Categories
08-Aug 2024 FullBoard SouthAsia Tour

ทัวร์เลห์ ซันสการ์ ปุกเตา

Leh Ladakh​ Phuktal
สรุปทริป
☀️ เลห์ ลาดัก
☀️ 12 วัน 10 คืน  
☀️ เก็บครบทุกไฮไลท์เมืองเลห์ / Shanti Stupa / Nubra Valley / Turtuk Village / ทะเลสาบแปงกอง / Thiksey Monastery / Shey Palace / Hemis
☀️ จุดชมวิว Sangam ชมแม่น้ำ 2 สี (จุดบรรจบกันของแม่น้ำซันสการ์ ที่มีสีฟ้า และแม่น้ำสินธุที่มีสีเขียวขุ่น)
☀️ วัดลามายูรู วัดพุทธแบบทิเบต หนึ่งในวัดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดใน Ladakh
☀️ วัด Phuktal สร้างขึ้นจากไม้และโคลน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน อดีตเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้าเท่านั้น
☀️ Manali เมืองเก่าที่มีเสน่ห์แบบดั้งเดิม อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของชา Masala และเสียงดนตรีพื้นเมือง
 

รายละเอียด

🗓️ เดินทาง 17 – 28 กค 68

💰 ค่าทริป 59,900

✅️ Full Service
✅️ โรงแรมระดับ 3 ดาว
✅️ รวมอาหารทุกมื้อ
✅️ เดินทางโดยรถ innova หรือ tempo
✅️ มีหัวหน้าทัวร์คนไทย ถ่ายรูปให้
✅️ ค่ากิจกรรม ทุกอย่าง ตามระบุในโปรแกรม
✅️ ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง(สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้)
ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
ไม่รวมทิป
 
การจอง / ติดต่อ
📱 มัดจำท่านละ 25,000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋 painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋 เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบิน ออกเดินทางไปเดลี • ต่อไฟล์ทไปยังเมือง Leh

วันที่ 2 | Leh • Nubra Valley (128 Kms | approx. 4-5 hrs)

วันที่ 3 | Hunder • Turtuk • Thang • Hunder (190 Kms I approx. 6-7 hrs)

วันที่ 4 | Nubra • Pangong Lake via Shyok River Road (150 Kms | approx. 6-7 hrs)

วันที่ 5 | Pangong Lake • Leh (140 Kms | approx. 4-5 hrs)

วันที่ 6 | Leh • Lamayuru • Sham Valley (170 Kms | approx. 5-6 hrs)

วันที่ 7 | Sham Valley • Lingshed • Padum (215 kms | approx. 7-8 hrs)

วันที่ 8 | Padum Sightseeing (104 Kms | approx. 5-6 hrs)

วันที่ 9 | Padum • Jispa via Phuktal ( 150 kms | approx. 6-7 hrs)

วันที่ 10 | Jispa • Manali (95 Kms I approx. 3-4 hrs)

วันที่ 11 | Manali • Leh • Delhi • Bangkok

วันที่ 12 | Bangkok

ทริปเลห์ที่ผ่านมา

Categories
FullBoard Mid Asia SouthAsia

ทัวร์เลห์ ลาดัก

Leh Ladakh​
สรุปทริป
☀️ เลห์ ลาดัก
☀️ 9 วัน 7 คืน
☀️ เมืองเลห์ ตั้งอยู่ในรัฐลาดัก (Ladakh) จุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวแบบผจญภัย และการถ่ายภาพแบบ Landscape
☀️ Shanti Stupa หรือ “สถูปแห่งสันติภาพ” เป็นโครงสร้างสีขาวที่สง่างาม ตั้งอยู่บนยอดเขา Chanspa ใน Leh
☀️ Nubra Valley มีกิจกรรมเล่นสกีบนเนินทราย ขี่อูฐสองหนอก และเพลิดเพลินกับทุ่งดอกไม้
☀️ Turtuk Village หมู่บ้านที่วิวทิวทัศน์เป็นสีเขียว เส้นทางการค้าสายไหม
☀️ ทะเลสาบแปงกอ ทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลก น้ำมีสีสันที่งดงามเปลี่ยนสีตามมุมของดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงกระทบผืนน้ำ
☀️ Thiksey Monastery วัดในนิกายหมวกเหลือง (นิกายเกลุกปะ) ซึ่งเป็นนิกายเดียวกับของดาไลลามะ เป็นที่ประดิษฐานพระศรีอริยเมตไตรย์
☀️ Shey Palace พระราชวังฤดูร้อน กำแพงถูกฉาบด้วยทองคำผสมทองแดง ภายในมีรูปปั้นของพระศากยมุนี ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้
☀️ Magnetic Hill เนินเขาแม่เหล็ก โด่งดังจากปรากฏการณ์ รถที่จอดไว้บนเนินเขาโดยไม่ได้เบรคจะไหลขึ้น
☀️ จุดชมวิว Sangam ชมแม่น้ำ 2 สี (จุดบรรจบกันของแม่น้ำซันสการ์ ที่มีสีฟ้า และแม่น้ำสินธุที่มีสีเขียวขุ่น)
☀️ วัดลามายยูรู วัดพุทธแบบทิเบต หนึ่งในวัดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดใน Ladakh
☀️ วัด Phuktal สร้างขึ้นจากไม้และโคลน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน อดีตเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้าเท่านั้น
☀️ Manali เมืองเก่าที่มีเสน่ห์แบบดั้งเดิม อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของชา Masala และเสียงดนตรีพื้นเมือง
 
รายละเอียด
🗓️ 1-12 พ.ค. 68
💰 ค่าทริป xxxxx
 
✅️ Full Service
✅️ โรงแรมระดับ 3 ดาว
✅️ รวมอาหารทุกมื้อ
✅️ เดินทางโดยรถ innova หรือ tempo
✅️ มีหัวหน้าทัวร์คนไทย ถ่ายรูปให้
✅️ ค่ากิจกรรม ทุกอย่าง ตามระบุในโปรแกรม
✅️ ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง (สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้)
ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
ไม่รวมทิป
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 25000 บาท ส่วนที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋 painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋 เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบิน ออกเดินทางไปเดลี

พักที่เมือง Delhi


วันที่ 2 |
บินต่อไปยังเมืองเลห์ เข้าพักผ่อนปรับสภาพร่างกาย • เย็นเดินเล่นตลาด Leh Market • ชมเจดีย์สีขาว Shanti Stupa

พักที่เมือง Leh


วันที่ 3 |
พระราชวัง Shey Palaceวัด Thiksey •  พระราชวัง Stok Palace •  ชมวิว Sindhu Ghat

พักที่เมือง Leh


วันที่ 4 |
Nubra Valley ชมวิวจุดสุงสุดของถนนสายเลห์-นูบร้า Khardung la pass • ชมวิวภูเขา Diskit Village • เดินทางไปที่ Sand Dunes

พักที่เมือง Nubra


วันที่ 5 |
หมู่บ้าน Turtuk Village • เดินทางกลับ Diskit

พักที่เมือง Nubra


วันที่ 6 |
ไปยังทะเลสาบแปงกอง นอนแบบกระโจม

พักที่เมือง Pangong


วันที่ 7 |
ชื่นชมบรรยากาศรอบๆทะเลสาบแปงกอง และเดินทางกลับเมืองเลห์

พักที่เมือง Leh


วันที่ 8 |
อิสระช่วงเช้า และไปสนามบินกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 9 | ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Categories
10-Oct 2024 FullBoard SouthAsia

ทัวร์ปากีสถาน

PAKISTAN
สรุปทริป
☀️ ปากีสถานใบไม้เปลี่ยนสี
☀️ 11 วัน 9 คืน  
☀️ เมือง Skardu เมืองหลวงแห่งแคว้น และจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีไฮไลท์ ทั้งหมด แวะจอดกันจนฉ่ำ
☀️ หุบเขา Hunza พระเอกแห่งปากีสถาน
☀️ไม่พลาด Kyber village / Passu / Attabad Lake
☀️ หุบเขาสการ์ดู จุดหมายใหม่ปากีสถาน
☀️ Unseen เมือง Khaplu เมือง Kharmang รับรองไม่ผิดหวัง
☀️ ทะเลทราย Katpana และ Safaranga
☀️ อื่นๆอีกมากมาย
  
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง 4 – 14 เมย 68 / 19 – 29 ตค 68 / 31 ตค – 10 พย 68
💰 ค่าทริป 59,900
 
✅️ Full Service
✅️ รวมอาหารทุกมื้อ มีอาหารไทยเสริม
✅️ รวมค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศ 2 เที่ยว
✅️ โรงแรมระดับ 4 ดาวใน Hunza และ ดีที่สุดในเมืองนั้นๆหากไม่มี 3 หรือ 4 ดาว
✅️ เดินทางโดยรถ Minibus กรุ๊ปละ 12 ท่าน
✅️ หัวหน้าทัวร์ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ ค่ากิจกรรม ทุกอย่าง ตามระบุในโปรแกรม
✅️ ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง(สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมทิป
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 25000 บาท ส่วนที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋 painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋 เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบิน เดินทางไปเมืองอิสลามาบัด โดยสายการบิน Thai Airways

พักที่เมือง Islamabad

วันที่ 2 | บินภายในสู่ Skardu • จุดชมวิว ราคาโปชิ เมืองโบราณบนเส้นทางสายไหม • เมือง GIlgit • หุบเขา Hunza พระเอกแห่งปากีสถาน 

พักที่เมือง Hunza

วันที่ 3 | ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ Lady finger peak • ชม Baltit Fort ป้อมปราการแลนมาร์คสำคัญบนหุบเขาฮุนซ่า • Hopper valley หมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งมีธารน้ำแข็งฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) ที่สีของธารน้ำแข็งเป็นสีเทาดำซึ่งแตกต่างจากที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด • Nagar Valley ขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรมอันยาวนาน • Hussaini suspension bridge สะพานไม้สุดหวาดเสียวข้ามแม่น้ำ Hunza

พักที่เมือง Passu

วันที่ 4 | Passu Glacier ธารน้ำแข็งสีขาวขนาดใหญ่Khyber Village หมู่บ้านที่มีใบไม้เปลี่ยนสีหลากหลายชนิด • แวะชมวิว Batura Glacier View Point ถ่ายรูปทะเลสาบ Attabad lake ทะเลสาบสีเทอร์ควอยส์แห่งปากีสถาน

พักที่เมือง Hunza

วันที่ 5 | เดินทางกลับ Skardu • ชม Upper Kachura เส้นทางธรรมชาติชมสวยงามของต้น HIMALAYAN Poplar •  Lower Kachura ทะเลสาบที่ตั้งอยู่ที่ความสูง 2,500 เมตร • ไปยังเมือง Shigar เมืองโบราณในอ้อมกอดของเทือกเขาการาโก

พักที่เมือง Shigar

วันที่ 6 | Sarfaranga Cold Desert ทะเลทรายเย็นที่สูงที่สุดในโลก • Khaplu Village หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนสันเขาที่มีอายุกว่า 100 ปี • ชมพระราชวังโบราณ Khaplu Fort

พักที่เมือง Khaplu


วันที่ 7 |
เดินทางไปยังหุบเขา KharmangManthokha Waterfall น้ำตกบนความสูง 180 ฟุต • เดินทางเพื่อพักที่เมือง Skardu

พักที่เมือง Skardu

วันที่ 8 | Katpana Desert (Cold desert) หรือ ทะเลทรายเย็นChunda valley ถ่ายภาพใบไม้เปลียนสี

พักที่เมือง Skardu

วันที่ 9 | บินกลับเมืองอิสลามาบัด • Taxila Museum ที่รวมคอลเลกชันพุทธศิลป์คันธาระไว้มากมาย • Faisal Mosque มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้

พักที่เมือง Islamabad

วันที่ 10 | เดินทางสู่เมือง Lahore เมืองในแคว้นปัญจาบ หรือเมืองภายใต้กำแพง • ชมพิธีปิดพรมแดน ณ Wagah border หรือที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “กำแพงเบอร์ลิน แห่งชมพูทวีป” • ไปสนามบินเพื่อบินกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน Thai airways เที่ยวบินที่ TG350 เวลา 23.20-06.25 น.

วันที่ 11 | กลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Khaplu valley

หุบเขาที่งดงามตั้งอยู่ในภูมิภาค Gilgit-Baltistan ทางตอนเหนือของประเทศปากีสถาน หุบเขานี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Shyok และล้อมรอบด้วยเทือกเขา Karakoram ที่สวยงาม

Khaplu valley

หุบเขาที่งดงามตั้งอยู่ในภูมิภาค Gilgit-Baltistan ทางตอนเหนือของประเทศปากีสถาน หุบเขานี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Shyok และล้อมรอบด้วยเทือกเขา Karakoram ที่สวยงาม

On the way to Khaplu valley
Kachura

Upper Kachura พื้นที่ส่วนใหญ่ทำเกษตรเป็นสวนแอปเปิ้ลและแอพริคอท ที่ตลอดเส้นทางสามารถชมธรรมชาติสวยงามของต้น HIMALAYAN POPLAR เรียงรายนับพันต้น แนวเทือกเขาหิมาลัย และทะเลสาบสีเทอคอยส์

Khaplu valley

หุบเขาที่งดงามตั้งอยู่ในภูมิภาค Gilgit-Baltistan ทางตอนเหนือของประเทศปากีสถาน หุบเขานี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Shyok และล้อมรอบด้วยเทือกเขา Karakoram ที่สวยงาม

Chunda valley

ถ่ายภาพใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้ที่พบมากที่สุดในหุบเขาชุนดาคือต้นป็อปลาร์ ต้นเบิร์ช และต้นเมเปิ้ล เมื่อใบไม้เปลี่ยนสี หุบเขาจะเต็มไปด้วยเฉดสีต่างๆ เช่น สีเหลือง สีส้ม สีแดง และสีม่วง ครั้งหนึ่งเคยน้ำท่วมใหญ่ ผู้รอดชีวิตจากเมืองอื่นๆ ทั้งหมดจึงรวมตัวกันที่หุบเขานี้เพื่อให้รอดพ้นจากน้ำท่วม ระหว่างทางขึ้นสู่หมู่บ้านด้านบนมีวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมาก

Hopper Valley

ชมและถ่ายรูปกับธารน้ำแข็งฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) ที่สีของธารน้ำแข็งเป็นสีเทาดำซึ่งแตกต่างจากที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากธารน้ำแข็งในบริเวณนี้ได้สั่งสมจากอดีตมาอย่าง ยาวนานรวมกับแร่ธาตุในบริเวณนี้ ได้เปลี่ยนให้น้ำแข็งกลายเป็นหินนั่นเอง

Kharmang

เป็นเขตที่แยกออกมาในปี 2558 ก่อนหน้านั้นที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเขตสการ์ดู หุบเขาขะมังอุดมด้วยน้ำตกขนาดใหญ่ ทุ่งหญ้าเขียวขจี ทุ่งหญ้า ภูเขาสูง ผลไม้สด ทุ่งหญ้าและทุ่งหญ้าเขียวขจีที่จะทำให้ถ่ายภาพได้ทุกช่วงเวลา ระหว่างทางมีวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย

Kharmang

เป็นเขตที่แยกออกมาในปี 2558 ก่อนหน้านั้นที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเขตสการ์ดู หุบเขาขะมังอุดมด้วยน้ำตกขนาดใหญ่ ทุ่งหญ้าเขียวขจี ทุ่งหญ้า ภูเขาสูง ผลไม้สด ทุ่งหญ้าและทุ่งหญ้าเขียวขจีที่จะทำให้ถ่ายภาพได้ทุกช่วงเวลา ระหว่างทางมีวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย

Nanga valley

มีความสูง 8,126 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชื่อมีความหมายว่า “ยอดเขาเปลือย” แต่คนกลับรู้จักกันในนาม “ยอดเขาเพชรฆาต”

Shigar Valley

เป็นเมืองสำคัญและชุมชนโบราณในอ้อมกอดของเทือกเขาการาโกรัม (KARAKORUM) โดยผู้คนมีเชื้อสาย Balti ของธิเบต (TIBET) และยังคงมีวัฒนธรรมแบบธิเบตปะปนอยู่ในวิถีชีวิตชาวมุสลิม

Face off pakistan
Katpana dessert

หรือที่เรียกว่าทะเลทรายเย็น เป็นทะเลทรายที่ระดับความสูง ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Skardu ในเขต Shigar ของ Gilgit-Baltistan ทะเลทรายมีเนินทรายขนาดใหญ่ที่บางครั้งปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ทะเลทราย Katpana Cold อยู่ที่ระดับความสูง 2,226 เมตร (7,303 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในทะเลทรายที่สูงที่สุดในโลก

Katpana Dessert

หรือที่เรียกว่าทะเลทรายเย็น เป็นทะเลทรายที่ระดับความสูง ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Skardu ในเขต Shigar ของ Gilgit-Baltistan ทะเลทรายมีเนินทรายขนาดใหญ่ที่บางครั้งปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ทะเลทราย Katpana Cold อยู่ที่ระดับความสูง 2,226 เมตร (7,303 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในทะเลทรายที่สูงที่สุดในโลก

Kharmang

เป็นเขตที่แยกออกมาในปี 2558 ก่อนหน้านั้นที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเขตสการ์ดู หุบเขาขะมังอุดมด้วยน้ำตกขนาดใหญ่ ทุ่งหญ้าเขียวขจี ทุ่งหญ้า ภูเขาสูง ผลไม้สด ทุ่งหญ้าและทุ่งหญ้าเขียวขจีที่จะทำให้ถ่ายภาพได้ทุกช่วงเวลา ระหว่างทางมีวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย

Hunza

ดินแดนที่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 2,400 เมตร ผู้คนที่นี่มีอายุยืนยาวนับ 100 ปี พืชพันธุ์หลากหลาย แม่น้ำใหญ่ไหลผ่าน เทือกเขาสูงสลับซับซ้อนยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะเชื่อมยาวไปถึงหิมาลัย

Shigar

เมืองสำคัญและชุมชนโบราณในอ้อมกอดของเทือกเขาการาโกรัม (KARAKORUM) โดยผู้คนมีเชื้อสาย Balti ของธิเบต (TIBET) และยังคงมีวัฒนธรรมแบบธิเบตปะปนอยู่ในวิถีชีวิตชาวมุสลิม

Skardu

เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในปากีสถาน ตั้งอยู่ในหุบเขา Karakoram ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามและธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์

Hunza

ดินแดนที่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 2,400 เมตร ผู้คนที่นี่มีอายุยืนยาวนับ 100 ปี พืชพันธุ์หลากหลาย แม่น้ำใหญ่ไหลผ่าน เทือกเขาสูงสลับซับซ้อนยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะเชื่อมยาวไปถึงหิมาลัย

Khyber Village

เป็นหมู่บ้านในหุบเขา Hunza Valley ของ Gilgit–Baltistan ในปากีสถาน แวะจุดชมวิว Batura Glacier View Point เห็นวิวภูเขา Batura ที่เป็นที่นิยมในการเดินเทรค เพราะมีภูมิประเทศที่น่าสนใจรวมถึงธารน้ำแข็ง Batura ยาว 57 กิโลเมตร แวะ Hussaini Suspension Bridge สะพานที่ใช้ข้ามแม่น้ำของคนท้องถิ่น ซึ่งมีฉากหลังเป็นภาพของ หุบเขาพาสสุ (Passu Valley)

Categories
10-Oct 2024 FullBoard Mid Asia SouthAsia

ทัวร์อินเดีย ราชาสถาน

Rajastan
สรุปทริป
☀️ เส้นทาง ราชาสถาน

☀️ 9 วัน

 รายละเอียด
 
🗓️ เดินทาง 
💰 ค่าทริป
  
✅️ Full service ออกกรุ๊ปเมื่อครบ 10 ท่าน
✅️ ที่พักแบบ 4-5 ดาว
✅️ รวมอาหารทุกมื้อ
✅️ มีหัวหน้าทัวร์คนไทย ถ่ายรูปให้ 
✅️ เดินทางด้วย Minibus Tempo
✅️ ประกันอุบัติเหตุ (ซื้อความคุ้มค้องเพิ่มได้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมทิป
   
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ         บาท ส่วนที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาติ 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋เงื่อนใขยกเลิกทริป กดที่นี่
 
โปรแกรมโดยย่อ
  • พบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรรภูมิ
  • เดินทางสู่เมืองเดลี
  • เดินทางถึงสนามบินเดลี รอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่เมือง Udaipur โดยสายการบินภายในประเทศ
  • ถึงสนามบิน Udaipur จากนั้นพาไปชม ทะเลสาบพิโชล่า (PICHOLA LAKE) ชมทิวทัศน์รอบทะเลสาบที่มี ขนาดกว้าง 3 กม. และยาว 4 กม. ภายในทะเลสาปแห่งนี้มีเกาะตั้งอยู่ 4 เกาะ
  • ชม JAGDISH TEMPLE วัดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง UDAIPUR และเป็นวัดที่เคารพสักการะสำหรับชาวเมืองเป็นอย่างมาก สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1651 เป็นเทวาลัยที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพจักกนาถ (LORD JAGGANATH) ซึ่งเป็นอวตารลำดับที่ 9 ของพระวิษณุ โดยเทวาลัยแห่งนี้ถือได้ว่าเป็น 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวหลักในเมืองอุทัยปุระ เนื่องจากลักษณะเด่นทางสถาปัตยกรรม 
  • พักที่ Mewargarh ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
  • ชม วัดเชนแห่งเมืองรานัคปุระ (Jain Temple) วัดเชนแห่งเมืองรานัคปุระ ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 โดยวิหารแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางเส้นทางแสวงบุญของศาสนิกผู้นับถือศาสนาเชน ตัวอาคารสร้างมาจากหินอ่อนและใช้เสาค้ำตัวอาคารถึง 1444 ต้น ภายในประดิษฐานพระอธินาถหรือพระวิษณุ
  • นำท่านชม ซิตี้พาเลซ(City Palace) หรือพระราชวังฤดูหนาว สร้างโดย Maharana Udai Signh II ในปี 1559 มีสถาปัตยกรรมแบบผสมระหว่างยุโรปและจีนเข้าด้วยกัน ตั้งตระหง่านอยู่บนฝั่งริมทะเลสาบ Pichola ที่พระราชวังมีสนามหญ้า, ศาลา ,ระเบียง สร้างด้วยหินแกรนิตและหินอ่อน ภายในประดับด้วยกระจกและแก้วหลากสี ประกอบด้วย 11 พระราชวัง
  • ชม ฟาเตห์ ประการห์ พาเลซ(Fateh Prakash Palace) ตั้งอยู่ทางตะวันออกริมทะเลสาบ Pichola ตั้งตามชื่อ Maharana Fateh Singh หนึ่งในผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ Mewar พระราชวังที่สวยงามแห่งนี้มีป้อมปราการที่โดดเด่นและโดมคู่บารมี ภาพวาดและคริสตัลอันล้ำค่า มีเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่แกะสลักสวยงาม ปัจจุบันบางส่วนได้กลายเป็นโรงแรมที่พัก
  • มุ่งหน้าสู่ เมืองโจดปูร์ หรือ เมืองโยธปุระ เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในแคว้นราชาสถาน ได้ชื่อว่า เมืองสีฟ้า เพราะบ้านเรือนนิยมทาด้วยสีฟ้าซึ่งถือเป็นสีสัญลักษณ์ของพราหมณ์
  • พักที่ Raj Bagh ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
  • เที่ยวชม ป้อมปราการเมห์รันกาห์ (Mehrangarh Fort) ถือได้ว่าเป็น 1 ใน 4 ของพระราชวังแบบป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย ที่กินเนื้อที่อาณาบริเวณภูเขา 125 ลูก ภายในมีพระราชวังที่สวยงามและเป็นจุดชมวิวมหานครสีฟ้าที่งดงาม
  • นำชม พิพิธภัณฑ์พระราชวังอุเหมาบาวัน (Umaid Bhavan Palace) สร้างขึ้นในปี1929 เป็นพระราชวังที่ก่อสร้างขึ้นในยุคใหม่และเป็นพระราชวังสุดท้ายที่สร้างขึ้นก่อนอินเดียได้รับอิสรภาพจากอังกฤษ โดยใช้ฝีมือแรงงานกว่า 3,000 คน และใช้เวลาก่อสร้างถึง 15 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ ภายในพระราชวังแห่งนี้ประกอบด้วยห้องต่างๆ 347 ห้อง แบ่งเป็นห้องจัดงานเลี้ยงที่จุคนได้ราว 1,000 คน ถึง 8 ห้อง นอกจากนี้ยังมีโรงภาพยนตร์ รวมถึงสระน้ำขนาดยักษ์อยู่ชั้นใต้ดินด้วย
  • ชม อนุสรณ์สถานจัสวานธาดา (Jaswant Thada) อาคารที่สร้างด้วยหินอ่อนทั้งตัวอาคาร ถูกใช้เป็นสุสานหลวงที่ฝังพระศพของมหาราชา จัสวาน สิงห์ที่สองและราชนิกูลองค์อื่นๆ
  • พักที่ Raj Bagh ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
  • เดินทางสู่เมืองแอจเมอร์ เป็นหนึ่งในหัวเมืองหรือเขตปกครองที่สำคัญของรัฐราชาสถาน โดยเมืองแอจเมอร์ถูกสร้างขึ้นโดยชาคัมบารี ชาห์ฮามานา (เชาฮัน) เมืองแอจเมอร์เป็นเมืองที่ถูกขาอราวัลลี่โอบล้อมไว้ และเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางการจาริกแสวงบุญของศาสนาอิสลามนิกายซูฟี
  • ชม Dargah Sharif สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม เป็นสุสานของนักบุญนิกายซูฟี “ควาจาห์ มออินุดดิน ชิสที (KHWAJA MOINUDDIN CHISHTI)” ซึ่งตั้งอยู่บนเชิงเขาทาราการ์ ซึ่งภายในสถานที่แห่งนี้ประกอบด้วยอาคารหินอ่อนสีขาวที่มีประตูขนาดมหึมาที่นิซามแห่งไฮเดอราบัดเป็นผู้สร้างถวาย
  • เดินทางต่อไปเมืองพุชคาร์ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบพุชคาร์อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่แสวงบุญของชาวฮินดู เป็นเมืองมังสวิรัติ เป็นเมืองที่ปลอดเนื้อสัตว์ ปลอดไข่ ปลอดแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด เป็นเมืองเก่าแก่ ตึกรามบ้านช่องสีขาวเรียงรายรอบทะเลสาบ
  • นำท่านชม วัดพระพรหม ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันในนาม Jagatpita Brahma Mandir เป็นเทวาลัยที่เชื่อว่าถูกสร้างขึ้นมาแล้ว 2,000 ปีและมาบูรณะปฏิสังขรณ์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่14 โดยเทวาลาลัยแห่งนี้ถือได้ว่าเป็น 1 ในเทวาลัยอันมีไม่มากในโลกแห่งนี้ที่เป็นเทวาลัยของพระพรหม
  • ชม ทะเลสาบ PUSHKAR ตั้งอยู่ที่เมืองพุชคาร์ ที่นี่เป็นเมืองในตำนานของศาสนาฮินดู มีความเชื่อว่า เป็นบ้านเกิดของพระพรหม ทุกๆปีจะมีชาวฮินดูเดินทางออกมาแสวงบุญและอาบน้ำที่ทะเลสาบแห่งนี้
  • พักที่ Brahma Horizon ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
  • เดินทางไปยังเมืองชัยปูร์ เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นราชาสถาน โดยท่านมหาราชา ไสวชัย สิงห์ ที่ 2 (Maharaja Sawei Jai Singh II) เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1727 หรือเรียกว่า นครแห่งชัยชนะ
  • ชม Nahargarh Fort เป็นจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นเมืองจัยปูร์ได้แบบกว้างๆและชัดเจนอีกหนึ่งของเมือง ตั้งอยู่เทือกเขา Aravalli Hills ซึ่งเดิมทีป้อมแห่งนี้เคยเป็นปราการกำแพงป้องกันเมืองเมื่อในอดีต แต่ในทุกวันนี้กลับกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามอลังการไม่แพ้ที่ไหน ๆ ในราชาสถาน
  • ชม Hawa Mahal พาเลซออฟวินด์ หรือพระราชวังแห่งสายลม สร้างในปี ค.ศ.1799 เป็นอาคาร 5 ชั้นสร้างด้วยหินทรายออกแดงคล้ายสีปูนแห้ง สถาปัตยกรรมสไตล์เปอร์เซียกับโมกุล มีหน้าต่างถึง 953 ช่อง คำว่า ฮาวา หมายถึงสายลม ซึ่งถือเป้็นสัญลักษณ์แห่งจัยปูร์ จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองสีชมพู
  • พักที่ Clarks Amer ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
  • เดินทางสู่สนามบิน เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปยังเมืองจัยซาแมร์ โดยสายการบินภายในประเทศ
  • เดินทางถึงเมืองจัยซาแมร์ เป็นเมืองที่ได้รับสมญานามว่า นครสีทอง ตั้งอยู่บนที่ราบสูง กลางทะเลทรายธาร์ เมืองแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นจากหินทรายสีเหลือง
  • นำชมป้อมจัยซาแมร์ (Jaisalmer Fort) ปราการขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทะเลสาบ สร้างโดยมหาราชา วัลไจซัล สร้างขึ้นใน ปี 1156 รอบๆ ป้อมจัยซาแมร์มีหอรบถึง 99 หอ โดยศัตรูหลักของเมืองนี้คือบรรดา เจ้าราชปุตของนครต่างๆ รวมถึงจักรพรรดิอัคบาร์แห่งโมกุล ปัจจุบันป้อมจัยซาแมร์ เป็นป้อมเดียวในอินเดียที่มีผู้คนอาศัยอยู่ด้านบน
  • นำชม พระราชวังของมหาราวัล (Palace of the Maharawal) ตั้งอยู่ด้านขวามือของป้อมจัยซาแมร์ เป็นพระราชวังขนาด 5 ชั้น แบ่งเป็นห้องต่างๆ ซึ่งตกแต่งสวยงามตามสไตล์ราชปุต โดยห้องที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่คือ กัชวิลล่าส์ (Gaj Villas) ซึ่งบุผนังด้วยกระเบื้องลายสีฟ้าเข้มจากประเทศฮอลแลนด์
  • เดินทางสู่ เนินทรายแซม (Sam Dune) ขี่อูฐชมทะเลทรายกับภูมิทัศน์ที่แสนงดงามของขอบฟ้าจรดกับผืนทราย รอชมพระอาทิตย์อัสดงกลางทะเลทราย อันเป็นภาพที่น่าสุดแสนประทับใจ
  • พักที่ Hotel Rang Mahal Jaisalmer โรงแรมระดับ 4 ดาว
  • ชม วัดเชน (Jain Temples) ตั้งอยู่บนป้อมจัยซาแมร์ กลุ่มวัดเชน ประกอบด้วยวัด 7 วัด มีวัดประธานซึ่งมีขนาดใหญ่สุดมีชื่อว่า ซานดราปราพู ส่วนอีก 6 วัด ได้แก่ วัดซานตินาท วัดสัมพนาท วัดซิตาลนาท วัดปาราสนาท วัดริคาบเดฟ และวัดคุณธูนาท ซึ่งแต่ละวัดก็สร้างเพื่อถวายแด่ศาสดาของศาสนาเชน ทั้งนี้วัดทั้งหมดยังสร้างเชื่อมถึงกัน ทำให้สามารถเดินเข้าออกแต่ละวัดได้อย่างสะดวก
  • ชม ฮาเวลีพัทวันกี (Patwon Ki Haveli) เป็นคฤหาสน์ที่มีขนาดใหญ่และหรูหราที่สุดในบรรดาฮาเวลีด้วยกัน ใช้เวลาในการสร้าง 50 ปี ความโดดเด่นอยู่ที่มีจาโรกัส (ระเบียงและซุ้มหน้าต่างที่ยื่นออกมาล้อมรอบคฤหาสน์) มากถึง 66 ระเบียง
  • นำท่านชม Saalam Singh Ki Haweli หรือพระตำหนักไข่มุก ซึ่งมี จุดเด่นอยู่ที่การนำเปลือกหอยมุกมาบด
  • ชม ทะเลสาบกาดซิซาร์ (Gadsisar Lake) เป็นทะเลสาบเก่าแก่ประจำเมือง จัยซาแมร์ สร้างโดยมหาราชา วาลกาดซี ราวค.ศ. 1367 ซึ่งทะเลสาบนี้เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเมืองจัยซาแมร์ รอบๆ ทะเลสาบจะมีวัดและอนุสรณ์สถานเล็กๆ สีเหลืองทองอร่าม
  • เดินทางกลับเมืองจัยปูร์ โดยสายการบินภายในประเทศ
  • พักที่ Clarks Amer ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
  • นำท่านชม พระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท (Amber fort) ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาสูงเหนือทะเลสาบเมาตา (MAOTA LAKE) และรายล้อมไปด้วยชุมชนของเขตเมืองเก่า เดิมทีสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของป้อมปราการเก่า ในยุคศตวรรษที่ 11โดยพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1592 โดยมหาราชาแมน ซิงห์ แล้วเสร็จในรัชกาลของมหาราชาใจ ซิงห์ ป้อมปราการแห่งนี้ยังถือได้ว่าเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมราชปุต (RAJPUT) หากต้องการขี่ช้างแทนการนั่งรถจี๊ป จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และการขี่ช้างจะต้องเผื่อเวลาเพิ่มเติม 
  • ชมพระตำหนักกลางน้ำ JAL MAHAL เป็นพระตำหนักฤดูร้อนของมหาราชาแห่งชัยปุระ สร้างโดยมหาราชาประตาปซิงห์ อยู่กลางทะเลสาบมานสาการ์ ในสมัยก่อนมหาราชาทรงมาประทับที่นี่ในช่วงฤดูร้อน เพื่อหลีกหลีความร้อน เป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามและประณีต ประดับตกแต่งไปด้วยพลอยหลากสี
  • ชมซิตี้พาเลช (City Palace) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 1 ใน 7 ของใจกลางเมือง ถูกสร้างขึ้นในรัชกาลของมหาราชาจัย ซิงห์ และถูกต่อเติมเรื่อยมา เป็นสถาปัตยกรรมแบบราชาสถานที่มีกลิ่นอายศิลปะแบบโมกุล พระราชวังแห่งนี้ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ ของเมืองชัยปุระที่แสดงเครื่องใช้ส่วนพระองค์ของมหาราชาแห่งเมืองชัยปุระ
  • ชมหอดูดาว จันทราแมนทาร์ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1727 โดยมหาราชาใจสิงห์ พระองค์ยังทรงเป็นกษัตริย์นักดาราศาสตร์ จึงทรงสร้างหอดูดาวและอุปกรณ์ดาราศาสตร์ขนาดใหญ่ไว้มากมาย เรียกว่า Jantar Mantar ชมนาฬิกาแดด สูงถึง 28 เมตร ที่ยังเที่ยงตรงอยู่
  • เดินทางไปสนามบิน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ
  • กลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม