Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Northernlight Roadtrip Scandinavia

ทัวร์โลโฟเทน ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน

ทัวร์โลโฟเทน
ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน
สรุปไฮไลท์

10 ไฮไลท์สำหรับทริปนอร์เวย์

☀️Haukland Beach (Lofoten): สัมผัสความงามของหาดทรายขาว น้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

☀️หมู่บ้าน Å (Lofoten): เยือนหมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ปลายสุดของเกาะ Lofoten สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม และชมทัศนียภาพอันงดงามของฟยอร์ด

☀️หมู่บ้านโบราณ Nusfjord (Lofoten): ย้อนเวลาสู่หมู่บ้านชาวประมงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุด ชมบ้านไม้สีสันสดใส และเรียนรู้ประวัติศาสตร์การประมง

☀️หมู่บ้าน Reine (Lofoten): ชมหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของ Lofoten มีบ้านสีแดงสดตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะ

☀️สะพาน Reinebrua (Lofoten): เก็บภาพความประทับใจกับสะพานที่เชื่อมระหว่างเกาะ เป็นจุดชมวิวพาโนรามาที่สวยงามของ Reine

☀️Hamnøy (Lofoten): ถ่ายภาพกระท่อมชาวประมงสีแดงสดบนโขดหิน ซึ่งเป็น Landmark สำคัญและเป็นภาพสัญลักษณ์ที่โด่งดังของ Lofoten

☀️Henningsvær (Lofoten): เยี่ยมชมเมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่มีชีวิตชีวา มีสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ริมทะเลอย่างโดดเด่น

☀️Lofotr Viking Museum (Borg): เรียนรู้เรื่องราวและประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้ง ผ่านการจัดแสดงโบราณวัตถุ และชมบ้านไวกิ้งจำลองขนาดใหญ่

☀️Arctic Cathedral (Tromsø): ตื่นตาตื่นใจกับมหาวิหารที่มีรูปทรงทันสมัยคล้ายภูเขาน้ำแข็ง เป็นสัญลักษณ์ของเมืองทรอมโซ

☀️ยอดเขา Storsteinen (Tromsø): ชมวิวเมืองทรอมโซ ฟยอร์ด และภูเขาโดยรอบแบบ 360 องศา จากจุดชมวิวบนยอดเขา

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 119,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 20 – 28 กย 68 
    • 11 – 19 ตค 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – Oslo

  • เดินทางจากกรุงเทพฯ สู่กรุง Oslo เมืองหลวงของนอร์เวย์

วันที่ 2: Oslo – Leknes (Lofoten)

  • Uttakleiv Beach: หาดหินกลมอันเป็นเอกลักษณ์ มีชื่อเสียงจากความสวยงามและเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม
  • Haukland Beach: หาดทรายขาวบริสุทธิ์ น้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

วันที่ 3: Lofoten

  • หมู่บ้าน Å: หมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ปลายสุดของเกาะ Lofoten สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม
  • พิพิธภัณฑ์ปลาคอด (Lofoten Stockfish Museum): เรียนรู้ประวัติและความสำคัญของการทำปลาคอดตากแห้ง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ Lofoten
  • หมู่บ้านโบราณ Nusfjord: หมู่บ้านชาวประมงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุด ชมบ้านไม้สีสันสดใสและโรงงานน้ำมันตับปลาคอดเก่าแก่
  • Hamnøy: หมู่บ้านที่มีกระท่อมชาวประมงสีแดงสดริมน้ำ เป็นภาพสัญลักษณ์ที่โด่งดังของ Lofoten

วันที่ 4: Lofoten

  • หมู่บ้าน Reine: หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่สวยงาม มีบ้านสีแดงสดตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาหิมะ
  • สะพาน Reinebrua: สะพานที่เชื่อมระหว่างเกาะ เป็นจุดชมวิวพาโนรามาที่สวยงามของ Reine
  • จุดชมวิว (Reine): ขึ้นไปยังจุดที่สูงขึ้นเพื่อชมทัศนียภาพแบบกว้างไกลของฟยอร์ดและ Lofoten
  • หมู่บ้านสีเหลือง Sakrisøy: หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบ้านทาสีเหลืองสดใสเป็นเอกลักษณ์
  • Hamnøy: กลับมาถ่ายภาพกระท่อมสีแดงบนโขดหิน ซึ่งเป็น Landmark สำคัญของ Lofoten

วันที่ 5: Lofoten – Svolvær

  • Ramberg Beach: หาดทรายสีขาวละเอียด ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าครามและบ้านสีแดง
  • สะพานข้ามเกาะ Fredvang: สะพานที่มีลักษณะโค้งคล้ายกับ Atlantic Ocean Road เป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงาม
  • Henningsvær: เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงมีชีวิตชีวา มีสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ริมทะเลอย่างโดดเด่น
  • Svolvær: เมืองหลักของ Lofoten มีท่าเรือที่คึกคักและเป็นศูนย์กลางการเดินทาง

วันที่ 6: Borg – Harstad

  • Lofotr Viking Museum (Borg): พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวและโบราณวัตถุเกี่ยวกับชาวไวกิ้ง มีบ้านไวกิ้งจำลองขนาดใหญ่
  • ภูเขาเคิปเพน (Keipen) (Harstad): ภูเขาที่สูงที่สุดในเมือง Harstad สามารถมองเห็นวิวเมืองและสภาพแวดล้อมโดยรอบ
  • Kasfjord City – Mini Town (Harstad): เมืองจำลองขนาดเล็กที่มีอาคารต่างๆ กว่า 100 หลัง
  • Trondenes Church (Harstad): โบสถ์ยุคกลางที่สวยงาม ตั้งอยู่บนแหลม Trondenes

วันที่ 7: Harstad – Tromsø

  • Tromsø Cathedral: โบสถ์ไม้ที่เก่าแก่และมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในเมืองทรอมโซ
  • Arctic Cathedral (Tromsdalen Church): มหาวิหารที่มีรูปทรงทันสมัยคล้ายภูเขาน้ำแข็ง เป็นสัญลักษณ์ของทรอมโซ
  • ยอดเขา Storsteinen (Fjellheisen): ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อชมวิวเมืองทรอมโซ ฟยอร์ด และภูเขาโดยรอบแบบ 360 องศา
  • อ่าวและท่าเรือ (Tromsø): บริเวณที่มีชีวิตชีวา มีบ้านเรือนสีสันสดใสและร้านค้าต่างๆ

วันที่ 8: Tromsø – Oslo – กรุงเทพฯ

  • เดินทางจากทรอมโซกลับสู่กรุง Oslo เพื่อต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 9: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Roadtrip Scandinavia

ทัวร์นอร์เวย์ ล่าแสงเหนือโลโฟเทน-ล่องฟยอร์ดฟลอม

ทัวร์นอร์เวย์
ล่าแสงเหนือโลโฟเทน-ล่องฟยอร์ดฟลอม
สรุปไฮไลท์

10 ไฮไลท์ทริปนอร์เวย์

☀️หมู่บ้าน Hamnøy และ Reine – กระท่อมชาวประมงสีแดงสดตัดกับภูเขาสูงตระหง่านและฟยอร์ดสีคราม สร้างภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของโลโฟเทนที่สวยงามที่สุด

☀️หาดทราย Ramberg และ Uttakleiv – หาดทรายขาวและน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น พร้อมหาดหินกลมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโลโฟเทน

☀️หมู่บ้าน Sakrisøy – หมู่บ้านสีเหลืองสดใสแห่งเดียวในโลโฟเทน ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ สร้างความแตกต่างจากบ้านสีแดงทั่วไปในภูมิภาคนี้

☀️เมือง Tromsø – “ประตูสู่ดินแดนอาร์กติก” และจุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มหาวิหาร Arctic Cathedral ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น

☀️รถไฟสาย Flåmsbana – การเดินทางบนเส้นทางรถไฟที่ชันและงดงามที่สุดในยุโรป ลัดเลาะผ่านภูเขา หุบเขา และน้ำตก ชมทัศนียภาพที่เปลี่ยนไปตลอดเส้นทาง

☀️Stegastein Viewpoint – จุดชมวิวที่ยื่นออกไป 30 เมตรเหนือ Aurlandsfjord ที่ความสูง 650 เมตร มอบทัศนียภาพพาโนรามาของฟยอร์ดที่น่าทึ่ง

☀️การล่องเรือชม Nærøyfjord – สัมผัสฟยอร์ดที่แคบที่สุดและงดงามที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ล้อมรอบด้วยผาหินสูงชันและน้ำตกที่ไหลลงสู่ผืนน้ำสีมรกต

☀️น้ำตก Tvindefossen – น้ำตกสูงประมาณ 150 เมตร ที่มีความงดงามตามธรรมชาติ

☀️Bryggen ในเมือง Bergen – อาคารไม้โบราณสีสันสดใสริมอ่าวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สะท้อนประวัติศาสตร์การค้าในยุคฮันเซียติก

☀️Mount Fløyen – ชมจุดชมวิวที่สูง 320 เมตรเหนือเมือง Bergen มองเห็นวิวเมืองแลท่าเรือ

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 129,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 19 – 28 กย. 68
    • 11 – 19 ตค. 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

bergen
lofoten
lofoten

โปรแกรมทริป นอร์เวย์ -ล่าแสงเหนือโลโฟเทน-ล่องฟยอร์ดฟลอม

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – ออสโล

  • พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางสู่ออสโล ประเทศนอร์เวย์
  • เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางสู่ดินแดนแห่งฟยอร์ดและแสงเหนือ

วันที่ 2: ออสโล – Leknes – Hamnøy

  • เดินทางถึงออสโล จากนั้นบินภายในประเทศสู่เมือง Leknes ประตูสู่หมู่เกาะโลโฟเทน
  • Uttakleiv และ Haukland Beach – หาดหินกลมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยหินรูปหัวใจที่มีชื่อเสียง ท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาอันตระการตา
  • Ramberg Beach – หาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ ตัดกับน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ ฉากหลังเป็นบ้านแดงสดใส สร้างภาพที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม
  • เข้าพักที่หมู่บ้าน Hamnøy หมู่บ้านประมงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่เกาะโลโฟเทน ด้วยกระท่อมแดงริมน้ำและฉากหลังเป็นภูเขาสูงตระหง่าน

วันที่ 3: หมู่บ้าน Å – Nusfjord – Reine – Hamnøy

  • หมู่บ้าน Å (ออกเสียงว่า “ออ”) – หมู่บ้านชาวประมงที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนบนหมู่เกาะโลโฟเทน เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์การประมงของภูมิภาค
  • Nusfjord – หมู่บ้านชาวประมงโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุดในนอร์เวย์ ด้วยกระท่อมไม้สีแดงเรียงรายริมท่าเรือ และพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์การประมง
  • Reine – หมู่บ้านชาวประมงที่โด่งดังที่สุดของโลโฟเทน ด้วยทัศนียภาพของกระท่อมสีแดงตัดกับฟยอร์ดสีคราม และภูเขาสูงชัน
  • จุดชมวิวสะพาน Reinebrua – ชมวิวพาโนรามาอันงดงามของฟยอร์ดและหมู่บ้านโลโฟเทนจากมุมสูง
  • พักค้างคืนที่ Hamnøy

วันที่ 4: Sakrisøy – Fredvang – Henningsvær – Harstad

  • Sakrisøy – หมู่บ้านที่โดดเด่นด้วยบ้านสีเหลืองสดใสแห่งเดียวในโลโฟเทน ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ มีร้านขายของที่ระลึกและอาหารทะเลแห้งแบบดั้งเดิม
  • สะพานข้าม Fredvang – สะพานเชื่อมเกาะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนอร์เวย์ คล้ายกับ Atlantic Ocean Road สร้างขึ้นในปี 1988 ทอดยาวข้ามทะเลอันกว้างใหญ่
  • Henningsvær – “เวนิสแห่งโลโฟเทน” เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงคึกคักด้วยกิจกรรมประมง มีร้านค้า แกลเลอรี่ และสนามฟุตบอลริมทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก
  • เดินทางสู่เมือง Harstad เพื่อพักค้างคืน

วันที่ 5: Harstad – Tromsø

  • เดินทางจาก Harstad สู่เมือง Tromsø – “ประตูสู่ดินแดนอาร์กติก” และเมืองที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
  • City Tour – เที่ยวชมเมือง Tromsø ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์เหนือ
  • Arctic Cathedral – โบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นคล้ายภูเขาน้ำแข็ง
  • Tromsø Harbor – ท่าเรือที่สวยงามให้บรรยากาศผ่อนคลาย
  • Polaria – พิพิธภัณฑ์และศูนย์แสดงเกี่ยวกับเขตอาร์กติก
  • พักค้างคืนที่ Tromsø และชมแสงเหนือ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

วันที่ 6: Tromsø – Bergen – Voss

  • ช่วงเช้าสำรวจเมือง Tromsø เพิ่มเติม
  • บินภายในประเทศสู่เมือง Bergen – เมืองมรดกโลกริมอ่าวที่สวยงาม
  • เดินทางต่อไปยังเมือง Voss – เมืองเล็กๆ ในเขต Hordaland ที่โอบล้อมด้วยภูเขา ทะเลสาบ และน้ำตก เป็นศูนย์กลางกีฬาผจญภัย
  • พักค้างคืนที่ Voss

วันที่ 7: Flåmsbana – Myrdal – Flåm – Nærøyfjord – Voss

  • Flåmsbana – นั่งรถไฟสายโรแมนติกที่ชันและงดงามที่สุดในยุโรป ลัดเลาะขุนเขาและหุบเขาลึก
  • Myrdal – สถานีรถไฟบนภูเขาที่เชื่อมต่อระหว่าง Flåmsbana กับรถไฟสาย Bergen
  • Flåm – หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ส่วนในสุดของ Aurlandsfjord ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของฟยอร์ดที่ยาวและลึกที่สุดในโลก
  • Stegastein Viewpoint – จุดชมวิวที่ยื่นออกไป 30 เมตรเหนือ Aurlandsfjord ที่ความสูง 650 เมตร ให้ทัศนียภาพแบบพาโนรามาที่น่าทึ่ง
  • ล่องเรือ Nærøyfjord – ชมฟยอร์ดที่แคบที่สุดและงดงามที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
  • น้ำตก Tvindefossen – น้ำตกสูงประมาณ 150 เมตร มีความงดงามตามธรรมชาติและเชื่อกันว่ามีพลังในการรักษาโรค
  • กลับมาพักที่ Voss

วันที่ 8: Voss – Bergen

  • เดินทางกลับสู่เมือง Bergen – เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของนอร์เวย์
  • Bryggen – เยี่ยมชมอาคารไม้โบราณสีสันสดใสเรียงรายริมอ่าว ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
  • Bryggen Wharf – เดินเล่นบริเวณท่าเรือเก่าแก่ที่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญของยุโรปเหนือ ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์
  • Mount Fløyen – นั่งรถรางไต่ภูเขาสู่จุดชมวิวที่สูง 320 เมตร มองเห็นวิวพาโนรามาของเมือง Bergen ทะเล และฟยอร์ดโดยรอบ
  • พักค้างคืนที่ Bergen

วันที่ 9: Bergen – ออสโล – กรุงเทพฯ

  • บินภายในประเทศสู่ ออสโล
  • เดินทางกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 10: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความทรงจำอันแสนประทับใจ
Categories
09-Sep 10-Oct 2024 Roadtrip Scandinavia Tour

แลปแลนด์ & โลโฟแทน

Finland Lapland
สรุปไฮไลท์

☀️รวมสองสุดยอดประเทศที่ไปดูแสงเหนือไว้ด้วยกัน

☀️ชมแสงเหนือ (Aurora Borealis) – ปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

☀️พัก Igloo Glass House  – นอนชมดาวและแสงเหนือบนเตียงอุ่นๆ

☀️นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ – กิจกรรมวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวซามิ

☀️เยือนหมู่บ้านซานตาคลอส – พบซานตาตัวจริงและส่งโปสการ์ดจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล

☀️ขึ้นกระเช้า Fjellheisen – ชมวิวพาโนรามาของเมืองทรอมโซและฟยอร์ด

☀️เยือน Henningsvaer – “เวนิสแห่งโลโฟเทน” หมู่บ้านชาวประมงสวยงาม

☀️ชมหมู่บ้าน Reine – หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์

☀️จุดถ่ายรูปสะพาน Hamnoy – แลนด์มาร์คอันเป็นสัญลักษณ์ของโลโฟเทน

☀️ชายหาดอาร์กติกสุดพิเศษ – Uttakleiv และ Haukland Beach

☀️หมู่บ้านโบราณ Nusfjord – สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวโลโฟเทน

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 139,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป .......

วันที่ 1: จุดเริ่มต้นการผจญภัยในดินแดนแสงเหนือ

  • สนามบินสุวรรณภูมิ, กรุงเทพฯ – จุดเริ่มต้นของการเดินทางอันน่าตื่นเต้น
  • เดินทางสู่ Ivalo, แลปแลนด์, ฟินแลนด์ – เมืองเล็กๆ ที่เป็นประตูสู่ดินแดนแห่งแสงเหนือและกิจกรรมในฤดูหนาว

วันที่ 2: สัมผัสวัฒนธรรมซามิและโดมแก้วใต้แสงเหนือ

  • เดินทางสู่หมู่บ้านทางเหนือของฟินแลนด์ – ดินแดนที่เงียบสงบและมีวัฒนธรรมชาวซามิ (Sami)
  • ขี่กวางเรนเดียร์ – พาหนะดั้งเดิมของชาวแลปป์ สัมผัสความอบอุ่นและความน่ารักของกวางเรนเดียร์
  • เข้าพักที่ Kakslauttanen Arctic Resort, Saariselkä – ที่พักโดมแก้วให้คุณนอนชมแสงเหนือจากเตียงอุ่นๆ

วันที่ 3: ดินแดนซานตาคลอสและวงกลมอาร์กติก

  • โบสถ์ Rovaniemi, ฟินแลนด์ – โบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นพร้อมภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่
  • Santa Claus Village, Rovaniemi – หมู่บ้านซานตาคลอสอย่างเป็นทางการ พบกับซานตาคลอสและส่งโปสการ์ดจาก Arctic Circle Post Office
  • จุดตัดเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล – ถ่ายรูปที่เส้นแบ่งเขตขั้วโลกเหนือที่ 66°33′39″ เหนือ

วันที่ 4: ทรอมโซ – เมืองหลวงแห่งแสงเหนือ

  • บินสู่เมือง Tromso, นอร์เวย์ – เมืองที่มีชีวิตชีวา ขึ้นชื่อว่าเป็น “ประตูสู่ขั้วโลกเหนือ” ตั้งอยู่ใต้ Aurora Oval
  • กระเช้าไฟฟ้า Fjellheisen – พาขึ้นไปยัง Storsteinen ที่สูง 421 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชมวิวพาโนรามาของเมือง

วันที่ 5: เดินทางสู่หมู่เกาะโลโฟเทน

  • เมือง Evenes, นอร์เวย์ – เมืองเล็กๆ ในภูมิภาค Nordland เป็นจุดพักและเปลี่ยนถ่ายไปยังโลโฟเทน
  • Svolvaer, หมู่เกาะโลโฟเทน – เมืองใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางของหมู่เกาะที่มีความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง

วันที่ 6: หมู่บ้านชาวประมงและชายหาดงดงาม

  • Henningsvaer – หมู่บ้านชาวประมงบนเกาะเล็กๆ ได้รับขนานนามว่าเป็น “เวนิสแห่งโลโฟเทน” มีบ้านสีแดงสดใส
  • Uttakleiv Beach – ชายหาดชื่อดังด้วยทรายขาวและหินกลมมนกระจายทั่วหาด
  • Haukland Beach – ชายหาดสวยงามด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามและทรายขาวละเอียด

วันที่ 7: หมู่บ้านโบราณและจุดชมวิวแลนด์มาร์ค

  • Nusfjord – หมู่บ้านชาวประมงโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดี มีบ้านไม้เก่าแก่สีเหลือง
  • Reine – หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่มีทัศนียภาพงดงามราวภาพวาด ถูกยกให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์
  • Sakrisoy – หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบ้านสีเหลืองสดใสบนเกาะเล็กๆ ที่เชื่อมต่อด้วยสะพาน
  • Hamnoy – จุดชมวิวแลนด์มาร์คที่มีสะพาน Hamnoy เชื่อมระหว่างเกาะ พร้อมวิวภูเขา Olstind อันเป็นสัญลักษณ์

วันที่ 8: เดินทางกลับ

  • บินจาก Evenes สู่ Oslo, นอร์เวย์ – ออกจากดินแดนแห่งความงามของโลโฟเทนสู่เมืองหลวง
  • ต่อเครื่องบินกลับประเทศไทย – เตรียมตัวเดินทางกลับพร้อมความทรงจำอันล้ำค่า

วันที่ 9: กลับถึงบ้าน

  • เดินทางถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ – กลับถึงบ้านพร้อมความทรงจำพิเศษจากทริปแสงเหนือและโลโฟเทนม

Categories
09-Sep 2024 North America Roadtrip

ทัวร์แคนาดาแกรนด์ Lake louise • Moraine • Icefield • Niagara

ทัวร์แคนาดาแกรนด์
Lake louise • Moraine • Icefield • Niagara
สรุปไฮไลท์

☀️Lake Louise: ดื่มด่ำความงดงามของทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ราวภาพวาด ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาสูงและธารน้ำแข็งวิคตอเรีย

☀️Moraine Lake: ตื่นตาตื่นใจกับทะเลสาบสีฟ้าสดใสสะท้อนเงาภูเขาอันยิ่งใหญ่ เป็นอีกหนึ่งภาพที่ตราตรึงใจ

☀️Icefields Parkway: ขับรถชมวิวบนเส้นทางที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก เลียบธารน้ำแข็งโคลัมเบีย สัมผัสความอลังการของธรรมชาติ

☀️Columbia Icefield Skywalk: เดินชมทัศนียภาพเหนือธารน้ำแข็งโบราณ สัมผัสความยิ่งใหญ่ของผืนน้ำแข็งที่ปกคลุมเทือกเขา

☀️Jasper SkyTram: ขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขา Whistlers ชมวิวแบบพาโนรามาของอุทยานแห่งชาติแจสเปอร์แบบเต็มตา

☀️Banff Gondola: นั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขา Sulphur Mountain สัมผัสวิวเมืองแบนฟ์และเทือกเขาร็อกกี้แบบ 360 องศา

☀️น้ำตกไนแอการา: สัมผัสความยิ่งใหญ่ของหนึ่งในน้ำตกที่สวยงามและทรงพลังที่สุดในโลก พร้อมล่องเรือชมความงามอย่างใกล้ชิด

☀️Niagara-on-the-Lake: เยือนหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ริมทะเลสาบ Ontario สัมผัสบรรยากาศโรแมนติกและสถาปัตยกรรมสวยงาม

☀️Emerald Lake: พบกับทะเลสาบสีเขียวมรกตที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติโยโฮ งดงามราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย

☀️วิวเทือกเขาร็อกกี้: ตลอดการเดินทาง คุณจะได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาร็อกกี้ สลับสับเปลี่ยนทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบ ภูเขา และธารน้ำแข็ง

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 129,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 25 กย – 4 ตค 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Place
Place
Place

โปรแกรมทริป แคนาดา

วันที่ 1: สู่แวนคูเวอร์…ประตูสู่ความงามแคนาดา

  • พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางข้ามทวีป สู่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

วันที่ 2: ทะเลสาบสีมรกตแห่งเทือกเขาร็อกกี้

  • บินจากแวนคูเวอร์สู่เมืองคัลการี (Calgary)
  • เดินทางสู่ Lake Louise สัมผัสความงดงามของทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและธารน้ำแข็งวิคตอเรีย
  • เข้าพัก ณ Lake Louise

วันที่ 3: มนต์เสน่ห์แห่งทะเลสาบและทางโค้งประวัติศาสตร์

  • เยือน Moraine Lake ทะเลสาบสีฟ้าสดใสราวภาพวาด สะท้อนเงาภูเขาสูงตระหง่าน
  • แวะชม Morant’s Curve ทางโค้งรถไฟ 300 เมตร ที่ตัดผ่านเทือกเขาร็อกกี้ เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายภาพที่สวยงาม
  • สำรวจ Emerald Lake ทะเลสาบสีเขียวมรกตที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติโยโฮ (Yoho National Park)
  • พักที่ Lake Louise

วันที่ 4: ขับรถชมวิวเลียบธารน้ำแข็ง สู่เมืองแจสเปอร์

  • ชื่นชม Peyto Lake ทะเลสาบสีฟ้าน้ำนมอันเป็นเอกลักษณ์
  • เก็บภาพความประทับใจ ณ Herbert Lake จุดถ่ายรูปคลาสสิกกับฉากหลังของ Mount Temple
  • สัมผัสประสบการณ์บน Columbia Icefield Skywalk เดินชมทัศนียภาพเหนือธารน้ำแข็งโบราณ
  • ขับรถบน Icefields Parkway หนึ่งในเส้นทางที่สวยที่สุดในโลก มุ่งหน้าสู่เมืองแจสเปอร์ (Jasper)
  • เข้าพักที่เมืองแจสเปอร์ เมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ในอุทยานแห่งชาติจัสเปอร์

วันที่ 5: ทะเลสาบรูปพีระมิดและกระเช้าสู่ยอดเขา

  • เยี่ยมชม Pyramid Lake ทะเลสาบสวยงามที่มีเกาะรูปพีระมิดตั้งอยู่เชิงเขา Pyramid Mountain
  • ล่องเรือชมความงามของ Maligne Lake ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาร็อกกี้
  • ขึ้นกระเช้า Jasper SkyTram สู่ยอดเขา Whistlers สัมผัสวิวแบบพาโนรามาของอุทยานฯ
  • พักที่ Jasper

วันที่ 6: พลังแห่งสายน้ำและหุบเขาเก่าแก่

  • ตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่ของ Athabasca Falls น้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในเทือกเขาร็อกกี้
  • ชมความสวยงามของ Sunwapta Falls น้ำตกคู่ที่ไหลลงสู่แม่น้ำ Sunwapta
  • เดินทางสู่ Banff เมืองในหุบเขาเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี
  • พักที่ banff

วันที่ 7: วิวพาโนรามาและทะเลสาบยาวที่สุด

  • นั่งกระเช้า Banff Gondola ขึ้นสู่ยอดเขา Sulphur Mountain ชมวิวเมืองแบนฟ์และเทือกเขาร็อกกี้แบบ 360 องศา
  • ล่องเรือใน Lake Minnewanka ทะเลสาบน้ำจืดที่ยาวที่สุดในเทือกเขาร็อกกี้
  • แวะชม Canmore เมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ใกล้กับแบนฟ์ เป็นที่นิยมของนักปีนเขา
  • เดินทางสู่ calgary

วันที่ 8: สู่โตรอนโต…มนต์เสน่ห์แห่งไนแอการา

  • บินจากคัลการีสู่เมืองโตรอนโต (Toronto)
  • เดินทางสู่ Niagara on the Lake หมู่บ้านเก่าแก่ที่สวยงามของรัฐออนแทรีโอ
  • สัมผัสความยิ่งใหญ่ของ น้ำตก Niagara หนึ่งในน้ำตกที่สวยงามและทรงพลังที่สุดในโลก
  • ล่องเรือ Hornblower Niagara Cruises เพื่อชมน้ำตกไนแอการาอย่างใกล้ชิด
  • พักที่ Niaggara

วันที่ 9: ช้อปปิ้งและเตรียมตัวเดินทางกลับ

  • เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่ Outlet Collection at Niagara ศูนย์รวมร้านค้าปลอดภาษีขนาดใหญ่
  • เดินทางสู่สนามบิน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

วันที่ 10: เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ พร้อมความทรงจำอันแสนประทับใจจากทริปแคนาดา
Categories
07-Jul 08-Aug 09-Sep Africa

ทัวร์มาดากัสการ์ ดินแดนดึกดำบรรพ์ เบาบับ และ เลมูร์

ทัวร์มาดากัสก้า
ดินแดนดึกดำบรรพ์ เบาบับ และ เลมูร์
สรุปไฮไลท์

☀️พระอาทิตย์ขึ้น-ตกที่ Avenue of the Baobabs
ชมต้นเบาบับยักษ์อายุ 800 ปี สูง 30 เมตร เรียงราย ท่ามกลางแสงทองยามเช้าและเย็น สัญลักษณ์อันโดดเด่นของมาดากัสการ์

☀️ผจญภัยใน Great Tsingy
เดินบนสะพานแขวนและบันไดท่ามกลางป่าหินปูนแหลมคมที่ธรรมชาติสร้างขึ้นนับล้านปี มรดกโลกที่ไม่เหมือนที่ใด

☀️ล่องเรือแม่น้ำมานัมโบโล
สัมผัสวิถีชาวประมงท้องถิ่น ชมสัตว์หายาก จระเข้ไนล์ และนกประจำถิ่น บนเรือไม้แบบดั้งเดิม

☀️พบลิงเลมูร์ในถิ่นกำเนิด
ดูสัตว์หายากเฉพาะถิ่นที่มีเพียงในมาดากัสการ์ โดยเฉพาะลิงเลมูร์หลากสายพันธุ์ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ

☀️สำรวจถ้ำโบราณ
ชมภาพเขียนอายุหลายพันปีในถ้ำที่เคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์

☀️เดินทางผ่านภูมิประเทศหลากหลาย
สัมผัสเส้นทางผจญภัยข้ามแม่น้ำ ป่าเขตร้อน ทุ่งหญ้าสะวันนา และภูเขา ในการเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง

☀️พบชนเผ่าซาคาลาวา
เรียนรู้วิถีชีวิตชนพื้นเมืองที่ยังรักษาประเพณีดั้งเดิมมานับพันปี

☀️อาหารท้องถิ่นเอกลักษณ์
ลิ้มรสอาหารผสมผสานวัฒนธรรมแอฟริกา เอเชีย และยุโรป เช่น “โรวาซา” และ “ลาสารี”

☀️พระราชวัง Rova
เยี่ยมชมพระราชวังบนยอดเขาที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของราชวงศ์เมรินา พร้อมวิวเมืองหลวงแบบพาโนรามา

☀️ช้อปปิ้งงานฝีมือที่ตลาด Analakely
เลือกซื้องานแกะสลักไม้ ผ้าไหมทอมือ และเครื่องเงินลวดลายโบราณที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวมาลากาซี

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • สอบถามทีมงาน 
  • วันเดินทาง  
    • 1 – 10 พย. 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น

Place

โปรแกรมทริปมาดากัสก้า

วันที่ 1 – เริ่มต้นการผจญภัย

  • 21:00 น. – พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เตรียมตัวสู่ดินแดนที่แปลกตาที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
  • เที่ยวบิน: ET629 เวลา 01:50-06:30 น. (แวะเปลี่ยนเครื่องที่แอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย)
  •  ต่อเที่ยวบิน ET853 เวลา 08:50-13:40 น. สู่อันตานานาริโว ประตูสู่โลกที่ถูกแยกจากแผ่นดินใหญ่มากว่า 88 ล้านปี

วันที่ 2 – สัมผัสแรกกับดินแดนลึกลับ

  • เดินทางถึงอันตานานาริโว เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 1,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
  • เช็คอินที่โรงแรม พักผ่อนหลังการเดินทางไกล สัมผัสบรรยากาศเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมแอฟริกา เอเชีย และยุโรปอย่างลงตัว

วันที่ 3 – สู่ดินแดนต้นเบาบับอันน่าทึ่ง

  • บินภายในประเทศ จากอันตานานาริโวสู่มอรอนดาวา เมืองประตูสู่ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
  • ชม Avenue of the Baobabs – ถนนสายมหัศจรรย์ที่มีต้นเบาบับยักษ์อายุกว่า 800 ปี สูงถึง 30 เมตร เรียงรายราวกับยามรักษาการณ์ดึกดำบรรพ์ ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันจะมาเยือนสักครั้งในชีวิต

วันที่ 4 – เส้นทางสู่มรดกโลกอันซ่อนเร้น

  • ตื่นเช้าตรู่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Avenue of the Baobabs สัมผัสแสงทองแรกของวันที่ทาบทาลงบนเงาต้นเบาบับอันเป็นภาพที่น่าจดจำไปชั่วชีวิต
  • เดินทางสู่เบโกปากา (Bekopaka) ด้วยการนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อลุยข้ามแม่น้ำถึง 2 สาย ผ่านภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
  • ผ่านป่าเขตร้อนชื้น ทุ่งหญ้าสะวันนา และหมู่บ้านชนเผ่าซาคาลาวา ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมมานับพันปี

วันที่ 5 – สำรวจโลกหินปูนและแม่น้ำสายประวัติศาสตร์

  • สำรวจ Small Tsingy ป่าหินปูนประหลาดที่ธรรมชาติใช้เวลานับล้านปีสร้างสรรค์ผ่านการกัดเซาะของลมและฝน
  • ล่องเรือไม้แบบดั้งเดิมในแม่น้ำมานัมโบโล ชมนกและสัตว์หายากที่อาศัยริมฝั่ง พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมงท้องถิ่น
  • สำรวจถ้ำโบราณ ที่เคยเป็นที่พำนักของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ ชมภาพเขียนอายุนับพันปีที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คนที่อาศัยในพื้นที่นี้ก่อนที่จะมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร

วันที่ 6 – มรดกโลก Tsingy อันยิ่งใหญ่

  • ชม Great Tsingy หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่หาที่เปรียบไม่ได้ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO
  • ผจญภัยกับเส้นทางเดินเท้าที่ท้าทายผ่านสะพานแขวน บันไดเหล็ก และช่องแคบระหว่างแท่งหินคมกริบสูงตระหง่าน
  • สัมผัสระบบนิเวศอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีพืชและสัตว์เฉพาะถิ่นที่ปรับตัวให้อยู่รอดในสภาพแวดล้อมสุดโหด พบกับลิงเลมูร์ กิ้งก่าแคมีเลียน และพืชหายากที่เติบโตท่ามกลางซอกหินอันแห้งแล้ง

วันที่ 7 – เดินทางกลับผ่านทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่

  • เดินทางกลับสู่มอรอนดาวาด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ตื่นตากับ
  • ทัศนียภาพอันงดงามของทุ่งหญ้าสะวันนา
  • ชมสัตว์พื้นเมืองหายากในระหว่างทาง เช่น นกกระเรียนมงกุฎเทา สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กอย่างเทนเร็ค

วันที่ 8 – สำรวจเมืองหลวงและประวัติศาสตร์

  • บินกลับอันตานานาริโว เมืองที่มีความหมายว่า “เมืองแห่งพันภูเขา”
  • เที่ยวชมเมืองหลวงที่แบ่งเป็นสามระดับความสูง
  • Lower Town – แหล่งการค้าและตลาดพื้นเมืองที่คึกคัก สัมผัสชีวิตประจำวันของชาวมาลากาซี
  • Mid Town – ย่านธุรกิจและศูนย์ราชการที่ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมจากยุคอาณานิคมฝรั่งเศส
  • Upper Town – พระราชวังเก่าและจุดชมวิวที่มองเห็นเมืองในมุมสูง
  • เยี่ยมชมพระราชวัง Rova อดีตที่ประทับของราชวงศ์เมรินา ก่อนถูกไฟไหม้และบูรณะใหม่ สัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชาวมาดากัสการ์

วันที่ 9 – สัมผัสวัฒนธรรมและงานศิลปะท้องถิ่น

  • อิสระเดินเล่นและช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง เลือกซื้องานฝีมือแกะสลักไม้อันประณีต เครื่องเงินลวดลายโบราณ และผ้าไหมมาดากัสการ์ที่ทอมือ
  • เยี่ยมชมตลาด Analakely ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง
  • เดินทางสู่สนามบินนานาชาติอิวาโต พร้อมความทรงจำอันแสนพิเศษจากดินแดนที่เป็นเหมือนโลกอีกใบ

วันที่ 10 – กลับสู่บ้านพร้อมความประทับใจ

  • 15:00 น. – ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมภาพความทรงจำและเรื่องราวมากมายจากดินแดนที่แปลกตาที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
Categories
07-Jul 09-Sep 2024 FullBoard Mid Asia

kyrgyzstan

Kyrgistan
เสน่ห์คีร์กีซสถาน ดินแดนเทพนิยายแห่งเอเชียกลาง
สรุปไฮไลท์

☀️ทะเลสาบซองคอล (Song Kol Lake) – ทะเลสาบน้ำจืดอัลไพน์ที่ความสูง 3,016 เมตร พร้อมประสบการณ์พักในกระโจมยูร์ตแบบดั้งเดิม และชมท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านในยามค่ำคืน

☀️หุบเขาสกาซกา (Skazka Canyon) – “หุบเขาเทพนิยาย” ที่มีหินทรายสีแดงและส้มกัดเซาะเป็นรูปทรงแปลกตาคล้ายปราสาท ปีศาจ และสัตว์ต่างๆ เหมือนดินแดนในนิทาน

☀️ทะเลสาบอิสิกกุล (Issyk-Kul Lake) – ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ไม่เคยเยือกแข็งแม้ในฤดูหนาว วิวทะเลสาบสีฟ้าตัดกับเทือกเขาหิมะขาวโพลน

☀️ช่องเขาทูอาชูว์ (Too Ashuu Pass) – เส้นทางข้ามเทือกเขาเทียนซานที่สูงกว่า 3,200 เมตร เปิดวิวพาโนรามาที่น่าทึ่งของภูมิประเทศอันงดงาม

☀️หุบเขาเจตี-โอกุซ (Jeti Oguz Gorge) – “หุบเขาวัวเจ็ดตัว” ที่มีโขดหินทรายสีแดงเรียงกัน 7 แท่ง พร้อมตำนานความรักอันเศร้าสลดและทุ่งดอกไม้ป่าที่สวยงาม

☀️การสาธิตการล่าด้วยนกอินทรี (Eagle Hunting) – ชมศิลปะการล่าสัตว์โบราณของชาวคีร์กีซด้วยนกอินทรีที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่โบคอนบาเยโว

☀️สุเหร่าดังแกน (Dungan Mosque) – สุเหร่าเอกลักษณ์ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนกับอิสลาม สร้างโดยไม่ใช้ตะปู โดดเด่นด้วยหลังคาโค้งสีสันสดใสและการตกแต่งแบบจีน

☀️หอคอยบูราน่า (Burana Tower) – หอมินาเรตโบราณบนเส้นทางสายไหม พร้อมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงรูปสลักหินบาลบัลโบราณของชาวเติร์ก

☀️ประสบการณ์พักในหมู่บ้านกีซีลออย (Kyzyl Oi) – สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวคีร์กีซในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวในหุบเขาแคบ พร้อมลิ้มรสอาหารพื้นเมืองแท้ๆ

☀️มหาวิหารเซนต์ตรีนิตี้ (Holy Trinity Cathedral) – โบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียที่สร้างจากไม้ทั้งหลังโดยไม่ใช้ตะปู โดดเด่นด้วยโดมหัวหอมสีเขียวและสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียที่งดงาม

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ Full Service
✅️ เราทำวีซ่าให้ ไม่ต้องวุ่นวาย
✅️ อาหารทุกมื้อ
✅️ มีหัวหน้าทัวร์คนไทย ถ่ายรูปให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว ในเมือง นอกเมืองเป็นโรงแรมระดับท้องถิ่น เน้นสะอาด ปลอดภัย

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
ไม่รวมทิป

Place

โปรแกรมทริป คีร์กีซสถาน

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – บิชเคก – สัมผัสใจกลางเมือง

  • บิชเคก (Bishkek): เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวาของคีร์กีซสถาน ล้อมรอบด้วยเทือกเขาอลาทอที่สวยงาม เป็นประตูสู่การผจญภัยในดินแดนเอเชียกลาง

  • จัตุรัสโปเบดา (Pobeda Square): จัตุรัสแห่งชัยชนะที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง มีอนุสาวรีย์และแท่งหินหลักอันโดดเด่น

  • สวนสาธารณะดูโบวี (Dubovi Park): สวนสาธารณะเก่าแก่กลางเมืองที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ เป็นที่พักผ่อนยอดนิยมของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

  • จัตุรัสอลาทูว์ (Ala Too Square): จัตุรัสหลักใจกลางเมืองที่เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและการเมือง มีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และรูปปั้นมาเนสผู้เป็นวีรบุรุษแห่งชาติ

วันที่ 2: ข้ามเขา Too Ashuu สู่หมู่บ้าน Kyzyl Oi

  • ช่องเขาทูอาชูว์ (Too Ashuu Pass): เส้นทางข้ามเทือกเขาเทียนซานที่สูงกว่า 3,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เปิดวิวพาโนรามาที่น่าทึ่งของเทือกเขาและหุบเขาเขียวขจี ผ่านอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในเอเชียกลาง

  • หมู่บ้านกีซีลออย (Kyzyl Oi): หมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแคบริมแม่น้ำโคเคเมเรน บ้านเรือนหลังคาสีแดงตัดกับภูเขาสีเขียว สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวคีร์กีซและลิ้มรสอาหารพื้นเมืองแท้ๆ

วันที่ 3: มนต์เสน่ห์แห่งทะเลสาบ Song Kol

  • ทะเลสาบซองคอล (Song Kol Lake): ทะเลสาบน้ำจืดอัลไพน์ที่ความสูง 3,016 เมตร ล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่และเทือกเขาสูง เป็นแหล่งเลี้ยงสัตว์ในฤดูร้อนของชาวคีร์กีซ พักในกระโจมยูร์ตแบบดั้งเดิม สัมผัสดวงดาวนับล้านบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ปราศจากมลพิษทางแสง

วันที่ 4: เสน่ห์เมือง Naryn และการพักผ่อนตามอัธยาศัย

  • เมืองนารีน (Naryn): เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนารีนในหุบเขาลึก เป็นศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดนารีน อากาศเย็นสบายแม้ในฤดูร้อน ชมวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและสงบของผู้คนท้องถิ่น

  • อิสระช่วงเช้า: พักผ่อนหรือเดินเล่นสำรวจพื้นที่โดยรอบที่พัก ซึมซับบรรยากาศธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของภูมิภาคเทียนซาน

วันที่ 5: วิถีชีวิตท้องถิ่น Bokonbayevo

  • โบคอนบาเยโว (Bokonbayevo): เมืองเล็กๆ ริมฝั่งใต้ของทะเลสาบอิสิกกุล เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของชาวคีร์กีซเผ่าบุคุ ชมการสาธิตการล่าด้วยนกอินทรีแบบดั้งเดิม (Eagle Hunting) ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการอนุรักษ์

  • หมู่บ้านโบคอนบาเยโว: เยี่ยมชมบ้านของช่างฝีมือท้องถิ่น เรียนรู้การทอพรม การทำผลิตภัณฑ์จากสักหลาด และงานหัตถกรรมอื่นๆ แบบดั้งเดิม พร้อมชิมขนมและชาพื้นเมือง

วันที่ 6: มหัศจรรย์แห่ง Skazka Canyon และ Jeti Oguz Gorge สู่ Karakol

  • หุบเขาสกาซกา (Skazka Canyon): หรือที่รู้จักในชื่อ “หุบเขาเทพนิยาย” หุบเขาหินทรายสีแดงและส้มที่ถูกกัดเซาะจนมีรูปทรงแปลกตาคล้ายปราสาทในนิทาน ปีศาจ และสัตว์ต่างๆ ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติริมทะเลสาบอิสิกกุล

  • หุบเขาเจตี-โอกุซ (Jeti Oguz Gorge): หรือ “หุบเขาวัวเจ็ดตัว” ชมโขดหินทรายสีแดงขนาดใหญ่เรียงกัน 7 แท่ง คล้ายวัวนอน มีตำนานความรักอันเศร้าสลดเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ เดินชมทุ่งดอกไม้ป่าและลำธารใสเย็น

  • เมืองคาราโคล (Karakol): เมืองสำคัญทางตะวันออกของคีร์กีซสถาน มีประวัติศาสตร์อันยาวนานจากการเป็นฐานทัพของรัสเซียในยุคล่าอาณานิคม ผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลายทั้งคีร์กีซ รัสเซีย จีน และอุยกูร์

วันที่ 7: มรดกทางวัฒนธรรม Karakol และการเดินทางกลับ Bishkek

  • มหาวิหารเซนต์ตรีนิตี้ (Holy Trinity Cathedral): โบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียที่สร้างจากไม้ทั้งหลัง โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว สถาปัตยกรรมแบบรัสเซียที่โดดเด่นด้วยโดมหัวหอมสีเขียว สร้างในปี ค.ศ. 1895 โดยช่างฝีมือชาวรัสเซีย

  • สุเหร่าดังแกน (Dungan Mosque): สุเหร่าที่มีเอกลักษณ์ด้วยการผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนกับอิสลาม สร้างโดยช่างชาวจีนมุสลิม 20 คนในปี ค.ศ. 1910 โดยไม่ใช้ตะปูเช่นกัน หลังคาโค้งสีสันสดใสและการตกแต่งแบบจีนทำให้แตกต่างจากสุเหร่าทั่วไป

  • ทะเลสาบอิสิกกุล (Issyk-Kul Lake): เดินทางเลียบฝั่งเหนือของทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ที่ไม่เคยเยือกแข็งแม้ในฤดูหนาว (“อิสิกกุล” แปลว่า “ทะเลสาบอุ่น”) ชมวิวทะเลสาบสีฟ้าใสขนาบด้วยเทือกเขาหิมะขาวโพลน

  • หอคอยบูราน่า (Burana Tower): หอมินาเรตโบราณสูง 25 เมตร สร้างในศตวรรษที่ 11 เป็นส่วนหนึ่งของเมืองบาลาซากุนโบราณบนเส้นทางสายไหม ชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงรูปสลักหินบาลบัล (Balbals) โบราณของชาวเติร์ก

วันที่ 8: อิสระช้อปปิ้งและเดินทางสู่สนามบิน

  • ตลาดอช (Osh Bazaar): ตลาดพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในบิชเคก เต็มไปด้วยสินค้านานาชนิด ทั้งอาหาร เครื่องเทศ ผลไม้แห้ง งานหัตถกรรม เครื่องเงิน หมวกคีร์กีซแบบดั้งเดิม (Kalpak) และพรมทอมือ

  • จัตุรัสอลาทูว์: แวะเยี่ยมชมจัตุรัสอีกครั้งเพื่อชมพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารที่อนุสรณ์สถานอิสรภาพ

  • เดินทางสู่สนามบิน: เตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ ด้วยความประทับใจ

วันที่ 9: เดินทางถึงกรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมภาพความทรงจำอันแสนประทับใจจากดินแดนเทือกเขาเทียนซานและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของคีร์กีซสถาน

Categories
07-Jul 08-Aug 09-Sep 2024 FullBoard Nepal

Nepal : Madi himal

Nepal : Madi himal
สรุปทริป
☀️ เส้นทาง เนปาลเทรค มาดีหิมาล

☀️ 8 วัน 7 คืน

  • กาฐมาณฑุ
  • หมู่บ้านกานเด
  • เทรคสู่หมู่บ้าน Low Camp
  • เทรคสู่หมู่บ้าน High Camp
  • Mardi Base Camp
  • เทรคไปหมู่บ้านซิดิง
 
รายละเอียด
 
🗓️ เดินทาง 
💰 ค่าทริป
 
 
✅️ Full service ออกกรุ๊ปเมื่อครรบ 10 ท่าน
✅️ เราทำวีซ่าให้ ไม่ต้องแสดงตัว
✅️ รวมอาหารกลางวันและเย็น
✅️ มีหัวหน้าทัวร์คนไทย 
✅️ ที่พักแบบ Tea House  (ห้องน้ำรวม)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมทิป

 
 
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ         บาท ส่วนที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 คุณมิ้นท์/คุณลาน
 
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | สุวรรณภูมิ • กาฐมาณฑุ



วันที่ 2 |
กาฐมาณฑุ • โพครา • หมู่บ้านกานเด • เดวราลี



วันที่ 3 |
เทรคสู่หมู่บ้าน Low Camp (2,990 เมตร)



วันที่ 4 |
เทรคสู่หมู่บ้าน High Camp (3,580 เมตร)



วันที่ 5 |
 เช้าตรู่เดินไป Mardi Base Camp (4500 เมตร) • เทรคไปที่ Low Camp (2990 เมตร)



วันที่ 6 |
เดินเทรคไปหมู่บ้านซิดิง (1,850 เมตร) • เดินทางไปโพครา



วันที่ 7 |
บินภายในกลับกาฐมาณฑุ



วันที่ 8 |
กาฐมาณฑุ • สนามบินกลับกรุงเทพฯ

Categories
09-Sep 2024 North America Roadtrip

USA : Alaska

USA : Alaska
สรุปไฮไลท์

☀️ xxxx
☀️ xxxx

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Place

โปรแกรมทริป อเมริกา อลาสก้า

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

ALASKA
Roadtrip
สรุปทริป
☀️ เส้นทางอลาสก้า Road Trip
☀️ 11 วัน 8 คืน 
☀️ ทะเลสาบ Byers Lake
☀️ อุทยานแห่งชาติ Denali
☀️ ทะเลสาบ Wonder Lake
☀️ Fairbanks
☀️ แวะน้ำพุร้อน Chena Hot Spring
☀️ Summit Lake
☀️ ธารน้ำแข็งโคลัมเบีย
☀️ Alaska Sealife Center
☀️ อุทยานแห่งชาติ Kenai Fjords
☀️ ธารน้ำแข็ง Exit Glacier
 
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง  
💰 ค่าทริป 
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็กๆ 4-5 ท่าน เดินทางโดยรถ mpv
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 3-4 ดาว สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
⛔ ไม่รวมค่าวีซ่า USA
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ        บาท ส่วนที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 คุณมิ้นท์/คุณลาน
 
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | สนามบินสุวรรณภูมิ



วันที่ 2 |
ถึงเมือง Anchorage เดินทางไปชมทะเลสาบ Byers Lake ขับรถไปDenali (ประมาณ 4 ชม)

*พักที่เมือง Denali



วันที่ 3 |
เข้าชมเป็นอุทยานแห่งชาติDenali ชมทะเลสาบ Wonder Lake

*พักที่เมือง Denali



วันที่ 4 |
เดินทางไปเมือง Fairbanks เยี่ยมชมกวางเรนเดียร์ และแวะชมสัตว์ท้องถิ่นที่สถานีวิจัย และแวะน้ำพุร้อน Chena Hot Spring

*พักที่เมือง Fairbanks



วันที่ 5 |
ชม Santa Claus House ทะเลสาบ Summit Lake เยี่ยมชมภูเขาเหมืองทองแดง ชมกลุ่มแนวสันเขา และน้ำตก Horsetail Falls

*พักที่เมือง Fairbanks



วันที่ 6 |
ธารน้ำแข็งโคลัมเบีย และแวะเยี่ยมชมเมือง Valdez 

*พักที่เมือง Valdez



วันที่ 7 |
ธารน้ำแข็ง Matanuska Glacier และกลับเมือง Anchorage เที่ยวชมเมือง

*พักที่เมือง Anchorage



วันที่ 8 |
เดินทางไปยังเมือง Girdwood ชม ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าแห่งอลาสก้า และเข้าชมนิทรรศการ Alaska Sealife Center

*พักที่เมือง Girdwood



วันที่ 9 |
เดินทางไปเมืองซีวอร์ด แวะชมทะเลสาบเคไน เที่ยวอุทยานแห่งชาติ Kenai Fjords

*พักที่เมือง Seward



วันที่ 10 |
เข้าชมธารน้ำแข็ง Exit Glacier

*พักที่เมือง Anchorage



วันที่ 11 |
เดินทางไปยังสนามบินกลับกรุงเทพฯ

error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม