Categories
Uncategorized

ทัวร์อิตาลี ไฮไลท์

ทัวร์อิตาลี ไฮไลท์
โรม ฟลอเรนซ์ ทัสคานี เวนิส มิลาน
สรุปไฮไลท์

☀️ โรม – สัมผัสประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่

  • โคลอสเซียม: สนามกีฬาโบราณขนาดใหญ่ หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ
  • นครวาติกัน: รัฐอิสระที่เล็กที่สุดในโลก พร้อมชมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • หอศิลป์ซิสทีน: ชมภาพเขียนเฟรสโกบนเพดานอันลือชื่อของไมเคิลแองเจโล
  • น้ำพุเทรวี่: น้ำพุที่สวยงามที่สุดในกรุงโรม โยนเหรียญเพื่อให้ได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้ง

☀️ ฟลอเรนซ์ – ศูนย์กลางศิลปะเรอเนสซองส์

  • จัตุรัสไมเคิลแองเจโล: จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองฟลอเรนซ์ได้ทั้งเมือง
  • มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร: มหาวิหารที่มีโดมขนาดใหญ่อันงดงาม
  • พิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี: พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
  • สะพานเวคคิโอ: สะพานเก่าแก่ที่มีร้านขายเครื่องประดับตั้งอยู่ทั้งสองข้าง

☀️ ทัสคานีและปิซ่า

  • ชิมไวน์: เยี่ยมชมไร่องุ่นและโรงบ่มไวน์ในแคว้นทัสคานี พร้อมชิมไวน์ท้องถิ่น
  • หอเอนปิซ่า: ชมหอเอนอันเลื่องชื่อที่จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี

☀️ เวนิส – เมืองแห่งสายน้ำ

  • จัตุรัสซานมาร์โค: จัตุรัสที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
  • ล่องเรือกอนโดลา: สัมผัสประสบการณ์ล่องเรือในคลองเวนิส
  • เกาะบูราโน่: เกาะที่มีบ้านเรือนสีสันสดใสและชื่อเสียงด้านผ้าลูกไม้

☀️ เวโรนา

  • บ้านของจูเลียต: ชมระเบียงบ้านอันโด่งดังจากเรื่องโรมิโอและจูเลียต
  • สนามกีฬาโรมัน: โรงละครกลางแจ้งโบราณที่ยังคงใช้แสดงโอเปร่าในปัจจุบัน

☀️ ทะเลสาบโคโม

  • ล่องเรือชมทะเลสาบ: สัมผัสความงดงามของวิลล่าริมทะเลสาบและทิวทัศน์เทือกเขาแอลป์
  • เมืองเบลลาจิโอ: “ไข่มุกแห่งทะเลสาบโคโม” เมืองสวยริมทะเลสาบ

☀️ มิลาน – เมืองแห่งแฟชั่น

  • มหาวิหารดูโอโม่: มหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป อิตาลี ไฮไลท์

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – โรม

  • ออกเดินทางสู่กรุงโรม โดยสายการบินไทย

วันที่ 2: โรม

  • เดินทางถึงสนามบินฟิอูมิชิโน กรุงโรม ประเทศอิตาลี ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง
  • นำท่านเข้าชม โคลอสเซียม (Colosseum) สนามกีฬาโบราณขนาดใหญ่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ
  • นำชม นครวาติกัน (Vatican City) รัฐอิสระที่เล็กที่สุดในโลก
  • เข้าชม มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Basilica) มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • ชม พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Museum) และ หอศิลป์ซิสทีน (Sistine Chapel) ที่มีภาพเขียนเฟรสโกบนเพดานอันลือชื่อของไมเคิลแองเจโล
  • พักที่โรม

วันที่ 3: โรม – นครวาติกัน

  • ชม จัตุรัสโรมัน (Roman Forum) ศูนย์กลางชีวิตในยุคโรมัน
  • ช่วงบ่าย นำท่านชม น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) น้ำพุที่สวยงามที่สุดในกรุงโรม โยนเหรียญเพื่อให้ได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้ง
  • ชม บันไดสเปน (Spanish Steps) บันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป
  • อิสระให้เดินเล่นย่านบันไดสเปนตามอัธยาศัย
  • พักที่โรม

วันที่ 4: โรม – เซียน่า – ฟลอเรนซ์

  • ออกเดินทางสู่เมือง เซียน่า (Siena) ในแคว้นทัสคานี (ระยะทาง 230 กม.)
  • เมื่อถึงเซียน่า นำท่านชม จัตุรัสเดล คัมโป (Piazza del Campo) ที่เป็นรูปทรงคล้ายเกือกม้าที่เป็นเอกลักษณ์
  • ชม มหาวิหารเซียน่า (Siena Cathedral) สถาปัตยกรรมสไตล์โรมาเนสก์-โกธิค
  • ออกเดินทางสู่เมือง ฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ (ระยะทาง 75 กม.)
  • พักที่ฟลอเรนซ์

วันที่ 5: ฟลอเรนซ์

  • นำชม จัตุรัสไมเคิลแองเจโล (Piazzale Michelangelo) จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองฟลอเรนซ์ได้ทั้งเมือง
  • ชม มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร (Santa Maria del Fiore) มหาวิหารที่มีโดมขนาดใหญ่ที่งดงาม
  • ชม หอระฆังของจอตโต (Giotto’s Campanile) และ หอศีลจุ่มซันโจวานนี (Baptistery of St. John)
  • นำท่านชม พิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี (Uffizi Gallery) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
  • ชม สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) สะพานเก่าแก่ที่มีร้านขายเครื่องประดับและของที่ระลึกตั้งอยู่ทั้งสองข้าง
  • พักที่ฟลอเรนซ์

วันที่ 6: ฟลอเรนซ์ – ชมไร่องุ่นในทัสคานี – ปิซ่า

  • รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
  • ออกเดินทางสู่ แคว้นทัสคานี (Tuscany) ชมทัศนียภาพอันงดงามของไร่องุ่นและทุ่งดอกไม้ (ระยะทาง 70 กม.)
  • นำท่านเยี่ยมชม ไร่องุ่น และ โรงบ่มไวน์ พร้อมชิมไวน์ท้องถิ่น
  • ออกเดินทางสู่เมือง ปิซ่า (Pisa) (ระยะทาง 90 กม.)
  • นำท่านชม จัตุรัสดูโอโม่แห่งปิซ่า (Piazza del Duomo) หรือ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Piazza dei Miracoli) ที่ประกอบด้วย หอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa), มหาวิหารปิซ่า (Pisa Cathedral) และ หอศีลจุ่ม (Baptistery)
  • ออกเดินทางกลับสู่ฟลอเรนซ์
  • พักที่ฟลอเรนซ์

วันที่ 7: ฟลอเรนซ์ – เวนิส

  • รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม และเช็คเอาท์
  • ออกเดินทางสู่เมือง เวนิส (Venice) เมืองแห่งสายน้ำและสะพาน (ระยะทาง 250 กม.)
  • เดินทางถึงจังหวัดเวเนโต้ นำท่านลงเรือที่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) เพื่อเดินทางสู่ เกาะเวนิส (Venice Island)
  • นำท่านชม จัตุรัสซานมาร์โค (St. Mark’s Square) จัตุรัสที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
  • ชม มหาวิหารซานมาร์โค (St. Mark’s Basilica) สถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ที่งดงาม
  • ชม พระราชวังดอจ์ (Doge’s Palace) พระราชวังสไตล์เวนิเชียนโกธิค
  • นำท่านล่องเรือกอนโดลา ชมความงามของคลองต่างๆ
  • พักที่เวนิสเมสเตร

วันที่ 8: เวนิส – เกาะบูราโน่ – เกาะมูราโน่ – เวโรนา – โคโม

  • ล่องเรือไปยัง เกาะบูราโน่ (Burano Island) เกาะที่มีบ้านเรือนสีสันสดใส และมีชื่อเสียงในการทำผ้าลูกไม้
  • เดินทางกลับสู่ฝั่ง
  • ออกเดินทางสู่เมือง เวโรนา (Verona) เมืองแห่งโรมิโอและจูเลียต (ระยะทาง 120 กม.)
  • นำท่านชม บ้านของจูเลียต (Juliet’s House) ชมระเบียงบ้านที่โรมิโอปีนเข้าหาจูเลียต
  • ชม สนามกีฬาโรมัน (Verona Arena) โรงละครกลางแจ้งโบราณที่ยังคงใช้แสดงโอเปร่าในปัจจุบัน
  • ออกเดินทางสู่ ทะเลสาบโคโม (Lake Como) ทะเลสาบที่สวยงามที่สุดของอิตาลี (ระยะทาง 200 กม.)
  • พักที่โคโม

วันที่ 9: ทะเลสาบโคโม

  • นำท่านล่องเรือชมทะเลสาบโคโม สัมผัสความงดงามของวิลล่าริมทะเลสาบ และทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์
  • เยี่ยมชม วิลล่าคาร์ลอตต้า (Villa Carlotta) หรือวิลล่าริมทะเลสาบอันงดงาม
  • ชม เมืองเบลลาจิโอ (Bellagio) เมืองสวยริมทะเลสาบที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลสาบโคโม”
  • อิสระให้ท่านเดินเล่นชมบรรยากาศของเมืองริมทะเลสาบโคโมตามอัธยาศัย
  • นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Hotel Metropole Suisse Como 4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่ 10: ทะเลสาบโคโม – มิลาน

  • ออกเดินทางสู่เมือง มิลาน (Milan) เมืองแห่งแฟชั่นและเศรษฐกิจของอิตาลี (ระยะทาง 50 กม.)
  • นำท่านชม มหาวิหารดูโอโม่แห่งมิลาน (Milan Cathedral) มหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
  • ชม ปราสาทสฟอร์เซสโก้ (Castello Sforzesco) ปราสาทยุคกลางที่เคยเป็นป้อมปราการป้องกันเมือง
  • อิสระช้อปปิ้งที่ แกลเลอเรีย วิตตอริโอ เอมานูเอล ที่ 2 (Galleria Vittorio Emanuele II) ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลี
  • พักที่โคโม

วันที่ 11: มิลาน – กรุงเทพฯ

  • อิสระให้ท่านพักผ่อนหรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
  • 10.00 น. เดินทางสู่สนามบินมัลเพนซ่า กรุงมิลาน เพื่อเช็คอิน
  • ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย

วันที่ 12: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
Categories
Uncategorized

ทัวร์ปากีสถาน ฮุนซ่า สการ์ดู ที่สุดแห่งใบไม้เปลี่ยนสี

ทัวร์ปากีสถาน
ฮุนซ่า สการ์ดู ที่สุดแห่งใบไม้เปลี่ยนสี
สรุปไฮไลท์

☀️ หุบเขาฮุนซ่า (Hunza Valley) – “สวรรค์บนดิน” ที่โอบล้อมด้วยยอดเขาหิมะสูงตระหง่าน มีอากาศบริสุทธิ์และทัศนียภาพที่งดงามตลอดทั้งปี เป็นดินแดนที่มีผู้คนอายุยืนและมีวัฒนธรรมเก่าแก่น่าค้นหา

☀️ ยอดเขาเลดี้ฟิงเกอร์ (Ladyfinger Peak) – ยอดเขารูปทรงเป็นเอกลักษณ์คล้ายนิ้วมือที่ชี้สู่ท้องฟ้า สูง 6,000 เมตร การชมแสงอาทิตย์แรกที่สาดส่องบนยอดเขาเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

☀️ ป้อมบัลติท (Baltit Fort) – ป้อมปราการเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี ที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขา เผยให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์และวิถีชีวิตของราชวงศ์มิร์แห่งฮุนซ่าในอดีต

☀️ สะพานแขวนฮุสเซนี (Hussaini Suspension Bridge) – สะพานแขวนที่ได้ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก ทอดข้ามแม่น้ำฮุนซ่า เป็นการทดสอบความกล้าท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

☀️ ปัสสุ โคนส์ (Passu Cones) – ยอดเขาหลังคาโลกที่มีรูปทรงสามเหลี่ยมแหลมเป็นเอกลักษณ์ เรียงรายสุดลูกหูลูกตา สร้างภาพที่น่าจดจำและเป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่การาโกรัม

☀️ ทะเลสาบแอททาบัด (Attabad Lake) – ทะเลสาบสีฟ้าครามที่เกิดจากเหตุการณ์ดินถล่มในปี 2010 ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมด้วยความงามของสีน้ำที่เกิดจากตะกอนหินบดจากธารน้ำแข็ง

☀️ ทะเลทรายเย็นคัตปานา (Katpana Cold Desert) – ปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าทึ่งของทะเลทรายเย็นที่สูงที่สุดในโลกที่ระดับความสูง 2,500 เมตร เนินทรายท่ามกลางภูเขาหิมะ สร้างภาพที่ขัดแย้งกันอย่างน่าอัศจรรย์

☀️ พระราชวังคาปลู (Khaplu Fort) – พระราชวังโบราณอายุกว่า 400 ปีที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม เป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมบัลติสถานดั้งเดิม ได้รับรางวัลการอนุรักษ์ระดับนานาชาติ

☀️ พิธีปิดด่านวากาห์ (Wagah Border Ceremony) – พิธีการทางทหารที่เป็นเอกลักษณ์ที่พรมแดนปากีสถาน-อินเดีย เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและการแสดงออกถึงความเป็นชาติอย่างเข้มข้น สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นและเป็นที่จดจำ

☀️ มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) – มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในปากีสถานและใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี มีเอกลักษณ์ด้วยรูปทรงเต็นท์แบบเบดูอินและมินาเร็ต 4 แห่งสูงตระหง่าน เป็นสัญลักษณ์ของเมืองอิสลามาบัด

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ Full Service
✅️ รวมอาหารทุกมื้อ มีอาหารไทยเสริม
✅️ รวมค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศ 2 เที่ยว
✅️ โรงแรมระดับ 4 ดาวใน Hunza และ ดีที่สุดในเมืองนั้นๆหากไม่มี 3 หรือ 4 ดาว
✅️ เดินทางโดยรถ Minibus กรุ๊ปละ 12 ท่าน
✅️ หัวหน้าทัวร์ถ่ายรูปสวยๆให้ 
✅️ ค่ากิจกรรม ทุกอย่าง ตามระบุในโปรแกรม
✅️ ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง (สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้)

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
ไม่รวมทิป

Place

โปรแกรมทริป ปากีสถาน ฮุนซ่า สการ์ดู

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – อิสลามาบัด

  • พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ – เริ่มต้นการผจญภัยสู่ปากีสถาน! เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเส้นทางสวยงามที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า

  • เดินทางสู่เมืองอิสลามาบัด – บินตรงสู่เมืองหลวงของปากีสถานโดยสายการบิน Thai Airways เพลิดเพลินกับการบริการบนเครื่องระหว่างเดินทางสู่ดินแดนแห่งภูเขาและวัฒนธรรมอันเก่าแก่

วันที่ 2: อิสลามาบัด – สการ์ดู – กิลกิต – ฮุนซ่า

  • เดินทางสู่สการ์ดู (Skardu) – ออกเดินทางสู่เมืองสการ์ดูที่โอบล้อมด้วยขุนเขาตระการตา ประตูสู่เทือกเขาการาโกรัม

  • จุดชมวิวราคาโปชิ (Rakaposhi View Point) – แวะชมทัศนียภาพอันงดงามของยอดเขาราคาโปชิสูง 7,788 เมตร หนึ่งในยอดเขาที่สวยที่สุดในเทือกเขาการาโกรัม

  • เมืองกิลกิต (Gilgit) – ผ่านเมืองกิลกิตที่มีเสน่ห์ จุดเชื่อมต่อสำคัญของเส้นทางสายไหมโบราณ ศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมในภูมิภาค

  • หุบเขาฮุนซ่า (Hunza Valley) – เดินทางต่อไปยังหุบเขาฮุนซ่า ดินแดนแห่งความงามตามธรรมชาติที่ได้รับการขนานนามว่า “สวรรค์บนดิน” ด้วยทัศนียภาพของยอดเขาหิมะและธรรมชาติที่บริสุทธิ์

วันที่ 3: ฮุนซ่า (Hunza)

  • ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขาเลดี้ฟิงเกอร์ (Ladyfinger Peak) – ตื่นแต่เช้าเพื่อชมแสงแรกที่สาดส่องยอดเขาเลดี้ฟิงเกอร์ (หรือชื่อทางการว่า Bublimating) สูง 6,000 เมตร ที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์คล้ายนิ้วมือ

  • ป้อมบัลติท (Baltit Fort) – เยี่ยมชมป้อมปราการเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี ที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขา เผยให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตของราชวงศ์มิร์แห่งฮุนซ่าในอดีต

  • หุบเขาฮอปเปอร์ (Hopper Valley) – สัมผัสความเขียวชอุ่มและเงียบสงบของหุบเขาฮอปเปอร์ แหล่งชมธารน้ำแข็งที่สวยงาม

  • หุบเขานากา (Nagar Valley) – ชมทัศนียภาพของหุบเขานากาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามฮุนซ่า เคยเป็นรัฐอิสระมาก่อนที่จะถูกผนวกรวมกับปากีสถาน

  • สะพานแขวนฮุสเซนี (Hussaini Suspension Bridge) – ท้าทายความกล้าบนสะพานแขวนที่ได้ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก ทอดข้ามแม่น้ำฮุนซ่า พร้อมวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

วันที่ 4: ฮุนซ่า – ปัสสุ – แอททาบัด

  • ธารน้ำแข็งปัสสุ (Passu Glacier) – ตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่ของธารน้ำแข็งปัสสุที่ไหลลดหลั่นลงมาจากยอดเขา เป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในภูมิภาค

  • ปัสสุ โคนส์ (Passu Cones) – ชื่นชมยอดเขาปัสสุ โคนส์ หรือที่เรียกว่า “ยอดเขาหลังคาโลก” ด้วยรูปทรงสามเหลี่ยมแหลมอันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียงรายสุดลูกหูลูกตา

  • หมู่บ้านไคเบอร์ (Khyber Village) – สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้านในหมู่บ้านไคเบอร์ ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

  • จุดชมวิวธารน้ำแข็งบาทูรา (Batura Glacier View Point) – แวะชมธารน้ำแข็งบาทูราที่ยาวเป็นอันดับ 5 ของโลกนอกเขตขั้วโลก ความยาวกว่า 57 กิโลเมตร

  • ทะเลสาบแอททาบัด (Attabad Lake) – ถ่ายรูปกับทะเลสาบสีฟ้าครามที่เกิดจากเหตุดินถล่มในปี 2010 ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมด้วยความงามของสีน้ำที่เกิดจากตะกอนหินบดจากธารน้ำแข็ง

วันที่ 5: ฮุนซ่า – สการ์ดู – ชิการ์

  • เดินทางกลับสการ์ดู – เดินทางจากฮุนซ่ากลับสู่เมืองสการ์ดู ชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางตลอดการเดินทาง

  • ทะเลสาบอัปเปอร์/โลเวอร์ คาชูรา (Upper/Lower Kachura Lakes) – เยี่ยมชมทะเลสาบแฝดที่มีความงามแตกต่างกัน โลเวอร์ คาชูรา มีชื่อเสียงในนาม “ทะเลสาบมรกต” ด้วยสีเขียวมรกตสดใส ส่วนอัปเปอร์ คาชูรา โอบล้อมด้วยป่าสนให้บรรยากาศที่เงียบสงบ

  • เมืองชิการ์ (Shigar) – เดินทางต่อไปยังเมืองชิการ์ ประตูสู่ K2 ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสองของโลก เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ

วันที่ 6: ชิการ์ – ทะเลทรายซาฟรารังกา – คาปลู

  • ทะเลทรายเย็นซาฟรารังกา (Sarfaranga Cold Desert) – สัมผัสความแปลกตาของทะเลทรายเย็นที่อยู่ในระดับความสูง 2,226 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้วยเนินทรายกว้างใหญ่ท่ามกลางภูเขาและหิมะในฤดูหนาว

  • หมู่บ้านคาปลู (Khaplu Village) – เยี่ยมชมหมู่บ้านที่มีอายุกว่า 1,000 ปี ตั้งอยู่ในหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยสวนผลไม้และทิวทัศน์ภูเขาที่งดงาม

  • พระราชวังคาปลู (Khaplu Fort) – ชมความงามของพระราชวังโบราณอายุกว่า 400 ปี ที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม เป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมบัลติสถานดั้งเดิม ปัจจุบันเป็นโรงแรมหรูที่ได้รับรางวัลการอนุรักษ์

วันที่ 7: คาปลู – หุบเขาคาร์มัง – สการ์ดู

  • หุบเขาคาร์มัง (Kharmang Valley) – ออกเดินทางสู่หุบเขาคาร์มังที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่มีชื่อเสียงของปากีสถาน

  • น้ำตกมันโธคา (Manthokha Waterfall) – ชื่นชมความงดงามของน้ำตกมันโธคาที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ไหลลดหลั่นลงมาจากความสูงกว่า 180 เมตร ท่ามกลางภูมิทัศน์ที่สวยงาม

  • กลับสู่เมืองสการ์ดู – เดินทางกลับเพื่อพักผ่อนที่เมืองสการ์ดู พร้อมเตรียมตัวสำหรับการท่องเที่ยววันต่อไป

วันที่ 8: สการ์ดู – ทะเลทรายคัตปานา – หุบเขาชุนดา

  • ทะเลทรายเย็นคัตปานา (Katpana Cold Desert) – เยือนทะเลทรายเย็นที่สูงที่สุดในโลกที่ระดับความสูง 2,500 เมตร เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาชมได้ยาก เนินทรายสีทองตัดกับท้องฟ้าสีครามและยอดเขาหิมะในระยะไกล

  • หุบเขาชุนดา (Chunda Valley) – หากเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (ตุลาคม-พฤศจิกายน) จะได้สัมผัสความงดงามของต้นแอปริคอต ต้นวอลนัท และต้นเชอร์รี่ที่เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลืองทอง สร้างทัศนียภาพที่น่าประทับใจ

วันที่ 9: สการ์ดู – อิสลามาบัด

  • บินกลับอิสลามาบัด – เดินทางโดยเครื่องบินกลับสู่เมืองอิสลามาบัด ชมวิวภูเขาจากมุมสูง

  • พิพิธภัณฑ์ตักศิลา (Taxila Museum) – เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุจากอาณาจักรตักศิลาโบราณ ศูนย์กลางการศึกษาพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมกรีก-อินเดียที่สำคัญในอดีต

  • มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) – ชมความยิ่งใหญ่อลังการของมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในปากีสถานและใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี มีเอกลักษณ์ด้วยรูปทรงเต็นท์แบบเบดูอินและมินาเร็ต 4 แห่งสูงตระหง่าน

วันที่ 10: อิสลามาบัด – ละฮอร์

  • เดินทางสู่เมืองละฮอร์ – เดินทางสู่เมืองละฮอร์ เมืองที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ได้รับการขนานนามว่า “หัวใจของปากีสถาน” ด้วยความสำคัญทางวัฒนธรรมและศิลปะ

  • พิธีปิดด่านวากาห์ (Wagah Border Ceremony) – สัมผัสบรรยากาศอันน่าตื่นเต้นของพิธีปิดด่านพรมแดนระหว่างปากีสถานและอินเดีย เป็นพิธีการทางทหารที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของทั้งสองประเทศ มีการเดินส วนสนามและการแสดงออกถึงความเป็นชาติอย่างเข้มข้น

วันที่ 11: ละฮอร์ – กรุงเทพฯ

  • เดินทางกลับกรุงเทพฯ – เดินทางโดยสายการบิน Thai Airways กลับสู่กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความทรงจำอันแสนประทับใจจากดินแดนหลังคาโลกแห่งนี้  

Categories
Uncategorized

ทัวร์กรีซ รวมไฮไลท์สายเชคอิน ซานโตรินี่ มิโคนอส

ทัวร์กรีซ
ซานโตรินี่ มิโคนอส
สรุปไฮไลท์

☀️อารามเมเทโอรา – อารามออร์โธดอกซ์ลอยฟ้าบนยอดเขาที่เป็นมรดกโลก

☀️อะโครโพลิส (Acropolis) และ มหาวิหารพาเธนอน (Parthenon) – โบราณสถานสำคัญของกรีซโบราณ

☀️เกาะซานโตรินี – เกาะภูเขาไฟที่มีบ้านเรือนสีขาวและหลังคาโดมสีฟ้า

☀️หมู่บ้าน Oia – จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

☀️เกาะ Mykonos และ Little Venice – เกาะที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามและย่านเมืองเก่าริมทะเลที่มีเอกลักษณ์ของ Mykonos

☀️หาด Navagio – หาดทรายขาวที่มีซากเรืออับปางเป็นจุดเด่น ที่เกาะ Zakynthos

☀️เมือง Lefkada – เมืองชายหาดที่เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานลอยน้ำ

☀️กังหันลม Mykonos – สัญลักษณ์ของเกาะที่ใช้โม่แป้งและบีบน้ำมันมะกอกในอดีต

☀️ถ้ำสีฟ้า (Blue Caves) – ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ซาคินธอส

☀️บ้านเรือนสไตล์ Cycladic – บ้านสีขาวสะอาดตาและหลังคาโดมสีฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่เกาะ Cyclades

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 129,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่มเท่านละ 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 16-25 พค. 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป กรีซ

วันที่ 1 : กรุงเทพฯ – เอเธนส์

  • 21.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ
  • 23.55 น. ออกเดินทางสู่กรุงเอเธนส์ (บินข้ามคืน)

วันที่ 2 : เอเธนส์ – เดลฟี – คาลัมบากา

  • เดินทางถึงกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี
  • เดลฟี (Delphi): ศูนย์กลางทางศาสนาโบราณที่สำคัญที่สุดของกรีซ ตั้งอยู่บนเชิงเขา Parnassus เป็นที่ตั้งวิหารอพอลโลและออราเคิลอันลือชื่อ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
  • เดินทางต่อไปยัง คาลัมบากา (Kalambaka): เมืองประตูสู่เมธีโอร่า ตั้งอยู่เชิงเขาหินทรายอันน่าทึ่ง
  • พักค้างคืนที่คาลัมบากา (1 คืน)

วันที่ 3 : เมธีโอร่า – เอเธนส์

  • เมธีโอร่า (Meteora): หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของกรีซ มีอารามที่ตั้งอยู่บนยอดเขาหินทรายสูงชัน สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14-16 ปัจจุบันเหลืออารามที่ยังใช้งานเพียง 6 แห่ง เป็นมรดกโลกที่น่าทึ่งทั้งในแง่ของสถาปัตยกรรมและความเชื่อทางศาสนา
  • เดินทางกลับสู่เอเธนส์ เมืองหลวงที่ผสมผสานความเก่าแก่และทันสมัยได้อย่างลงตัว

วันที่ 4 : เอเธนส์ – พีเรอัส – ซานโตรินี (เรือเฟอร์รี่)

  • ท่าเรือพีเรอัส (Piraeus): ท่าเรือโบราณและท่าเรือหลักของกรีซที่เชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่กับหมู่เกาะต่างๆ
  • เดินทางโดยเรือเฟอร์รี่สู่ ซานโตรินี (Santorini): เกาะภูเขาไฟที่สวยที่สุดในโลก มีหน้าผาสูงตระหง่านล้อมรอบด้วยทะเลสีฟ้าเข้ม บ้านเรือนสีขาวสะอาดตาและโดมสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์

วันที่ 5 : ซานโตรินี

  • ล่องเรือชมภูเขาไฟ: ชมปล่องภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น และน้ำพุร้อนธรรมชาติ ภูเขาไฟแห่งนี้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่เมื่อ 3,600 ปีก่อน สร้างทะเลสาบกลางปล่องภูเขาไฟ (Caldera)
  • หาดทรายดำ Perissa/Kamari: หาดทรายสีดำอันเกิดจากลาวาภูเขาไฟ
  • ไร่องุ่นซานโตรินี: ไร่องุ่นเก่าแก่ที่สร้างไวน์คุณภาพดีเยี่ยม ด้วยสภาพดินภูเขาไฟที่เป็นเอกลักษณ์
  • หมู่บ้าน Oia: จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในโลก บ้านเรือนสีขาวสะอาดตากับโดมสีฟ้าสดเรียงรายบนหน้าผาสูง

วันที่ 6 : ซานโตรินี – ไมโคนอส (เรือเฟอร์รี่)

  • เดินทางสู่ ไมโคนอส (Mykonos): เกาะที่มีชื่อเสียงด้านชายหาดและชีวิตกลางคืนที่คึกคัก เป็นเกาะที่ได้รับความนิยมจากเหล่าคนดังและนักท่องเที่ยวทั่วโลก
  • Little Venice: ย่านบ้านเรือนริมทะเลสไตล์อิตาเลียนที่สวยงาม เหมาะแก่การถ่ายรูปและชมพระอาทิตย์ตก
  • กังหันลมไมโคนอส: สัญลักษณ์อันโดดเด่นของเกาะ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้โม่แป้ง ปัจจุบันเหลืออยู่ 16 หลัง

วันที่ 7 : ไมโคนอส – พีเรอัส – เอเธนส์

  • โบสถ์ Paraportiani Church: โบสถ์สีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีลักษณะเป็นการรวมโบสถ์ 5 หลังเข้าด้วยกัน มีอายุกว่า 500 ปี
  • เดินทางกลับสู่เอเธนส์ พักผ่อนที่ ย่าน Plaka: ย่านเก่าแก่ใจกลางเอเธนส์ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า และบรรยากาศแบบกรีกดั้งเดิม

วันที่ 8 : เอเธนส์ (City Tour) – กรุงเทพฯ

  • อะโครโพลิส (Acropolis): โบราณสถานสำคัญที่สุดของกรีซ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มีอายุกว่า 2,500 ปี
  • วิหารพาร์เธนอน (Parthenon): วิหารหินอ่อนอันยิ่งใหญ่ สร้างถวายเทพีอธีนา เป็นสัญลักษณ์ของอารยธรรมกรีกโบราณและประชาธิปไตย
  • พิพิธภัณฑ์อะโครโพลิส: จัดแสดงโบราณวัตถุล้ำค่าที่พบในแหล่งโบราณคดีอะโครโพลิส
  • จัตุรัส Syntagma: ศูนย์กลางทางการเมืองของกรีซ ที่ตั้งของรัฐสภาและอนุสาวรีย์ทหารนิรนาม พร้อมชมพิธีเปลี่ยนเวรทหาร
  • วิหารเซอุส (Temple of Zeus): วิหารที่ใหญ่ที่สุดในกรีซโบราณ อุทิศให้เทพเจ้าซุส
  • ตลาด Monastiraki: แหล่งช้อปปิ้งกลางแจ้งที่คึกคักที่สุดในเอเธนส์
  • เดินทางไปสนามบินเอเธนส์ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 9: เดินทางถึงกรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
Categories
Uncategorized

ทัวร์ซินเจียง Summer

Xinjiang Summer
สรุปไฮไลท์

🏞 ทะเลสาบเทียนฉือ (ทะเลสาบสวรรค์) ทะเลสาบบนเทือกเขาเทียนซานสูง 1,910 เมตร น้ำใสสีฟ้าเข้มล้อมด้วยหิมะและป่าสน

💧 ทะเลสาบไซ่ลี่มู่ ทะเลสาบอัลไพน์สีฟ้าใส ท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวขจีและภูเขาหิมะตระหง่าน 

💜 ทุ่งลาเวนเดอร์ คาลาจุ้น พรมสีม่วงกลางหุบเขา กลิ่นหอมฟุ้งโรแมนติกที่สุดในฤดูบาน 🌸🏔

🌼 ทุ่งหญ้าน่าลาถี “สวรรค์บนดิน” ของจริง! ทุ่งหญ้าอัลไพน์กว้างใหญ่ มีวัวแกะเล็มหญ้าท่ามกลางดอกไม้ป่า 🌿🐑

🛣  ถนนเส้นตู๋คู่ เส้นทางชมวิวสุดอลังจากตู๋ซานจื่อสู่คูเฉอ ผ่านภูเขา ทุ่งหญ้า และหุบเขาแบบพาโนรามา 🚐🌄

🌊 ช่องแคบหุบเขาตู๋ซานจื่อ หุบเขาที่เกิดจากธรรมชาติบรรจงแกะสลัก โขดหินรูปร่างแปลกตา และแม่น้ำไหลผ่าน 💫🏞

🐎 สวนเพาะพันธุ์ม้าป่า แหล่งอนุรักษ์ม้าพรีวอลสกี้ ม้าป่าใกล้สูญพันธุ์ หนึ่งในความภาคภูมิใจของซินเจียง 🐴🌍

🛍 ตลาดต้าปาจา ตลาดพื้นเมืองสุดคึกคักแห่งอูรูมูฉี รวมของกิน ของใช้ ของฝาก และวัฒนธรรมอุยกูร์ไว้ครบ 🍢🧣

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวท่านละ xx,xxx บาท
  • วันเดินทาง  
    • 20-28 มิถุนายน 2568
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️รวม รถนำเที่ยวตามรายการ
✅️ ที่พักพร้อมอาหารเช้า*
✅️ ไกค์ท้องถิ่นน้ำเที่ยวพูดอังกฤษ
✅️ ตั๋วบินภายในอาลี-ลาซา
✅️ ค่าเข้าชมและกิจกรรม ตามโปรแกรม
✅️ ประกันการเดินทาง

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (ถ้ามี)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ไปกลับ กรุงเทพ-ลาซา(เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น

Place

โปรแกรมทริป Xinjiang Summer

วันที่ 1: กรุงเทพ – กวางโจว – อูรูมูฉี

  • เดินทางถึงอูรูมูฉีโดยสายการบิน China Southern Airlines
  • บริการอาหารเย็น
  • พักที่: โรงแรม 4 ดาวในเมืองอูรูมูฉี

วันที่ 2: อูรูมูฉี – ทะเลสาบเทียนฉือ – ตู๋ซานจื่อ

  • รับประทานอาหารเช้า, กลางวัน, เย็น
  • เยี่ยมชมทะเลสาบเทียนฉือ (ทะเลสาบสวรรค์)
  • เดินทางไปยังเมืองตู๋ซานจื่อ
  • พักที่: โรงแรม 4 ดาวในเมืองตู๋ซานจื่อ

วันที่ 3: ตู๋ซานจื่อ – ทะเลสาบไซ่ลี่มู่ – อีหลิง – ถนนคนเดินหลิวซิง

  • รับประทานอาหารเช้า, กลางวัน, เย็น
  • เยี่ยมชมทะเลสาบไซ่ลี่มู่
  • เดินทางไปยังเมืองอีหลิง
  • เที่ยวชมถนนคนเดินหลิวซิง (Liu Xing)
  • พักที่: โรงแรม 4 ดาวในเมืองอีหลิง

วันที่ 4: อีหลิง – ทุ่งลาเวนเดอร์ – คาลาจุ้น – เทื่อเค่อซือ (เมืองไทจิ)

  • รับประทานอาหารเช้า, กลางวัน, เย็น
  • เยี่ยมชมทุ่งลาเวนเดอร์
  • เดินทางไปยังคาลาจุ้นและเทื่อเค่อซือ
  • พักที่: โรงแรม 3 ดาวในอำเภอเทื่อเค่อซือ

วันที่ 5: เทื่อเค่อซือ – อุทยานเสี่ยถ่า (Xia Ta) – เจาซู

  • รับประทานอาหารเช้า, กลางวัน, เย็น
  • เที่ยวชมอุทยานเสี่ยถ่า
  • เดินทางไปยังเมืองเจาซู
  • พักที่: โรงแรม 3 ดาวในอำเภอเจาซู

วันที่ 6: เจาซู – ทุ่งหญ้าน่าลาถี – อำเภอนาลาถี

  • รับประทานอาหารเช้า, กลางวัน, เย็น
  • เยี่ยมชมทุ่งหญ้านาลาถี
  • พักที่: โรงแรม 3 ดาวในอำเภอน่าลาถี

วันที่ 7: อำเภอน่าลาถี – ถนนเส้นตู๋คู่ – หุบเขาตู๋ซานจื่อ – ตู๋ซานจื่อ

  • รับประทานอาหารเช้า, กลางวัน, เย็น
  • เดินทางตามถนนเส้นตู๋คู่ (หมายเหตุ: รถทัวร์ที่วิ่งได้ถนนเส้นนี้ต้องเปลี่ยนเป็นรถตู้ 7 ที่นั่ง)
  • เยี่ยมชมช่องแคบหุบเขาตู๋ซานจื่อ
  • กลับไปยังเมืองตู๋ซานจื่อ
  • พักที่: โรงแรม 4 ดาวในเมืองตู๋ซานจื่อ

วันที่ 8: ตู๋ซานจื่อ – อูรูมูฉี – สวนเพาะพันธุ์ม้าป่า – ตลาดต้าปาจา

  • รับประทานอาหารเช้า, กลางวัน, เย็น
  • เดินทางไปยังอูรูมูฉี
  • เยี่ยมชมสวนเพาะพันธุ์ม้าป่า
  • อิสระช้อปปิ้งที่ตลาดต้าปาจา
  • พักที่: โรงแรม 4 ดาวในเมืองอูรูมูฉี

วันที่ 9: อูรูมูฉี – กวางโจว – กรุงเทพ

  • รับประทานอาหารเช้า
  • เดินทางไปยังสนามบินอูรูมูฉี โดยสายการบิน China Southern Airlines
  • เที่ยวบินกลับกวางโจว และต่อเครื่องกลับกรุงเทพ
Categories
Uncategorized

ทัวร์เขาไกลลาส จุดหมายแห่งศรัทธา (16 วัน มีเทรครอบเขา)

ทัวร์เขาไกลลาส
จุดหมายแห่งศรัทธา (16 วัน มีเทรครอบเขา)
สรุปไฮไลท์

☀️พระราชวังโปตาลา – อดีตที่ประทับของดาไลลามะองค์ที่ 14 สัญลักษณ์อันโดดเด่นของทิเบต สถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่บนเนินเขามังฑะที่มองเห็นทั่วเมืองลาซา

☀️ วัดโจคัง – วัดพุทธที่ศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ที่สุดในทิเบต เป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของชาวทิเบต ประดิษฐานพระพุทธรูปโจโว ที่ชาวทิเบตเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

☀️ทะเลสาบยัมดร็อก – หนึ่งในทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของทิเบต โดดเด่นด้วยสีฟ้าเทอร์ควอยซ์อันงดงามท่ามกลางขุนเขา

☀️เอเวอเรสต์เบสแคมป์ – จุดชมวิวยอดเขาเอเวอเรสต์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ให้ประสบการณ์การสัมผัสธรรมชาติอันยิ่งใหญ่

☀️ ยอดเขาไคลาส – ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกของศาสนาฮินดู พุทธ เชน และโบนโป เชื่อว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าและจุดศูนย์กลางของจักรวาล ทริปนี้มีโอกาสได้เดิน trek รอบภูเขาศักดิ์สิทธิ์นี้ถึง 3 วัน

☀️ทะเลสาบมานาสโรวาร์ – ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์คู่กับภูเขาไคลาส มีความสำคัญสูงสุดในการแสวงบุญของศาสนาฮินดูและพุทธ

☀️ซากโบราณอาณาจักรกู่เก๋อ – อาณาจักรโบราณที่เคยรุ่งเรือง มีอายุกว่า 1,000 ปี ด้วยสถาปัตยกรรมอันซับซ้อนที่สร้างบนหน้าผาสูง

☀️วัดตาซิลุนโป – วัดสำคัญและเป็นที่ประทับของแพนเชนลามะ มีพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่

☀️ วัดซากยา – วัดโบราณที่เก่าแก่ และเป็นต้นกำเนิดของนิกายซากยาในพุทธศาสนาทิเบต

☀️ Earth Forest – ป่าหินที่เกิดจากการกัดเซาะของธรรมชาติ สร้างภูมิทัศน์แปลกตาคล้ายป่าหิน

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • สอบถามทีมงาน
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ Full service ออกกรุ๊ปเมื่อครบ 10 ท่าน
✅️ รวมอาหารทุกมื้อ
✅️ มีหัวหน้าทัวร์คนไทย
✅️ เดินทางด้วย Minibus
✅️ ที่พักแบบ 4-5 ดาว
✅️ ไม่ลงร้านรัฐบาล

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
ไม่รวมทิป

Place

โปรแกรมทริปไกลลาส

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – เฉิงตู

  • เดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เมืองเฉิงตู โดยสายการบิน Air China
  • (CA472) 18.20-22.40 น.
  • พักค้างคืนที่เฉิงตู

วันที่ 2: เฉิงตู – ลาซา – พระราชวังโปตาลา – วัดเซรา

  • เดินทางจากเฉิงตูสู่ลาซา โดยสายการบิน Air China (CA2537) 07.30-10.00 น.
  • เยี่ยมชม พระราชวังโปตาลา อดีตที่ประทับของดาไลลามะ สัญลักษณ์แห่งทิเบต
  • ชม วัดเซรา หนึ่งในวัดพุทธทิเบตที่สำคัญ ชมการโต้วาทีธรรมของพระทิเบต
  • พักค้างคืนที่ลาซา

วันที่ 3: ลาซา – วัดโจคัง – ถนนบาร์คอร์

  • เยี่ยมชม วัดโจคัง วัดพุทธที่ศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ที่สุดในทิเบต
  • เดินชม ถนนบาร์คอร์ ย่านตลาดเก่าและเส้นทางแสวงบุญโดยรอบวัดโจคัง
  • รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่นทิเบต
  • พักค้างคืนที่ลาซา

วันที่ 4: ลาซา – เกียนเซ่ – ทะเลสาบยัมดร็อก – ธารน้ำแข็งกาโรลา

  • เดินทางจากลาซาสู่เมืองเกียนเซ่
  • แวะชม เมืองเกียนเซ่ เมืองประวัติศาสตร์ของทิเบต
  • ชม ทะเลสาบยัมดร็อก ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าเทอร์ควอยซ์
  • ชม ธารน้ำแข็งกาโรลา ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่บนเทือกเขาหิมาลัย
  • เยี่ยมชม วัดกุมบุม ที่เมืองเกียนเซ่ มีเจดีย์พันหลังอันโดดเด่น
  • พักค้างคืนที่เมืองชิกาเซ่

วันที่ 5: ชิกาเซ่ – ภูเขาเอเวอเรสต์ – ด่านกายาลา – วัดรงบุก – เอเวอเรสต์เบสแคมป์

  • เดินทางจากชิกาเซ่สู่ ภูเขาเอเวอเรสต์
  • ผ่านด่าน กายาวู ลา ที่ระดับความสูง 5,198 เมตร
  • เยี่ยมชม วัดรงบุก วัดพุทธที่สูงที่สุดในโลก
  • เที่ยวชม เอเวอเรสต์เบสแคมป์ และชมวิวยอดเขาเอเวอเรสต์
  • รับประทานอาหารค่ำแบบหม้อไฟ (Hot Pot)
  • พักค้างคืนที่เอเวอเรสต์เบสแคมป์ (EBC)

วันที่ 6: เอเวอเรสต์เบสแคมป์ – ซากา – ภูเขาชิชาปางมา – ทะเลสาบเพลคุตโซ

  • เดินทางจากเอเวอเรสต์เบสแคมป์สู่เมืองซากา
  • แวะชมวิว ภูเขาชิชาปางมา ยอดเขาสูงอันดับที่ 14 ของโลก
  • ชม ทะเลสาบเพลคุตโซ (Pelkhu-tso) ทะเลสาบที่สวยงาม
  • พักค้างคืนที่เมืองซากา

วันที่ 7: ซากา – เขตดรองปา – ดาร์เชน – ทะเลสาบมานาสโรวาร์ – ลานักตโซ

  • เดินทางจากซากาผ่าน เขตดรองปา
  • มุ่งหน้าสู่ ดาร์เชน ประตูสู่ภูเขาไคลาส
  • เยี่ยมชม ทะเลสาบมานาสโรวาร์ ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์
  • ชม ทะเลสาบลานัก-ตโซ หรือทะเลสาบรักษสทาล
  • พักค้างคืนที่ดาร์เชน

วันที่ 8: เริ่มการเดินเทรคภูเขาไคลาส วันที่ 1 (ดาร์เชน – วัดเดียปุก)

  • เริ่มต้นการเดินเทรควันแรก จากดาร์เชนสู่วัดเดียปุก
  • เดินขึ้นผ่านหุบเขาและทุ่งหญ้าอัลไพน์
  • เยี่ยมชม วัดเดียปุก วัดพุทธบนเส้นทางแสวงบุญภูเขาไคลาส
  • พักค้างคืนที่ Dzultripuk

วันที่ 9: เดินเทรคภูเขาไคลาส วันที่ 2 (วัดเดียปุก – Dzultripuk)

  •  เดินทางจากวัดเดียปุกไปยัง Dzultripuk
  • ผ่านจุดสูงสุดของการเดินเทรค ที่ด่าน Dolma La Pass (5,630 เมตร)
  • ชมวิวอันงดงามและธรรมชาติอันบริสุทธิ์รอบภูเขาไคลาส
  • พักค้างคืนที่ Dzultripuk

วันที่ 10: เดินเทรคภูเขาไคลาส วันที่ 3 (Dzultripuk – ดาร์เชน – ซานดา)

  • เดินทางจาก Dzultripuk กลับสู่ดาร์เชน
  • ชมวิวจากอีกมุมของภูเขาไคลาส
  • เดินทางต่อไปยังเมืองซานดา (Zanda)
  • พักค้างคืนที่ซานดา

วันที่ 11: ซานดา – ซากโบราณอาณาจักรกู่เก๋อ – Earth Forest – วัดทอลิง – ดาร์เชน

  • เยี่ยมชม ซากโบราณอาณาจักรกู่เก๋อ อาณาจักรโบราณที่เคยรุ่งเรือง
  • ชม Earth Forest ป่าหินที่เกิดจากการกัดเซาะของธรรมชาติ
  • เยี่ยมชม วัดทอลิง วัดเก่าแก่ในทิเบตตะวันตก
  • เดินทางกลับสู่ดาร์เชน
  • พักค้างคืนที่ดาร์เชน

วันที่ 12: ดาร์เชน – ซากา

  • เดินทางจากดาร์เชนกลับสู่เมืองซากา
  • พักผ่อนตามอัธยาศัยหลังจากการเดินเทรค
  • พักค้างคืนที่ซากา

วันที่ 13: ซากา – ซายกา

  • เดินทางจากซากาสู่เมืองซายกา (Sayka)
  • พักค้างคืนที่ซายกา

วันที่ 14: ซายกา – วัดซากยา

  • เยี่ยมชม วัดซากยา วัดโบราณที่เก่าแก่และเป็นต้นกำเนิดของนิกายซากยา
  • พักค้างคืนที่ซายกา

วันที่ 15: ซายกา – ชิกาเซ่ – วัดตาซิลุนโป – ลาซา

  •  เดินทางจากซายกาสู่ชิกาเซ่
  • เยี่ยมชม วัดตาซิลุนโป วัดสำคัญและเป็นที่ประทับของแพนเชนลามะ
  • เดินทางต่อไปยังลาซา (โดยรถโดยสารหรือรถไฟ)
  • พักค้างคืนที่ลาซา

วันที่ 16: ลาซา – กรุงเทพฯ

  • เตรียมเก็บสัมภาระ เดินทางไปยังสนามบินเพื่อกลับกรุงเทพฯ
  • เดินทางจากลาซาสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Air China (CA4126) เวลา 13.10-17.10 น.
  • ต่อเครื่องสู่กรุงเทพฯ (CA979) เวลา 20.00-23.55 น.
Categories
Uncategorized

ทัวร์เขาไกลลาส จุดหมายแห่งศรัทธา (12 วัน มีเทรครอบเขา)

ทัวร์เขาไกลลาส
จุดหมายแห่งศรัทธา (12 วัน มีเทรครอบเขา)
สรุปไฮไลท์

☀️โปตาลา – อดีตที่ประทับของดาไลลามะ สัญลักษณ์แห่งทิเบต

☀️วัดโจคัง – วัดพุทธที่ศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ที่สุดในทิเบต

☀️ทะเลสาบยัมดร็อก – ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ที่มีสีฟ้าเทอร์ควอยซ์งดงาม

☀️เอเวอเรสต์เบสแคมป์ – จุดชมวิวยอดเขาเอเวอเรสต์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก

☀️ภูเขาไคลาส – ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก พร้อมการเดิน trek 3 วัน

☀️ทะเลสาบมานาสโรวาร์ – ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์คู่กับภูเขาไคลาส

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • สอบถามทีมงาน
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ Full service ออกกรุ๊ปเมื่อครบ 10 ท่าน
✅️ รวมอาหารทุกมื้อ
✅️ มีหัวหน้าทัวร์คนไทย
✅️ เดินทางด้วย Minibus
✅️ ที่พักแบบ 4-5 ดาว
✅️ ไม่ลงร้านรัฐบาล

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
ไม่รวมทิป

Place

โปรแกรมทริปไกลลาส

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – เฉิงตู

  • เดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เมืองเฉิงตู

  • พักค้างคืนที่เฉิงตู

วันที่ 2: เฉิงตู – ลาซา

  • บินจากเฉิงตูสู่ลาซา

  • พักผ่อนเพื่อปรับตัวกับระดับความสูง

  • พักค้างคืนที่ลาซา

วันที่ 3: ลาซา (พระราชวังโปตาลา – วัดโจคัง – ถนนบาร์คอร์)

  • เยี่ยมชม พระราชวังโปตาลา อดีตที่ประทับของดาไลลามะ

  • เยี่ยมชม วัดโจคัง วัดพุทธที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในทิเบต

  • เดินชม ถนนบาร์คอร์ ย่านตลาดเก่าและเส้นทางแสวงบุญ

  • พักค้างคืนที่ลาซา

วันที่ 4: ลาซา – ชิกาเซ่ (ทะเลสาบยัมดร็อก – ธารน้ำแข็งกาโรลา)

  • เดินทางจากลาซาสู่เมืองชิกาเซ่

  • แวะชม ทะเลสาบยัมดร็อก ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์

  • ชม ธารน้ำแข็งกาโรลา ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย

  • พักค้างคืนที่ชิกาเซ่

วันที่ 5: ชิกาเซ่ – เอเวอเรสต์เบสแคมป์

  • เยี่ยมชม วัดตาซิลุนโป ที่ชิกาเซ่ (ถ้ามีเวลา)

  • เดินทางสู่ เอเวอเรสต์เบสแคมป์

  • เยี่ยมชม วัดรงบุก วัดพุทธที่สูงที่สุดในโลก

  • พักค้างคืนที่เอเวอเรสต์เบสแคมป์

วันที่ 6: เอเวอเรสต์เบสแคมป์ – ซากา

  • ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่เอเวอเรสต์เบสแคมป์

  • เดินทางสู่เมืองซากา

  • พักค้างคืนที่ซากา

วันที่ 7: ซากา – ดาร์เชน (ทะเลสาบมานาสโรวาร์)

  • เดินทางจากซากาสู่ดาร์เชน

  • แวะชม ทะเลสาบมานาสโรวาร์ ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์

  • ชม ทะเลสาบรักษสทาล (ถ้ามีเวลา)

  • เตรียมตัวสำหรับการเดินเทรค

  • พักค้างคืนที่ดาร์เชน

วันที่ 8: เริ่มการเดินเทรคภูเขาไคลาส วันที่ 1 (ดาร์เชน – วัดเดียปุก)

  • เริ่มต้นการเดินเทรครอบภูเขาไคลาส

  • เดินขึ้นผ่านหุบเขาและทุ่งหญ้าอัลไพน์

  • ระยะทางประมาณ 20 กม. ใช้เวลาเดิน 5-6 ชั่วโมง

  • พักค้างคืนที่วัดเดียปุก

วันที่ 9: เดินเทรคภูเขาไคลาส วันที่ 2 (วัดเดียปุก – ซุลท์ริปุก)

  • เดินทางจากวัดเดียปุกไปยังซุลท์ริปุก

  • ผ่านจุดสูงสุดที่ด่าน Dolma La Pass (5,630 เมตร)

  • ระยะทางประมาณ 18 กม. ใช้เวลาเดิน 6-8 ชั่วโมง

  • พักค้างคืนที่ซุลท์ริปุก

วันที่ 10: เดินเทรคภูเขาไคลาส วันที่ 3 (ซุลท์ริปุก – ดาร์เชน) – ซากา

  • เดินทางจากซุลท์ริปุกกลับสู่ดาร์เชน

  • ระยะทางประมาณ 14 กม. ใช้เวลาเดิน 3-4 ชั่วโมง

  • เดินทางต่อไปยังซากา (ถ้าสภาพร่างกายเอื้ออำนวย)

  • พักค้างคืนที่ซากา

วันที่ 11: ซากา – ลาซา

  • เดินทางกลับจากซากาสู่ลาซา (ระยะทางไกล อาจต้องพักแวะระหว่างทาง)

  • พักค้างคืนที่ลาซา

วันที่ 12: ลาซา – กรุงเทพฯ

  • เก็บสัมภาระ เดินทางไปสนามบิน
  • บินจากลาซากลับสู่กรุงเทพฯ (อาจต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่เฉิงตู)
  •  
Categories
Uncategorized

ทัวร์โลโฟเทน ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน–เซนยา

ทัวร์โลโฟเทน
ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน–เซนยา
สรุปไฮไลท์

🏡 หมู่บ้าน Hamnøy และ Reine – หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบ้านกระท่อมสีแดงริมน้ำตัดกับฉากหลังของภูเขาและทะเล เป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดในนอร์เวย์

🏠 หมู่บ้าน Sakrisoy – หมู่บ้านสีเหลืองเพียงแห่งเดียวในโลโฟเทน ตัดกับฉากหลังของภูเขาและทะเล สร้างภาพที่มีสีสันสดใสและน่าประทับใจ

🛖 หมู่บ้าน Nusfjord – หมู่บ้านชาวประมงโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของหมู่บ้านประมงดั้งเดิมในนอร์เวย์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

🏝️ ชายหาด Haukland และ Uttakleiv – ชายหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นชายหาดที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในทะเลแคริบเบียน แต่ล้อมรอบด้วยภูเขาแบบอาร์กติก

🌉 หมู่บ้าน Henningsvær – “เวนิสแห่งโลโฟเทน” ที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ หลายเกาะเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน มีสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่ริมทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก

🦌 วัฒนธรรมชาวซามิและฟาร์มกวางเรนเดียร์ – โอกาสอันหาได้ยากในการเรียนรู้วิถีชีวิตของชนพื้นเมืองขั้วโลกและใกล้ชิดกับกวางเรนเดียร์ ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมท้องถิ่น

🚡 กระเช้า Fjellheisen ที่โทรมโซ – กระเช้าที่พาขึ้นไปชมวิวพาโนรามาของเมืองโทรมโซ ฟยอร์ด และภูเขาโดยรอบ เป็นจุดชมวิวแสงเหนือที่ดีที่สุดในฤดูหนาว และวิวพระอาทิตย์เที่ยงคืนในฤดูร้อน

⛰️ (เฉพาะ summer) ยอดเขา Segla – แลนด์มาร์กที่มีเอกลักษณ์บนเกาะเซนยา สูง 639 เมตร มีรูปทรงสามเหลี่ยมโดดเด่น ให้วิวทิวทัศน์อันน่าทึ่งของทะเลนอร์วีเจียน

🏔️ (เฉพาะ summer) จุดชมวิว Reinebringen – จุดชมวิวพาโนรามาอันโด่งดังที่มองเห็นหมู่บ้าน Reine, ฟยอร์ด และภูเขาโดยรอบ นับเป็นภาพจำของหมู่เกาะโลโฟเทนที่ปรากฏในนิตยสารท่องเที่ยวทั่วโลก

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 129,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

โปรแกรมทริป ล่าแสงเหนือ ทรอมโซ–โลโฟเทน–เซนยา

วันที่ 1: การเดินทาง

  • ออกเดินทางจากประเทศไทย โดยสายการบินไทยแอร์เวย์

วันที่ 2: โทรมโซ (Tromsø)

  • เดินทางถึงเมืองโทรมโซ เมืองใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์เหนือ
  • เยี่ยมชมโบสถ์โทรมโซและโบสถ์อาร์กติก สถาปัตยกรรมรูปทรงสามเหลี่ยมโดดเด่น
  • เดินเล่นย่าน Storgata ถนนช้อปปิ้งหลักของเมือง
  • ชมอาคารไม้โบราณสไตล์นอร์ดิก
  • ชมอ่าวเมืองทรอมโซ จุดชมวิวที่สวยงามของเมืองท่า

วันที่ 3: โทรมโซ

  • เยี่ยมชมฟาร์มกวางเรนเดียร์ สัตว์ประจำถิ่นสำคัญของชาวซามิ
  • สำรวจหมู่บ้านชาวซามิ ชนพื้นเมืองดั้งเดิมของแถบอาร์กติก
  • ขึ้นยอดเขา Fjellheisen ด้วยกระเช้า ชมวิวพาโนรามาของเมือง

วันที่ 4: เซนยา (Senja)

  • สำรวจเกาะเซนยา เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของนอร์เวย์
  • จุดชมวิวเมืองเซนจ้า ถ่ายภาพทะเลและภูเขาอันแปลกตา
  • ปีนยอดเขา Segla (เฉพาะฤดูร้อน) ยอดเขาโดดเด่นที่มีความสูง 639 เมตร
  • พักที่ Hamn i Senja

วันที่ 5: สโวลแวร์ (Svolvær)

  • เดินทางจากเซนยาสู่สโวลแวร์ ประตูสู่หมู่เกาะโลโฟเทน
  • สำรวจเมืองหลวงของหมู่เกาะโลโฟเทน ศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาค
  • ชมท่าเรือประมง ศูนย์กลางอุตสาหกรรมประมงของหมู่เกาะ
  • สำรวจพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ เรียนรู้ประวัติศาสตร์การประมงในทะเลเหนือ
  • เดินเล่นชมทัศนียภาพเมือง เห็นบ้านไม้สีสันสดใสริมน้ำ

วันที่ 6: สโวลแวร์และ Reine

  • แวะชม Henningsvær ที่ได้ฉายาว่า “เวนิสแห่งโลโฟเทน”
  • เยี่ยมชมหมู่บ้าน Nusfjord หมู่บ้านชาวประมงโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นมรดกโลก
  • เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวประมง Å จุดสิ้นสุดของถนนหลักบนหมู่เกาะโลโฟเทน
  • จุดชมวิว Hamnøy ภาพจำของคนทั่วโลก

วันที่ 7: แฮมนอย (Hamnøy)

  • เที่ยวเมือง Reine หมู่บ้านที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในโลก
  • แวะ Reinebringen จุดชมวิวที่มองเห็นวิวโลโฟเทนแบบพาโรนามา (เฉพาะหน้าร้อน)
  • แวะจุดชมวิวสำคัญของ Lofoten
  • เที่ยวเมือง Sakrisoy หมู่บ้านสีเหลืองเพียงแห่งเดียวในโลโฟเทน ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตน้ำมันตับปลาคอด

วันที่ 8: หาดต่างๆ

  • สำรวจชายหาดอุตทาคเลียว (Uttakleiv) ชายหาดโรแมนติกที่สุดในยุโรป มีก้อนหินรูปหัวใจเป็นเอกลักษณ์
  • เยี่ยมชมชายหาดฮอคแลนด์ (Haukland) ชายหาดทรายขาวน้ำใสที่สวยที่สุดในนอร์เวย์
  • เดินทางไปชายหาดรัมเบิร์ก (Ramberg) หาดทรายกว้างยาว 3 กิโลเมตร
  • สำรวจชายหาดเฟรดวาง (Fredvang) ชายหาดท่ามกลางภูเขาสูง
  • พักที่เมือง Leknes เมืองที่ตั้งอยู่กลางหมู่เกาะโลโฟเทน

วันที่ 9: ออสโล

  • เดินทางสู่กรุงออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์
  • ต่อเครื่องกลับประเทศไทย

วันที่ 10: กรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ

เดินทางช่วง กย – มีค พาออกล่าแสงเหนือทุกคืน หากเมฆไม่มากเกินไป

 

Categories
Uncategorized

ทัวร์นอร์เวย์ฟินแลนด์ แลปแลนด์ • โลโฟเทน

ทัวร์นอร์เวย์ฟินแลนด์
แลปแลนด์ • โลโฟเทน
สรุปไฮไลท์

10 ไฮไลท์ของทัวร์นอร์เวย์

☀️ชมแสงเหนือที่คาคสเลาท์ทาเนน (Kakslauttanen) พักในกระท่อมแก้วอิกลูอันเป็นเอกลักษณ์ และตื่นตาตื่นใจกับการชมปรากฏการณ์แสงเหนือ (Aurora Borealis) ในยามค่ำคืน ประสบการณ์ที่หาชมได้ยากและเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สวยงามที่สุดในโลก

☀️ขับเลื่อนหิมะและสุนัขลากเลื่อนที่อิวาโล สัมผัสประสบการณ์ดั้งเดิมของชาวแลปแลนด์ด้วยการขับเลื่อนหิมะและนั่งเลื่อนที่ลากด้วยสุนัขฮัสกี้ ท่ามกลางทัศนียภาพธรรมชาติที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน

☀️เยี่ยมชมหมู่บ้านซานตาคลอส (Santa Claus Village) ที่โรวาเนียมิ พบกับซานตาคลอสตัวจริงและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ส่งโปสการ์ดจากที่ทำการไปรษณีย์ของซานตา และถ่ายรูปคู่กับเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตอาร์กติก

☀️ขึ้นกระเช้า Fjellheisen ที่ทรอมโซ ชมวิวพาโนรามาอันน่าทึ่งของเมืองทรอมโซ ฟยอร์ด และภูเขาโดยรอบจากยอดเขาสโตร์สไตเนน ประสบการณ์ที่จะทำให้คุณเห็นความงดงามของ “ปารีสแห่งยุโรปเหนือ” จากมุมสูง

☀️เยี่ยมชม Arctic Cathedral ชมโบสถ์ Tromsdalen หรือ Arctic Cathedral ที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์คล้ายภูเขาน้ำแข็ง สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองทรอมโซ พร้อมกระจกสีงดงามขนาดใหญ่ที่ด้านหลังแท่นบูชา

☀️ล่องเรือชมหมู่เกาะโลโฟเตน (Lofoten Islands) ประสบการณ์นั่งเรือเฟอร์รี่สู่หมู่เกาะโลโฟเตน ดินแดนที่ได้รับการยกย่องว่ามีภูมิทัศน์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ชมทัศนียภาพของภูเขาสูงชัน ฟยอร์ด และหมู่บ้านชาวประมงสีสันสดใส

☀️ชมหมู่บ้านประมง Reine เยี่ยมชมหมู่บ้าน Reine ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ ด้วยบ้านชาวประมงสีแดงสดริมน้ำและฉากหลังเป็นภูเขาสูงตระหง่าน ภาพที่คุณมักเห็นในโปสการ์ดหรือปฏิทินของนอร์เวย์

☀️สัมผัสชายหาด Uttakleiv และ Haukland ชมชายหาดที่สวยที่สุดในยุโรปทั้งสองแห่ง ด้วยหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง สร้างภาพความงามที่แตกต่างจากชายหาดทั่วไป

☀️เยี่ยมชมหมู่บ้าน Nusfjord ที่เป็นมรดกโลก สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวประมงนอร์เวย์ในหมู่บ้านที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO

☀️ถ่ายภาพที่จุดชมวิว Hamnøy Landmark เก็บภาพความประทับใจที่สะพาน Hamnøy จุดถ่ายภาพยอดนิยมที่มีวิวของกระท่อมชาวประมงสีแดงตัดกับภูเขาสูงและผืนน้ำสะท้อนภาพ หนึ่งในภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของนอร์เวย์และมักปรากฏในนิตยสารท่องเที่ยวชั้นนำทั่วโลก

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 149,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
    • พักเดี่ยวเพิ่ม 35,000 บาท
  • วันเดินทาง  
    • 20 – 28 กย. 68
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Rovaniami

โปรแกรมทริป นอร์เวย์ฟินแลนด์กลุ่มเล็ก แลปแลนด์ โลโฟเทน

วันที่ 1: จุดเริ่มต้นการผจญภัยในดินแดนแสงเหนือ

  • สนามบินสุวรรณภูมิ, กรุงเทพฯ – จุดเริ่มต้นของการเดินทางอันน่าตื่นเต้น
  • เดินทางสู่ Ivalo, แลปแลนด์, ฟินแลนด์ – เมืองเล็กๆ ที่เป็นประตูสู่ดินแดนแห่งแสงเหนือและกิจกรรมในฤดูหนาว

วันที่ 2: สัมผัสวัฒนธรรมซามิและโดมแก้วใต้แสงเหนือ

  • เดินทางสู่หมู่บ้านทางเหนือของฟินแลนด์ – ดินแดนที่เงียบสงบและมีวัฒนธรรมชาวซามิ (Sami)
  • ขี่กวางเรนเดียร์ – พาหนะดั้งเดิมของชาวแลปป์ สัมผัสความอบอุ่นและความน่ารักของกวางเรนเดียร์
  • เข้าพักที่ Kakslauttanen Arctic Resort, Saariselkä – ที่พักโดมแก้วให้คุณนอนชมแสงเหนือจากเตียงอุ่นๆ

วันที่ 3: ดินแดนซานตาคลอสและวงกลมอาร์กติก

  • โบสถ์ Rovaniemi, ฟินแลนด์ – โบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นพร้อมภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่
  • Santa Claus Village, Rovaniemi – หมู่บ้านซานตาคลอสอย่างเป็นทางการ พบกับซานตาคลอสและส่งโปสการ์ดจาก Arctic Circle Post Office
  • จุดตัดเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล – ถ่ายรูปที่เส้นแบ่งเขตขั้วโลกเหนือที่ 66°33′39″ เหนือ

วันที่ 4: ทรอมโซ – เมืองหลวงแห่งแสงเหนือ

  • บินสู่เมือง Tromso, นอร์เวย์ – เมืองที่มีชีวิตชีวา ขึ้นชื่อว่าเป็น “ประตูสู่ขั้วโลกเหนือ” ตั้งอยู่ใต้ Aurora Oval
  • กระเช้าไฟฟ้า Fjellheisen – พาขึ้นไปยัง Storsteinen ที่สูง 421 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชมวิวพาโนรามาของเมือง

วันที่ 5: เดินทางสู่หมู่เกาะโลโฟเทน

  • เมือง Evenes, นอร์เวย์ – เมืองเล็กๆ ในภูมิภาค Nordland เป็นจุดพักและเปลี่ยนถ่ายไปยังโลโฟเทน
  • Svolvaer, หมู่เกาะโลโฟเทน – เมืองใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางของหมู่เกาะที่มีความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง

วันที่ 6: หมู่บ้านชาวประมงและชายหาดงดงาม

  • Henningsvaer – หมู่บ้านชาวประมงบนเกาะเล็กๆ ได้รับขนานนามว่าเป็น “เวนิสแห่งโลโฟเทน” มีบ้านสีแดงสดใส
  • Uttakleiv Beach – ชายหาดชื่อดังด้วยทรายขาวและหินกลมมนกระจายทั่วหาด
  • Haukland Beach – ชายหาดสวยงามด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามและทรายขาวละเอียด

วันที่ 7: หมู่บ้านโบราณและจุดชมวิวแลนด์มาร์ค

  • Nusfjord – หมู่บ้านชาวประมงโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดี มีบ้านไม้เก่าแก่สีเหลือง
  • Reine – หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่มีทัศนียภาพงดงามราวภาพวาด ถูกยกให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในนอร์เวย์
  • Sakrisoy – หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบ้านสีเหลืองสดใสบนเกาะเล็กๆ ที่เชื่อมต่อด้วยสะพาน
  • Hamnoy – จุดชมวิวแลนด์มาร์คที่มีสะพาน Hamnoy เชื่อมระหว่างเกาะ พร้อมวิวภูเขา Olstind อันเป็นสัญลักษณ์

วันที่ 8: เดินทางกลับ

  • บินจาก Evenes สู่ Oslo, นอร์เวย์ – ออกจากดินแดนแห่งความงามของโลโฟเทนสู่เมืองหลวง
  • ต่อเครื่องบินกลับประเทศไทย – เตรียมตัวเดินทางกลับพร้อมความทรงจำอันล้ำค่า

วันที่ 9: กลับถึงบ้าน

  • เดินทางถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ – กลับถึงบ้านพร้อมความทรงจำพิเศษจากทริปแสงเหนือและโลโฟเทน
Categories
Uncategorized

Kazakstan

Categories
Uncategorized

Uzbegistan

error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม