Categories
04-Apr 2024 Europe Roadtrip

ทัวร์กรีซกลุ่มเล็ก ซาคินทอส • นาวาจิโอ • ซานโตรินี่

ทัวร์กรีซ
ซาคินทอส • นาวาจิโอ • ซานโตรินี่
สรุปไฮไลท์

☀️อารามเมเทโอรา – อารามออร์โธดอกซ์ลอยฟ้าบนยอดเขาที่เป็นมรดกโลก

☀️อะโครโพลิส (Acropolis) และ มหาวิหารพาเธนอน (Parthenon) – โบราณสถานสำคัญของกรีซโบราณ

☀️เกาะซานโตรินี – เกาะภูเขาไฟที่มีบ้านเรือนสีขาวและหลังคาโดมสีฟ้า

☀️หมู่บ้าน Oia – จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

☀️เกาะ Mykonos และ Little Venice – เกาะที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามและย่านเมืองเก่าริมทะเลที่มีเอกลักษณ์ของ Mykonos

☀️หาด Navagio – หาดทรายขาวที่มีซากเรืออับปางเป็นจุดเด่น ที่เกาะ Zakynthos

☀️เมือง Lefkada – เมืองชายหาดที่เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานลอยน้ำ

☀️กังหันลม Mykonos – สัญลักษณ์ของเกาะที่ใช้โม่แป้งและบีบน้ำมันมะกอกในอดีต

☀️ถ้ำสีฟ้า (Blue Caves) – ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ซาคินธอส

☀️บ้านเรือนสไตล์ Cycladic – บ้านสีขาวสะอาดตาและหลังคาโดมสีฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่เกาะ Cyclades

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 129,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มเท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป กรีซ

วันที่ 1

  • ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิสู่เมืองเอเธนส์ (Athens) ประเทศกรีซ

วันที่ 2 – คาลาบากา/เมทีโอร่า

  • ออกเดินทางแต่เช้าสู่คาลาบากา ระหว่างทางแวะชม ช่องแคบเทอร์โมพิลี สมรภูมิประวัติศาสตร์การรบของชาวสปาร์ตัน
  • เยี่ยมชม อาราม Great Meteoron อารามที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกลุ่มเมทีโอร่า สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 อาราม Varlaam ที่มีพิพิธภัณฑ์วัตถุโบราณและภาพไอคอนทางศาสนาที่งดงาม อาราม Holy Trinity ที่โดดเด่นด้วยการปีนบันได 140 ขั้นและใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง James Bond
  • ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ จุดชมวิว Psaropetra มองเห็นภูเขาและอารามในมุมกว้าง

วันที่ 3 – เลฟคาดา

  • เยี่ยมชม หาด Porto Katsiki หนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในยุโรป ด้วยผาหินสูงตระหง่านและน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์
  • สำรวจ หาด Egremni ชายหาดทรายขาวยาว 2.5 กม.
  • เยี่ยมชม Cape Lefkatas จุดชมวิวทะเลที่สูงชัน มีประภาคารเก่าแก่และตำนานเล่าขานเกี่ยวกับการกระโดดของกวีซัปโฟเพื่อปลดปล่อยจากความรัก

วันที่ 4 – คีลีนี/โอลิมเปีย/ซาคินธอส

  • ล่องเรือชม ถ้ำสีฟ้า (Blue Caves) ที่ซาคินธอส ซึ่งน้ำทะเลสะท้อนแสงกระทบเพดานถ้ำเกิดเป็นสีฟ้าสวยงาม
  • เยี่ยมชม อ่าว Navagio (Shipwreck Beach) ที่มีซากเรือสินค้า Panagiotis ซึ่งมีตำนานว่าเคยลักลอบขนของหนีภาษี
  • ดื่มด่ำบรรยากาศยามเย็นที่ หมู่บ้าน Bohali ที่ตั้งอยู่บนเนินเขามองเห็นวิวทั่วเมืองและท่าเรือ

วันที่ 5 – วันเดินทาง

  • เยี่ยมชม โบราณสถานโอลิมเปีย สถานที่กำเนิดกีฬาโอลิมปิก ชม Temple of Zeus และสนามกีฬาโบราณ
  • ชม พิพิธภัณฑ์โอลิมเปีย ที่จัดแสดงรูปปั้นโบราณและวัตถุโบราณที่ขุดพบในพื้นที่
  • เดินทากลับเอเธนส์
  • พักผ่อนเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปซานโตรินี่ในวันถัดไป
  • ที่พักในเอเธนส์

วันที่ 6 – ซานโตรินี่

  • นั่งเฟอรี่ไปยังเกาะ Santorini
  • เดินเล่นในเมือง ฟิร่า เมืองหลักของซานโตรินี่
  • เยี่ยมชมหมู่บ้าน Oia ที่มีชื่อเสียงด้านบ้านสีขาวหลังคาโดมสีฟ้า และจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด
  • สำรวจ หาดทรายแดง (Red Beach) และ หาดทรายดำ (Perissa Beach) หาดทรายสีแดงที่เกิดจากหินภูเขาไฟ

วันที่ 7 – ฟิร่า/มิโคนอส

  • เยี่ยมชม โบราณสถาน Akrotiri เมืองโบราณที่ถูกฝังใต้เถ้าภูเขาไฟกว่า 3,600 ปี (คล้ายปอมเปอี)
  • เดินทางไป มิโคนอส ด้วยเรือเฟอร์รี่ความเร็วสูง
  • เยี่ยมชม Little Venice แนวบ้านที่สร้างชิดริมทะเล ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมจากอิตาลี
  • สัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนที่คึกคักในย่าน Matogianni Street ถนนช้อปปิ้งหลักของเกาะ

วันที่ 8 – มิโคนอส/เอเธนส์

  • เยี่ยมชม กังหันลมแห่งมิโคนอส (Kato Mili) สัญลักษณ์ของเกาะที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16
  • นมัสการ โบสถ์ Paraportiani โบสถ์สีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ที่เกิดจากการรวมกันของโบสถ์ 5 หลัง
  • แวะชม หาด Paradise หาดที่มีชื่อเสียงด้านงานปาร์ตี้และกิจกรรมทางน้ำ
  • เดินทางกลับ เอเธนส์ ด้วยเรือเฟอรี่

วันที่ 9 – เอเธนส์ (3 ไฮไลท์สำคัญ)

  • ชม อะโครโพลิสและวิหารพาร์เธนอน – มรดกโลกอันยิ่งใหญ่และเป็นสัญลักษณ์ของกรีซ
  • ย่านพลาก้า (Plaka) และจตุรัส ซินตักมา Syntagma  – ย่านเก่าแก่ที่สุดของเอเธนส์ ที่มีอาคารแบบนีโอคลาสสิคและบ้านเรือนโบราณ เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารท้องถิ่น และบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการซื้อของฝากก่อนเดินทางกลับ
  • ช่วงค่ำ: เดินทางไปสนามบินเอเธนส์เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 10 – เดินทางกลับ

  • เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ
Categories
04-Apr 10-Oct 12-Dec 2024 Africa FullBoard

ทัวร์โมรอคโคกลุ่มเล็ก คาซาบลังก้า บ้านสีฟ้า มาราเกซ ซาฮาร่า

ทัวร์โมรอคโคกลุ่มเล็ก
คาซาบลังก้า บ้านสีฟ้า มาราเกซ ซาฮาร่า
สรุปไฮไลท์

☀️ สุเหร่ากษัตริย์ฮัสซันที่ 2 – หนึ่งในมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งตระหง่านริมมหาสมุทร โดดเด่นด้วยหอคอยสูง 210 เมตรและพื้นกระจกใต้ทะเลสุดอลังการ

☀️ เมืองเชฟชาอูน – “นครสีฟ้า” ที่มีบ้านเรือนและถนนทาด้วยสีฟ้าสดใสทั้งเมือง สร้างภาพที่สวยงามราวกับโลกในเทพนิยาย

☀️ เมดินาแห่งเฟซ – เมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีตรอกซอกซอยกว่า 9,000 ทางเดิน และโรงฟอกหนัง Chouara อายุกว่า 1,000 ปีที่ยังใช้เทคนิคโบราณ

☀️ ขี่อูฐในทะเลทรายซาฮาร่า – สัมผัสประสบการณ์ขี่อูฐบนเนินทรายสีทองและพักค้างคืนในแคมป์กลางทะเลทราย ใต้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว

☀️ ไอท์ เบน ฮาดดู – ป้อมปราการดินเก่าแก่อายุกว่า 1,000 ปี สถานที่มรดกโลกยูเนสโกและฉากถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวูดมากมาย

☀️ เทือกเขาแอตลาส – การเดินทางผ่านช่องเขา Tizi n’Tichka ที่สูงกว่า 2,260 เมตร ชมวิวทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูเขาสูงสุดในแอฟริกาเหนือ

☀️ จัตุรัสเจมาอ เอล ฟนา – จัตุรัสที่มีชีวิตชีวาที่สุดในแอฟริกา เต็มไปด้วยนักแสดง คนเล่นงู นักเล่านิทาน และร้านอาหารพื้นเมือง โดยเฉพาะยามค่ำคืน

☀️ พระราชวังบาเอีย – พระราชวังอันวิจิตรตระการตาในมาราเกช ที่มีห้องมากกว่า 150 ห้อง สวนในร่ม และลานหินอ่อนอันงดงาม

☀️ อาหารโมร็อกกัน – ลิ้มรสอาหารแบบ Tagine (อาหารอบในหม้อดินทรงกรวย), คูสคูส, และชาใบมิ้นต์หอมหวานที่เป็นเอกลักษณ์

☀️ ช้อปปิ้งในตลาดพื้นเมือง – เลือกซื้อพรมทอมือ เครื่องเทศ น้ำหอม เครื่องหนัง และงานฝีมือมากมายในตลาดเก่าแก่ที่คึกคักและเต็มไปด้วยสีสัน

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • สอบถามทีมงาน
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ โรงแรมระดับ 4 ดาว / ริยาด
✅️ เดินทางโดยรถ Minibus กรุ๊ปละ 12 ท่าน
✅️ หัวหน้าทัวร์ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ ค่ากิจกรรม ทุกอย่าง ตามระบุในโปรแกรม 
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น

โปรแกรมทริปโมรอคโค

วันที่ 1: เริ่มต้นการผจญภัย

  • พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ
  •  เดินทางไปคาซาบลังกา ด้วยสายการบิน Qatar Airways (QR835/QR4567)
  •  พักผ่อนบนเครื่องบิน เตรียมพร้อมสำหรับการผจญภัยในวันถัดไป   

วันที่ 2: คาซาบลังกา – ราบัต – เชฟชาอูน

  • สุเหร่ากษัตริย์ฮัสซันที่ 2 – มัสยิดสุดอลังการริมมหาสมุทรแอตแลนติก หอคอยสูง 210 เมตร รองรับผู้ละหมาดได้ 25,000 คน พื้นกระจกใต้ทะเลสุดตื่นตา
  • ราบัต – เมืองหลวงมรดกโลกที่ผสมผสานความโบราณและทันสมัย
  • Kasbah of the Oudayas – ป้อมปราการโบราณสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า จุดชมวิวสวยริมมหาสมุทร
  • สุสานโมฮัมเหม็ดที่ 5 – อนุสรณ์สถานอันวิจิตรบรรจงของกษัตริย์ผู้เป็นบิดาแห่งโมร็อกโกสมัยใหม่
  • หอคอยฮัสซัน – ซากมัสยิดที่ไม่เคยสร้างเสร็จจากศตวรรษที่ 12 แต่ยังทรงเสน่ห์
  • เดินทางต่อสู่ เชฟชาอูน “นครสีฟ้า” ที่ซ่อนตัวในหุบเขา Rif
  • พักที่เชฟชาอูน

วันที่ 3: เชฟชาอูน – เฟซ

  •  สำรวจ เชฟชาอูน – เมืองที่บ้านเรือนทาด้วยสีฟ้าสวยงามราวกับโลกในนิทาน ถนนแคบๆ คดเคี้ยวชวนให้หลงทาง
  • เยี่ยมชม Plaza Uta el-Hammam จัตุรัสหลักใจกลางเมืองที่มีร้านค้า คาเฟ่ และมัสยิดเก่าแก่
  •  เดินทางสู่ เฟซ – เมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของโมร็อกโก อายุกว่า 1,200 ปี
  • พักที่เฟซ

วันที่ 4: เฟซ – เมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก

  •  Madrasa Bou Inania – สถาบันการศึกษาศาสนาอิสลามอายุ 700 ปี ประดับด้วยลวดลายโมเสกและไม้แกะสลักอันวิจิตร
  • Kairaouine Mosque & University – มหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังเปิดสอนถึงปัจจุบัน ก่อตั้งตั้งแต่ปี ค.ศ. 859
  • Chouara Tannery – โรงฟอกหนังโบราณขนาดใหญ่ อายุกว่า 1,000 ปี ที่ยังคงใช้วิธีการฟอกหนังแบบดั้งเดิม
  • Dar El-Makhzen Palace – พระราชวังที่งดงามตระการตา
  • ช้อปปิ้งในตรอกซอกซอยของ เมดินาเก่า (Old Medina) ที่มีร้านค้ามากกว่า 9,000 ร้าน
  • พักที่เฟซ

วันที่ 5: เฟซ – เมอร์ซูกา – ทะเลทรายซาฮาร่า

  • เดินทางสู่ เมอร์ซูกา (Merzouga)
  • ประตูสู่ทะเลทรายซาฮาร่า ผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย
  • ขี่อูฐสู่เนินทรายเออร์กเชบบี (Erg Chebbi) – เนินทรายสีทองสูงถึง 150 เมตร
  • ชมพระอาทิตย์ตกที่ทะเลทรายซาฮาร่า – ภาพที่จะตราตรึงใจไปชั่วชีวิต
  • พักในแคมป์กลางทะเลทราย – นอนใต้ดวงดาวนับล้านในความเงียบสงบของทะเลทราย

วันที่ 6: ทะเลทรายซาฮาร่า – ทอดร้า – ไอท์ เบน ฮาดดู

  • ตื่นเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือทะเลทราย
  • เยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ฟอสซิล (Fossil Museum) – ดินแดนที่เคยเป็นท้องทะเลในอดีต
  • ชม ช่องเขาทอดร้า (Todra Gorge) – หุบเขาลึกที่มีผาหินสูงชัน 300 เมตร สีแดงอมส้ม
  • เยือน หมู่บ้านไอท์ เบน ฮาดดู (Ait Ben Haddou) – ป้อมปราการดินโคลนโบราณอายุ 1,000 ปี มรดกโลกยูเนสโก สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวูดชื่อดังมากมาย
  • พักที่วาร์ซาเซต (Ouarzazate) – เมืองแห่งภาพยนตร์ของโมร็อกโก

วันที่ 7: วาร์ซาเซต – เทือกเขาแอตลาส – มาราเกช

  •  เดินทางผ่าน เทือกเขาแอตลาส (Atlas Mountains) – ภูเขาสูงสุดในแอฟริกาเหนือ ผ่านช่องเขา Tizi n’Tichka ที่สูง 2,260 เมตร
  •  แวะชม Menara Gardens – สวนสวยมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยต้นมะกอกและต้นสน ฉากหลังเป็นเทือกเขาแอตลาสที่ปกคลุมด้วยหิมะ
  • สู่เมือง มาราเกช (Marrakech) – ไข่มุกแห่งตอนใต้ของโมร็อกโก เมืองที่มีสีสันและมีชีวิตชีวาที่สุด
  • ชมบรรยากาศยามค่ำคืนที่ จัตุรัสเจมาอ เอล ฟนา (Jemaa El Fnaa) – จัตุรัสที่คึกคักที่สุดในแอฟริกา เต็มไปด้วยนักแสดงกลางแจ้ง คนเล่นงู นักเล่านิทาน และร้านอาหารมากมาย
  • พักที่มาราเกช

วันที่ 8: มาราเกช – เมืองแห่งสีแดง

  • ประตูเมือง Bab Agnaou – ประตูโบราณที่มีลวดลายอันวิจิตร
  • Saadian Tombs – สุสานราชวงศ์ซาอาเดียนที่ซ่อนอยู่นานกว่า 200 ปี ประดับด้วยกระเบื้องโมเสกและลวดลายปูนปั้นอันงดงาม
  • พระราชวังบาเอีย (Bahia Palace) – พระราชวังอันวิจิตรตระการตา มีห้องมากกว่า 150 ห้อง สวนในร่ม และลานหินอ่อน
  • มัสยิด Koutoubia – มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในมาราเกช หอคอยสูง 77 เมตร เป็นแรงบันดาลใจให้หอคอยฮิราลดาในเซบียา สเปน
  • Ben Youssef Madrasa – โรงเรียนสอนศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาเหนือ มีอายุกว่า 400 ปี
  • พักที่มาราเกช

วันที่ 9: มาราเกช – คาซาบลังกา – เดินทางกลับ

  • ช่วงเช้าอิสระสำรวจมาราเกชเพิ่มเติม หรือช้อปปิ้งของที่ระลึก
  • เดินทางกลับสู่คาซาบลังกาเพื่อขึ้นเครื่องกลับ (QR4566/QR834)
  • เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

วันที่ 10: ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

  • เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิพร้อมความทรงจำจากการผจญภัยสุดพิเศษในดินแดนโมร็อกโก
Categories
04-Apr 2025 FullBoard Nepal

Nepal : Everest Base Camp

Nepal
Everest Base Camp
สรุปไฮไลท์

☀️ประสบการณ์บินเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว – ชมวิวพาโนรามาของเทือกเขาหิมาลัยจากมุมสูง ในการเดินทางจากกาฐมาณฑุสู่เมืองมอนโจ

☀️วัดเต็งโบเช – วัดพุทธนิกายทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค เป็นศูนย์กลางจิตวิญญาณสำคัญของชาวเชอร์ปา ตั้งอยู่ท่ามกลางวิวภูเขาที่สวยงาม

☀️Everest View Hotel – โรงแรมที่ได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่าเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก มีวิวพาโนรามาของยอดเขาหิมาลัยอันน่าประทับใจ

☀️ยอดเขาอามาดาบล้ม – หนึ่งในยอดเขาที่สวยที่สุดในโลก มีรูปทรงคล้ายเพชรยอดมงกุฎ สูง 6,812 เมตร ซึ่งจะได้ชมวิวใกล้ชิดเมื่อพักที่เมืองดิงโบเช

☀️พระอาทิตย์ตกที่ Kala Pattar – ชมพระอาทิตย์ตกดินที่ระดับความสูง 5,550 เมตร พร้อมวิวพาโนรามาของยอดเขาเอเวอเรสต์และธารน้ำแข็งคุมบู

☀️อนุสรณ์สถานนักปีนเขา – แหล่งรวมอนุสรณ์สถานและหินจารึกเพื่อรำลึกถึงนักปีนเขาที่เสียชีวิตบนเอเวอเรสต์ ระหว่างเส้นทางสู่โลบูเช

☀️ธารน้ำแข็งคุมบู – หนึ่งในธารน้ำแข็งที่สูงที่สุดในโลก มีรอยแตกขนาดใหญ่และก้อนน้ำแข็งรูปทรงแปลกตาที่น่าทึ่ง

☀️Everest Base Camp – จุดหมายปลายทางสำคัญที่ระดับความสูง 5,364 เมตร เป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์การพิชิตยอดเอเวอเรสต์ครั้งแรก

☀️คืนพิเศษในเต้นท์นักปีนเขา – ประสบการณ์พักค้างคืนในเต้นท์เดียวกับนักปีนเขามืออาชีพที่รอเดินทางขึ้นไปพิชิตยอดเอเวอเรสต์

☀️พิธีฉลองแบบเชอร์ปา – ร่วมพิธีกรรมแบบดั้งเดิมของชาวเชอร์ปาเพื่อขอพรและฉลองความสำเร็จในการเดินทางถึงเบสแคมป์เอเวอเรสต์

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Place
Place
Place

โปรแกรมทริป เนปาล

วันที่ 1

  • เดินทางถึงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล โดยสายการบินไทยสไมล์
  • ช่วงบ่าย: อิสระช้อปปิ้งอุปกรณ์เทรคกิ้งที่ย่านทาเมล
  • ย่านทาเมล: ศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวาของกาฐมาณฑุ เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายอุปกรณ์เดินป่าคุณภาพดีในราคาย่อมเยา
  • วัดกาฐมาณฑุ ดูรบาร์สแควร์ (มรดกโลก) และลองชิมอาหารเนปาลแท้ๆ อย่างโมโม (dumpling) และดาลบัต (แกงถั่วกับข้าว)
  • พักที่: Aloft Kathmandu Thamel – โรงแรมสไตล์โมเดิร์นที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านทาเมล มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมวิวภูเขาที่สวยงาม

วันที่ 2 

  • เดินทางสู่สนามบินเพื่อบินไปเมืองมอนโจ (จุดเริ่มต้นเทรค)
  • เดินทางโดย Helicopter ส่วนตัว (ใช้เวลาประมาณ 45 นาที)
  • ประสบการณ์พิเศษ: การบินเฮลิคอปเตอร์ผ่านเทือกเขาหิมาลัย ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาจากมุมสูง
  • เมืองมอนโจ: เป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติซากามาร์ธา (Sagarmatha) หรือเขตเอเวอเรสต์ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางขุนเขา

วันที่ 3

  • เริ่มเดินทางสู่เมืองนัมเชบาร์ซา (ชุมทางสำคัญของเขตเอเวอเรสต์)
  • ระดับความสูง: 3,500 เมตร  ระยะเวลาเดิน: 4-6 ชั่วโมง
  • จุดน่าสนใจระหว่างทาง: สะพานแขวนแม่น้ำดุดโกซี่, เส้นทางเดินผ่านป่าสนที่สวยงาม
  • นัมเชบาร์ซา: เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงของชาวเชอร์ปา” มีตลาดนัดทุกวันเสาร์ที่มีชื่อเสียง
  • ช่วงบ่าย: เดินเล่นรอบเมืองเพื่อปรับสภาพร่างกาย
  • เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เชอร์ปาเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น

วันที่ 4

  • วันพักเพื่อปรับสภาพร่างกายให้ชินกับความสูง
  • ฝึกซ้อมร่างกายที่ระดับความสูง 3,800 เมตร
  • ชมวิวและรับประทานอาหารกลางวันที่ Everest View Hotel
  • Everest View Hotel: โรงแรมที่ได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่าเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก มีวิวพาโนรามาของยอดเขาหิมาลัยที่สวยงาม รวมถึงเอเวอเรสต์ โลดเซ และนุปต์เซ
  • เดินกลับมาพักที่เมืองนัมเช (ใช้เวลาเดินไป-กลับ 6-8 ชั่วโมง)
  • จุดชมวิว: ระหว่างทางกลับสามารถแวะชมวิวที่เขาคุมจุง และหมู่บ้านคุมจุง

วันที่ 5

  • เดินทางสู่เมืองเต็งโบเช
  • ระดับความสูง: 3,900 เมตร
  • วัดพุทธ-ธิเบตที่สวยงาม วิวยอดเขาเอเวอเรสต์ในยามเช้า
  • วัดเต็งโบเช (Tengboche Monastery): วัดพุทธนิกายทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1916 เป็นศูนย์กลางจิตวิญญาณสำคัญของชาวเชอร์ปา นักปีนเขามักมาขอพรก่อนปีนเอเวอเรสต์
  • จุดชมวิวสุดอลังการของยอดเขาเอเวอเรสต์, อามาดับแลม, ทัมเซอร์คู และโลดเซ
  • ระยะเวลาเดิน: 6-8 ชั่วโมง
  • เส้นทางเดิน: ผ่านลงไปในหุบเขาลึกของแม่น้ำดุดโกซี่ ก่อนไต่ขึ้นเขาอีกฝั่งสู่เต็งโบเช

วันที่ 6

  •  เดินทางสู่เมืองดิงโบเช
  • ระดับความสูง: 4,410 เมตร
  • เมืองในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยขุนเขาสูงกว่า 6,000 เมตร เช่น อามาดาบล้ม
  • อามาดาบล้ม (Ama Dablam): หนึ่งในยอดเขาที่สวยที่สุดในโลก มีรูปทรงคล้ายเพชรยอดมงกุฎ สูง 6,812 เมตร
  • ดิงโบเช: หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ในหุบเขาอิมจา โดดเด่นด้วยทุ่งหญ้าและฟาร์มยาค ถูกล้อมรอบด้วยยอดเขาสูงระฟ้า
  • ระยะเวลาเดิน: 8-10 ชั่วโมง
  • ผ่านสตูปา (เจดีย์) เก่าแก่ สวนสมุนไพรของหมอยาพื้นเมือง

วันที่ 7

  • พักที่เมืองดิงโบเชอีกคืน
  • เดินขึ้นยอดเขาหลังที่พักเพื่อปรับสภาพร่างกาย
  • Nangkartshang Peak: ยอดเขาที่มีความสูง 5,083 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นแนวเทือกเขาหิมาลัยได้อย่างกว้างไกล
  • ทุ่งหญ้าอิมจา: โอกาสได้เห็นสัตว์ป่าหายาก เช่น ทาร์ (แพะภูเขา) และกระจงพันธุ์หิมาลัย
  • ระยะเวลาเดิน: 3-4 ชั่วโมง (ไป-กลับ)

วันที่ 8

  • เดินทางสู่เมืองโลบูเช
  • ระดับความสูง: 4,910 เมตร
  • วันที่ท้าทาย ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม
  • ผ่านธารน้ำแข็งและหินโมเรนที่สวยงามแต่ท้าทาย
  •  อนุสรณ์สถานนักปีนเขา: แหล่งรวมอนุสรณ์สถานและหินจารึกเพื่อรำลึกถึงนักปีนเขาที่เสียชีวิตบนเอเวอเรสต์
  • โลบูเช: หมู่บ้านเล็กๆ ที่ประกอบด้วยที่พักสำหรับนักเดินทาง ตั้งอยู่ริมธารน้ำแข็งขนาดใหญ่
  • ระยะเวลาเดิน: 8-10 ชั่วโมง

วันที่ 9

  • เดินทางสู่เมืองโกรักเชป (ประตูสู่เอเวอเรสต์)
  • ระดับความสูง: 5,140 เมตร  ระยะเวลาเดิน: 4-6 ชั่วโมง
  • โกรักเชป: หมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงเอเวอเรสต์เบสแคมป์ เป็นที่ตั้งของที่พักและร้านอาหารสำหรับนักเดินทาง
  • ธารน้ำแข็งคุมบู: หนึ่งในธารน้ำแข็งที่สูงที่สุดในโลก มีรอยแตกขนาดใหญ่และก้อนน้ำแข็งรูปทรงแปลกตา
  • กิจกรรมเพิ่มเติม (หากมีแรงเหลือ): ชมวิวยอดเขาเอเวอเรสต์ที่ยอด Kala Pattar
  • Kala Pattar: ยอดเขาสีดำที่เป็นจุดชมวิวยอดนิยมของเอเวอเรสต์ ให้ภาพมุมกว้างที่สวยงามของยอดเขาเอเวอเรสต์และธารน้ำแข็งคุมบู
  • ชมพระอาทิตย์ตกที่ระดับความสูง 5,550 เมตร


วันที่ 10

  • เดินทางสู่ Everest Base Camp จุดหมายปลายทางสำคัญที่ผู้คนทั่วโลกใฝ่ฝันจะมาเยือนสักครั้งในชีวิต
  • Everest Base Camp (EBC): ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 5,364 เมตร เป็นจุดตั้งค่ายฐานของนักปีนเขาที่ต้องการพิชิตยอดเอเวอเรสต์
  • ชมปีรามิดน้ำแข็ง (ice pinnacles) ยักษ์บนธารน้ำแข็งคุมบู และทัศนียภาพอันน่าทึ่งของยอดเขาเอเวอเรสต์, นุปต์เซ และโลดเซ
  • เบสแคมป์แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพิชิตยอดเอเวอเรสต์ครั้งแรกโดย เซอร์เอ็ดมันด์ ฮิลลารี และเตนซิง นอร์เกย์ ในปี 1953
  • Exclusive Night: พักค้างคืนในเต้นท์เดียวกับนักปีนเขาที่รอเดินทางขึ้นไปพิชิตยอดเอเวอเรสต์
  • พบปะพูดคุยกับนักปีนเขามืออาชีพ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรับฟังเรื่องราวการผจญภัยสุดท้าทาย
  • สัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นในค่ายฐานที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง และความรู้สึกของการอยู่ที่จุดเริ่มต้นของการพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
  • ฉลองความสำเร็จแห่งความมุ่งมั่นและหัวใจนักสู้ของตนเอง
  • ร่วมพิธีกรรมแบบดั้งเดิมของชาวเชอร์ปาในการขอพรให้ปลอดภัย และฉลองความสำเร็จกับทีมนำทางและผู้ร่วมเดินทาง
error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม