Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Northernlight Roadtrip Scandinavia

ทัวร์โลโฟเทน ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน

ทัวร์โลโฟเทน
ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน
สรุปไฮไลท์

10 ไฮไลท์สำหรับทริปนอร์เวย์

☀️Haukland Beach (Lofoten): สัมผัสความงามของหาดทรายขาว น้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

☀️หมู่บ้าน Å (Lofoten): เยือนหมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ปลายสุดของเกาะ Lofoten สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม และชมทัศนียภาพอันงดงามของฟยอร์ด

☀️หมู่บ้านโบราณ Nusfjord (Lofoten): ย้อนเวลาสู่หมู่บ้านชาวประมงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุด ชมบ้านไม้สีสันสดใส และเรียนรู้ประวัติศาสตร์การประมง

☀️หมู่บ้าน Reine (Lofoten): ชมหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten มีบ้านสีแดงสดตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะ

☀️สะพาน Reinebrua (Lofoten): เก็บภาพความประทับใจกับสะพานที่เชื่อมระหว่างเกาะ เป็นจุดชมวิวพาโนรามาที่สวยงามของ Reine

☀️Hamnøy (Lofoten): ถ่ายภาพกระท่อมชาวประมงสีแดงสดบนโขดหิน ซึ่งเป็น Landmark สำคัญและเป็นภาพสัญลักษณ์ที่โด่งดังของ Lofoten

☀️Henningsvær (Lofoten): เยี่ยมชมเมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่มีชีวิตชีวา มีสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ริมทะเลอย่างโดดเด่น

☀️Lofotr Viking Museum (Borg): เรียนรู้เรื่องราวและประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้ง ผ่านการจัดแสดงโบราณวัตถุ และชมบ้านไวกิ้งจำลองขนาดใหญ่

☀️Arctic Cathedral (Tromsø): ตื่นตาตื่นใจกับมหาวิหารที่มีรูปทรงทันสมัยคล้ายภูเขาน้ำแข็ง เป็นสัญลักษณ์ของเมืองทรอมโซ

☀️ยอดเขา Storsteinen (Tromsø): ชมวิวเมืองทรอมโซ ฟยอร์ด และภูเขาโดยรอบแบบ 360 องศา จากจุดชมวิวบนยอดเขา

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 119,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 20 – 28 กย 68 
    • 11 – 19 ตค 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – Oslo

  • เดินทางจากกรุงเทพฯ สู่กรุง Oslo เมืองหลวงของนอร์เวย์

วันที่ 2: Oslo – Leknes (Lofoten)

  • Uttakleiv Beach: หาดหินกลมอันเป็นเอกลักษณ์ มีชื่อเสียงจากความสวยงามและเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม
  • Haukland Beach: หาดทรายขาวบริสุทธิ์ น้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

วันที่ 3: Lofoten

  • หมู่บ้าน Å: หมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ปลายสุดของเกาะ Lofoten สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม
  • พิพิธภัณฑ์ปลาคอด (Lofoten Stockfish Museum): เรียนรู้ประวัติและความสำคัญของการทำปลาคอดตากแห้ง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ Lofoten
  • หมู่บ้านโบราณ Nusfjord: หมู่บ้านชาวประมงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุด ชมบ้านไม้สีสันสดใสและโรงงานน้ำมันตับปลาคอดเก่าแก่
  • Hamnøy: หมู่บ้านที่มีกระท่อมชาวประมงสีแดงสดริมน้ำ เป็นภาพสัญลักษณ์ที่โด่งดังของ Lofoten

วันที่ 4: Lofoten

  • หมู่บ้าน Reine: หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่สวยงาม มีบ้านสีแดงสดตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะ
  • สะพาน Reinebrua: สะพานที่เชื่อมระหว่างเกาะ เป็นจุดชมวิวพาโนรามาที่สวยงามของ Reine
  • จุดชมวิว (Reine): ขึ้นไปยังจุดที่สูงขึ้นเพื่อชมทัศนียภาพแบบกว้างไกลของฟยอร์ดและ Lofoten
  • หมู่บ้านสีเหลือง Sakrisøy: หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบ้านทาสีเหลืองสดใสเป็นเอกลักษณ์
  • Hamnøy: กลับมาถ่ายภาพกระท่อมสีแดงบนโขดหิน ซึ่งเป็น Landmark สำคัญของ Lofoten

วันที่ 5: Lofoten – Svolvær

  • Ramberg Beach: หาดทรายสีขาวละเอียด ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าครามและบ้านสีแดง
  • สะพานข้ามเกาะ Fredvang: สะพานที่มีลักษณะโค้งคล้ายกับ Atlantic Ocean Road เป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงาม
  • Henningsvær: เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงมีชีวิตชีวา มีสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ริมทะเลอย่างโดดเด่น
  • Svolvær: เมืองหลักของ Lofoten มีท่าเรือที่คึกคักและเป็นศูนย์กลางการเดินทาง

วันที่ 6: Borg – Harstad

  • Lofotr Viking Museum (Borg): พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวและโบราณวัตถุเกี่ยวกับชาวไวกิ้ง มีบ้านไวกิ้งจำลองขนาดใหญ่
  • ภูเขาเคิปเพน (Keipen) (Harstad): ภูเขาที่สูงที่สุดในเมือง Harstad สามารถมองเห็นวิวเมืองและสภาพแวดล้อมโดยรอบ
  • Kasfjord City – Mini Town (Harstad): เมืองจำลองขนาดเล็กที่มีอาคารต่างๆ กว่า 100 หลัง
  • Trondenes Church (Harstad): โบสถ์ยุคกลางที่สวยงาม ตั้งอยู่บนแหลม Trondenes

