สรุปทริป
☀️ ล่าแสงเหนือทุกคืน (ขึ้นกับสภาพอากาศ)
☀️ เก็บทุก Signature / Skogafoss / Seljalandsfoss / Kirkjufell ภูเขารูปหมวก
☀️ Dettifoss น้ำตกที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป
☀️ ทะเลสาบน้ำแข็ง Jokulsarlon และหาด Daimond beach
☀️ ถ้ำน้ำแข็ง (ตค- มีค)
☀️ ทุ่งมอส-ลาวา กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา / หาดทรายดำ เขาหินบะซอลต์ / Hvitserkur หินรูปช้าง
☀️ ถนนคนเดิน Akureyri Gerartogata
☀️ ชมปลาวาฬ
☀️ แช่น้ำแร่บลูลากูน
☀️ พักโรงแรม 4 ดาว
โปรแกรมโดยย่อ
วันที่ 1 |พบที่สนามบินสุวรรณภูมิ เช็คอินสายการบิน Thai Airway เที่ยวบินที่ TG950 00.05-06.35
วันที่ 2 | Copenhagen • บินไป Keflavik • เดินทางไป Kirkjufell เป็นที่รู้จักจากรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายหมวก และเป็นจุดชมแสงเหนือที่สวยที่สุด
พักที่ Grundafjord
วันที่ 3 | หินรูปไดโนเสาร์ขนาดยักษ์ Hvitserkur • เดินทางไปเมือง Akureyri เมืองหลวงแห่งภาคเหนือ
พักที่ Akureyri
วันที่ 4 | น้ำตก Godafoss หมายถึงน้ำตกแห่งเทพเจ้า • บ่อโคลนเดือด Hverir • น้ำตก Dettifoss เป็นน้ำตกที่ใหญ่และแรงที่สุดของยุโรป • Egilsstaðir
พักที่ Egilsstaðir
วันที่ 5 | ชม Hengifoss หนึ่งในน้ำตก Unseen ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์* (ขึ้นกับสภาพอากาศ) • Eastfjord เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงามและโดดเด่น • Vestrahorn เป็นภูเขาที่เกิดจากหินลาวามีฉากหน้าเป็นหาดทรายสีดำ • ไปยังเมือง Hofn
พักที่ Hofn
วันที่ 6 | ทะเลสาบธารน้ำแข็ง Jokulsarlon • ชม Diamond Beach น้ำแข็งที่เรียงรายบนชายหาดสีดำ • อุทยานสคาฟทาเฟล • ชมทุ่ง Moss Lava Field • ไปเมือง Vik • หาดดำจากการที่ลาวาเย็นตัวลงและถูกกัดเซาะโดยคลื่นทะเล • Hálsanefshellir Cave (ผาหินบะซอลท์)
พักที่ Vik
วันที่ 7 | น้ำตก Skogafoss หนึ่งในน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ • น้ำตก Seljalandsfoss • Goldern Circle • น้ำพุร้อน Geysir เกิดจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ • น้ำตก Gullfoss อันทรงพลัง • Thingvellir อุทยานบนเปลือกโลกที่ตั้งอยู่บนสองทวีป
พักที่ Reykjavik
วันที่ 8 | ล่องเรือชมวาฬ • ชมเมือง Reykjavik • สัมผัสกับการแช่น้ำร้อนที่ Blue Lagoon
พักที่ Keflavik
วันที่ 9 | เดินทางสู่ Copenhagen ต่อเครื่องกลับไทย โดยสารการบิน Thai Airway เที่ยวบินที่ TG951 13.50-06.20
วันที่ 10 | ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
ภูเขาโบสถ์ เป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นและสวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Snæfellsnes ทางตะวันตกของประเทศ ภูเขานี้มีความสูงประมาณ 463 เมตรและเป็นที่รู้จักจากรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายหมวก
หินยักษ์ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ในอ่าว Húnaflói มีลักษณะเป็นหินที่มีรูปทรงแปลกตาคล้ายกับสัตว์ยักษ์ที่กำลังดื่มน้ำ โดยมีความสูงประมาณ 15 เมตร ตามตำนานของท้องถิ่นมีความเชื่อว่า Hvitserkur เป็นยักษ์ที่ถูกแสงแดดเผาจนกลายเป็นหิน
เป็นโบสถ์ลูเทอรันที่ตั้งอยู่ในเมืองอาคูเรย์รี ประเทศไอซ์แลนด์ โบสถ์แห่งนี้ถูกออกแบบโดย Guðjón Samúelsson ซึ่งเป็นสถาปนิกชาวไอซ์แลนด์ที่มีชื่อเสียง และได้รับการอุทิศในปี 1940
ตั้งอยู่ในภาคเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีภูมิทัศน์ธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุดในประเทศ พื้นที่นี้มีชื่อมาจากทะเลสาบ Myvatn ซึ่งหมายถึง "ทะเลสาบแห่งแมลงวัน" เนื่องจากมีแมลงวันจำนวนมากในช่วงฤดูร้อน
น้ำตกที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Vatnajökull ทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีพลังมากที่สุดในยุโรป น้ำตกนี้มีความสูงประมาณ 44 เมตรและกว้าง 100 เมตร น้ำตก Dettifoss ได้รับน้ำจากแม่น้ำ Jökulsá á Fjöllum ซึ่งมาจากน้ำแข็งของ Vatnajökull ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
เป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญของภูมิภาค Austurland หรือที่รู้จักในชื่อภาคตะวันออก มีประชากรประมาณ 2,300 คน และเป็นศูนย์กลางการค้าและบริการสำหรับพื้นที่โดยรอบ
เป็นหนึ่งในภูเขาที่มีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนคาบสมุทร Stokksnes ใกล้กับเมือง Höfn ในภาคตะวันออกของประเทศ ภูเขานี้มีความสูงประมาณ 454 เมตร
ได้รับชื่อเสียงจากก้อนน้ำแข็งที่ถูกพัดขึ้นมาจากทะเลสาบธารน้ำแข็งโยกูลซาลอน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง ธารน้ำแข็งเหล่านี้เกิดจากธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และใหญ่ที่สุดในยุโรป เมื่อธารน้ำแข็งละลาย ส่วนหนึ่งของน้ำแข็งจะไหลลงสู่ทะเลสาบ ก่อนที่จะถูกพัดมาที่ชายหาด ท่ามกลางทะเลสีดำที่มาจากหินลาวาภูเขาไฟ ก้อนน้ำแข็งจะถูกน้ำทะเลกัดเซาะ จนมีรูปร่างและขนาดต่าง ๆ กัน ทำให้ชายหาดนี้ดูเหมือนเต็มไปด้วยเพชรที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วหาด
เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจซึ่งมักพบในพื้นที่ที่มีน้ำแข็งถาวร เช่น ในกรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ และบางพื้นที่ของรัสเซีย และแคนาดา ถ้ำเหล่านี้เกิดจากการไหลของน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งและหิมะ ซึ่งไหลผ่านและกัดเซาะน้ำแข็งสร้างเป็นโพรงและอุโมงค์ใต้ดินที่มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ
พื้นที่ที่เป็นทุ่งลาวามอสในไอซ์แลนด์เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อหลายพันปีก่อน ลาวาที่ไหลออกมาจากภูเขาไฟเหล่านี้แผ่กระจายออกไปทั่วพื้นที่จนกลายเป็นทุ่งหินลาวากว้างใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไป มอสเริ่มเจริญเติบโตปกคลุมลาวาที่แข็งตัว ลักษณะของทุ่งลาวามักมีรูปร่างขรุขระและไม่เรียบเนียน ทำให้เกิดภาพทิวทัศน์ที่ดูแปลกตาและไม่เหมือนกับที่อื่นๆ ในโลก
เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อหลายพันปีก่อน ลาวาที่ไหลออกจากภูเขาไฟจะเย็นตัวลงและแปรสภาพเป็นหินลาวาสีดำ เมื่อเวลาผ่านไป กระแสน้ำและลมทะเลจะสึกกร่อนหินเหล่านี้จนกลายเป็นทรายสีดำที่กระจายอยู่ทั่วชายหาด นอกจากนี้ บริเวณชายหาดยังมีหินบะซอลต์ที่เกิดจากลาวาและกระบวนการทางธรณีวิทยา ทำให้เกิดเป็นเสาหินบะซอลต์ที่ตั้งเรียงรายอย่างเป็นเอกลักษณ์
เป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที น้ำพุร้อนนี้ เกิดจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน
เป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที น้ำพุร้อนนี้ เกิดจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ Grindavík บนคาบสมุทร Reykjanes ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเรคยาวิกประมาณ 39 กิโลเมตร บลู ลากูนเป็นสระน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีน้ำสีฟ้าครามที่มีอุณหภูมิประมาณ 37-40 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี แม้ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น