตากผ้าที่เอาไว้ตากปลาอยู่ทั่วทั้งเกาะ แค่นึกกลิ่นก็ลอยมาแล้วเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงอื่นๆก็คงหนีไม่พ้นจะเป็น น้ำมันตับปลาจากปลาค็อด (Cod Liver Oil) และฟาร์มเลี้ยงปลาแซลมอน (Salmon) สายพันธุ์สายพันธุ์แอตแลนติก ที่เลี้ยงในทะเลเพื่อให้ใกล้เคียงกับสภาพตามธรรมชาติที่สุด

Henningsvaer

เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมง ที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงทำประมงกันอย่างคึกคัก หมู่บ้านชาวประมง ที่สวยเหมือนโปสการ์ด มีประชากรประมาณ 500 คน และยังเป็นท่าเรือของชาวประมงที่ยังใช้งานอยู่เป็นประจำสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม สมัยก่อนเข้าถึงได้ทางเรือเท่านั้น จนได้รับฉายาว่า "เวนิสแห่งโลโฟเทน"

Bergen

Bryggen ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 12 และกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและการเดินเรือที่สำคัญในยุโรปเหนือ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมา Bryggen เป็นศูนย์กลางการค้าของสหภาพ Hanseatic League ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าที่มีอิทธิพลในยุโรปตอนเหนือ พ่อค้าชาวเยอรมันในสหภาพ Hanseatic League ได้ตั้งสำนักงานการค้าและคลังสินค้าในบริเวณนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ Bryggen มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Tyskebryggen (ท่าเรือเยอรมัน)

Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Roadtrip Scandinavia Tour

แลปแลนด์ & โลโฟแทน

FINLAND LAPLAND
Roadtrip
สรุปทริป
☀️ เส้นทางพิเศษ แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร Lapland Lofoten
☀️ พัก Igloo บ้านกระจกทรงโดม นอนดูแสงเหนือฟินๆ
☀️ แวะทักทาย Santa ที่ Santa Claus Village
☀️ดูเส้นเขตแดน Lapland หรือ เส้นอาร์กติกเซอร์เคิล
☀️ บินสู่ Tromso เมืองหลวงแห่งแสงแหนือ
☀️ เก็บทุกไฮไลท์ Lofoten Henningsvaer , Nusfjord , Hamnoy , Sakrisoy , Reine ไปแล้วไม่ต้องไปซ้ำ
☀️ ล่าแสงเหนือทุกคืน (ที่อากาศเป็นใจ)
☀️ หัวหน้าทริปเป็นช่างภาพตามเก็บรูปสวยๆให้
☀️ พัก Igloo 1 คืน คืนที่เหลือเป็น โรงแรม 3-4 ดาว และ Rorbuer บ้านพักสไตล์ Lofoten
 
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง 15 – 23 มีค 68 / 31 ตค – 8 พย 68
💰 ค่าทริป 139,000
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ วีซ่า (เราแนะนำให้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
 การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋 painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋 เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 |พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิเดินทางไป Ivalo

*พักที่เมือง Ivalo


วันที่ 2 |
ไปยังเขตหมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ • ทำกิจกรรม ขี่กวางเรนเดียร์ • เข้าที่พักที่ Kakslauttanen ที่พักรูปทรงโดมต้นฉบับ นอนดูแสงเหนือฟินๆ ในห้องอุ่นๆ
*พักที่เมือง Kakslauttanen


วันที่ 3 |
โบสถ์ Rovaniemi Church สร้างขึ้นในปี 1950 ภายในมีการตกแต่งอย่างสวยงาม ผนังด้านในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ • Rovaniemi เมืองหลวงของแลปแลนด์ • แวะ Santa Claus Village หมู่บ้านของซานต้าและส่งจดหมายให้กับคนพิเศษได้จากที่ Post Office ของซานต้า • ถ่ายรูปกับ เส้นอาร์กติกเซอร์เคิล เส้นแบ่งเขตสำคัญของโลก 
*พักที่เมือง Rovaniemi 


วันที่ 4 |
 บินสู่เมือง Tromso • ชมเมือง Tromso เมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือ • พาขึ้นกระเช้าไฟฟ้า Fjellheisen • ชมอ่าวและท่าเรือ
*พักที่เมือง Tromso


วันที่ 5 |
เดินทางสู่เมือง Evenes เป็นเมืองเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ • ไป เมือง Svolvaer เมืองหลวงของโลโฟเทน
*พักที่เมือง Svolvaer


วันที่ 6 |
Henningsvaer เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่สวยเหมือนดั่งนิยาย • ชม Uttakleiv and Haukland Beach หาดหินกลมหนึ่งเดียวใน Lofoten
*พักที่เมือง Leknes 


วันที่ 7 |
ชมหมู่บ้านโบราณ Nusfjord หมู่บ้านชาวประมงที่ถูกอนุรักษณ์ไว้ได้ดีที่สุดในเกาะ • หมู่บ้านไฮไลท์ Reine หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศนอร์เวย์ Sakrisoy หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆที่มีบ้านสีสันแตกต่างจากหมู่บ้านอื่น Hamnoy Landmark สำคัญของ Lofoten ภาพถ่ายบ้านสีแดงบนโขดหินที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชัน
*พักที่เมือง Leknes


วันที่ 8 | 
บินกลับ Oslo จากนั้นต่อเครื่องกลับไทย


วันที่ 9 |
ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Santa Claus Village

อยู่บนเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล ที่เที่ยวสุดฮิตของฟินแลนด์ ภายในหมู่บ้านยังมี ที่ทำการไปรษณีย์ของลุงซานตา เป็นจุดรวมสำหรับการส่งของขวัญ และจดหมายสำหรับส่งของขวัญไปยังคนที่เรารัก โดยมีกิมมิกน่ารักๆ ก็คือ แสตมป์ที่ประทับตราพิเศษของ Santa Claus Village รวมถึงการกำหนดเวลาที่จะส่งจดหมายได้ล่วงหน้าอีก

Rovaniemi

เมืองหลวงของเขตแลปแลนด์ทางตอนเหนือสุดของฟินแลนด์

Reindeer Farm

ฟาร์มกวางเรนเดียร์ นั่งรถลากเลื่อนโดยกวางเรนเดียร์ ยานพาหนะของซานตาครอส ไปบนลานหิมะ สามารถให้อาหาร และสัมผัสความน่ารักของกวางเรนเดียร์ได้อย่างใกล้ชิด ประสบการณ์หนึ่งในความประทับใจ และได้ถ่ายรูปกับกวางเรนเดียร์เป็น ที่ระลึก

Kirkenes

ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ ภายในเขตอาร์คติกซิร์เคิล ซึ่งติดชายแดนกับประเทศรัสเซีย (240 Km)

Kakslauttanen Arctic Resort

ก่อตั้งขึ้นในปี 1973 โดย Jussi Eiramo ผู้ก่อตั้งได้รับแรงบันดาลใจจากความงามของภูมิประเทศและสภาพแวดล้อมของ Lapland จึงเริ่มต้นสร้างรีสอร์ทที่มีการออกแบบที่สอดคล้องกับธรรมชาติ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่นั้นมา รีสอร์ทได้ขยายตัวและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

Arctic Circle

ถ่ายรูปกับเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนตามเส้นรุ้งและเส้นแวง และเป็นสัญลักษณ์ที่บอกขอบเขตของบริเวณซีกโลกเหนือ

Oulu

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งของอ่าว Bothnia ในทะเลบอลติก Oulu เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตอนเหนือของฟินแลนด์และมีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรม

Lapland

มีเมืองโรวาเนียมิ เป็นเมืองหลวง มีภูมิอากาศแบบหนาวเย็นแบบอาร์กติก อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด -40 C และสูงสุดที่ 15 C เป็นที่ตั้งของชนเผ่าซามี (Sami) ซึ่งเป็นชนพื้นเมือง

Hamnoy

หมู่บ้านอันเลื่องชื่อ Hamnoy เป็นหมู่บ้านที่มีฉากธรรมชาติงดงามมาก มีทิวเขาตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง และมีบ้านชาวประมงสีแดงตั้งอยู่ริมโขดหิน อันเป็นภาพจำของคนทั้งโลกที่มีต่อ Lofoten พาถ่ายรูปที่จุดชมวิวหลักของเมืองโลโฟเทนบนจุดชมวิวหลักหน้าหมู่บ้าน Hamnoy ที่ถือว่าเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของช่างภาพทั่วโลก และที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งมุมที่ดีที่สุดของการดูแสงเหนือบนเกาะโลโฟเทน

ทัวร์โลโฟเทน
Reine

หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten พาไปจุดชมวิวที่มองเห็นโค้งอ่าวที่จอดเรืออันมีฉากหลังเป็นขุนเขาสูงชันและฉากหน้าเป็นบ้านชาวประมงสีแดงตั้งเรียงรายอยู่

Sakrisoy

หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบ้านสีสันแตกต่างจากหมู่บ้านอื่น ที่เชิงเขา Olstind ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สำคัญแห่งหนึ่งของ Lofoten และที่นี่ ตระกูลของ Gylseth ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการประมง และอาหารทะเลที่มีคุณภาพสูงมาเกือบ 130 ปีแล้ว

ฟยอร์ด
Svolvaer

เมืองที่มีประวัติยาวนานถึงการตั้งถิ่นฐานในเขต Nordland กว่า 1200 ปี เมืองเเห่งนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรของเหล่าสัตว์น้ำ จนกลายเป็นเเหล่งจับปลาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ มีการติดต่อซื้อขายกับโลกภายนอก รวมถึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของหมู่เกาะ Lofoten อีกด้วย

Tromso

เมืองที่ตั้งอยู่ในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการชมแสงเหนือหรือออโรร่า แสงเหนือเกิดจากการที่อนุภาคจากดวงอาทิตย์ชนกับชั้นบรรยากาศของโลก และ Tromsø ตั้งอยู่ในเขตออโรร่าโอวัล ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้บ่อยครั้งในช่วงฤดูหนาว

ทัวร์โลโฟเทน painama.com
Fredvang

สะพาน Fredvangskrysset ที่มีลักษณะเฉพาะตัวของนอร์เวย์ มีลักษณะคล้ายกับ Ocean Road สร้างขึ้นเมื่อปี 1988 นี้เอง เชื่อมต่อเกาะ Fredvang กับโลกภายนอก

Nusfjord

หนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุดในนอร์เวย์ และ Rorbuer ของหมู่บ้านนี้เป็นโนบูเออร์ดั้งเดิมตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 รวมถึงยังค้นพบหลักฐานว่าหมู่บ้านนี้มีคนอาศัยอยู่มาตั้งแต่ 425 ก่อนคริสตกาล

Henningsvaer

เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมง ที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงทำประมงกันอย่างคึกคัก หมู่บ้านชาวประมง ที่สวยเหมือนโปสการ์ด มีประชากรประมาณ 500 คน และยังเป็นท่าเรือของชาวประมงที่ยังใช้งานอยู่เป็นประจำสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม สมัยก่อนเข้าถึงได้ทางเรือเท่านั้น จนได้รับฉายาว่า "เวนิสแห่งโลโฟเทน"

Categories
03-Mar 10-Oct 2024 2025 Iceland-Greenlad-Faroe Roadtrip

ทัวร์ไอซ์แลนด์ แกรนด์

ICELAND GRAND
Roadtrip
สรุปทริป
☀️ เที่ยวรอบเกาะ 10 วัน 7 คืน 3000 กม.
☀️ ล่าแสงเหนือทุกคืน (ขึ้นกับสภาพอากาศ)
☀️ เก็บทุก Signature / Skogafoss / Seljalandsfoss / Kirkjufell ภูเขารูปหมวก
☀️ Dettifoss น้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป
☀️ ทะเลสาบน้ำแข็ง Jokulsarlon และหาด Daimond beach
☀️ ถ้ำน้ำแข็ง (ตค- มีค)
☀️ ทุ่งมอส-ลาวา กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา / หาดทรายดำ เขาหินบะซอลต์ / Hvitserkur หินรูปช้าง
☀️ ถนนคนเดิน Akureyri Gerartogata
☀️ ชมปลาวาฬ
☀️ แช่น้ำแร่บลูลากูน
☀️ พักโรงแรม 4 ดาว
 
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง 29 มีค – 7 เมย 68 / 17 – 26 ตค 68
💰 ค่าทริป 129,000
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ วีซ่า (เราแนะนำให้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ส่วนที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋 painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋 เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 |พบที่สนามบินสุวรรณภูมิ เช็คอินสายการบิน Thai Airway เที่ยวบินที่ TG950 00.05-06.35


วันที่ 2 | Copenhagen
บินไป Keflavikเดินทางไป Kirkjufell เป็นที่รู้จักจากรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายหมวก และเป็นจุดชมแสงเหนือที่สวยที่สุด

พักที่ Grundafjord


วันที่ 3 |
หินรูปไดโนเสาร์ขนาดยักษ์ Hvitserkur • เดินทางไปเมือง Akureyri เมืองหลวงแห่งภาคเหนือ

พักที่ Akureyri


วันที่ 4 |
น้ำตก Godafoss หมายถึงน้ำตกแห่งเทพเจ้า • บ่อโคลนเดือด Hverir • น้ำตก Dettifoss เป็นน้ำตกที่ใหญ่และแรงที่สุดของยุโรป • Egilsstaðir

พักที่ Egilsstaðir


วันที่ 5 |
ชม Hengifoss หนึ่งในน้ำตก Unseen ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์* (ขึ้นกับสภาพอากาศ) • Eastfjord เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงามและโดดเด่น • Vestrahorn เป็นภูเขาที่เกิดจากหินลาวามีฉากหน้าเป็นหาดทรายสีดำ • ไปยังเมือง Hofn

พักที่ Hofn


วันที่ 6 |
ทะเลสาบธารน้ำแข็ง Jokulsarlon • ชม Diamond Beach น้ำแข็งที่เรียงรายบนชายหาดสีดำ • อุทยานสคาฟทาเฟล • ชมทุ่ง Moss Lava Field • ไปเมือง Vikหาดดำจากการที่ลาวาเย็นตัวลงและถูกกัดเซาะโดยคลื่นทะเล • Hálsanefshellir Cave (ผาหินบะซอลท์)

พักที่ Vik


วันที่ 7 |
น้ำตก Skogafoss หนึ่งในน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ • น้ำตก SeljalandsfossGoldern Circle • น้ำพุร้อน Geysir เกิดจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ • น้ำตก Gullfoss อันทรงพลัง • Thingvellir อุทยานบนเปลือกโลกที่ตั้งอยู่บนสองทวีป

พักที่ Reykjavik


วันที่ 8 | ล่องเรือชมวาฬ
• ชมเมือง Reykjavik • สัมผัสกับการแช่น้ำร้อนที่ Blue Lagoon

พักที่ Keflavik

วันที่ 9 | เดินทางสู่ Copenhagen ต่อเครื่องกลับไทย โดยสารการบิน Thai Airway เที่ยวบินที่ TG951 13.50-06.20


วันที่ 10 |
ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

 

Kirkjufell

ภูเขาโบสถ์ เป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นและสวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Snæfellsnes ทางตะวันตกของประเทศ ภูเขานี้มีความสูงประมาณ 463 เมตรและเป็นที่รู้จักจากรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายหมวก

Hvitserkur

หินยักษ์ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ในอ่าว Húnaflói มีลักษณะเป็นหินที่มีรูปทรงแปลกตาคล้ายกับสัตว์ยักษ์ที่กำลังดื่มน้ำ โดยมีความสูงประมาณ 15 เมตร ตามตำนานของท้องถิ่นมีความเชื่อว่า Hvitserkur เป็นยักษ์ที่ถูกแสงแดดเผาจนกลายเป็นหิน

Akureyrarkirkja

เป็นโบสถ์ลูเทอรันที่ตั้งอยู่ในเมืองอาคูเรย์รี ประเทศไอซ์แลนด์ โบสถ์แห่งนี้ถูกออกแบบโดย Guðjón Samúelsson ซึ่งเป็นสถาปนิกชาวไอซ์แลนด์ที่มีชื่อเสียง และได้รับการอุทิศในปี 1940

Myvatn Thermal Area

ตั้งอยู่ในภาคเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีภูมิทัศน์ธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุดในประเทศ พื้นที่นี้มีชื่อมาจากทะเลสาบ Myvatn ซึ่งหมายถึง "ทะเลสาบแห่งแมลงวัน" เนื่องจากมีแมลงวันจำนวนมากในช่วงฤดูร้อน

Dettifoss

น้ำตกที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Vatnajökull ทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีพลังมากที่สุดในยุโรป น้ำตกนี้มีความสูงประมาณ 44 เมตรและกว้าง 100 เมตร น้ำตก Dettifoss ได้รับน้ำจากแม่น้ำ Jökulsá á Fjöllum ซึ่งมาจากน้ำแข็งของ Vatnajökull ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

Egilsstaðir

เป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญของภูมิภาค Austurland หรือที่รู้จักในชื่อภาคตะวันออก มีประชากรประมาณ 2,300 คน และเป็นศูนย์กลางการค้าและบริการสำหรับพื้นที่โดยรอบ

Vestrahorn

เป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Stokksnes ใกล้กับเมือง Höfn ในภาคตะวันออกของประเทศ ภูเขานี้มีความสูงประมาณ 454 เมตร

Diamond Beach

ได้รับชื่อเสียงจากก้อนน้ำแข็งที่ถูกพัดขึ้นมาจากทะเลสาบธารน้ำแข็งโยกูลซาลอน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง ธารน้ำแข็งเหล่านี้เกิดจากธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และใหญ่ที่สุดในยุโรป เมื่อธารน้ำแข็งละลาย ส่วนหนึ่งของน้ำแข็งจะไหลลงสู่ทะเลสาบ ก่อนที่จะถูกพัดมาที่ชายหาด ท่ามกลางทะเลสีดำที่มาจากหินลาวาภูเขาไฟ ก้อนน้ำแข็งจะถูกน้ำทะเลกัดเซาะ จนมีรูปร่างและขนาดต่าง ๆ กัน ทำให้ชายหาดนี้ดูเหมือนเต็มไปด้วยเพชรที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วหาด

Ice cave

เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจซึ่งมักพบในพื้นที่ที่มีน้ำแข็งถาวร เช่น ในกรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ และบางพื้นที่ของรัสเซีย และแคนาดา ถ้ำเหล่านี้เกิดจากการไหลของน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งและหิมะ ซึ่งไหลผ่านและกัดเซาะน้ำแข็งสร้างเป็นโพรงและอุโมงค์ใต้ดินที่มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ

Moss Lava Field

พื้นที่ที่เป็นทุ่งลาวามอสในไอซ์แลนด์เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อหลายพันปีก่อน ลาวาที่ไหลออกมาจากภูเขาไฟเหล่านี้แผ่กระจายออกไปทั่วพื้นที่จนกลายเป็นทุ่งหินลาวากว้างใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไป มอสเริ่มเจริญเติบโตปกคลุมลาวาที่แข็งตัว ลักษณะของทุ่งลาวามักมีรูปร่างขรุขระและไม่เรียบเนียน ทำให้เกิดภาพทิวทัศน์ที่ดูแปลกตาและไม่เหมือนกับที่อื่นๆ ในโลก

Reynisfjara Beach

เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อหลายพันปีก่อน ลาวาที่ไหลออกจากภูเขาไฟจะเย็นตัวลงและแปรสภาพเป็นหินลาวาสีดำ เมื่อเวลาผ่านไป กระแสน้ำและลมทะเลจะสึกกร่อนหินเหล่านี้จนกลายเป็นทรายสีดำที่กระจายอยู่ทั่วชายหาด นอกจากนี้ บริเวณชายหาดยังมีหินบะซอลต์ที่เกิดจากลาวาและกระบวนการทางธรณีวิทยา ทำให้เกิดเป็นเสาหินบะซอลต์ที่ตั้งเรียงรายอย่างเป็นเอกลักษณ์

Geysir

เป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที น้ำพุร้อนนี้ เกิดจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน

Geysir

เป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที น้ำพุร้อนนี้ เกิดจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน

Blue Lagoon

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ Grindavík บนคาบสมุทร Reykjanes ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเรคยาวิกประมาณ 39 กิโลเมตร บลู ลากูนเป็นสระน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีน้ำสีฟ้าครามที่มีอุณหภูมิประมาณ 37-40 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี แม้ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น

Categories
02-Feb 03-Mar 10-Oct 2024 2025 Iceland-Greenlad-Faroe Roadtrip

ทัวร์ไอซ์แลนด์ Winter

ICELAND WINTER
Roadtrip
สรุปทริป
☀️ไฮไลท์ไอซ์แลนด์ สำหรับช่วงฤดูหนาว 
☀️ ไม่พลาดสำหรับ Golden Circle อันโด่งดัง
☀️ น้ำตก Signature ของ Iceland อาทิ Kirkjufell foss / Godafoss / Skogafoss / Seljalandsfoss / Selfoss
☀️ ทะเลสาบน้ำแข็ง Jokulsarlon และหาด Daimond beach
☀️ ถ้ำน้ำแข็ง (ตค- มีค)
☀️ ทุ่งมอส-ลาวา กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา 
☀️ หาดทรายดำ เขาหินบะซอลต์
☀️ แช่น้ำแร่บลูลากูน สีเขียวฟ้า
☀️ ล่าแสงเหนือทุกคืน (ขึ้นกับสภาพอากาศ)
 
รายละเอียด
 🗓️ เดินทาง 22 กพ 68 – 2 มีค 68 / 7 – 15 พย 68
💰 ค่าทริป 119,000
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ วีซ่า (เราแนะนำให้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบิน เคาน์เตอร์สายการบิน Thai Airways


วันที่ 2 |
เดินทางไปยังเมืองปารีส • บินภายในไปยัง Iceland สนามบิน Keflavikอุทยานแห่งชาติ Thingvellir อุทยานที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนประเทศไอซ์แลนด์

พักที่เมือง Gullfoss


วันที่ 3 |
Golden Circle น้ำตก Gullfoss ไนแอการ่าแห่งไอซ์แลนด์ • น้ำพุร้อนเกย์เซอร์ น้ำพุร้อนใต้ดินที่จะพุ่งตัวขึ้นมาจากพื้นเป็นระยะ • ปากปล่องภูเขาไฟ Kerid Crater ไปเมือง Selfoss เมืองที่ตั้งอยู่ในทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ ริมฝั่งแม่น้ำโอลฟูซา

พักที่เมือง Selfoss


วันที่ 4 |
น้ำตก Seljalandsfoss น้ำตกนี้มีความสูง60 เมตร  • น้ำตกสโกก้าฟอสส์ (Skogafoss) • แหลม Dyrholaey  ประตูมาจากลักษณะที่มีซุ้มลาวาโค้งขนาดมหึมายื่นรับอยู่ทางด้านหน้าของแหลม ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและลมที่พัดผ่าน • ชม หาดทรายดำTrolls in Reynisdrangar หินภูเขาไฟที่โผล่ขึ้นมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ที่บริเวณด้านหน้าของหาดทรายดำ (Reynisfjara) • Vik

พักที่เมือง Vik


วันที่ 5 |
แวะชม LavaField ทุ่งลาวามอสส์ขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา ทะเลสาบน้ำแข็ง Jokulsarlon เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งอายุกว่า 1,000 ปีที่ใหญ่ • ชมชายหาด Diamond Beach ชายหาดน้ำแข็ง

พักที่เมือง Jokulsarlon


วันที่ 6 |
ชมถ้ำ Ice Cave ถ้ำน้ำแข็งที่เกิดจากการก่อตัวของหิมะทับถมกันจนเป็นภูเขาน้ำแข็งเป็นเวลานาน • เดินทางไปเมือง ViK

พักที่เมือง Vik


วันที่ 7 |
เดินทางกลับ Reykjavik • ชมโบสถ์ Hallgrímskirkja โบสถ์นิกายลูเทอแรนใจกลางกรุงเรคยาวิก • Sun Voyager ประติมากรรมรูปเรือที่ตั้งอยู่ในกรุง Reykyavik มีรูปทรงที่คล้ายกับเรือไวกิ้ง • ชมอาคาร Harpa ศูนย์การแสดงศิลปะและการประชุม • Blue Lagoon สระน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีน้ำสีฟ้าคราม • เดินทางกลับเมือง Keflavik 

พักที่เมือง Keflavik 


วันที่ 8 |
บินภายในไปยังเมืองโคเปนเฮเกน จากนั้นต่อเครื่องกลับไทย


วันที่ 9 |
เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Thingvellir National Park

อุทยานแห่งชาติแห่งแรก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยุโรป กับ ทวีปอเมริกา และยังมีฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์และสามารถชมแสงเหนือได้ที่นี่อีกด้วย

Reynisfjara

ซึ่งเป็นถ้ำหินบะซอลต์ที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดโครงสร้างหินรูปทรงหกเหลี่ยมที่เรียงตัวกันเป็นแถวอย่างน่าทึ่ง ถ้ำนี้มักถูกใช้เป็นฉากหลังในภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์หลายเรื่องเนื่องจากความงดงามและเอกลักษณ์ของมัน

Keflavik

เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศบนชายฝั่งของอ่าว Faxaflói ตามประวัติศาสตร์ เรคยาวิกถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการตั้งถิ่นฐานเก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ประวัติศาสตร์เรคยาวิกเป็นเพียงหมู่บ้านประมงเล็กๆ แต่เมืองนี้ได้พัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างมากในศตวรรษที่ 20 และกลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง, วัฒนธรรม, และเศรษฐกิจของไอซ์แลนด์

Geysir

เป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที น้ำพุร้อนนี้ เกิดจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน

Geysir

เป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที น้ำพุร้อนนี้ เกิดจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน

Skogarfoss

น้ำตกจากหน้าผาสูงถึง 62 เมตร สามารถชมความงามได้ทั้งด้านล่าง หรือเดินขึ้นไปชม และ ถ่ายภาพมุมสูงของน้ำตกจากด้านบนได้

Dyrholaey

เดิมเรียกว่าเคปพอร์ตแลนด์โดยชาวอังกฤษ บนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ ชมหาดลาวาสีดำสนิท ที่ทอดตัวยาวหลายสิบกิโลเมตร ปะติมากรรมจากธรรมชาติบริเวณริมหน้าผา เป็นแหลมหินที่มีโพรงขนาดใหญ่ยื่นลงไปในทะเล เมื่อมองกลับไปด้านหลังจะพบกับ ธารน้ำแข็ง Mýrdalsjökull glacier

Kerid Crater

ปล่องภูเขาไฟสีเลือดที่มีทะเลสาบสีเขียวมรกตยู่บริเวณปากปล่อง ซึ่งแม้ว่าจะมีอายุกว่า 3 พันปีแล้วก็ตาม แต่ยังมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่

Lavafield

ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ามอสที่ปกคลุมอยู่บนหินลาวา เมื่อถ่ายภาพออกมา จะกลายเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา

Lavafield

ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ามอสที่ปกคลุมอยู่บนหินลาวา เมื่อถ่ายภาพออกมา จะกลายเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา

Ice cave

ถ้ำน้ำแข็งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจซึ่งมักพบในพื้นที่ที่มีน้ำแข็งถาวร เช่น ในกรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ และบางพื้นที่ของรัสเซีย และแคนาดา ถ้ำเหล่านี้เกิดจากการไหลของน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งและหิมะ ซึ่งไหลผ่านและกัดเซาะน้ำแข็งสร้างเป็นโพรงและอุโมงค์ใต้ดินที่มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ

Ice cave

ถ้ำน้ำแข็งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจซึ่งมักพบในพื้นที่ที่มีน้ำแข็งถาวร เช่น ในกรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ และบางพื้นที่ของรัสเซีย และแคนาดา ถ้ำเหล่านี้เกิดจากการไหลของน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งและหิมะ ซึ่งไหลผ่านและกัดเซาะน้ำแข็งสร้างเป็นโพรงและอุโมงค์ใต้ดินที่มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ

Hallgrimskirkja

โบสถ์สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ (74.5 เมตร) เป็นสถาปัตยกรรม แนวอิมเพรสชั่นนิส เริ่มก่อสร้าง ค.ศ. 1945-1986 บริเวณด้านหน้าของโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของเลฟร์ อีริกสัน ที่เชื่อกันว่าเป็นชาวยุโรปคนแรกที่เดินทางไปถึงทวีปอเมริกาเหนือ ก่อนหน้าคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเกือบ 500 ปี

Sun Voyager

สร้างขึ้นเมื่อปี 1990 ชนะเลิศจากการประกวดประติมากรรมเพื่อเฉลิมฉลองกรุงเรคยาวิกครบ 200 ปี แทนความหมายของเรือแห่งความฝันที่ออกเดินทางไปตามทิศทางแห่งดวงอาทิตย์ ไปสู่ดินแดนที่ยังไม่ถูกค้นพบ

Blue Lagoon

ที่มีอุณหภูมิความร้อนของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส และ มีแร่ธาตุที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยรักษาโรคได้

Blue Lagoon

ที่มีอุณหภูมิความร้อนของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส และ มีแร่ธาตุที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยรักษาโรคได้

Categories
10-Oct 2024 Europe Roadtrip

ทัวร์โครเอเชีย มอนเตเนโกร

CROATIA MONTENEGRO
Roadtrip
สรุปทริป
☀️ เส้นทางโครเอเชีย มอนเตเนโกร 11 วัน 8 คืน
☀️ เก็บทุก Highlight สำคัญ ของ 2 ประเทศ
☀️ เมือง Zagreb เมืองหลวงโครเอเชีย
☀️ Plitvicka น้ำตกที่สวยที่สุด
☀️ เมืองมรดกโลกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  Zadar / Trogir / Dubrovnik / Split
☀️ ประเทศมอนเตเนโกร เมืองที่ถูก underate
☀️ เมืองสวยๆ ริมทะเล อย่าง Kotor Budva
☀️ เมืองชิคๆ บรรยากาศสบาย Perast
☀️ Tara Canyon สะพานสูงข้ามช่องเขาที่วิวอลังแบบต้องไปให้ได้
☀️ พักโรงแรม 4 ดาว
☀️ มีช่างภาพถ่ายรูปสวยๆให้
 
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง 27 ตค – 6 พย 67 
💰 ค่าทริป 109,000
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ วีซ่า (เราแนะนำให้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต  11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่ 
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางไปยังเมือง Zagreb โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK69 23.05-05.20 แวะเปลี่ยนเครื่องที่อิสตัลบูล ต่อด้วย TK1053 06.55-08.00

วันที่ 2 | ถึงเมือง Zagreb เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโครเอเชีย • St. Mark’s Church อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมในใจกลางซาเกร็บ โดดเด่นด้วยหลังคามุงกระเบื้องที่มีลวดลายแบบโครเอเชียและลวดลายของธงชาติซาเกร็บ • City tour •

พักที่เมือง Zagreb

วันที่ 3 | ไป Plitvicka น้ำตกอันเลื่องชื่อที่สุดของโครเอเชีย • ล่องเรือข้ามทะเลสาบ Kozjak • เดินทางสู่ Zadar เมืองมรดกโลกแห่งทะเลอาเดรียติกเป็นอ่าวที่สวยงามโดยเฉพาะยาวพระอาทิตย์ตกดิน

พักที่เมือง Zadar

วันที่ 4 | เดินทางสู่  Zadar • ชมเมือง • ไปเมือง Trogir เมืองเก่าโทรเกียร์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบกรีก-โรมันโบราณ • ป้อมคาเมอร์เลนโก้ เป็นป้อมปราการที่สร้างจากหินปูนสีขาวและมีการออกแบบที่แข็งแกร่งด้วยกำแพงสูง • ชมเขตเมืองเก่า

พักที่เมือง Trogir

วันที่ 5 | เดินทางไปเมือง Split เมืองมรดกโลกที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและสมัยใหม่ • ชมเมือง • เดินทางสู่ Dubrovnik

พักที่เมือง Dubrovnik

วันที่ 6 | City tour Dubrovnik หมู่บ้านบนเกาะขนาดเล็ก ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก”City Tour • เดินเล่นที่ถนนสตราดัน หัวใจของเมืองเก่าดูบรอฟนิก เป็นถนนแคบที่ปูด้วยหินทรายสีขาวที่ให้ความรู้สึกคลาสสิก 

พักที่เมือง Dubrovnik

วันที่ 7 | ถ่ายรูปจุดชมวิว • ข้ามพรมแดนสู่ ประเทศมอนเตเนโกร มีความหลากหลายทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ • เมือง Kotor เมืองโบราณที่มีเอกลักษณ์ด้วยกำแพงเมืองที่งดงามและสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะโบสถ์และบ้านเรือนในย่านเมืองเก่า • ชมเมืองเก่า • เดินเล่นที่จัตุรัสกลางเมือง • lovcen national park สวรรค์แห่งภูเขาและประวัติศาสตร์

พักที่เมือง Kotor

วันที่ 8 | Kotor เมืองป้อมปราการสุดโรแมนติกริมอ่าว • Our Lady of the Rocks สถานที่ศักดิ์สิทธิ์กลางอ่าว Kotor • ชมเกาะ Sveti Đorđe อุทยานแห่งชาติ Durmitor ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก • เดินทางต่อสู่ Tara Canyon เป็นหนึ่งในหุบเขาที่ลึกที่สุดในยุโรป • ข้ามสะพาน Tara Bridge สะพานแขวนที่สูงที่สุดในมอนเตเนโกร

พักที่เมือง Žabljak

วันที่ 9 | Podgorica ไปเมือง Budva มรดกทางประวัติศาสตร์และชายหาดที่สวยงาม • ชม Sveti Stefan • ไปเมือง Podgorica

พักที่เมือง Podgorica

วันที่ 10 | กลับกรุงเทพ Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK1086 09.05-12.50 แวะเปลี่ยนเครื่องที่อิสตัลบูล ต่อด้วย TK58 15.30-04.40

วันที่ 11 | 04.40 เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

St.Mark

โบสถ์เซ็นต์มาร์ค สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ถือเป็นโบสถ์ Signature ของ Croatia มีความโดดเด่นด้วยหลังคาที่ปูกระเบื้องโมเสกเป็นรูปปราสาทสีขาวบนพื้นสีแดง คู่กับสัญลักษณ์ของโครเอเชีย สโลเวเนีย และดัลเมเชีย ทั้งหมดนี้ปรากฏอยู่บนลวดลายตารางหมากรุกแดงขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโครเอเชียอีกด้วย พาชมสถานที่ที่น่าสนใจ

Dubrovnik

เมืองที่งดงามตั้งอยู่ริมชายฝั่งตะวันออกของทะเลเอเดรียติกในโครเอเชีย เมืองนี้เป็นที่รู้จักจากสถาปัตยกรรมยุคกลางอันงดงาม กำแพงเมืองอันยิ่งใหญ่ และภูมิทัศน์ที่สวยงาม เมืองดูบรอฟนิกได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก วันสบายๆริมทะเลในวันอากาศสดชื่น

Split

เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโครเอเชีย เป็นศูนย์กลางการพาณิชย์และการคมนาคมของแคว้นดัลเมเชีย นอกจากนี้สปลิตยังเป็นเมืองชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชียที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,700 ปี

Zadar

อดีตเมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดัลเมเชีย (Dalmatia) ( 2 ชม.) เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยโรมัน เป็นย่านค้าขายทางเรือที่สำคัญ ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

Dubrovnik

เมืองที่งดงามตั้งอยู่ริมชายฝั่งตะวันออกของทะเลเอเดรียติกในโครเอเชีย เมืองนี้เป็นที่รู้จักจากสถาปัตยกรรมยุคกลางอันงดงาม กำแพงเมืองอันยิ่งใหญ่ และภูมิทัศน์ที่สวยงาม เมืองดูบรอฟนิกได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก วันสบายๆริมทะเลในวันอากาศสดชื่น

St.Anastasia Cathedral

คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในดัลเมเทียซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 ถึง 5 แม้จะถูกทำลายในสงครามมาแล้วแต่ก็ยังคงสภาพความสวยความให้เห็นจนถึงปัจจุบัน

Plitvicka

มีลักษณะเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือก Pljesevica, Mala Kapela และ Medvedak ทะเลสาบถูกแบ่งเป็นชั้นบนและชั้นล่าง มีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้

Adriatic Sea

คือส่วนหนึ่งของ Mediterranean ถึงแม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งก็ตาม แต่ก็มีความสำคัญไม่น้อยเลย เพราะแต่ละแห่งของชายฝั่งของทะเลนี้จะเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรม และโบราณสถานที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

Lovcen national park

เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ Njegoš Mausoleum ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของมอนเตเนโกร

View from lovcen

สูดอากาศบริสุทธิ์ บนยอดเขาพร้อมกับถ่ายรูปจากจุดชมวิวสุดเก๋ไม่มีซ้ำใคร

Church of Our Lady of Škrpjela

Our Lady of the Rocks สร้างขึ้นเมื่อปี 1452 ตามตำนานกล่าวว่ามีลูกเรือสองคนกลับจากการเดินทางที่แสนลำบาก ระหว่างทางได้ค้นพบสัญลักษณ์ของพระแม่มารีและพระบุตรที่อยู่บนก้อนหินในอ่าว พวกเขาจึงต้องการจะสร้างโบสถ์ขึ้นตรงนั้น ทั้งสองคนใช้หินก้อนเล็กๆค่อยๆก่อสร้างขึ้นเป็นโบสถ์เล็กๆ และต่อมากลายเป็นธรรมเนียมที่ชาวกะลาสีจะวางก้อนหินลงในน้ำรอบๆโบสถ์ก่อนเดินทางเพื่อเป็นการขอพรอย่างหนึ่ง ประเพณีนี้ยังคงปฏิบัติต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

St .George

โบสถ์กลางน้ำแห่งนี้ ความพิเศษของโบสถ์แห่งนี้คือ จะเป็นเสมือนผู้พิกษ์เมือง Kotor หรือเมืองท่าที่เรือกำลังจะไปจอด ใครจะผ่านไปมาต้องส่งสัญญาณทำความเคารพ เรือลำใหญ่อย่างเราเลยบีบแตรส่งสัญญาณเสียงดังก้องไปทั่วน่านน้ำ เมื่อล่องผ่านโบสถ์ และไม่กี่อึดใจก็มีเสียงก้องกังวานไปทั่วคุ้งน้ำ

บ้านเรือนริมอ่าวตลอดแนว

Kotor Bay ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอ่าว Kotor ทางตอนใต้ของประเทศมอนเตเนโกร เมืองนี้เป็นที่รู้จักจากสถาปัตยกรรมยุคกลางอันงดงาม กำแพงเมืองอันยิ่งใหญ่ และภูมิทัศน์ที่สวยงาม เมือง Kotor ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

เมือง Perast

Perast ประเทศมอนเตเนโกร เมืองเล็กๆที่ซ่อนความงามและประวัติศาสตร์ไว้ในทุกมุมมอง เป็นเมืองชายฝั่งที่เงียบสงบและงดงามที่สุดในอ่าว Kotor ชายฝั่งมีความยาวเพียง1.5 กิโลเมตรแต่ทว่าสวยงามมากเหมือนภาพวาด ที่นี่เป็นที่นิยมขึ้นเรือไปยังเกาะและโบสถ์ลอยน้ำ Our Lady of the Rocks

Sveti Stefan

อดีตเคยเป็นเมืองหลวงแห่ง Paštrovići และเคยเป็นเมืองในอารักขาของเวนิส ในช่วงยุคปี คศ. 1500 ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็น โรงแรม 5 ดาว ชมหาดกรวดสีชมพูและน้ำทะเลสีฟ้าครามทำให้บริเวณนี้เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาเยี่ยมชมตั้งแต่ยุคปี คศ 1930

ชิมอาหารทะเลวิวดีๆ

รับประทานอาหารและดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเล

มุมมองจากสะพาน Tara canyon

แม่น้ำทารา มีความยาว 146 กม. แต่สิ่งที่น่าสนใจคือที่นี่เป็นแคนยอนที่ยาวที่สุดในยุโรป และเป็นอันดับสองของโลกรองจากแกรนด์แคนยอน ที่ความยาว 78 กิโลเมตรและลึก 1,300 เมตร และถูกรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

มุมมองจากสะพาน Tara canyon

แม่น้ำทารา มีความยาว 146 กม. แต่สิ่งที่น่าสนใจคือที่นี่เป็นแคนยอนที่ยาวที่สุดในยุโรป และเป็นอันดับสองของโลกรองจากแกรนด์แคนยอน ที่ความยาว 78 กิโลเมตรและลึก 1,300 เมตร และถูกรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

มุมมองจากสะพาน Tara canyon

แม่น้ำทารา มีความยาว 146 กม. แต่สิ่งที่น่าสนใจคือที่นี่เป็นแคนยอนที่ยาวที่สุดในยุโรป และเป็นอันดับสองของโลกรองจากแกรนด์แคนยอน ที่ความยาว 78 กิโลเมตรและลึก 1,300 เมตร และถูกรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

มุมมองจากสะพาน Tara canyon

แม่น้ำทารา มีความยาว 146 กม. แต่สิ่งที่น่าสนใจคือที่นี่เป็นแคนยอนที่ยาวที่สุดในยุโรป และเป็นอันดับสองของโลกรองจากแกรนด์แคนยอน ที่ความยาว 78 กิโลเมตรและลึก 1,300 เมตร และถูกรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

Categories
10-Oct 2024 Europe

ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์

SWITZERLAND
Roadtrip
สรุปทริป
☀️รถไฟสายพิเศษ Glacier Express
☀️เมือง Zermatt เมืองที่มีวิวของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น พิชิตยอดเขากอร์เนอร์กรัท
☀️ยอดเขา Jungfraujoch
☀️ไม่พลาดเมืองสวยๆ อย่าง Grindelwald / First / Muren / Lauterbrunen
☀️Bern เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
☀️Appenzell เมืองชนบทที่แตกต่าง
☀️ช้อปปิ้ง Zurich
 
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง 19 – 29 มิ.ย. 68
💰 ค่าทริป 129,000
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ วีซ่า (เราแนะนำให้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางสู่ Zurich เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 


วันที่ 2 |
Zurich • Stein am Rhine เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมยุคกลางที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี และบรรยากาศที่งดงามริมแม่น้ำไรน์ Appenzell เมืองเต็มไปด้วยเนินเขา ทุ่งหญ้าเขียวขจี และบ้านเรือนที่มีสีสันสดใส Ebenalp เมืองเล็กๆที่มีความสูงถึง 1640 เมตร ล้อมรอบไปด้วยทุ่งหญ้าอัลไพน์

พักที่เมือง Appenzell


วันที่ 3 |
Andermatt หมู่บ้านเล็กๆ ในเทือกเขาแอลป์ มีโบสถ์ St. Peter and Paul ที่สวยงาม • Glacier Express รถไฟท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียง ตู้โดยสารมีหน้าต่างพาโนรามาขนาดใหญ่ • Zermatt เมืองในเทือกเขาแอลป์ แลนด์มาร์คแห่งสวิตเซอร์แลนด์

พักที่เมือง Zermatt


วันที่ 4 |
นั่งรถไฟสู่ยอดเขา Gornergrat เป็นจุดถ่ายรูปเขาแมทเธอร์ฮอร์น Matterhorn ที่สวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์ • Interlaken เมืองที่มีทิวทัศน์สวยงาม ระหว่างเทือกเขาแอลป์ กับทะเลสาบที่มีชื่อเสียงอย่าง Lake Thun และ Lake Brienz • Grindelwald หมู่บ้านและรีสอร์ทที่มีชื่อเสียง ที่ได้ถูกจัดเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่มรดกโลก

พักที่เมือง Grindelwald


วันที่ 5 |
นั่งกระเช้า Eiger Express ชมวิวแบบพาโนรามาขึ้นสู่ Jungfrau • Jungfraujoch เป็นจุดชมวิวของ Eiger, Mönch และ Jungfrau ซึ่งเป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงในแอลป์ • Lauterbrunnen หมู่บ้านเล็กๆ ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวสวิส • Murren ตั้งอยู่บนหน้าผา ยังคงรักษาเสน่ห์แบบสวิสดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี

พักที่เมือง Grindelwald


วันที่ 6 |
ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าจากสู่ Grindelwald First และสามารถมองเห็นวิวพาโนรามาของเทือกเขาแอลป์ที่สวยงาม • Bern เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีหมีเป็นสัญลักษณ์ของเมือง

พักที่เมือง Bern


วันที่ 7 |
ชม Brienz lake ทะเลสาบน้ำสีเขียวมรกตและภูเขาที่ล้อมรอบ • Iseltwald หมู่บ้านเล็กๆ ในอ้อมกอดของทะเลสาบเบรียนซ์ • Lucerne เป็นเมืองที่สวยงามและมีเสน่ห์ดึงดูดใจในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูเซิร์น • Zurich ช้อปปิ้ง ณ ถนนสายสำคัญ

พักที่เมือง Zurich


วันที่ 8 |
เดินทางไปสนามบินเพื่อกลับกรุงเทพฯ


วันที่ 9 |
ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Appenzell

เมืองในนิยายของชาวสวิสฯ ชมเมือง Appenzell เมืองในนิยายของชาวสวิสฯ ตั้งอยู่ในหุบเขา อีเบนนาลพ์ (Ebenalp) เป็นเมืองที่รายล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์กับทุ่งหญ้าที่เขียวขจีผสมกับสีสันของดอกหญ้าหลากสี

Bernina Express

รถไฟสายเก่าแก่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดบริการตั้งแต่ปีค.ศ.1990 มีเอกลักษณ์เป็นรถไฟสีแดงสด บนทางขนาดกว้าง 1 เมตร เป็นรถไฟด่วนพิเศษ แบบตู้โดยสารชมวิวแบบพาโนราม่า ผ่านเขตใจกลางเทือกเขาแอลป์ ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ผ่านหุบเหว ลำธาร โตรกผา

Bernina Express

รถไฟสายเก่าแก่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดบริการตั้งแต่ปีค.ศ.1990 มีเอกลักษณ์เป็นรถไฟสีแดงสด บนทางขนาดกว้าง 1 เมตร เป็นรถไฟด่วนพิเศษ แบบตู้โดยสารชมวิวแบบพาโนราม่า ผ่านเขตใจกลางเทือกเขาแอลป์ ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ผ่านหุบเหว ลำธาร โตรกผา

Lavertezzo

เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ ขึ้นชื่อเรื่องอาคารบ้านเรือนก่อด้วยหิน สะพานโบราณ และแม่น้ำ Verzasca ที่มีน้ำใสสะอาดเป็นสีฟ้าอมเขียว

Andermatt

หมู่บ้านที่มีทัศนียภาพที่สวยงามเป็นจุดบรรจบกันของช่องเขาที่สำคัญสามช่องเขา ได้แก่ ช่องเขาโอเบอร์อัลพ์ทางทิศตะวันออก, ช่องเขาก็อทฮาร์ททางทิศใต้ และช่องเขาฟัวร์คาทางทิศตะวันออก

Glacier Express

รถไฟสายพิเศษที่มีชื่อเสียงที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ตัวโดยสารออกแบบให้ชมพาโนรามาวิว รถไฟด่วนขบวนนี้ได้ชื่อว่าเป็นรถไฟที่วิ่งช้าที่สุดในโลก สัมผัสกับภูมิประเทศแบบสวิสเซอร์แลนด์อย่างเต็มที่ ปลายทางของรถไฟคือ เมืองแซร์มัท (Zermatt)

Zermatt

เมือง Signature แห่งสวิสเซอร์แลนด์ เมืองผู้เป็นเจ้าของมงกุฎแห่งสวิสหรือ Matterhorn อันเลื่องชื่อ ตั้งตะหง่านเป็นฉากของเมือง มีร้านค้ามากมายให้เดินเล่นชอปปิ้ง เมืองชนบทเล็กๆ ที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขา มีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งการรักษาธรรมชาติ การไม่อนุญาตให้ใช้รถยนต์แล่นในเมือง แต่ให้ใช้จักรยาน หรือรถไฟฟ้าแทน

Zermatt

เมือง Signature แห่งสวิสเซอร์แลนด์ เมืองผู้เป็นเจ้าของมงกุฎแห่งสวิสหรือ Matterhorn อันเลื่องชื่อ ตั้งตะหง่านเป็นฉากของเมือง มีร้านค้ามากมายให้เดินเล่นชอปปิ้ง เมืองชนบทเล็กๆ ที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขา มีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งการรักษาธรรมชาติ การไม่อนุญาตให้ใช้รถยนต์แล่นในเมือง แต่ให้ใช้จักรยาน หรือรถไฟฟ้าแทน

Matterhorn Glacier Paradise

เป็นสถานีกระเช้าไฟฟ้าที่สูงที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 3,883 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ให้บริการนักท่องเที่ยวจาก Zermatt ไปยังจุดชมวิวที่งดงามของเทือกเขาแอลป์เมื่อถึงจุดชมวิวจะเห็นทิวทัศน์อันงดงามของยอดเขา Matterhorn และยอดเขาอื่นๆ กว่า 38 แห่งในเทือกเขาแอลป์ สามารถเดินเล่นบนระเบียงชมวิวที่กว้างใหญ่ และชมธารน้ำแข็ง Matterhorn Glacier ด้วย

Matterhorn

เทือกเขาที่มีรูปทรงสวยงามและเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในทิวเขาแอลป์ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Zermatt มีความสูงถึง 4,478 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงเป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป การเดินทางไปยังเมือง Zermatt ถือจุดเริ่มต้นสำหรับการชมความสวยงามของยอดเขา Matterhorn นอกจากนั้นแล้ว Matterhorn ยังเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบโลโก้และลายลักษณ์อักษรของ Toblerone แบรนด์ช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์

Blausee

แปลว่าทะเลสาบสีฟ้า เป็นทะเลสาบขนาดย่อมล้อมรอบไปด้วยป่าขนาดเล็กที่มีเอกชนเป็นเจ้าของ เป็นสถานที่เพาะพันธุ์ปลาเทราต์ เด่นดังในเรื่องสีของน้ำที่ใสเหมือนผลึกคริสตัลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ จนมองเห็นปลาเทราต์ที่แหวกว่ายไปมา

Bern

เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ มีการวางผังเมืองได้อย่างดีเยี่ยม สร้างบนเนินเขา ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ให้บรรยากาศแบบยุโรปยุกกลาง ซึ่งถูกอนุรักษ์ไว้จากอดีตจนถึงปัจจุบัน และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกโดยยูเนสโกตั้งแต่ปี 1983

Grindelwald First

หนึ่งในเส้นทางที่สวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นกระเช้ากอนโดล่า สู่ด้านบน ที่ความสูงระดับ 2,168 เมตร พระเอกแห่งเขาด้านกิจกรรมที่สนุกสนานตื่นเต้น โดยใช้เวลาโดยสารกระเช้าเพียง 25 นาที สู่ยอดเขา จากนั้นจะพาไปเดิน Cliffwalk เส้นทางเลียบหน้าผาที่สวยที่สุด (นอกจากนั้นยังสามารถซื้อกิจกรรมเพิ่มเติมได้)

Eiger Express

กระเช้าตัวใหม่ล่าสุดเป็นกระเช้าหรือกอนโดล่าสามขาที่ทันสมัยที่สุดในโลกเป็นระบบผสมผสานของกระเช้าลอยฟ้าและกระเช้าไฟฟ้าเข้าด้วยกันมีความมั่นคงต่อแรงลม โดยจะขึ้นจากสถานีกรินเดิลวัลท์ไปยังสถานีอายเกอร์กลาเซียร์ Eiger Express ในเวลาเพียง 15 นาที

Lauterbrunnen

หมู่บ้านในหุบเขาที่เงียบสงบ ได้ชื่อว่าเป็นหุบเขารูปตัวยูที่ชันที่สุดในโลก สัญลักษณ์ของหมู่บ้านนี้จะเป็นน้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach Falls) น้ำตกที่สวยเป็นอันดับต้นๆของยุโรป

Lauterbrunnen

หมู่บ้านในหุบเขาที่เงียบสงบ ได้ชื่อว่าเป็นหุบเขารูปตัวยูที่ชันที่สุดในโลก สัญลักษณ์ของหมู่บ้านนี้จะเป็นน้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach Falls) น้ำตกที่สวยเป็นอันดับต้นๆของยุโรป

Iseltwald

เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ติดทะเลสาบเบรียนทซ์ (Lake Brienz) ถ่ายรูปกับปราสาทซีเบิร์ก (Seeburg Castle) เป็นปราสาทตั้งตระหง่านกลางทะเลสาบ และเป็นฉากหลังในซีรีส์เกาหลีชื่อดัง Crash Landing on You อีกด้วย

Lucerne

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ และ Lucerne ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบ Lucerne (Lake Lucerne) และถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ ทำให้มีทัศนียภาพที่งดงามและเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติและวัฒนธรรมสวิส

Lucerne

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ และ Lucerne ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบ Lucerne (Lake Lucerne) และถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ ทำให้มีทัศนียภาพที่งดงามและเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติและวัฒนธรรมสวิส

มุมของเทือกเขา Matterhorn

เทือกเขาที่มีรูปทรงสวยงามและเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดในทิวเขาแอลป์ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Zermatt มีความสูงถึง 4,478 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงเป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป การเดินทางไปยังเมือง Zermatt ถือจุดเริ่มต้นสำหรับการชมความสวยงามของยอดเขา Matterhorn นอกจากนั้นแล้ว Matterhorn ยังเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบโลโก้และลายลักษณ์อักษรของ Toblerone แบรนด์ช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์

Categories
06-Jun 10-Oct 12-Dec 2024 Europe

ทัวร์โดโลไมท์ ชิงเคว เทเร​

Italy Dolomite Cinque Terre
Roadtrip
สรุปทริป
☀️เก็บทุก Highlight สำคัญ ของเส้นทางโดโลไมท์ 10 วัน 7 คืน 
☀️เมืองออร์ทิเซ่ เมืองศูนย์กลางกิจกรรมของ Dolomite
☀️ขึ้นกระเช้าสู่ Alpe di Siusi ที่ราบบนภูเขาอันยิ่งใหญ่
☀️ขึ้นกระเช้าสู่ Seceda หน้าผาสูงชันอันเป็นเอกลักษณ์ ที่น่าจดจำ
☀️เมือง Cotina จุดศูนย์กลาง Dolomite ฝั่งตะวันออก
☀️Pass ต่างๆที่มจุดชมวิวสุดเด็ด อาธิ Pass Giau , Pordoi, Falzarego
☀️หมู่บ้าน วาล ดิ ฟุเนส Signature ของ Dolomite มีโบสถ์เป็นฉากหน้าและภูเขาฟันเลื่อยเป็นฉากหลังเป็น
☀️ทะเลสาบ Misurina ทะเลสาบเงาสะท้อน มีฉากหน้าเป็นอาคารสีเหลืองโดดเด่นท่ามกลางขุนเขาอันยิ่งใหญ่
☀️ทะเลสาบ Braies Lake ทะเลสาบที่มีกระท่อมโบราณและตำนานของยักษณ์ใต้ภิภพ
☀️Lake Como ทะเลสาบโคโมมีรูปร่างคล้ายตัว Y กลับหัว
☀️พิเศษไม่เหมือนใคร เพราะเราพาไปชิงเคว่เทเร่ ดินแดน 5 หมู่บ้านริมผา
☀️และอื่นๆอีกมากมาย กับมุมถ่ายรูปลับๆที่เราจะพาคุณไป
 
รายละเอียด
🗓️ 27 ธ.ค. 67 – 5 ม.ค. 68
💰 ค่าทริป 109,000
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ ไม่รวมวีซ่า (เราแนะนำให้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่ 
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบิน เคาน์เตอร์สายการบิน Thai Airways TG940 เวลา 00.40-07.35 บินไปยังเมือง Milan


วันที่ 2 |
 07.35 เดินทางถึง Milan เดินทางสู่ Bolzano ที่มีกลิ่นอายของอิตาลีและออสเตรียเข้าไว้ด้วยกัน จากนั้นไป Ortisei เมืองศูนย์กลางกิจกรรมของ Dolomite

พักที่เมือง Val Gardena


วันที่ 3 |
ขึ้นไปชม Alpe di Siusi ที่ราบสูงที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ล้อมด้วยเทือกเขา Dolomite • ขึ้นกระเช้าสู่ จุดชมวิว Seceda หน้าผาสูงชันอันเป็นเอกลักษณ์ ที่น่าจดจำ

พักที่เมือง Val Gardena


วันที่ 4 |
ชมหมู่บ้าน Val di Funes ซิกเนเจอร์ของ Dolomite มีโบสถ์เป็นฉากหน้า และฉากหลังเป็นภูเขาฟันเลื่อย • ชมทะเลสาบ Braies ไข่มุกแห่งโดโลไมท์ • ผ่านชม Tre Cime di Lavaredo • ชมทะเลสาบ Misurina ทะเลสาบเงาสะท้อน มีฉากหน้าเป็นอาคารสีเหลืองโดดเด่นท่ามกลางขุนเขาอันยิ่งใหญ่ • ไปพักที่เมือง Cortina d’ Ampezzo เมืองแห่งสกีที่มีชื่อเสียงของอิตาลี

พักที่เมือง Cortina d’ Ampezzo


วันที่ 5 |
ชมจุดชมวิว Giau Pass ข้ามผ่าน Pordoi pass ชม Lake of Carezza เดินทางไปเมือง Verona บ้านเกิดของโรมิโอ&จูเลียต

พักที่เมือง Verona


วันที่ 6 |
ชมบ้านจูเลียต Casa di Giulietta เดินทางไปยัง ลา สเปเซีย (La Spezia) มีบรรยากาศริมทะเลที่สวยงาม

พักที่เมือง La spezia


วันที่ 7 |
เที่ยวหมู่บ้าน Cinque Terre คือกลุ่มหมู่บ้านห้าหมู่บ้าน โดยแต่ละหมู่บ้านตั้งอยู่บนหน้าผาที่หันหน้าไปทางทะเล และเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางเดินป่าที่มีทิวทัศน์ที่งดงาม • เดินทางไปยัง Lake Como ทะเลสาบโคโมมีรูปร่างคล้ายตัว Y กลับหัว ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขา 

พักที่เมือง Lake Como


วันที่ 8 | ทะเลสาบ Como
• เดินทางกลับ Milan ชม Duomo มหาวิหารนี้มีสถาปัตยกรรมโกธิกที่งดงาม โดยเฉพาะการตกแต่งที่ละเอียดและซับซ้อน เช่น ปีกที่มีลักษณะคล้ายปีกนกและเสาหลักที่มีลวดลายวิจิตร

พักที่เมือง Milan


วันที่ 9 |
อิสระช่วงเช้า ไปสนามบินกลับกรุงเทพฯ


วันที่ 10 |
ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Braies

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ FANES SENNES BRAIES ตามตำนานกล่าวว่าที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์ ที่คอยคุ้มครองดูแลเหมืองทองคำใต้พิภพอีกด้วย

Bolzano

เมืองหลวงของภูมิภาค South Tyrol ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาเยอรมัน รองลงมาเป็น ภาษาอิตาลี แวะชมวิหาร Chiesa dei Domenican ย่านใจกลางเมือง และอนุสาวรีย์ที่จตุรัสกลางเมือง Pizza delle Erbe เดินเล่นแถบถนนคนเดิน Pizza Walther

Lake Carezza

ทะเลสาบที่มีน้ำสีเขียวมรกตและทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขา ทะเลสาบตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1,519 เมตรจากระดับน้ำทะเล และล้อมรอบไปด้วยป่าสน เป็นอีกหนึ่งจุดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและช่างภาพ เป็นภาพทะเลสาบและทิวต้นสนฉากหลังเป็นภูเขาหิมะอันสวยงาม

Val Di Funes

หมู่บ้านเล็กๆที่โด่งดังจากภาพโบสถ์ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาฟันเลื่อย ทีใครๆจะต้องจำได้เมื่อมาเยือน Dolomite หมู่บ้านแห่งนี้มีประชากรประมาณ 200 คน ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการท่องเที่ยว มีเสน่ห์แบบดั้งเดิมของอิตาลี

Cinque Terre

มีความหมายว่า 5 แผ่นดิน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานย้อนกลับไปถึงศรตวรรษที่ 11 โดยมี Vernazza และ Manarola เป็นสองหมู่บ้านแรกก่อนหมู่บ้านอื่นๆจะเติบโตตามมา หมู่บ้านเหล่านี้ได้เสื่อมโทรมลงในศตวรรษที่ 16 เมื่อมีการสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อจาก La spezia ผ่านหมู่บ้านเหล่านี้ คนในหมู่บ้านนี้จึงได้อพยพย้ายถิ่นฐานออกไปจากที่นี่ จนกระทั้งการท่องเที่ยวกลับมาสร้างความคึกคักอีกครั้งในช่วงปี 1970 เมืองมรดกโลกแห่งนี้ประกอบด้วยหมู่บ้านทั้งหมด 5 แห่ง Monterosso al Mare , Vernazza , Corniglia , Manarola และ Riomaggiore

Ortisei

หมู่บ้านตากอากาศเล็กๆ มีพื้นที่ติดกับออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งเทือกเขาโดโลไมท์ด้วย

Seceda

เป็นภูเขาที่สวยงามและมีชื่อเสียงในเทือกเขา Dolomites ตั้งอยู่ในหุบเขา Val Gardena ภูเขา Seceda สูง 2,519 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นที่รู้จักจากยอดเขาที่เป็นเอกลักษณ์รูปทรงสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ท่านจะได้เห็นกลุ่มภูเขา Sella group และ Sussolungo

Misurina

ทะเลสาบที่มีเอกลักษณ์เป็นอาคารสีเหลืองตัดกับท้องฟ้าและทะเลสาบสีครามสวยงามยิ่งนัก ทะเลสาบนี้ยาวถึง 2.6 กิโลเมตร ลึกกว่า 5 เมตร ส่วนอาคารสีเหลืองเป็นโรงพยาบาลสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้ จึงยืนยัดได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีอากาศบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก

Tre Cime

ยอดภูเขาหินปูนสามลูกที่เรียงติดกัน ว่ากันว่าเป็นยอดเขาที่ดังและสวยที่สุดของ Dolomites ฝั่งตะวันออก

Giau Pass

จุดชมวิวที่อยู่บน Mountain Pass สูงกว่า 2236 เมตร เห็นวิวรอบด้าน 360 องศา ภาพที่ถ่ายบ่อยมากเป็นมุมทางด้านทิศเหนือ เห็นทุ่งหญ้ากับภูเขารูปทรงสามเหลี่ยม

Alpe di Siusi

ขึ้นกระเช้าสู่ จุดชมวิวที่สามารถเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของกลุ่มเขาใน Dolomite วิวเนินสูงๆต่ำๆเป็นฉากหน้า และกลุ่มยอดอันโดดเด่นอยู่เบื้องหลัง ภูเขาทั้งหมด 6 ยอด โอบล้อมภูเขาลูกน้อยไว้ตรงกลาง ยอดซ้ายสุดชื่อ Langkofel (เยอรมัน) และ Sassolungo (อิตาลี)

Cortina d' Ampezzo

เป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่อยู่ในตอนกลางของหุบเขาอัมเปซโซ ในทิวเขา Dolomites อีกทั้งยังเป็นสถานที่ไว้ใช้จัดโอลิมปิกในฤดูหนาวอีกด้วย

Casa di Giulietta

บ้านจูเลียตนี้มีความคล้ายในประพันธ์ ซึ่งก่อนหน้านั้นบ้านหลังนี้เป็นของตระกูล Capello สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 มีความคล้ายคลึงกับบ้านของจูเลียตในนิยายมาก แต่ก็ได้ถูกทิ้งร้างมีต้นไม้เลื้อยรกรุงรังเต็มอาคาร จนกระทั่งมีการพยายามฟื้นฟูบ้านหลังนี้ขึ้นมาใหม่ในศตวรรษที่ 20

La Spezia

เมืองในเขตลิกูเรีย ตอนเหนือของอิตาลีอยู่ระหว่างเมืองเจนัว และ ปิซ่า ในบริเวณอ่าวลิกูเรหนึ่งในอ่าวที่มีความสําคัญทางด้านการค้าและการทหาร เป็นเมืองที่เราจะนั่งรถไฟเข้าสู่ Cinque terre

Lake Como

ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของอิตาลี มีความสวยงามของทิวทัศน์ ล้อมรอบด้วยภูเขาแอลป์ที่สูงตระหง่าน

Duomo

มหาวิหารของซอร์เรนโต สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ได้รับการบูรณะและปรับปรุงใหม่หลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ โดยด้านหน้าได้รับการออกแบบใหม่ในสไตล์บาโรกในศตวรรษที่ 18 เป็นมหาวิหารโรมันคาทอลิกที่อุทิศให้กับ Saints Philip and James ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองซอร์เรนโต

Categories
04-Apr 10-Oct 12-Dec 2024 Africa FullBoard

ทัวร์โมรอคโค

MOROCCO
สรุปทริป
☀️ฟ้าจรดทราย โมรอคโค 10 วัน 7 คืน
☀️เก็บทุก Highlight สำคัญของดินแดนฟ้าจรดทราย
☀️ ขี่อูฐไปชมหมู่ดาว ณ ที่พักกลางทะเลทราย
☀️ พักโรงแรมแบบริยาด มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเพียบ สัมผัสกลิ่นอายอารยธรรมแบบแท้จริง
☀️ Hassan II Mosque ใหญ่อันดับ 5 ของโลก
☀️ Hassan Tower และสุสานกษัตริย์
☀️ คุมโทนด้วยสีฟ้าหลายเฉดที่เมือง Chefchaouen
☀️ Medina of Fes ตลาดโบราณในเมืองหมื่นตรอก
☀️ ประสบการณ์พักที่ Desert camp ที่ Sahara Desert
☀️ Marrakesh สัมผัสวัฒนธรรมอย่างผสมผสาน
 
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง 27 ธค 67- 5 มค 68 / 5 – 14 เมย 68 / 3 – 12 พค 68 / 26 ธค 68 – 4 มค 69
💰 ค่าทริป 74,900
 
✅️ วีซ่า
✅️ โรงแรมระดับ 4 ดาว / ริยาด
✅️ เดินทางโดยรถ Minibus กรุ๊ปละ 12 ท่าน
✅️ หัวหน้าทัวร์ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ ค่ากิจกรรม ทุกอย่าง ตามระบุในโปรแกรม
✅️ ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง (สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมทิป
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
การจอง / ติดต่อ
📱 มัดจำท่านละ 25000 บาท ส่วนที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋 painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551 
📋 เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางไปคาซาบลังกา


วันที่ 2 |
Casablanca • สุเหร่ากษัตริย์ฮัสซันที่ 2 หนึ่งในมัสยิดที่ยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองคาซาบลังกา • Rabat เมืองหลวงมรดกโลกแห่งโมรอคโค • ชมสถานที่สำคัญของเมืองที่ตบแต่งสไตล์โมรอคโค Kasbah of the Oudayas Mohammed V Mausoleum and Hassan Tower เป็นสถานที่สำคัญที่มีความงดงามและความหมายทางประวัติศาสตร์

พักที่เมือง Chefchaouen


วันที่ 3 |
ช่วงเช้า Chefchaouen หมู่บ้านที่ทาด้วยสีฟ้าทั้งเมือง • เดินชมเมือง Plaza Uta el-Hammam เดินทางไปเมือง Fes เป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศโมร็อกโก

พักที่เมือง Fes


วันที่ 4 | Madrasa Bou Inania
สถาบันการศึกษาศาสนาอิสลามที่มีชื่อเสียงในเมืองเฟซKairaouine Mosque & University เป็นสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงเปิดทำการสอนอยู่จนถึงปัจจุบัน • Chouara Tannery Dar El-Makhzen Palace ชมและช้อปในเมืองเก่า Old Medina

พักที่เมือง Fesวันที่ 5 | เดินทางเข้าสู่ Merzuga ประตูสู่ทะเลทราย • ขี่อูฐไปนอนใน ทะเลทรายซาฮาร่า ชมพระอาทิตย์ตกดิน

พักที่ Desert Camp


วันที่ 6 |
ชม Fossil Museum สถานที่ที่รวบรวมและจัดแสดงซากดึกดำบรรพ์ หรือฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยอยู่บนโลกในอดีต ช่องเขา Todra Gorgeชมหมู่บ้านมรดกโลก Ait Ben Haddou

พักที่เมือง Ouarzazate


วันที่ 7 |
เทือกเขา Atlas เทือกเขาที่ทอดตัวข้ามประเทศในแอฟริกาเหนือหลายประเทศ • แวะชม Menara Gardens สวนที่มีบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ล้อมรอบไปด้วยต้นมะกอกและต้นสน • เดินทางสู่เมือง โบราณที่สำคัญ Marakesh • เดินเล่น Rahba Kedima Square และ Jemaa El Fnaa Square

พักที่เมือง Marakesh


วันที่ 8 |
ประตูเมือง Bab AgnaouSaadian Tombs เป็นสุสานอันงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของราชวงศ์ซาอดีน อาคาร Bahia Palace เป็นหนึ่งในพระราชวังที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ  Koutoubia Mosque เป็นมัสยิดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองมาราเกช ชม Ben Youssef Madrasa เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาอิสลามที่สำคัญและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก 

พักที่เมือง Marakesh

วันที่ 9 | เดินทางสู่เมืองคาซาบลังกา ไปสนามบินเพื่อกลับกรุงเทพ

วันที่ 10 | ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Sahara

ทะเลทรายซาฮาร่า มีทัศนียภาพที่กว้างใหญ่ไพศาลของเนินทรายที่สูงตระหง่าน ซึ่งเปลี่ยนแปลงรูปร่างและสีสันตามเวลาและแสงของดวงอาทิตย์ โดยปกติจะเดินทางด้วยการขี่อูฐหรือขับรถ 4x4 เพื่อเข้าถึงแคมป์กลางทะเลทรายซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางเนินทราย

Sahara

ทะเลทรายซาฮาร่าเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา ครอบคลุมพื้นที่หลายประเทศ รวมถึงแอลจีเรีย, ชาด, อียิปต์, ลิเบีย, มาลี, มอริเตเนีย, นิเจอร์, ซูดานตะวันตก, และตูนิ