วันที่ 7: Harstad – Tromsø

  • Tromsø Cathedral: โบสถ์ไม้ที่เก่าแก่และมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในเมืองทรอมโซ
  • Arctic Cathedral (Tromsdalen Church): มหาวิหารที่มีรูปทรงทันสมัยคล้ายภูเขาน้ำแข็ง เป็นสัญลักษณ์ของทรอมโซ
  • ยอดเขา Storsteinen (Fjellheisen): ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อชมวิวเมืองทรอมโซ ฟยอร์ด และภูเขาโดยรอบแบบ 360 องศา
  • อ่าวและท่าเรือ (Tromsø): บริเวณที่มีชีวิตชีวา มีบ้านเรือนสีสันสดใสและร้านค้าต่างๆ

วันที่ 8: Tromsø – Oslo – กรุงเทพฯ

  • เดินทางจากทรอมโซกลับสู่กรุง Oslo เพื่อต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 9: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
Categories
07-Jul 2024 Northernlight Roadtrip Scandinavia

ทัวร์ Extreme เทรคนอร์เวย์ Lofoten • Kjerag • Trolltunga • Preikestolen

ทัวร์ Extreme เทรคนอร์เวย์
Lofoten • Kjerag • Trolltunga • Preikestolen
สรุปไฮไลท์

☀️รวมที่สุดของเส้นทางเทรคั้ง Lofoten และ Trolltunga ในทริปเดียวกัน ไปครั้งเดียวเที่ยวครบทุกที่

☀️Reinebringen – จุดชมวิวพาโนรามาอันสวยงามที่มองเห็นหมู่บ้าน Reine และฟยอร์ดโดยรอบจากมุมสูง เป็นหนึ่งในวิวที่เป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน

☀️Trolltunga – “ลิ้นแห่งโทรล” แท่นหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผาสูง 700 เมตรเหนือทะเลสาบ Ringedalsvatnet เป็นแลนด์มาร์คระดับโลกของนอร์เวย์และจุดถ่ายภาพที่มีความตื่นเต้นที่สุด

☀️Kjeragbolten – ก้อนหินกลมขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ระหว่างซอกผาสูง 984 เมตร เหนือฟยอร์ด Lysefjord ทำให้เกิดภาพถ่ายที่น่าตื่นเต้นเหมือนกำลังลอยอยู่เหนือความสูง

☀️Preikestolen – “แท่นเทศนา” ผาหินแกรนิตรูปสี่เหลี่ยมสูง 604 เมตร ที่ยื่นออกไปเหนือฟยอร์ด Lysefjord สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Mission Impossible

☀️หมู่บ้าน Reine – หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ ด้วยบ้านไม้สีแดงที่ตั้งอยู่ริมน้ำโดยมีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชัน

☀️รถไฟ Flåmsbana – หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดในโลก ระยะทาง 20 กิโลเมตรที่ลัดเลาะไปตามเทือกเขาและผ่านน้ำตกสวยงาม

☀️ล่องเรือชม Nærøyfjord – ฟยอร์ดที่แคบที่สุดในโลกที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก มีความกว้างเพียง 250 เมตรในบางจุด ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชันและน้ำตก

☀️ภูเขา Segla – ยอดเขารูปทรงสามเหลี่ยมที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะ Senja ที่คนไทยยังไม่ค่อยได้ไปเยือน มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา

☀️หมู่บ้าน Henningsvaer – “เวนิสแห่งโลโฟเทน” หมู่บ้านชาวประมงที่สวยงามตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ หลายเกาะเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน มีร้านค้าและร้านอาหารที่มีเสน่ห์

☀️หาด Kvalvika – หาดทรายขาวที่มองเห็นได้จากยอดเขา Ryten เป็นหาดที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชัน สามารถมองเห็นวิวของมหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 179,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป นอร์เวย์ Trek

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – ออสโล

  • เช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ณ เคาน์เตอร์สายการบิน Thai Airways

  • ออกเดินทางสู่เมืองออสโล (Oslo) เมืองหลวงแห่งประเทศนอร์เวย์

  • พักผ่อนตลอดการเดินทางบนเครื่องบิน

วันที่ 2: ออสโล – เลคเนส

  • เดินทางถึงสนามบินออสโล

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เที่ยวบินภายในประเทศต่อไปยังเลคเนส (Leknes) ประตูสู่หมู่เกาะโลโฟเทน

  • เช็คอินเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

  • รับประทานอาหารค่ำ ชมบรรยากาศยามค่ำคืนของเมือง

วันที่ 3: หมู่เกาะโลโฟเทน – Å – Nusfjord – Reine – Reinebringen

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เยี่ยมชมหมู่บ้าน Å หมู่บ้านที่อยู่ใต้สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน

  • ชมหมู่บ้านโบราณ Nusfjord หมู่บ้านชาวประมงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในโลโฟเทน

  • รับประทานอาหารกลางวัน

  • เที่ยวชมหมู่บ้าน Reine หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

  • เดินเทรคสู่จุดชมวิว Reinebringen เพื่อชมวิวพาโนรามาของหมู่บ้าน Reine จากมุมสูง (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 4: Ryten Hike – Henningsvaer

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เริ่มการเดินเทรคบนเส้นทาง Ryten Hike หนึ่งในเส้นทางยอดนิยมของหมู่เกาะโลโฟเทน ชมวิวชายหาด Kvalvika อันงดงามจากมุมสูง (ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก ระหว่างการเดินเทรค

  • เดินทางไปยัง Henningsvaer หมู่บ้านประมงที่ได้ชื่อว่าเป็น “เวนิสแห่งโลโฟเทน”

  • เดินเล่น ช้อปปิ้งซื้อของที่ระลึก และถ่ายภาพความงดงามของหมู่บ้าน

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 5: Floya Hike – เดินทางสู่เกาะ Senja

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เดินเทรคไปยังจุดชมวิว Floya สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของหมู่เกาะโลโฟเทน (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารกลางวัน

  • เดินทางไปยังเกาะ Senja เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของนอร์เวย์

  • เช็คอินที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

  • รับประทานอาหารค่ำ

วันที่ 6: Segla Hike – ทรอมโซ

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เดินเทรคขึ้นภูเขา Segla สัญลักษณ์ของเกาะ Senja ที่มีรูปทรงเฉพาะตัวอันโดดเด่น (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารกลางวัน

  • เดินทางสู่เมืองทรอมโซ (Tromso) เมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือ

  • ชมเมืองทรอมโซ เยี่ยมชมอ่าวและท่าเรือ บ้านเรือนสีสันสดใสริมน้ำ

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 7: ทรอมโซ – เบอร์เกน

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เดินทางไปยังสนามบินทรอมโซ

  • บินภายในประเทศสู่เมืองเบอร์เกน (Bergen)

  • เช็คอินที่พัก

  • เที่ยวชมเมืองเบอร์เกน เยี่ยมชมย่าน Bryggen ริมอ่าวซึ่งเป็นมรดกโลกจาก UNESCO

  • เดินเล่นตลาดปลา และถนนคนเดินในเมืองเก่า

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 8: รถไฟ Flåmsbana – Flam – Stegastein – Nærøyfjord – Trolltunga Base Camp

  • รับประทานอาหารเช้า

  • นั่งรถไฟสาย Flåmsbana หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดในโลก

  • เยี่ยมชมเมือง Flam เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของฟยอร์ดที่ลึกและยาวที่สุดในโลก

  • รับประทานอาหารกลางวัน

  • ชมวิวพาโนรามาของ Aurland ฟยอร์ดจากจุดชมวิว Stegastein

  • ล่องเรือชม Nærøyfjord ฟยอร์ดที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก

  • เดินทางไปยัง Trolltunga Base Camp เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเทรควันพรุ่งนี้

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 9: Trolltunga

  • รับประทานอาหารเช้าแต่เช้า

  • เริ่มการเดินเทรคสู่ Trolltunga หรือ “ลิ้นโทรล” หินที่ยื่นออกมาจากหน้าผาสูง เป็นแลนด์มาร์คระดับโลกของนอร์เวย์ (ใช้เวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมง ไป-กลับ)

  • รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิกระหว่างทาง

  • ถ่ายรูปบนหิน Trolltunga กับวิวทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์เบื้องล่าง

  • เดินทางกลับมายังที่พัก

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนหลังจากวันที่เหนื่อยล้า

วันที่ 10: เดินทางสู่ Kjerag Lysebotn

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เดินทางไปยัง Kjerag Lysebotn

  • พักผ่อนตามอัธยาศัยริมฟยอร์ด เตรียมพร้อมสำหรับการเทรควันพรุ่งนี้

  • รับประทานอาหารกลางวันและอาหารค่ำ

วันที่ 11: Kjerag Lysebotn walk – Jørpeland

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เริ่มการเดินเทรคสู่ Kjeragbolten ก้อนหินกลมขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ระหว่างซอกผา (ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารกลางวันแบบปิกนิก

  • เดินทางกลับมายังเมือง Jørpeland เมืองเล็กๆ ริมชายฝั่งตะวันตกของนอร์เวย์

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 12: Preikestolen Walk – สตาวังเงอร์

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เดินเทรคไปยัง Preikestolen หรือ “แท่นเทศนา” ผาหินแกรนิตสูง 604 เมตรที่ยื่นออกไปเหนือฟยอร์ด สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Mission Impossible (ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง)

  • รับประทานอาหารกลางวัน

  • เดินทางสู่เมืองสตาวังเงอร์ (Stavanger) เมืองหลวงแห่งน้ำมันของยุโรป

  • ชมเมืองเก่า และเดินเล่นตามถนนที่ปูด้วยหินในย่านเมืองเก่า

  • รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนที่ที่พัก

วันที่ 13: สตาวังเงอร์ – ออสโล – กรุงเทพฯ

  • รับประทานอาหารเช้า

  • เที่ยวชมเมืองสตาวังเงอร์เพิ่มเติมในช่วงเช้า

  • เดินทางไปยังสนามบินสตาวังเงอร์

  • บินภายในประเทศสู่ออสโล

  • ต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน Thai Airways

  • พักผ่อนบนเครื่องบิน

วันที่ 14: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจจากการเดินทาง

Categories
07-Jul 2024 Roadtrip Scandinavia

ทัวร์เทรคนอร์เวย์ ไฮไลท์ Kjerag • Trolltunga • Preikestolen

ทัวร์เทรคนอร์เวย์
ไฮไลท์ Kjerag • Trolltunga • Preikestolen
สรุปไฮไลท์

☀️สตาวังเกอร์: ย่าน Gamle Stavanger บ้านไม้สีขาวที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ, มหาวิหารยุคไวกิ้ง, อนุสาวรีย์ดาบสามเล่ม

☀️เบอร์เกน: เมืองมรดกโลก Bryggen Wharf อาคารไม้สีสันสดใสริมน้ำจากยุคฮันเซียติก

☀️Kjeragbolten: หินมหัศจรรย์ติดค้างระหว่างหน้าผา (เดิน 12 กม.)

☀️Preikestolen (Pulpit Rock): หน้าผาอายุ 10,000 ปี สูง 604 ม.

☀️Trolltunga: “ลิ้นโทรลล์” แผ่นหินยื่นจากหน้าผา (เดิน 28 กม.)

☀️Lysefjord: ฟยอร์ดลึก 422 ม. ยาว 42 กม.

☀️Nærøyfjord: ฟยอร์ดมรดกโลกที่แคบที่สุดในโลก (กว้างเพียง 250 ม.)

☀️น้ำตกสวยที่สุด: Kjosfossen, Låtefossen (น้ำตกคู่), Tvindefossen

☀️Flåmsbana: รถไฟสายที่ชันและสวยที่สุดในโลก

☀️Stegastein Viewpoint: จุดชมวิวที่ยื่นออกจากหน้าผา 30 ม.

☀️กระเช้า Fløibanen: ชมวิวพาโนรามาเบอร์เกนจากยอดเขา Mount Fløyen

ค่าทริปและการจองทริป
สรุปทริป
  • ค่าทริป
    • ห้องคู่-ห้อง 3 คน ท่านละ 129,000 บาท
    • พักเดี่ยวเพิ่ม 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 27 มิย – 6 กค  68
    • 11-20 กค. 68
    • 15-24 สค. 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334

✅️  รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️  โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️  กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️  นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️  ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔  วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔  ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔  ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Place
Place
Place

โปรแกรมทัวร์ นอร์เวย์ Summer trek

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – ออสโล

  • บินตรงด้วย Thai Airways เที่ยวบิน TG954 (21:30 น.)
  • ออสโล เป็นเมืองหลวงของนอร์เวย์ เมืองที่ผสมผสานความทันสมัยกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลก และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น

วันที่ 2: สตาวังเกอร์ – ลีเซบ็อตน์

  • เยี่ยมชมเมืองเก่าสตาวังเกอร์ บ้านไม้สีขาวอายุ 200 ปี – หนึ่งในชุมชนบ้านไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป เรียกว่า “Gamle Stavanger” มีบ้านไม้สีขาวกว่า 170 หลัง เรียงรายบนถนนหินกรวดแคบๆ สะท้อนวิถีชีวิตชาวประมงในอดีต
  • ชมอนุสาวรีย์ดาบสามเล่ม (Sverd i fjell) – อนุสาวรีย์ขนาดใหญ่สูง 10 เมตร สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการรวมนอร์เวย์เป็นอาณาจักรเดียวในศตวรรษที่ 9
  • มหาวิหารสตาวังเกอร์ (Stavanger Cathedral) – โบสถ์เก่าแก่ที่สุดในนอร์เวย์ สร้างในศตวรรษที่ 12 ในสไตล์โกธิค
  • เดินทางสู่หมู่บ้านลีเซบ็อตน์ (Lysebotn) – หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ปลายสุดของฟยอร์ด Lysefjord ที่ลึกที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ มีประชากรเพียงไม่กี่สิบคน ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชัน

วันที่ 3: Kjerag

  • เดินป่าระยะทาง 12 กม. (7-8 ชม.) – เส้นทางเดินป่าที่ท้าทายผ่านภูมิประเทศที่สวยงาม มีการปีนขึ้น-ลงสลับกัน 3 ช่วงใหญ่
  • Kjeragbolten – หินทรงกลมที่ติดอยู่ระหว่างช่องเขา สูงจากพื้นฟยอร์ด 984 เมตร เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม ด้วยความท้าทายของการยืนบนก้อนหินที่แขวนอยู่เหนือความสูงกว่าพันเมตร
  • วิวพาโนรามาของ Lysefjord – หนึ่งในฟยอร์ดที่สวยที่สุดของนอร์เวย์ มีความยาว 42 กิโลเมตร

วันที่ 4: Jørpeland

  • เมือง Jørpeland – เมืองเล็กๆ ที่ได้ฉายาว่า “เมืองประตูสู่ Preikestolen” มีประชากรประมาณ 7,000 คน
  • ศูนย์กลางเมืองมีร้านค้าท้องถิ่น ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารนอร์ดิกแท้ๆ และคาเฟ่ที่อบอุ่น
  • Jørpelandsholmen – เกาะเล็กๆ ที่เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพาน เป็นจุดพักผ่อนยอดนิยมของคนท้องถิ่น
  • Preikestolen Hiking Center – ศูนย์ข้อมูลที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเส้นทางเดินป่าและธรรมชาติในพื้นที่

วันที่ 5: Preikestolen – Odda

  • Preikestolen (Pulpit Rock) – หน้าผารูปทรงสี่เหลี่ยมที่ยื่นออกไปเหนือฟยอร์ด สูง 604 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ดังที่สุดในโลก
  • เส้นทางเดินป่าระยะทาง 8 กิโลเมตร (ไป-กลับ) ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง มีความยากระดับปานกลาง
  • น้ำตกคู่ Låtefossen – น้ำตกคู่ที่สวยงาม ไหลลงมาจากทั้งสองด้านและมาบรรจบกันใต้สะพาน เป็นจุดแวะถ่ายรูปที่สำคัญ
  • เมือง Odda – เมืองเล็กๆ ริมฟยอร์ด เป็นฐานที่ดีสำหรับการเดินทางไป Trolltunga ล้อมรอบด้วยภูเขาและธารน้ำแข็ง Folgefonna

วันที่ 6: Trolltunga

  • เดินป่าระยะไกล 20 กม. (10-12 ชม.) – หนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่ท้าทายและมีชื่อเสียงที่สุดของนอร์เวย์
  • Trolltunga (ลิ้นโทรล) – หน้าผาที่ยื่นออกไปในอากาศคล้ายลิ้น สูง 700 เมตรเหนือทะเลสาบ Ringedalsvatnet
  • ทัศนียภาพรอบทางประกอบด้วยภูเขา ทะเลสาบ และธารน้ำแข็งในอุทยานแห่งชาติ Hardangervidda

วันที่ 7: Flamsbana

  • รถไฟสาย Flamsbana – หนึ่งในเส้นทางรถไฟที่ชันที่สุดในโลก (ความชัน 5.5%) ระยะทาง 20 กิโลเมตรจาก Myrdal สู่ Flåm ผ่านอุโมงค์ 20 แห่ง
  • จุดชมวิวน้ำตก Kjosfossen – รถไฟจะจอดให้ผู้โดยสารลงมาชมน้ำตกสูง 93 เมตร
  • Nærøyfjord – ฟยอร์ดที่แคบที่สุดในโลก (ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก) มีความกว้างเพียง 250 เมตรในบางช่วง ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง 1,800 เมตร
  • หมู่บ้าน Flåm – หมู่บ้านเล็กๆ ที่น่ารักริมฟยอร์ด มีร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์รถไฟ

วันที่ 8: เบอร์เกน

  • น้ำตก Tvindefossen – น้ำตกสวยงามสูง 152 เมตรระหว่างทางไปเบอร์เกน
  • ย่าน Bryggen Wharf – ย่านท่าเรือเก่าแก่ที่เป็นมรดกโลก มีอาคารไม้สีสันสดใสเรียงรายริมน้ำ สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14
  • กระเช้า Fløibanen – นำผู้โดยสารขึ้นไปบนยอดเขา Fløyen ที่สูง 320 เมตร ให้วิวพาโนรามาของเมืองเบอร์เกนและอ่าวโดยรอบ
  • ตลาดปลา (Fish Market) – ตลาดเก่าแก่ริมท่าเรือที่มีอาหารทะเลสดใหม่และอาหารท้องถิ่น

วันที่ 9-10: เดินทางกลับ

  • ออสโล – หากมีเวลาสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง พิพิธภัณฑ์มุนช์ หรือโรงโอเปร่าออสโลที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น
  • บินกลับกรุงเทพฯ เที่ยวบิน TG955
Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Roadtrip Scandinavia

ทัวร์นอร์เวย์ ล่าแสงเหนือโลโฟเทน-ล่องฟยอร์ดฟลอม

ทัวร์นอร์เวย์
ล่าแสงเหนือโลโฟเทน-ล่องฟยอร์ดฟลอม
สรุปไฮไลท์

10 ไฮไลท์ทริปนอร์เวย์

☀️หมู่บ้าน Hamnøy และ Reine – กระท่อมชาวประมงสีแดงสดตัดกับภูเขาสูงตระหง่านและฟยอร์ดสีคราม สร้างภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของโลโฟเทนที่สวยงามที่สุด

☀️หาดทราย Ramberg และ Uttakleiv – หาดทรายขาวและน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น พร้อมหาดหินกลมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโลโฟเทน

☀️หมู่บ้าน Sakrisøy – หมู่บ้านสีเหลืองสดใสแห่งเดียวในโลโฟเทน ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ สร้างความแตกต่างจากบ้านสีแดงทั่วไปในภูมิภาคนี้

☀️เมือง Tromsø – “ประตูสู่ดินแดนอาร์กติก” และจุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มหาวิหาร Arctic Cathedral ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น

☀️รถไฟสาย Flåmsbana – การเดินทางบนเส้นทางรถไฟที่ชันและงดงามที่สุดในยุโรป ลัดเลาะผ่านภูเขา หุบเขา และน้ำตก ชมทัศนียภาพที่เปลี่ยนไปตลอดเส้นทาง

☀️Stegastein Viewpoint – จุดชมวิวที่ยื่นออกไป 30 เมตรเหนือ Aurlandsfjord ที่ความสูง 650 เมตร มอบทัศนียภาพพาโนรามาของฟยอร์ดที่น่าทึ่ง

☀️การล่องเรือชม Nærøyfjord – สัมผัสฟยอร์ดที่แคบที่สุดและงดงามที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ล้อมรอบด้วยผาหินสูงชันและน้ำตกที่ไหลลงสู่ผืนน้ำสีมรกต

☀️น้ำตก Tvindefossen – น้ำตกสูงประมาณ 150 เมตร ที่มีความงดงามตามธรรมชาติ

☀️Bryggen ในเมือง Bergen – อาคารไม้โบราณสีสันสดใสริมอ่าวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สะท้อนประวัติศาสตร์การค้าในยุคฮันเซียติก

☀️Mount Fløyen – ชมจุดชมวิวที่สูง 320 เมตรเหนือเมือง Bergen มองเห็นวิวเมืองแลท่าเรือ

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 129,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 19 – 28 กย. 68
    • 11 – 19 ตค. 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

bergen
lofoten
lofoten

โปรแกรมทริป นอร์เวย์ -ล่าแสงเหนือโลโฟเทน-ล่องฟยอร์ดฟลอม

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – ออสโล

  • พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางสู่ออสโล ประเทศนอร์เวย์
  • เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางสู่ดินแดนแห่งฟยอร์ดและแสงเหนือ

วันที่ 2: ออสโล – Leknes – Hamnøy

  • เดินทางถึงออสโล จากนั้นบินภายในประเทศสู่เมือง Leknes ประตูสู่หมู่เกาะโลโฟเทน
  • Uttakleiv และ Haukland Beach – หาดหินกลมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยหินรูปหัวใจที่มีชื่อเสียง ท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาอันตระการตา
  • Ramberg Beach – หาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ ตัดกับน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ ฉากหลังเป็นบ้านแดงสดใส สร้างภาพที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม
  • เข้าพักที่หมู่บ้าน Hamnøy หมู่บ้านประมงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่เกาะโลโฟเทน ด้วยกระท่อมแดงริมน้ำและฉากหลังเป็นภูเขาสูงตระหง่าน

วันที่ 3: หมู่บ้าน Å – Nusfjord – Reine – Hamnøy

  • หมู่บ้าน Å (ออกเสียงว่า “ออ”) – หมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนบนหมู่เกาะโลโฟเทน เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์การประมงของภูมิภาค
  • Nusfjord – หมู่บ้านชาวประมงโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในนอร์เวย์ ด้วยกระท่อมไม้สีแดงเรียงรายริมท่าเรือ และพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์การประมง
  • Reine – หมู่บ้านชาวประมงที่โด่งดังที่สุดของโลโฟเทน ด้วยทัศนียภาพของกระท่อมสีแดงตัดกับฟยอร์ดสีคราม และภูเขาสูงชัน
  • จุดชมวิวสะพาน Reinebrua – ชมวิวพาโนรามาอันงดงามของฟยอร์ดและหมู่บ้านโลโฟเทนจากมุมสูง
  • พักค้างคืนที่ Hamnøy

วันที่ 4: Sakrisøy – Fredvang – Henningsvær – Harstad

  • Sakrisøy – หมู่บ้านที่โดดเด่นด้วยบ้านสีเหลืองสดใสแห่งเดียวในโลโฟเทน ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ มีร้านขายของที่ระลึกและอาหารทะเลแห้งแบบดั้งเดิม
  • สะพานข้าม Fredvang – สะพานเชื่อมเกาะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนอร์เวย์ คล้ายกับ Atlantic Ocean Road สร้างขึ้นในปี 1988 ทอดยาวข้ามทะเลอันกว้างใหญ่
  • Henningsvær – “เวนิสแห่งโลโฟเทน” เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงคึกคักด้วยกิจกรรมประมง มีร้านค้า แกลเลอรี่ และสนามฟุตบอลริมทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก
  • เดินทางสู่เมือง Harstad เพื่อพักค้างคืน

วันที่ 5: Harstad – Tromsø

  • เดินทางจาก Harstad สู่เมือง Tromsø – “ประตูสู่ดินแดนอาร์กติก” และเมืองที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
  • City Tour – เที่ยวชมเมือง Tromsø ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์เหนือ
  • Arctic Cathedral – โบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นคล้ายภูเขาน้ำแข็ง
  • Tromsø Harbor – ท่าเรือที่สวยงามให้บรรยากาศผ่อนคลาย
  • Polaria – พิพิธภัณฑ์และศูนย์แสดงเกี่ยวกับเขตอาร์กติก
  • พักค้างคืนที่ Tromsø และชมแสงเหนือ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

วันที่ 6: Tromsø – Bergen – Voss

  • ช่วงเช้าสำรวจเมือง Tromsø เพิ่มเติม
  • บินภายในประเทศสู่เมือง Bergen – เมืองมรดกโลกริมอ่าวที่สวยงาม
  • เดินทางต่อไปยังเมือง Voss – เมืองเล็กๆ ในเขต Hordaland ที่โอบล้อมด้วยภูเขา ทะเลสาบ และน้ำตก เป็นศูนย์กลางกีฬาผจญภัย
  • พักค้างคืนที่ Voss

วันที่ 7: Flåmsbana – Myrdal – Flåm – Nærøyfjord – Voss

  • Flåmsbana – นั่งรถไฟสายโรแมนติกที่ชันและงดงามที่สุดในยุโรป ลัดเลาะขุนเขาและหุบเขาลึก
  • Myrdal – สถานีรถไฟบนภูเขาที่เชื่อมต่อระหว่าง Flåmsbana กับรถไฟสาย Bergen
  • Flåm – หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ส่วนในสุดของ Aurlandsfjord ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของฟยอร์ดที่ยาวและลึกที่สุดในโลก
  • Stegastein Viewpoint – จุดชมวิวที่ยื่นออกไป 30 เมตรเหนือ Aurlandsfjord ที่ความสูง 650 เมตร ให้ทัศนียภาพแบบพาโนรามาที่น่าทึ่ง
  • ล่องเรือ Nærøyfjord – ชมฟยอร์ดที่แคบที่สุดและงดงามที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
  • น้ำตก Tvindefossen – น้ำตกสูงประมาณ 150 เมตร มีความงดงามตามธรรมชาติและเชื่อกันว่ามีพลังในการรักษาโรค
  • กลับมาพักที่ Voss

วันที่ 8: Voss – Bergen

  • เดินทางกลับสู่เมือง Bergen – เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของนอร์เวย์
  • Bryggen – เยี่ยมชมอาคารไม้โบราณสีสันสดใสเรียงรายริมอ่าว ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
  • Bryggen Wharf – เดินเล่นบริเวณท่าเรือเก่าแก่ที่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญของยุโรปเหนือ ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์
  • Mount Fløyen – นั่งรถรางไต่ภูเขาสู่จุดชมวิวที่สูง 320 เมตร มองเห็นวิวพาโนรามาของเมือง Bergen ทะเล และฟยอร์ดโดยรอบ
  • พักค้างคืนที่ Bergen

วันที่ 9: Bergen – ออสโล – กรุงเทพฯ

  • บินภายในประเทศสู่ ออสโล
  • เดินทางกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 10: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความทรงจำอันแสนประทับใจ
Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Roadtrip Scandinavia Tour

แลปแลนด์ & โลโฟแทน

Finland Lapland
สรุปไฮไลท์

☀️รวมสองสุดยอดประเทศที่ไปดูแสงเหนือไว้ด้วยกัน

☀️ชมแสงเหนือ (Aurora Borealis) – ปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

☀️พัก Igloo Glass House  – นอนชมดาวและแสงเหนือบนเตียงอุ่นๆ

☀️นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ – กิจกรรมวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวซามิ

☀️เยือนหมู่บ้านซานตาคลอส – พบซานตาตัวจริงและส่งโปสการ์ดจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล

☀️ขึ้นกระเช้า Fjellheisen – ชมวิวพาโนรามาของเมืองทรอมโซและฟยอร์ด

☀️เยือน Henningsvaer – “เวนิสแห่งโลโฟเทน” หมู่บ้านชาวประมงสวยงาม

☀️ชมหมู่บ้าน Reine – หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

☀️จุดถ่ายรูปสะพาน Hamnoy – แลนด์มาร์คอันเป็นสัญลักษณ์ของโลโฟเทน

☀️ชายหาดอาร์กติกสุดพิเศษ – Uttakleiv และ Haukland Beach

☀️หมู่บ้านโบราณ Nusfjord – สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวโลโฟเทน

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 139,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป .......

วันที่ 1: จุดเริ่มต้นการผจญภัยในดินแดนแสงเหนือ

  • สนามบินสุวรรณภูมิ, กรุงเทพฯ – จุดเริ่มต้นของการเดินทางอันน่าตื่นเต้น
  • เดินทางสู่ Ivalo, แลปแลนด์, ฟินแลนด์ – เมืองเล็กๆ ที่เป็นประตูสู่ดินแดนแห่งแสงเหนือและกิจกรรมในฤดูหนาว

วันที่ 2: สัมผัสวัฒนธรรมซามิและโดมแก้วใต้แสงเหนือ

  • เดินทางสู่หมู่บ้านทางเหนือของฟินแลนด์ – ดินแดนที่เงียบสงบและมีวัฒนธรรมชาวซามิ (Sami)
  • ขี่กวางเรนเดียร์ – พาหนะดั้งเดิมของชาวแลปป์ สัมผัสความอบอุ่นและความน่ารักของกวางเรนเดียร์
  • เข้าพักที่ Kakslauttanen Arctic Resort, Saariselkä – ที่พักโดมแก้วให้คุณนอนชมแสงเหนือจากเตียงอุ่นๆ

วันที่ 3: ดินแดนซานตาคลอสและวงกลมอาร์กติก

  • โบสถ์ Rovaniemi, ฟินแลนด์ – โบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นพร้อมภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่
  • Santa Claus Village, Rovaniemi – หมู่บ้านซานตาคลอสอย่างเป็นทางการ พบกับซานตาคลอสและส่งโปสการ์ดจาก Arctic Circle Post Office
  • จุดตัดเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล – ถ่ายรูปที่เส้นแบ่งเขตขั้วโลกเหนือที่ 66°33′39″ เหนือ

วันที่ 4: ทรอมโซ – เมืองหลวงแห่งแสงเหนือ

  • บินสู่เมือง Tromso, นอร์เวย์ – เมืองที่มีชีวิตชีวา ขึ้นชื่อว่าเป็น “ประตูสู่ขั้วโลกเหนือ” ตั้งอยู่ใต้ Aurora Oval
  • กระเช้าไฟฟ้า Fjellheisen – พาขึ้นไปยัง Storsteinen ที่สูง 421 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชมวิวพาโนรามาของเมือง

วันที่ 5: เดินทางสู่หมู่เกาะโลโฟเทน

  • เมือง Evenes, นอร์เวย์ – เมืองเล็กๆ ในภูมิภาค Nordland เป็นจุดพักและเปลี่ยนถ่ายไปยังโลโฟเทน
  • Svolvaer, หมู่เกาะโลโฟเทน – เมืองใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางของหมู่เกาะที่มีความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง

วันที่ 6: หมู่บ้านชาวประมงและชายหาดงดงาม

  • Henningsvaer – หมู่บ้านชาวประมงบนเกาะเล็กๆ ได้รับขนานนามว่าเป็น “เวนิสแห่งโลโฟเทน” มีบ้านสีแดงสดใส
  • Uttakleiv Beach – ชายหาดชื่อดังด้วยทรายขาวและหินกลมมนกระจายทั่วหาด
  • Haukland Beach – ชายหาดสวยงามด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามและทรายขาวละเอียด

วันที่ 7: หมู่บ้านโบราณและจุดชมวิวแลนด์มาร์ค

  • Nusfjord – หมู่บ้านชาวประมงโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดี มีบ้านไม้เก่าแก่สีเหลือง
  • Reine – หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่มีทัศนียภาพงดงามราวภาพวาด ถูกยกให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์
  • Sakrisoy – หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบ้านสีเหลืองสดใสบนเกาะเล็กๆ ที่เชื่อมต่อด้วยสะพาน
  • Hamnoy – จุดชมวิวแลนด์มาร์คที่มีสะพาน Hamnoy เชื่อมระหว่างเกาะ พร้อมวิวภูเขา Olstind อันเป็นสัญลักษณ์

วันที่ 8: เดินทางกลับ

  • บินจาก Evenes สู่ Oslo, นอร์เวย์ – ออกจากดินแดนแห่งความงามของโลโฟเทนสู่เมืองหลวง
  • ต่อเครื่องบินกลับประเทศไทย – เตรียมตัวเดินทางกลับพร้อมความทรงจำอันล้ำค่า

วันที่ 9: กลับถึงบ้าน

  • เดินทางถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ – กลับถึงบ้านพร้อมความทรงจำพิเศษจากทริปแสงเหนือและโลโฟเทนม

Categories
2024 2025 Roadtrip Scandinavia

ทัวร์นอร์เวย์ซัมเมอร์ เบอร์เกน ฟลอม ไกแรงเก้อ

ทัวร์นอร์เวย์ซัมเมอร์
เบอร์เกน ฟลอม ไกแรงเก้อ
สรุปไฮไลท์

☀️ฟยอร์ดมรดกโลก – ล่องเรือชม Nærøyfjord และ Geirangerfjord ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก

☀️น้ำตกอันงดงาม – ชมน้ำตก Seven Sisters ที่โด่งดัง และน้ำตก Tvindefossen ที่มีความสูงถึง 152 เมตร

☀️ย่านประวัติศาสตร์ Bryggen Wharf – เยี่ยมชมอาคารไม้เก่าแก่สไตล์ Hanseatic จากศตวรรษที่ 14 ที่เป็นมรดกโลก

☀️ถนนมหาสมุทรแอตแลนติก – เส้นทางที่น่าทึ่งที่สุดในโลกที่ทอดยาวข้ามทะเล เชื่อมเกาะต่างๆ ด้วยสะพาน 8 แห่ง

☀️ธารน้ำแข็ง Briksdal – สัมผัสความยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็งในอุทยานแห่งชาติ Jostedal Glacier

☀️จุดชมวิว Stegastein – แพลตฟอร์มรูปทรงโค้งมนที่สร้างยื่นออกจากหน้าผา ให้วิวพาโนรามาที่น่าตื่นตาตื่นใจ

☀️ถนน Stalheimskleiva – ถนนที่ชันที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเหนือ ให้ความตื่นเต้นและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

☀️มหาวิหารนิดารูส – คริสตจักรโกธิคขนาดใหญ่ที่สุดในแถบนอร์ดิกที่ใช้เวลาสร้างกว่า 900 ปี

☀️เมืองทรอนด์เฮม – เมืองประวัติศาสตร์ยุคไวกิ้งอายุกว่าพันปี พร้อมย่านเมืองเก่า บริกเก่น ที่เต็มไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่สีสันสดใส

☀️เมืองอาเลซุนด์ – เมืองที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโวที่หาชมได้ยากในยุโรปเหนือ

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 139,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Place
Place

โปรแกรมทริป นอร์เวย์ เบอร์เกน ฟลอม ไกแรงเก้อ

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – Bangkok

  • พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางสู่นอร์เวย์

วันที่ 2: ออสโล – เบอร์เกน

  • ถึงออสโล ต่อเครื่องบินภายในประเทศสู่เบอร์เกน
  • เยี่ยมชมย่านประวัติศาสตร์ Bryggen Wharf (มรดกโลก UNESCO)
  • พักที่เมืองเบอร์เกน

วันที่ 3: เบอร์เกน – หุบเขา Bordalsgjelet – น้ำตก Tvindefossen – ฟยอร์ด Nærøyfjord – ฟลอม

  • ชมหุบเขา Bordalsgjelet Gorge
  • แวะเมือง Voss และน้ำตก Tvindefossen
  • ผ่านถนน Stalheimskleiva (ถนนชันที่สุดในยุโรปเหนือ)
  • ล่องเรือชมฟยอร์ด Nærøyfjord (มรดกโลก)
  • พักที่เมืองฟลอม

วันที่ 4: ฟลอม – จุดชมวิว Stegastein – สตริน

  • ชมวิวพาโนรามาที่ Stegastein Viewpoint
  • ชม Nordfjord และเมืองโลเอน
  • เยี่ยมชมหมู่บ้าน Olden
  • พักที่เมืองสตริน

วันที่ 5: สตริน – ฟยอร์ด Geirangerfjord – ธารน้ำแข็ง Briksdal

  • ชมวิวที่ Flydalsjuvet
  • นั่งรถ “Troll” ชมธารน้ำแข็ง Briksdal
  • ชมน้ำตก Seven Sisters ที่ Eagle Bend
  • ชมวิวที่ Dalsnibba Mountain Plateau
  • พักที่เมืองไกแรงเกอร์

วันที่ 6: ล่องเรือไกแรงเกอร์ฟยอร์ด – อาเลซุนด์

  • ล่องเรือชมไกแรงเกอร์ฟยอร์ด (มรดกโลก)
  • ชมน้ำตก Seven Sisters และตำนานความรัก
  • เที่ยวชมเมืองอาเลซุนด์ สถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว
  • พักที่เมืองอาเลซุนด์

วันที่ 7: อาเลซุนด์ – ถนนมหาสมุทรแอตแลนติก – คริสเตียนซุนด์

  • เดินทางบนถนนมหาสมุทรแอตแลนติก (Atlantic Ocean Road)
  • ชมสะพานสโตร์เซย์ซุนเด็ต (สะพานสู่ความว่างเปล่า)
  • เที่ยวชมเมืองคริสเตียนซุนด์และย่านเมืองเก่า อินล์แลนเด็ต
  • พักที่เมืองคริสเตียนซุนด์

วันที่ 8: คริสเตียนซุนด์ – ทรอนด์เฮม

  • เดินทางสู่เมืองทรอนด์เฮม
  • เยี่ยมชมมหาวิหารนิดารอส (คริสตจักรโกธิคใหญ่ที่สุดในนอร์ดิก)
  • ชมสะพานไม้เก่าแก่กัมเล บีโบร (สะพานแห่งความสุข)
  • เดินเล่นย่านบริกเก่น (Bakklandet) ย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำ
  • พักที่เมืองทรอนด์เฮม

วันที่ 9: ทรอนด์เฮม – ออสโล – เดินทางกลับ

  • บินภายในประเทศสู่ออสโล
  • ต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 10: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม