Categories
China

ทัวร์เขาไกลลาส ขุนเขาแห่งศรัทธา

ทัวร์จีน ธิเบต เขาไกรลาส (trek)

สรุปทริป

เขาไกลลาส

Day 1 : Bangkok – Kunming – Lhasa

  • ช่วงเช้า พบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
  • ออกเดินทางไปยังคุนหมิง
  • นำท่านเดินทางต่อไปยังลาซา เมืองหลวงของทิเบต เป็นดินแดนสวรรค์บนฟ้าที่เรียกขานกันว่า “หลังคาโลก” ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 3,650 เมตร ออกซิเจนที่ลาซาจึงค่อนข้างจะบางเบา ปัจจุบันเป็นทิเบตเป็นเขตปกครองตนเองเทียบเท่ามณฑลหนึ่งของประเทศจีน ในปี ค.ศ. 1951 ทางประเทศจีนได้ใช้กำลังทหารจากเมืองเฉินตูบุกเข้ายึดครองทิเบต ทำให้องค์ดาไลลามะ ต้องอพยพออกจากทิเบตพร้อมด้วยผู้ติดตามอีกประมาณ 5 หมื่นคนและได้ไปตั้งถิ่นฐานแห่งใหม่ของตนเองในประเทศอินเดียและเนปาลเพราะเนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ระดับสูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก มีความกดดันอากาศสูงกว่าปกติอาจจะทำให้มีอาการอ่อนเพลียบ้าง หรือปวดศีรษะ บางทีอาจท้องเสีย ท่านต้องพักผ่อนมากๆ ที่สำคัญ ไม่ควรอาบน้ำ สระผม หรือสูบบุหรี่ทันที
  • คืนนี้พักที่ Lhasa

Day 2 : Potala Palace – Sera Monastery – Barkhor Street 

  • ชมสถานปัตยกรรมอันทรงคุณค่าและถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมชั้นยอดของทิเบต นั่นคือ พระราชวังฤดูหนาว (Potala Palace) โปตาลาของดาไลลามะ (คำว่า โปตาลา หมายถึง ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระโพธิสัตว์) เป็นอาคารขนาดใหญ่หลากสีสันทั้งขาว แดงและเหลือง ซึ่งแต่ละสีจะเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงลักษณะของการใช้งาน พระราชวังโปตาลามีทั้งหมด 13 ชั้น มากกว่า 1,000 ห้อง ผู้ไปเยือนจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ต่างๆทั่วทั้งเมืองลาซาได้อย่างถนัดตา
  • เยี่ยมชม วัดเซรา (Sera Monasty) ในภาษาทิเบต คำว่า “เซรา” แปลว่า สวนกุหลาบป่า เพราะในอดีตนั้นบริเวณนี้เคยเป็นดงดอกกุหลาบจำนวนมากนั่นเอง วัดเซราตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาตาติปู สร้างเมื่อ ค.ศ. 1419 โดยศิษย์รูปหนึ่งของท่านซองฆะปะ ท่านซองฆะปะนั้น เป็นผู้ปฏิรูปและก่อตั้งพุทธศาสนาลัทธิเกลุคปะ และยังเป็นอาจารย์ของดาไลลามะที่ 1อีกด้วย
  • ช้อปปิ้งเดินเลือกซื้อเลือกชมสินค้าได้อย่างอิสระ ที่ตลาดท้องถิ่น Barkhor Street หรือ ถนนแปดเหลี่ยม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลาซา บริเวณนี้นับว่าเป็นศูนย์รวมของศาสนาและวัฒนธรรมของชาวทิเบต ตลอดจนเหล่าบรรดาสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านต่างๆ ที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ทำให้เห็นวัฒนธรรม และวิถีของชาวทิเบตที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์
  • คืนนี้พักที่ Lhasa

Day 3 : Lhasa – Yamdrok lake – Karola Glacier – Gyantse  Shigatse 

  • ไปยังเมือง ซิกัตเซ่ ระหว่างทาง แวะชมหนึ่งในสามทะเลสาบอันศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดของทิเบต Yamdrok lake (สามทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ คือ Namtso, Manasarovar, Yamdrok) ทะเลสาบแห่งนี้มีที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของแม่น้ำ Yarlong Tsangpo ในเขต Shannan และห่างจากทิเบตไปทางทิศใต้ราว 100 กิโลเมตร
  • ชมความมหัศจรรย์ของธารน้ำแข็ง Kharola Glacier ได้อย่างถนัดตา ถือว่าเป็นการชมธารน้ำแข็งที่ใกล้ชิดมากๆ
  • ชม เจดีย์ เจียนเซ่ คุมบุม (Gyangtse Kumbum Stupa) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบตและยังเป็นสถาปัตยกรรมที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้ชาวทิเบตรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก โดยความพิเศษของเจดีย์แห่งนี้คือตรงกลางของสถูปเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้แทนเส้นทางอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะนำไปสู่การปลดปล่อยทางจิตวิญญาณ หรือมัณฑาลา (Mandala) นอกจากนี้ท่านจะได้ชมศิลปะอันสวยงามของภาพจิตรกรรมฝาผนังที่รังสรรค์ขึ้นจากฝีมือของชาวเนปาล ซึ่งได้วาดไว้ตั้งแต่เมื่อศตวรรษที่ 15
  • คืนนี้พักที่ Shigatse

Day 4 : Shigatse – Tashi Lhunpo Monastery – Rongbuk

  • ชม วัดทาชิลุนโป (Tashilhunpo Monastery) ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1447 โดยองค์ดาไลลามะที่ 1 ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานและลูกศิษย์ของซองคาปา วัดทาชิลุนโป มีความสำคัญคือ เป็นที่พำนักของปัญเชนลามะ ที่ถือได้ว่าเป็นผู้นำทางศาสนาสูงสุดรองลงมาจากดาไลลามะ ภายในบริเวณวัดมีการสร้างสถูปอย่างยิ่งใหญ่โดยใช้ทองคำและเครื่องประดับอื่นๆที่มีค่า เนื่องจากสถูปแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาพระศพขององค์ปันเชนลามะ รวมถึงองค์ที่ 10 นอกจากนี้ยังมีรูปเคารพของพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งมีขนาดใหญ่สูง 26 เมตรประดิษฐานอยู่ภายใน
  • ชมอาราม Rongbuk Monastery โดยเดินเท้าเพื่อข้ามช่องเขานันปามายังวัดแห่งนี้ อันถือได้ว่าเป็นที่พึ่งทางจิตใจและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการแสวงบุญของชาวเซอร์ปา ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของเทือกเขาเอเวอเรสต์ในเขตฆัมบู ประเทศเนปาล จึงนับได้ว่าอารามแห่งนี้เป็นศาสนสถานทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง และยังเป็นอารามที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก ที่ระดับความสูง 5,154 เมตรจากระดับน้ำทะเล สำหรับด้านหน้าจะมีวัดไซรเตน (สถูปทิเบต) ซึ่งเป็นสีขาวขนาดใหญ่ ใช้สำหรับบรรจุสรีระธาตุของพระลามะอีกด้วย
  • คืนนี้พักที่ Rongbukgbuk

Day 5 :  EBC –  Paiku Lake – Saga

  • ชมความงดงามอันน่าอัศจรรย์ของยอดเขาทรงสามเหลี่ยมที่เด่นตระหง่านอยู่ช่องเขา หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เอเวอเรสต์” ท้าลมหนาวท่ามกลางหิมะสีขาวโพลนที่ปกคลุมไปทั่วภูเขา
  • ชม ทะเลสาบไพกู Peiku Lake ทะเลสาปรูปร่างคล้ายคลึงกับปาท่องโก๋ ล้อมรอบไปด้วยทิวเขาสูงตระหง่านที่มีความสูงราว 5700-6000 เมตร ส่วนหัวของทะเลสาบหันไปทางทิศเหนือ และตอนท้ายของทะเลซึ่งเป็นทางทิศใต้นั้น มีลักษณะเป็นแอ่งขนาดใหญ่กว่าตอนกลางของทะเลที่มีลักษณะยาวคอด จึงมีรูปร่างเหมือนกับปาท่องโก๋นั่นเอง โดยตัังอยู่บนความสูง 4,591 เมตร ทางตอนใต้ของแม่น้ำยาร์ลุงซางโป หรือแม่น้ำพรมบุตร ส่วนน้ำในทะเลสาบนั้นเป็นน้ำที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งทางตอนเหนือเรื่อยมาจนถึงตอนใต้ และไม่มีน้ำไหลออกมาหลายพันปีแล้ว จึงทำให้มีสภาพเป็นน้ำกร่อย โดยรอบของทะเลสาบอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติและสัตว์ป่าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ม้าป่า ลาป่า เป็นต้น
  • เดินทางไปยัง เมือง Saga (เดินทางประมาณ 8 ชม.) โดยระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติที่สรรค์สร้างได้อย่างลงตัว เต็มไปด้วยเนินเขาที่สูงและกว้างใหญ่ มีทุ่งหญ้าขึ้นเป็นหย่อมๆ และทุ่งหญ้ากว้างในที่ลุ่มน้ำขัง ชมวิถีชีวิตของสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจามรี แพะ แกะ ที่ออกหากินกลางทุ่งและริมแม่น้ำ จนกระทั่งถึงช่วงเย็นๆจะเดินทางถึงเมืองซาก้า
  • คืนนี้พักที่ Saga

Day 6 : Saga – Zhongba – Lake Manasarovar – Chiu Gompa – Pulan 

  • เดินทางไปยังจงป้า (ประมาณ 4 ชม.)
  • ทะเลสาบมานัสโรวาร์ หรือ ทะเลสาบมาปาม (Mapham Yum-Tso) หมายถึง ทะเลสาบแห่งชัยชนะ ลักษณะของน้ำทะเลสาบที่นี่จะเป็นสีฟ้า เต็มไปด้วยความตระการตาของทุ่งหญ้าสีแดง และเทือกเขาหิมะกูร์ล่ามันดาทาที่โดดเด่นเป็นฉากอยู่เบื้องหน้า ทะเลสาบมานัสโรวาร์ ได้ปรากฎ ในคัมภีร์ปุราณะ (Puranas) ของศาสนาฮินดู มีใจความว่า ก่อนที่ทะเลสาบแห่งนี้จะมีขึ้นบนโลก แต่เดิมทะเลสาบมานัสโรวาร์ ได้ถูกสร้างขึ้นมาอยู่ในหัวใจของพระพรหมก่อน ทำให้น้ำในทะเลสาบมีน้ำที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์ เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ดื่มกินจะเทียบเท่ากับการล้างบาปนับร้อยชาติ ทำให้เมื่อเสียชีวิตจากโลกมนุษย์แล้ว ผู้นั้นก็จะกลับเข้าสู่ดินแดนของพระศิวะ  และความพิเศษของการเดินทางในฤดูร้อนเพื่อไปยังเขาไกรลาสนั้น ท่านจะได้พบเห็นนักแสวงบุญผู้เต็มไปด้วยความศรัทธานับพันคนร่วมกันสวดมนต์และเดินตามเส้นทางของการแสวงบุญรอบๆทะเลสาบ ซึ่งถือเป็นการทำพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของทางศาสนาฮินดู
  • คืนนี้พักที่ Pulan

Day 7 : Pulan – Darchen – Mt.Kailash

  • เดินทางไปยังเมือง Darchen ชุมชนขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในอำเภอผู่หราง ซึ่งถือเป็นด่านหน้าสำหรับผู้จาริกแสวงบุญชาวบอน พุทธ ฮินดู และเชน
  • ภูเขาไกรลาส หรือ กังรินโปเซ (ไกรลาส” หรือ “ไกลาส” เป็นคำวิเศษณ์ในภาษาสันสกฤต แปลว่า “สีเงินยวง”)  เป็นยอดเขาแห่งหนึ่งในเทือกเขาหิมาลัย ที่ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างยาวนาน โดยมีอายุมากกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาต่างๆมาตั้งแต่สมัยโบราณที่ถือกำเนิดในประเทศอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธ  ฮินดู  เซน และบองของชาวทิเบตโบราณ เพราะแต่ละศาสนามีความเชื่อว่า ภูเขาไกรลาสแห่งนี้เป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาลและเชื่อว่า เขาไกรลาส คือ เขาพระสุเมรุ ตามหลักความเชื่อจักรวาลในพระพุทธศาสนา ขณะเดียวกันเขาไกรลาสยังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญต่างๆในทวีปเอเซีย  นอกจากนี้ภูเขาไกรลาส ยังมีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 22,020 ฟุต  เป็นภูเขาสูงลำดับที่ 32 ของโลก และสูงเป็นลำดับที่ 19 ของเทือกเขาหิมาลัย ที่โอบล้อมภูเขาไกรลาสไว้อย่างสวยงาม  ระหว่างนี้ ท่านจะได้ชมทิวแถวของผู้ศรัทธาจากหลากหลายศาสนา ที่เดินทางมาจาริกแสวงบุญ ด้วยการเดินเท้าอย่างสำรวมไปยังจุดสักการะของแต่ละศาสนา เดินผ่านประตู Star Gate ที่ชาวทิเบตมีความเชื่อมาแต่เดิมว่า หากใครได้เดินผ่านประตูแห่งนี้แล้วจะได้ไปสู่ภพภูมิใหม่ที่ดี
  • คืนนี้พักแถวๆเขาไกรลาส

Day 8 : Trek day one : Chiu Gompa temple – Langbona Monastery Hor Qu (6-8 hrs trekking) 

  • รับประทานอาหารเช้าจากที่พัก วันนี้เริ่มต้นเดินแสวงบุญรอบภูเขาไกรลาส จาก ตาเชน การเดินแสวงบุญรอบภูเขาไกรลาส ชาวทิเบตเรียกว่า โคร่า (Kora) เริ่มจากที่ตาเชน ระยะทางในการเดินทั้งงหมด ประมาณ 52 กิโลเมตร การเดินทางไปเขาไกลลาสมักจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ สามวัน และหยุดที่โคร่า ตาเชน คือการเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการเดินป่าและชมภูเขาศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ออกจาก ตาเชน แล้ว มีหุบเขาที่เรียกว่า Dsarshung เป็นที่พัก ช้า ม้า วัว ของป่าและรอเพื่อส่งต่อลูกค้า คุณสามารถเดินไปตามหน้าผาที่สวยงามและมุ่งหน้าไปทาง ดีราปุค ตลอดการเดินทางจะมีเต้นท์เรียงรายซึ่งทุกท่านสามารถ ลองเครื่องดื่มหรือลิ้มลองรสโยเกิร์ตของผู้คนท้องถิ่นเหล่านั้น หลังจากนั้นค่อยๆขึ้นไปยังหุบเขาและจะใช้เวลาอย่างน้อยสองชั่วโมงถึงจะถึง วัดดีราปุค  

Day 9 : Trek day two – Drirapuk to Dzultripuk (18km)

  • รับประทานอาหารเช้าจากที่พักวันนี้ ก่อนเริ่มเดินโคร่า ตามเส้นทางภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ เขาไกรลาสกันต่อ โดยในระหว่างทางการเดิน ท่านจะได้พบเจอนักแสวงบุญที่เดินทางมาจากทิเบต อินเดีย เนปาล พระลามะมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ริมทะเลสาบ การเดินโคร่ารอบภูเขาไกรลาสนั้นเป็นถือเป็นกุศลยิ่งใหญ่ของผู้คนหลายศาสนา ทั้งเด็กเล็กหนุ่มสาวคนชราต่างก็เดินหมุนกงล้อมนต์ หลายคนเดินสลับกับน้อมตัวลงกับพื้นดินเพื่อกราบอัษฎางคประดิษฐ์วนรอบภูเขาไกรลาส (อัษฎางคประดิษฐ์คือ การกราบโดยให้อวัยวะ8 จุดจรดพื้น หน้าผาก 1 ฝ่ามือ 2 หน้าอก 2 เข่า 2 และปลายเท้า 2 บางตำราบอกว่า มือ 2 หน้าอก 1 หน้าผาก 1 ตา 2 คอ 1 กลางหลัง 1 หรืออีกนัยหนึ่งว่า มือทั้ง 2 หน้าอก 1 หน้าผาก 1 เข่า 1 เท้า 1 วาจา 1 ใจ 1 รวมเป็น 8 )

Day 10 : Trek day three – Dzultripuk to Darchen (14km) – Guge Ruin 

  • ช่วงสุดท้ายของการเดินแสงบุญ เราจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อเดินมาให้ถึง ตาเชน หลังจากนั้น ทานอาหารกลางวันและ ออกเดินทางต่อเมืองโบราณ กู่เก๋อ

Day 11 : Zanda – Guge Kingdom – Tholing monastery – Gar 

  • เมือง กู่เก๋อ เป็นดินแดนที่ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอะรีหรือทิเบตตะวันตกในปัจจุบัน บริเวณใกล้กับชายแดนจีน-อินเดีย มีเมืองหลวงเดิมชื่อซานด้า (Zanda) มีที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสัตเลจหรือแม่น้ำแดง ชมความสวยงามแปลกตาของภูมิประเทศที่ปรากฎอยู่โดยรอบเมืองซานด้า ที่มีลักษณะเป็นโตรกผาสูง สาเหตุเนื่องมาจากน้ำกัดเซาะหินทรายแดงเป็นเวลานานจนกลายเป็นร่องลึก แต่เดิมมีการสันนิษฐานว่า พื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่มาก่อน แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเทือกเขาหิมาลัยได้ยกตัวสูงขึ้น จึงทำให้บริเวณนี้ต้องถูกยกตัวสูงตามไปด้วย น้ำในทะเลสาบจึงแห้งขอดไปในที่สุด ขณะที่พื้นดินที่อยู่ก้นทะเลสาบได้ถูกน้ำและลมกัดเซาะเป็นเวลานานนับล้านปี จึงเกิดภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นโตรกผาสูง คล้ายคลังกับแกรนด์แคนยอนของอเมริกานั่นเอง
  • วัดโถหลิง Tholing Monastery อยู่ในเมืองซานด้า เป็นพุทธสถานที่สำคัญที่สุดของทิเบตตะวันตก คำว่า Tholing ภาษาธิเบตแปลว่าบินอยู่บนฟ้าตลอดกาล ในวัดมีภาพจิตกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงามด้วยโทนสีอ่อนต่างจากภาพอื่นๆที่ใช้สีฉูดฉาดเน้นสีแดงเป็นหลัก ยังมีภาพเล่าพระราชประวัติของพระพุทธเจ้าตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพาน จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังซื่อชวนเหก

Day 12 : Ngari – Lhaza – Bangkok 

  • เดินทางไปยังสนามบิน เพื่อเดินทางกลับ ลาซา เหินฟ้าสู่ลาซา โดยสายการบินภายในประเทศ
  • จากนั้นนำท่านต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ
  • ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

วันที่จัด

ไปไหนมาดอทคอม • 089-4789334 • 02-045-3445 • Line : @painaima.com • painaima@gmail.com • ติดต่อเรา

ไปไหนมาดอทคอม • ติดต่อเรา

Categories
China

ทัวร์จีน โหลวผิง เขาหมื่นยอด กุ้ยหยาง

ทัวร์จีน โหลวผิง เขาหมื่นยอด กุ้ยหยาง

ชมความงามของทุ่งดอกไม้ช่วงฤดูใบไม้ผลิ แห่งมณฑลยูนนาน

สรุปทริป

โปรแกรมเต็ม

DAY 1: กรุงเทพฯ-คุนหมิง-เมืองโหลวผิง

  • พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เช็คอินสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 612 ออกเดินทางบินตรงสู่สนามบินคุนหมิง เที่ยวเวลา 10.55 น.
  • ถึงสนามบินคุนหมิงแห่งใหม่ ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าแล้ว นำทุกท่านออกเดินทางออกจากเมืองคุนหมิง สู่เมืองโหลวผิง ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 3.30 ชั่วโมง 

  • พักที่โหลวผิง

DAY 2 : โหลวผิง-ซิงอี้-เขาเหมื่นยอด-หุบเขาหมาหลิ่งเหอ-ซิงอี้

  • ออกเดินทางสู่ทุ่งมัสตาร์ดสีเหลือง ที่ปลูกในลักษณะสนามก้นหอย ซึ่งถือว่าเป็นจุดถ่ายภาพแห่งใหม่ ที่มีช่างภาพชาวจีนนิยมกันมาถ่ายรูป ที่นี่ดอกไม้จะขดตัวเป็นรูปก้นหอย ทั่วทั้งหุบเขา เป็นภาพที่สวยงาม แปลกตามาก
  • จากนั้นนำท่านทุ่งมัสตาร์ดสีเหลืองอีกจุด ที่บานสะพรั่งทั่วท้องทุ่ง ณ จุดชมวิวเทือกเขาไก่ทอง ซึ่งนับเป็นจุดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการชมทุ่งดอกมัสตาร์ด เนื่องด้วยเป็นพื้นที่ราบ จึงสามารถปลูกดอกมัสตาร์ดได้จำนวนมาก อีกทั้งภูมิประเทศ ที่ล้อมรอบด้วย ภูเขาน้อยใหญ่ ทำให้ที่นี่เป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยวและช่างภาพเป็นอย่างมาก เราจะนั่งรถเกวียน เข้าไปสู่ใจกลางทุ่งมัสตาร์ดสีเหลือง และเดินขึ้นเนินไปถ่ายภาพทุ่งจากมุมสูง อันเป็นมุมที่แปลกตาไม่ซ้ำใครระหว่างทางมี ชาวบ้านมาขายของมากมายหลายอย่างเช่น น้ำผึ้ง ข้าวเหนียวสี ขนมพื้นเมือง และอื่นๆอีกมากมาย
  • จากนั้นเดินทางไปยังหุบเขาหม่าหลิงเหอ หรือ หุบเขาแห่งน้ำตกร้อยสาย ที่ห่างจากตัวเมืองไม่ไกล หุบเขาแห่งน้ำตกร้อยสายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับชาติ มีทัศนียภาพอันแสนอัศจรรย์ที่แสดงสภาพภูมิลักษณ์แบบคาสต์ (Karst Landform) หุบเขานี้มีลักษณะเป็นหุบเหวหินปูนความยาวกว่า 15 กิโลเมตร ในช่วงฤดูน้ำหลากจะมีน้ำตกชั้นเล็กชั้นน้อยกว่าร้อยสาย เราจะนำท่านเดินไปชมวิวถ่ายภาพในหุบเขาแห่งนี้

  • นำท่านชมป่าเขาหมื่นยอด ทอดตัวในแนวฝั่งตะวันออก-ตกของแม่น้ำหม่าหลิง ด้วยภูมิประเทศอันแปลกตาและธรณีวิทยาอันน่าอัศจรรย์ ทำให้เกิด ยอดเขาเล็กใหญ่ เรียงตัวสลับกันคล้ายฟันปลาฉลาม เรียงตัวยาว กว่า 200 กิโลเมตร และกว้าง ถึง 30-50 กิโลเมตร

  • เราจะเดินทางชมอุทยานแห่งนี้ด้วยรถไฟฟ้าของทางอุทยาน ซึ่งจะจอดให้เราได้ถ่ายรูปมุมเด็ดๆ ของเขาหมื่นยอดแห่งนี้

  • ได้เวลาสมควร เดินทางกลับเมืองซิงอี้ 
  • พักที่ซิงอี้

DAY 3 : ซิงอี้ – อุทยานน้ำตกหวงโกซู่-น้ำตกหวงโก๋ซู่)-กุ้ยหยาง

  • เดินทางสู่อุทยานน้ำตกหวงกั่วซู่ นับเป็นดินแดนที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจีน มีความสูงถึง 74 เมตร  ทำให้นักท่องเที่ยวแม้จะอยู่ในบริเวณที่ห่างไกลน้ำตกประมาณ 50-60 เมตร ก็สามารถเปียกได้ เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของน้ำตกแห่งนี้ คือ มีถ้ำอยู่หลังน้ำตก นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปในถ้ำเพื่อชมน้ำตกจากด้านหลังได้ ถ้ำนี้จะอยู่ระดับกลางๆ ของน้ำตก และมีความยาวกว่า 100 เมตร มีลักษณะคู่ขนานไปกับน้ำตก ภายในถ้ำมีช่องหน้าต่างประมาณ 6 ช่อง ไม่เพียงแต่มองเห็นน้ำตกที่ไหลเชี่ยวลงสู่พื้นข้างล่างเท่านั้น แต่ยังสามารถเอามือไปจับน้ำตกอีกด้วย นอกจากนี้ น้ำตกแห่งนี้ ยังเป็นที่ถ่ายทำ ภาพยนต์สุดฮิต ที่ชื่อเรื่องว่า “ไซอิ๋ว” ซึ่งเป็นภาพยนต์ที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน

  • พาท่านเดินผ่านม่านน้ำตก/สะพานข้ามดวงดาว/ชมมินิป่าหิน/สวนหย่อมธรรมชาติ/ถ้ำเทียนซินเฉียว/สะพานฟ้า ดื่มด่ำกับธรรมชาติ อันสดชื่นกันเต็มที่

  •  

    จนสมควรแก่เวลา พาท่านออกเดินทางสู่เมือง กุ้ยหยาง เป็นเมืองเอกของมณฑลกุ้ยโจวที่อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
  • อิสระเดินเล่นในเมืองตามอัธยาศัย
  • พักกุ้ยหยาง 

Day 4 :กุ้ยหยาง-เมืองเจิ้งหยวน-ร่องชมเมืองโบราณ-สะพานจู้เซิ่งเฉียว

  • รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรมจากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองโบราณเซินหยวน Zhenyuan Old Town เมืองจีนฝั่งใต้ เมืองที่มีเสน่ห์โอบล้อมด้วยแม่น้ำในขุนเขา เมืองสถาปัตยกรรม แบบโบราณ ของชนชาวฮั่น อยู่ในมลฑล Guizhou (กุ้ยโจ่ว) โอบล้อมด้วย แม่น้ำ Wuyang River

  • พาท่านล่องเรือ สัมผัสบรรยากาศเมืองโบราณในอีกรูปแบบ เดินเที่ยวชมเมืองเก่า ตึกราบ้านช่องที่สวยงาม
  • อิสระเดินเล่นในเมือง พาท่านไปถ่ายรูปแสงสีที่สะพานจู้เซิ่งเฉียว ซึ่งเปลี่ยนสีในทุก 5 วินาที ประดับประดาแสงสีสวยงาม…จากนั้นเข้าที่พักพักผ่อนตามอัธยาศัย (และเตรียมแยกแพคกระเป๋าเล็กสำหรับค้าง 1 คืน ในคืนพรุ่งนี้)

Day 5 : วัดวั่น-บ้านตระกูลฟู่-บ้านตระกูลหยวน(ชมเฒ้าฟู่)-เมืองซีเจียง-
หมู่บ้านม้ง-ชนเผ่าชาวเหมียว

  • พาท่านเที่ยวชม สถานที่สำคัญในเมืองเก่า อาทิเช่น วัดวั่น/บ้านตระกูลฟู่/บ้านตระกูลหยวน(ชมเฒ้าฟู่)จนได้เวลาอันสมควร พาท่านออกเดินทางสู่เมืองซีเจียง

  • พาท่านเดินทางสู่หมู่บ้านชนเผ่าม้งพันครัวเรือนซีเจียง (Xijiang Miao Village) เป็นหมู่บ้านม้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ที่ประกอบด้วย 1,200 ครอบครัว ประชากรกว่า 6,000 คน ซึ่ง 99% เป็นชาวม้ง หมู่บ้านชาวม้งซีเจียงเป็นหมู่บ้านทางประวัติและวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงระดับมณฑล เป็นหนึ่งในหมู่บ้านและตำบลที่ได้รับการอนุรักษ์และสร้างสรรค์เป็นหลัก13แห่งของมณฑลกุ้ยโจว ถูกเรียกว่าเป็น”หอศิลปะชนชาติและวัฒนธรรมชนชาติม้ง” เป็น”หินซากที่มีชีวิต”ในการศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชนชาติม้ง ที่นี่ไม่เพียงแต่มีทิวทัศน์ธรรมชาติ ยังมีบรรยากาศชนชาติม้งที่มีมนต์เสน่ห์ด้วย ในหมู่บ้านชาวม้ง แขกสามารถรับประทานอาหารชาวม้งที่มีลักษณะพิเศษ รับการคารวะเหล้าจากสาวๆชาวม้ง รับฟังเพลงชาวม้งที่ไพเราะ ชมการแสดงขลุ่ยและกลองทองแดงของชนชาติม้ง

  • จากนั้นเข้าที่พักพักผ่อนตามอัธยาศัยในหมู่บ้านม้ง

Day 6 : หมู่บ้านม้ง-190km กุ้ยหยาง-(รถไฟ)คุนหมิง

  • อิสระเดินเล่น สัมผัสบรรยากาศยามเช้าภายในหมู่บ้านม้ง

  • พาท่านเดินทางกลับสู่เมืองกุ้ยหยาง ระยะทางประมาณ 190 กิโล เพื่อเปลี่ยนพาหนะเป็นรถไฟ (รถนอน) ขบวน K337/22.09-06.52 เพื่อเดินทางกลับสู่คุนหมิง

Day 7 : คุนหมิง – กรุงเทพ

  • เดินทางถึงเมืองคุนหมิง พาท่านรับประทานอาหารเช้า และล้างหน้าล้างตา ก่อนนำทุกท่านชมความงามของดอกซากุระ หนึ่งเดียวแห่งเมืองคุนหมิง

  • ชมความงามของดอกไม้สีชมพูที่สวยงามไม่แพ้ ซากุระแห่งญี่ปุ่นได้ที่สวนซากุระแห่งคุนหมิง ในที่นี้ท่านจะได้ชมวิถีชีวิตของชาวคุนหมิง ไม่ว่ากลุ่มผู้คนที่ออกมาเที่ยว ปิกนิก หรือแม้แต้รำไทเก๊ก

    **ความงามของดอกซากุระขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ไม่สามารถระบุวันเวลาได้แน่นอน**

  •  จากนั้น เตรียมตัวเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเช็คอินเที่ยวบิน TG 612 สายการบินไทย  ออกเดินทางเที่ยวเวลา 15.20 น.

  • เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ตามเวลาในประเทศไทยด้วยความประทับใจ

***รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม***

วันที่จัด

ไปไหนมาดอทคอม • 089-4789334 • 02-045-3445 • Line : @painaima.com • painaima@gmail.com • ติดต่อเรา

ไปไหนมาดอทคอม • ติดต่อเรา

Categories
China

ทัวร์จีน ตุนหวง จางเยี่ย

ทัวร์จีน ตุนหวง จางเยี่ย

หุบเขาสายรุ้ง สู่ทะเลทรายตุนหวง นอนบนรถไฟไปบนเส้นทางสายไหม

สรุปทริป

โปรแกรมเต็ม

DAY 1: กรุงเทพ – เฉินตู – หลานโจว

  • พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เช็คอินสายการบิน THAI AIRWAYS เจ้าหน้าที่คอยเตรียมเอกสารและอำนวยความสะดวกให้ท่าน
  • ออกเดินทางสู่นครเฉินตู โดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบิน TG618 บินตรงสู่สนามบินเฉินตู
  • ถึงสนามบินเฉินตู ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง แล้วนำท่านต่อเครื่องไปยังเมืองหลานโจว
  • เหินฟ้าสู่เมืองหลานโจว โดยสายการบิน  CHINA EASTERN AIRLINE เที่ยวบิน MU2414
  • ถึงเมืองหลานโจว เมืองเอกของมณฑลกานซู่ มณฑลทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นจุดผ่านของเส้นทางสายไหมอันลือชื่อ เป็นเมืองอุตสาหกรรมปิโตรเลี่ยมและเครื่องจักรกลหนัก ในสมัยโบราณเคยเป็นถิ่นที่อยู่ของพวกซีหยง จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าพักผ่อนที่โรงแรม

DAY 2 : หลานโจว – กังหันวิดน้ำโบราณ-อนุเสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง – จางเยี่ย (รถไฟความเร็วสูง)

  • รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านสู่ชม กังหันวิดน้ำโบราณ  เป็นของชาวลุ่มน้ำหวงเหอสมัยโบราณ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวนอนุสาวรีย์ของมารดาแม่น้ำเหลือง

  • จากนั้นนำท่านชม อนุสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง หรือ หวงเหอหมู่ชิง เป็นรูปนอนตะแคง ศอกดันศีรษะหันมองลูกน้อยที่นอนอิงแอบอยู่ข้างๆ มารดา  สายตาที่นางมองดูลูกน้อยนั้น เป็นแววตาที่ช่างอบอุ่นด้วยความรักเป็นที่สุด

  • รับประทานอาหารเที่ยง จากนั้นนำท่านไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูง เพื่อเดินทางไปยังจางเยี่ย (รถไฟขบวนที่ D2751 เวลา 14.10-17.23)
  • รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พร้อมเข้าพักผ่อนที่โรงแรม

DAY 3 : จางเยี่ย – ต้าฝอซื่อ – ผิงซานหู

  • รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดพระใหญ่ หรือ วัดต้าฝอซื่อ สร้างในปีค.ศ.1098 สมัยซีเซี๊ยะ ภายในวิหารใหญ่เป็นที่ประดิษฐานของพระนอนศักดิ์สิทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน มีความยาว 34.5 เมตร ฐานสูง 1.2 เมตร พระอังสา(ไหล่) กว้าง 7.5 เมตร พระกรรณ(หู) ยาว 4 เมตร สามารถให้คนนั่งเรียงกันได้ถึง 8 คน พระบาทยาว 5.2 เมตร

  • รับประทารอาหารเที่ยง จากนั้นนำท่านชมความงดงามของ ผิงซานหู เป็นหุบเขาธรรมชาติแปลกตาที่เต็มไปด้วยสีสรร และรูปร่างต่างๆมากมายแล้วแต่จินตนาการ
  • รับประทานอาหารเย็น จากนั้นนำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรม

Day 4 : หม่าถีซื่อ – ตานเสีย – ตุนหวง (นอนบนรถไฟ)

  • รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม จากนั้นนำท่านไปชม หมู่พุทธคูหาหม่าถีซื่อ Mait Si Grottoes หมู่พุทธคูหา คือ วัดเหนือ วัดใต้ พระสหัสพุทธคูหา วัดเจดีย์ทอง หมู่บ้านพุทธคูหาพระอวโลกิเตศวรบน-กลาง-ล่าง  นับรวมได้ กว่า 70 พุทธคูหา  ตั้งอยู่บนหน้าผาหินทรายแดง ของภูเขาตันหลิ่งซาน ตอนหนึ่ง ของเทือกเขาฉีเหลียนซาน ในเขตของชนกลุ่มน้อยหวีกู้จู๋ ทางตอนใต้ของจางเย่ หมู่พุทธคูหา เหล่านี้ มีอายุ มานานกว่า 1,600 ปี แล้ว เริ่ม ตั้งแต่สมัยราชวงค์จิ้นตะวันออก มีการขุดและปั้นรูปเคารพต่างๆ ขึ้นในคูหา ถ้ำต่อเนื่องมาอีกในหลายยุคสมัย ยุครุ่งเรืองมีพระภิกษุจำพรรษาอยู่รวมถึง 300 รูป ร่วมสมัยเดียวกับหมู่ถ้ำ โม่เกา ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของจางเย่

  • รับประทานอาหารเที่ยง
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เขตภูมิทัศน์จางเย่ฉีเหลียนซานตันเสียตี้เม่า Zhangye Qilianshan Danxia Landform หรือ หรือเรียกกันว่าภูเขาสายรุ้ง โขดภูหินทรายแดงหลากสี หวู่ไฉ่ซาน Rainbow Mountain จัดเป็นหนึ่งในภูมิทัศน์มหัศจรรย์ของจีนอันงดงามแปลกตา ในเขตภูเขาฉีเหลียนซาน  ครอบคลุมอาณา บริเวณกว้างขวางถึง 300 ตร.กม. อยู่บนระดับ   ความสูง 2,000-3,800 ม.จากระดับน้ำทะเล ในทางธรณีวิทยาสันนิษฐานว่ามีอายุมานานกว่า 2 ล้านปี ผ่านการกัดกร่อนของธรรมชาติ สายลม แสงแดด และ ความแห้ง  แล้งของภูมิประเทศ เผยให้เห็นถึงชั้นของแร่ธาตุใต้ดินที่บ้างเป็นริ้วเลื่อมลายหลากสีสัน พาดผ่านทั้งเนินภู  แลซับซ้อน บ้างเป็นหุบโตรกลึกชัน บ้างคล้ายดั่งปราสาทในดินแดนเทพนิยาย และ อื่น ๆ อีกมากมาย ตามจินตนาการอันหลากหลาย
  • รับประทานอาหารเย็น

  • จนถึงเวลานำท่านไปยังสถานีรถไฟเพื่อเดินทางไปยังตุนหวง ขบวนที่ K9667 เวลา 00:06-07.13
    ***คืนนี้สัมผัสการนอนบนรถไฟ แบบตู้นอน ห้องละ 4 ท่าน***

Day 5 : พักผ่อนโรงแรม – ทะเลทรายหมิงซาซาน(รถกอล์ฟ) – ทะเลสาบเสี้ยวพระจันทร์

  • เดินทางถึงเมืองตุนหวง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกานซู ทางภาคตะวันตกของจีน เป็นเมืองวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของจีน ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญจากจีนไปยังเขตซีอวี้ เอเชียกลางและยุโรป และเคยเป็นชุมทางการค้าที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต

  • รับประทานอาหารเช้า จากนั้นนำท่านเข้าเช็คอินที่โรงแรม เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย หรืออาจจะออกมาเดินเล่นพักผ่อนอริยาบท แถวๆโรงแรม

  • จนถึงเวลาช่วงบ่าย นำท่านเดินทางไปยังทะเลทรายหมิงซาซาน ซึ่งเป็นเนินทรายสูงพอสมควร เมื่อท่านขึ้นถึงยอดเขาท่านสามารถไถลลื่นลงมาสู่เชิงเขาด้านล่าง หากโอกาสเหมาะท่านอาจได้ยินเสียงลมสะท้อนเป็นเสียงคล้าย การลั่นกลองรบ เสียงม้าร้อง เสียงสู้รบและเสียงคนร้อง ซึ่งตามตำนานเล่าว่าเคยมีกองทัพถูกพายุทรายพัดกระหน่ำและถูกฝังทั้งเป็นทั้งกองทัพอยู่ใต้ภูเขาลูกนี้ ดังนั้นเมื่อท่านลื่นไถลลงมาจากยอดเนินจึงอาจมีเสียงประหลาดเกิดขึ้น และมักจะเกิดขึ้นเมื่อท่านลื่นลงจากยอดเขา
  • ท่านจะได้ชมทะเลสาบรูปพระจันทร์เสี้ยว ที่อยู่ในบริเวณทะเลทรายแห่งนี้  เป็นทะเลสาบกลางทะเลทรายที่น่ามหัศจรรย์ ท่ามกลางเนินทรายที่ล้อมรอบ
  • รับประทานอาหารเย็น จากนั้นนำท่านเข้าพักผ่อนที่โรงแรม

Day 6 : ถ้ำโม่เกา – หย่าตัน – หลานโจว(รถไฟ)

  • รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม 

  • จากนั้นนำท่านชมชมถ้ำโม่เกา มรดกโลกที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก “โม่เกา” เป็นถ้ำที่มีคูหาใหญ่น้อยถึง 495 คูหา มีภาพวาดสีบนผนังสวยงาม มีพระพุทธรูปแกะสลัก และ  องค์เจ้าแม่กวนอิม ในคูหาต้นๆเป็นผลงานการบุกเบิกของพระสงฆ์เล่อจุนในปี ค.ศ. 366 ส่วนคูหาสุดท้ายขุดเมื่อยุคที่มองโกลมีชัยชนะเหนืออาณาจักรจีนในปี ค.ศ. 1277 ดังนั้นประติมากรรมหรือจิตรกรรมที่ท่านจะได้ชมที่ถ้ำโมเกาแห่งนี้ เกิดจากความเพียรพยายามของจิตรกรและช่างหลากยุคหลายสมัย ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ที่นับเนื่องยาวนานเกือบ 1,000 ปี

  • รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง หย่าตัน คำนี้เป็นคำเรียกโดยรวมของลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแนวเขาที่ถูกกัดเซาะโดยแรงลมเป็นเวลาหลายปี จนมีสภาพแปลกตา จนดูเหมือนน่าสะพึงกลัว ฉะนั้นคำว่าหย่าตัน อาจพบได้หลายๆ ที่ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวของจีน แต่ที่พวกเราไปกันนั้นคือ หย่าตันที่ได้รับการส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปแล้ว 

  • โดยอุทยานหย่าตันนั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ของทะเลทรายโกบี ซึ่งแท่นต่างๆ ที่โผล่ขึ้นมานั่นจะถูกเรียกรวมๆ ว่าแท่นโกบีดำ (ปกติจะเรียกแค่ว่าแท่นโกบี)

  • รับประทานอาหารเย็น จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังสถานีรถไฟ เพื่อเดินทางกลับหลานโจว ขบวนที่ Y669 เวลา 20.07-07.28 

    ***คืนนี้นอนบนรถไฟ แบบตู้ละ 4 เตียงนอน***

Day 7 : หลานโจว – เฉินตู – ถนนกว้างแคบ

  • รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังสนามบินภายในประเทศ เพื่อเดินทางกลับสู่เฉินตู โดยสายการบินภายในประเทศ
  • เหินฟ้าสู่เฉินตู โดยสายการบิน AIR CHINA เที่ยวบินที่ CA4208
  • ถึงสนามบินเฉินตู จากนั้น นำท่านไปเดินเล่นย่าน ถนนกว้างแคบ ก่อนเคยเป็นที่อาศัยของเหล่าบรรดานายทหารน้อยใหญ่ ได้ปรับปรุงมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ย้อนยุคและสวยงามคลาสสิคมาก ถนนสายนี้มีสินค้าต่างๆมากมายให้ท่านเลือกซื้อกับบรรยากาศถนนโบราณ อิสระให้ท่านช็อปปิ้งตามอัธยาศัย
  • รับประทานอาหารเย็น ที่ ภัตตาคาร จากนั้นเข้าที่พักพักผ่อนที่โรงแรม

DAY 8 : เฉินตู – ถนนคนเดินชุนซีลู่ – กรุงเทพ

  • รับประทานอาหารเช้า ที่ โรงแรม
    จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ ถนนคนเดินชุนซีลู่ ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ มากมาย ทั้งแบรนด์ต่างประเทศ และในประเทศ อาทิ เสื้อผ้า, รองเท้า, เครื่องหนัง, กระเป๋าเดินทาง, นาฬิกา, เกมส์, ของที่ระลึกต่างๆ ฯลฯ ตามอัธยาศัย
  • รับประทานอาหารเที่ยง ที่ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังสนามบิน เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
  • เหินฟ้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิฯ ประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 613 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

***รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม***

วันที่จัด

ไปไหนมาดอทคอม • 089-4789334 • 02-045-3445 • Line : @painaima.com • painaima@gmail.com • ติดต่อเรา

ไปไหนมาดอทคอม • ติดต่อเรา

Categories
China

ทัวร์จิ่วจ้ายโกว ย่าติง

ทัวร์จีน จิ่วจ้ายโกว ย่าติง

อุทยานในฝันของนักเดินทาง น้ำใส ใบไม้สวย สูดอากาศบริสุทธิ์กับยอดภูเขาหิมะบนความสูงระดับ 4 พันเมตร

สรุปทริป

โปรแกรมเต็ม

DAY 1: Bangkok – Chengdu – Jingli Street – Dujiangyan

  • พบกันที่สุวรรณภูมิ แถว H/J ประตู 4  สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG618 ออกเดินทางสู่เมืองเฉินตู ประเทศจีน เวลา 10.05 น.
  • เดินทางถึง นครเฉินตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน นำท่านขึ้นรถบัสปรับอากาศเดินทางไปยังหย่าอัน เมืองหย่าอัน ตั้งอยู่ทางภาคกลางของมณฑลเสฉวน ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ห่างจากเมืองเฉิงตูราว 120 กิโลเมตร มีภูเขาที่สวยงาม มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงาม เป็นพื้นที่ที่มีอากาศสะอาดสดชื่น
  • ช้อปปิ้งถนนโบราณจิ่งหลี่เป็นถนนคนเดินที่รักษาบรรยากาศสมัยโบราณไว้ได้เป็นอย่างดี มีสินค้าต่างๆมากมายใหท่านเลือกซื้อได้ตามอัธยาศัย
  • บริเวณใกล้ๆจะเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าสามก๊ก ท่านสามารถไปสักการะเล่าปีกวนอูเตีวหุยและขุนพลของจ๊กก๊กอีกมากมาย (ไม่รวมค่าเข้าศาลเจ้าสามก๊ก)
  • จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังเมืองตูเจียงเอี่ยน

  • คืนนี้เราจะพักกันที่ Dujiangyan

DAY 2 : Dujiangyan – Maoxian – Songpan – Jiuzhaigou

  • เดินทางไปยังเมืองเม่าเสี้ยน ชมเมืองโบราณ เมืองเก่าซงพาน เมืองชายแดนในสมัยโบราณที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าชาวฮั่นและชาวทิเบต ซึ่งชาวฮั่นนิยมนำใบชา ผ้าแพร เกลือและของใช้ประจำวันมาแลกเปลี่ยนม้า แกะ ขนแกะ และหนังสัตว์ของชาวทิเบต 
  • ชม กำแพงเมืองโบราณ ในสมัยราชวงศ์หมิง และเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว (ประมาณ 4-5 ชม)
  • เดินทางสู่ อุทยานจิ่วจ้ายโกว ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอหนานปิง อยู่ทางเหนือของมณฑลเสฉวน และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร มีวิวทิวทัศน์ของขุนเขาอันสวยงาม
  • พักที่ Jiuzhaigou

DAY 3 :  Jiuzhaigou

  • นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติธารสวรรค์ จิ่วจ้ายโกว มรดกโลกทางธรรมชาติ (รถอุทธยาน) ชมความสวยงามของภูเขาและหุบเขาอันสลับซับซ้อน มีแอ่งน้ำน้อยใหญ่มากมายถึง 114 แอ่ง และกลุ่มน้ำตกใหญ่น้อยมากมาย ท่านจะได้พบกับความหัศจรรย์ของอุทยานแห่งนี้ ชมสภาพของน้ำในทะเลสาบมีสีสันที่พิสดารหลากหลาย ประกอบด้วยฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงจนทำไห้เกิดสีสัน อันมหัศจรรย์จนได้ฉายาว่า “7 แดนเทพนิยาย”
  • ชม ทะเลสาบ LONG LAKE ทะเลสาบดอกไม้ 5 สี ทะเลสาบหมีแพนด้า ทะเลสาบไผ่ลูกศร และ ทะเลสาบนกยูง ที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างไว้อย่างวิจิต ดั่งภาพวาดในจินตนาการ
  • ชมสระน้ำ 5 สี (COLORFUL POND) ยามที่แสงแดดส่องกระทบกับน้ำในทะเลสาบ จะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติจะมี 5 เฉดสี สะท้อนออกมาคือ เขียว ขาว เทา น้ำเงิน และม่วง มีนิยายเล่าว่าเกิดจากกระจกของนางฟ้า ตกจากสวรรค์แตกกระจายร่วงลงมาสู่โลก จึงเกิดเป็นสระน้ำ 5 สี
  • ชมความงดงามของ น้ำตกธารไข่มุก ซึ่งเป็นน้ำตกที่ไหลผ่านถ้ำลำธารใหญ่ มีสายน้ำที่ทอดธารลดหลั่นยาวเป็นระยะยาวถึง 310 เมตร เป็นน้ำตกที่มีความงามราวกับเส้นไข่มุกและสายธารน้อยใหญ่มากมาย
  • ชมทะเลสาบแรด ทะเลสาบมังกรหลับ กลุ่มทะเลสาบซู่เจิ้ง น้ำตกซู่เจิ้ง ทุกสถานที่ล้วนเป็นความงาม ที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างไว้ได้ดั่งภาพวาด ในจินตนาการของเหล่ากวีทั้งหลาย ชมสีสันของน้ำที่สะท้อนภาพของภูเขาท้องฟ้าสีครามป่าดงดิบอันอุดมสมบูรณ์
  • พักที่ Jiuzhaigou

Day 4 : Jiuzhaigou

  • เข้าชมอุทยานจิ่วจ้ายโกววันที่ 2 ชม ทะเลสาบเสือ สูงจากระดับน้ำทะเล 2,298 เมตร ทะเลสาบนี้น้ำลึกและเงียบสงบ ความเป็นมาของชื่อทะเลสาบนี้ มี 3 อย่าง

    (1) เสียงน้ำไหลของน้ำตกซู่เจิ้นดังเหมือนเสียงร้องของเสือ 

    (2) ฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี ใบไม้รอบๆทะเลสาบ จะเปลี่ยนสีและสะท้อนบนผิวน้ำดูเหมือนรวดลายของเสือ 

    (3) เสือในป่าลงมากินน้ำที่ทะเลสาบนี้บ่อยๆ

  • นำท่านเดินลัดเลาะไปตาม หมู่ทะเลสาบซู่เจิ้ง ชม น้ำตกซู่เจิ้ง สูงจากระดับน้ำทะเล 2,295 เมตร กว้าง 62 เมตร สูง 25 เมตร ยอดน้ำตกกว้าง 72 เมตร น้ำตกซู่เจิ้ง มีลักษณะเหมือนกลับดอกบัว น้ำที่ไหลมาจากทะเลสาบข้างบน ถูกต้นไม้แยกเป็นสายน้ำเล็กๆ หลายพันสาย สุดท้ายก็มารวมกันที่ยอดน้ำตกเทลงมาทีเดียว สง่างามมาก ให้ท่านได้อิสระกับการบันทึกถ่ายภาพและดื่มด่ำกับธรรมชาติ ที่สวยสดงดงามได้อย่างเต็มที่
  • ชมทะเลสาบไผ่ลูกศร และทะเลสาบหมีแพนด้า ที่ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นที่ที่มักจะมีหมีแพนด้าลงมาเล่นน้ำ ก่อนที่จะเปิดเป็นอุทยาน จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบแห่งนี้ จากทะเลสาบหมีแพนด้า นำท่านเดินลัดเลาะธรรมชาติด้านใน ระยะทางประมาณ 2 ก.ม. ตลอดสองข้างทางจะมีลำธารไหลเลาะริมทางเดินไปท่ามกลางเหล่าใบ้ที่กำลังผลัดใบ มุ่งหน้าสู่ ไฮไลท์ของจิ่วจ้ายโกว
  • ทะเลสาบดอกไม้ห้าสี หรือ ทะเลสาบหางนกยูง (เป็นทะเลสาบหางนกยูง เมื่อมองลงมาจากด้านบน) สูงจากระดับน้ำทะเล 2,472 เมตร ลึก 5 เมตร เป็นทะเลสาบที่มีวิวสวยอันดับต้นๆของอุทยานจิ่วจ้ายโกว เนื่องมาจากการกระจายตัวของตะกอนหินปูน สาหร่าย และพืชน้ำ ทำให้เกิดสีหลายสีสวยงามมาก เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่าย Pre-Wedding กันมากที่สุด เพราะมีวิวที่สวยงาม และมีจุดถ่ายรูปมากมายเลยทีเดียว ให้เวลาท่านเต็มที่กับการถ่ายรูป
  • พักที่ Jiuzhaigou

Day 5 : Jiuzhaigou – Huanglong – Chuangzhushi

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติหวงหลง (ขึ้นกระเช้า-เดินลง) นำท่านเดินชมความงามของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ตามแนวมังกรเหลือง ค่อยๆไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เดินช้าๆ ทำอะไรช้าๆ เหนื่อยก็พัก (ห้ามฝืน)
  • อุทยานแห่งชาติหวงหลง เป็นลำธารสายหนึ่งไหลมาจากภูเขาหิมะนับพันๆ ปี จนหินปูนเกิดตกตะกอนเป็นแอ่งเป็นชั้น ทั้งเล็กและใหญ่กว่า 4,000 ชั้น สูงตั้งแต่ 1.5 – 4.5 เมตร น้ำสีรุ้งในอ่าง เปรียบเปรยเป็นที่เล่นน้ำของนางฟ้าชั้นสวรรค์ ลำธารเรียงรายลดหลั่นเป็นระยะกว่า 3,000 เมตร เป็นรูปร่างต่างๆ แสนมหัศจรรย์และงดงาม ไม่มีที่ใดในโลกเทียบได้ จนมีชื่อว่า หวงหลง หรือ อุทยานแห่งชาติมังกรเหลือง
  • ถึงเวลานำท่านเดินทางไปยังชวนจู่ซื่อ
  • พักที่ Chuangzhushi

Day 6 : Chuanzhushi – Maoxian – Ya’an

  • จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังเมืองเม่าเสี้ยน เมืองเล็กๆที่มีความเงียบสงบและมีความเป็นมายาวนานเมืองหนึ่ง เป็นเมืองทางผ่านระหว่างเฉินตูกับจิ่วจ้ายโกว ระหว่างทางท่านจะได้พบกับความงามของธรรมชาติที่ท่านสัมผัสจากที่ไหนไม่ได้ ท่านจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน
  • เดินทางเข้าสู่เมือง หย่าอัน เป็นเมืองท่องเที่ยวดีเด่นของจีน และเป็น 1 ใน 10 เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ของจีนเป็นสถานที่ค้นพบหมีแพนด้าตัวแรกของโลก ถือเป็นต้นแบบการเพาะพันธุ์หมีแพนด้าของโลกในปี 2006 ถิ่นกำเนิดและแหล่งที่อยู่ของหมีแพนด้าในมณฑลเสฉวน ซึ่งมีเมืองหย่าอันเป็นศูนย์กลาง
  • พักที่ Ya’an

Day 7 : Ya’an – Moxi – Xinduqiao

  • นำท่านเดินทางไปยัง ตำบลม่อซี เมืองเล็กๆกลางหุบเขา ที่ยังคงรักษารูปแบบวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนในท้องถิ่นนี้เอาไว้จนถึงปัจจุบัน เมื่อ ค.ศ.1935 ตำบลม่อซีเคยเป็นที่จัดตั้งกองทัพแดงภายใต้การนำของเหมาเจ๋อตงและจูเต๋อ เพื่อต่อสู้กับกองทัพก๊กมิ่นตั๋ง และเป็นตำบลที่ตั้งของอุทยานธารน้ำแข็งไห่โหลโกว เดินทางผ่านสะพานต้าตู้ซึ่งเชื่อมเส้นทางสู่ไห่โหลโกว
  • นำท่านไปชม อุทยานเอี่ยนจือโกว เขตทัศนียภาพที่กำลังได้รับความนิยมและมีชื่อในเรื่องของความงามแห่งใบไม้เปลี่ยนสีที่ผสมผสานกับโขดหินสีแดงที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณเขตทัศนียภาพผนวกกับทะเลหมอกสีแดงปกคลุมยอดเขา
  • ชม หงสือทาน ซึ่งเป็นธารน้ำสีแดงตามธรรมชาติที่ไหลลงมาจากภูเขา ปกคลุมไปด้วยหิมะ และเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวๆ เป็นธรรมชาติที่แปลกตยิ่งนัก
  • จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังซินตูเฉียว
  • พักที่ Xinduqiao

DAY 8 : Xinduqiao – Litang – Yading

  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองหย่าติง (ใช้เวลาประมาณ 9-10 ชั่วโมง) โดยระหว่างทางจะต้องผ่านภูเขาสูงถึง 3 ลูก โดยมีระดับสุงขึ้นไปเรื่อยๆ โดยลูกแรกคือภูเขากอร์ซือ สูงจากระดับน้ำทะเล 4,412 เมตร ลูกที่สองคือภูเขาเจียนจือวาน สูงจากระดับน้ำทะเล 4,659 เมตร และภูเขาลูกที่สามคือคาร์จือลาห์ สูงจากระดับน้ำทะเล 4,712 เมตร
  • ผ่าน เมืองหย่าเจียง เป็นเมืองซึ่งได้ชื่อว่าสูงเป็นอันดับสองของโลก ท่านจะได้เห็นภาพชาวเมืองที่มีวิถีชีวิตสบายๆ ในการทำสวนทำไร่ ชาวเมืองจะมีหน้าตาคล้ายชาวทิเบต ท่านจะได้เห็นภูเขาไหจื่อ เป็นเขาที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ และผ่านทะเลสาบสายหลักของเมืองบนภูเขาจะเรียงรายด้วยเจดีย์ทิเบต
  • ระหว่างทางผ่าน เมืองหลี่ถัง ให้ท่านได้สัมผัสเมืองหลี่ถัง ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่จะเป็นชาวทิเบต
  • เดินทางถึงย่าติงช่วงเย็นๆ
  • พักที่ Yading

DAY 9 : Yading National Park

  • นำท่านเที่ยวชม อุทยานหย่าติง ดินแดนย่าติงเป็นที่รู้จักของผู้คนในแถบนี้มาอย่างยาวนานนับพันปี ในอดีตที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายชา-ม้า อันเป็นเส้นทางคาราวานการค้าโบราณ ที่เชื่อมดินแดนทิเบตกับมณฑลยูนนานที่อยู่ทางตอนใต้ โจเซฟ ร็อค นักสำรวจและนักธรรมชาติวิทยาชาวอเมริกันที่ให้คำนิยามของย่าติงไว้ว่า “งดงามจนยากจะหาที่ใดเสมอเหมือน”
  • เที่ยวชม วัดชงกู่ วัดทิเบตที่เก่าแก่ขนาดเล็ก วัดชงกู่ สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน อายุประมาณ 700 ปี ตั้งอยู่บนความสูง 3,880 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่เชิงเขาเซียนหน่ายรื่อภายในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติย่าติง
  • ชม ทะเลสาบไข่มุก เป็นทะเลสาบที่อยู่ในหุบเขาที่ความสูง 4,000 เมตร เป็นทะเลสาบเล็กๆสีเขียว ใสเหมือนมรกต โอบล้อมไปด้วยเงื้อมเงาของยอดเขาเซียนหน่ายรื่อ ซึ่งยอดเขาแห่งนี้สูงถึงกว่า 5,000 เมตร นับเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตอนุรักษ์ย่าติง
  • พักที่ Yading

DAY 10 : Yading National Park – Daocheng

  • นำท่านเข้าชม อุทยานย่าติง เปลี่ยนเป็นรถ ณ อุทยาน เที่ยวชมภูเขาหิมะ 3 พระโพธิสัตว์ ที่ชาวทิเบตนับถืออย่างสูง และได้รับสมญานามว่า “THE LAST SHANGRI-LA”ภูเขาหิมะ 3 พระโพธิสัตว์ ประกอบไปด้วย
    1) เซียนหน่ายยื่อ คือ พระโพธิสัตว์แห่งความกรุณา
    2) เซี่ยโยโตเจีย คือ เซียนเทวดาผู้สูงส่ง 3) ยานม่ายหยง คือ องค์ทิพย์เทพพิทักษ์
  • นำท่านขึ้นรถไฟฟ้าสู่ ทุ่งจามรี ซึ่งเป็นเขตที่สามารถมองเห็นยอดเขาหยางเหมยหยง และเซียนโตว้จี๊ ที่สูงเกือบ 6000 เมตร จากจุดนี้ท่านสามารถนั่งม้า ไป-กลับ (3 ชม.)

     *** ไม่รวมค่าขี่ม้า ประมาณ 300 หยวน***

  • สู่ทะเลสาบน้ำนม (หนิวหน่ายไห่) ที่มีความสูงเกือบ 4500 เมตร
  • พักที่ Yading

DAY 11 : Daocheng – Chengdu

  • นำท่านไปยังสนามบินภายในประเทศ เพื่อเดินทางไปยังเมืองเฉินตู  โดยสายการบิน AIR CHINA เที่ยวบินที่ CA4216 เวลา 08.30
  • นำท่านชม ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า ทางตอนเหนือของเมืองเฉินตู สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1987 ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่จะศึกษาระบบนิเวศน์ , การอยู่อาศัยและการแพร่พันธุ์ของหมีแพนด้าเป็นสถานอภิบาลหมีแพนด้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • จากนั้นนำท่านชม โชว์เปลี่ยนหน้ากาก เป็นการโชว์ที่ผู้แสดงสะบัดหน้าเพียงครั้งเดียวก็สามารถเปลี่ยนหน้าได้เพียงเสี้ยววินาที เป็นศิลปะของคนจีนตั้งแต่สมัยโบราณ ในอดีตเทคนิคการแสดงจะถูกปิดเป็นความลับและจะถ่ายทอดเฉพาะคนในตระกูลเท่านั้น
  • พักที่ Chengdu

DAY 12 : Chengdu – Bangkok

  • นำท่านเดินทางไปยัง ถนนคนเดินควานจ่ายเจีย หรือซอยกว้างแคบ ซึ่งเป็นบ้านทรงจีนโบราณของท่านนายพลในยุคก่อน ถนนสายนี้มีการตกแต่งแบบย้อนยุค และมีการนำสินค้าท้องถิ่นมาวางขาย ให้ท่านเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งหรือเก็บภาพประทับใจ
  • นำท่านเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 619
  • เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

***รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม***

DAY 1: Bangkok – Chengdu – Yaan

  • พบกันที่สุวรรณภูมิ แถว H/J ประตู 4  สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG618 ออกเดินทางสู่เมืองเฉินตู ประเทศจีน เวลา 10.05 น.
  • เดินทางถึง นครเฉินตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน นำท่านขึ้นรถบัสปรับอากาศเดินทางไปยังหย่าอัน เมืองหย่าอัน ตั้งอยู่ทางภาคกลางของมณฑลเสฉวน ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ห่างจากเมืองเฉิงตูราว 120 กิโลเมตร มีภูเขาที่สวยงาม มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงาม เป็นพื้นที่ที่มีอากาศสะอาดสดชื่น
  • นำท่านขึ้นรถบัสปรับอากาศเดินทางไปยังหย่าอัน

    เมืองหย่าอัน ตั้งอยู่ทางภาคกลางของมณฑลเสฉวน ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ห่างจากเมืองเฉิงตูราว 120 กิโลเมตร มีภูเขาที่สวยงาม มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงาม เป็นพื้นที่ที่มีอากาศสะอาดสดชื่น ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย 1,800 มิลลิเมตรต่อปี จนได้รับการขนานนามว่า “เมืองแห่งฝน” เพราะเป็นเขตที่มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดของมณฑลเสฉวน เป็นเมืองท่องเที่ยวดีเด่นของจีน และเป็น 1 ใน 10 เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ของจีน ประจำปี 2006 อีกด้วย นอกจากนี้เมืองหย่าอันยังเป็นที่นิยมสำหรับการท่องเที่ยวแบบพักผ่อนตากอากาศ ในชนบท และการขับรถเที่ยวเองของมณฑลเสฉวน และยังเป็นสถานที่ค้นพบหมีแพนด้าตัวแรกของโลก ถือเป็นต้นแบบการเพาะพันธุ์หมีแพนด้าของโลกในปี 2006 ถิ่นกำเนิดและแหล่งที่อยู่ของหมีแพนด้าในมณฑลเสฉวน ซึ่งมีเมืองหย่าอันเป็นศูนย์กลาง ต่อมาเมืองแห่งนี้ได้ถูกบันทึกอยู่ในบัญชีรายชื่อมรดกโลกทางธรรมชาติ นอกจากนี้เมืองหย่าอันยังเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมชาและการปลูกชาของโลก อีกทั้งยังเป็นเขตเพาะปลูกและบำรุงรักษาต้นชาโดยใช้แรงงานคนที่เก่าแก่ที่สุดของโลกด้วย ดังคำขวัญประจำเมืองที่ว่า “บ้านหมีแพนด้า แหล่งชาของโลก ศูนย์กลางเสฉวนตะวันตก หย่าอันแห่งมนต์เสน่ห์”

  • รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

  • พักที่ HONGZHU HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

DAY 2 : Yaan – Moxi

  • หลังจากรับประทานอาหารที่โรงแรม นำท่านเดินทางไปยังตำบลม่อซี (เดินทางประมาณ 3.30 ชม.)

  • นำท่านไปชม อุทยานเอี่ยนจือโกว เขตทัศนียภาพที่กำลังได้รับความนิยมและมีชื่อในเรื่องของความงามแห่งใบไม้เปลี่ยนสีที่ผสมผสานกับโขดหินสีแดงที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณเขตทัศนียภาพผนวกกับทะเลหมอกสีแดงปกคลุมยอดเขา สร้างสรรค์ทิวทัศน์ดุจดั่งภาพวาดในจินตการ
  • เอี่ยยนจื่อโกว อยู่ในบริเวณทิศตะวันออกของเขตทัศนียภาพก้งก่าซาน เป็นทางผ่านที่จะไปยัง เมืองคังติ้ง ซึ่งห่างจากเมืองดังกล่าว 76 กม. ห่างจากนครเฉิงตู 236 กม. สภาพทิวทัศน์สองข้างทางเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนสร้างทัศนียภาพงดงามและยิ่งใหญ่ตลอดเส้นทาง ชม หงสือทาน ซึ่งเป็นธารน้ำสีแดงตามธรรมชาติที่ไหลลงมาจากภูเขา ปกคลุมไปด้วยหิมะ และเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวๆ เป็นธรรมชาติที่แปลกตยิ่งนัก

  • รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

  • พักที่ HAILUOGOU LONG MARCH HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

DAY 3 : Moxi – Danba

  • หลังรับประทานอาหารเช้า โรงแรม นำท่านเดินทางไปยังตันปา (ชมวิวระหว่างทาง) เมืองตันปา หุบเขาแห่งสาวงาม ตั้งอยู่ริมโตรกผาสูงตระหง่าน ด้านหนึ่งคือแม่น้ำต้าตูที่เชี่ยวกราก อีกด้านคือภูผาสูง เป็นเมืองที่มีพื้นที่หลากหลายรูปแบบ ตัวเมืองตันปาถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเจริญมากเมืองหนึ่งเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ตันปาในอดีตเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญมากของแคว้นคามทิเบต มีสมญาว่า “อาณาจักรพันป้อม” ตันปาเริ่มสร้างป้อมปราการตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นเมื่อค.ศ. 1,700 ปีก่อน ซึ่งเคยมีป้อมปราการมากกว่า 3,000 แห่ง หมู่บ้านขนาดใหญ่บางหมู่บ้านก็มีป้อมมากกว่า 100 แห่ง ปัจจุบันมีป้อมปราการเหลืออยู่ 562 แห่ง ท่านจะได้เห็นหอสังเกตุการณ์แบบทิเบตตั้งกระจายอยู่ทั่วไป นอกจากตันปามีหุบเขาที่สวยงามแล้ว ยังมีหญิงสาวสวย จนเป็นที่รับรู้กันทั้งแผ่นดินจีนว่า ชมหมู่บ้านทิเบตที่สวยที่สุดต้องมาที่ตันปา ชมหญิงทิเบตสวยที่สุดก็ต้องมาที่ตันปาเช่นกัน
  • ระหว่างทางแวะชม สะพานหลูติ้ง เป็นสะพานแขวนเก่าแก่ สมัยจักรพรรดิคังซี ราชวงศ์ชิง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1705 โดยมีความยาว 103 เมตร และกว้าง 2.8 เมตร ใช้โซ่เหล็ก 13 เส้น ขึงระหว่างสองฝั่ง พื้นสะพานปูด้วยไม้กระดาน สะพานแห่งนี้มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ยุคใกล้ของจีน เมื่อกองทัพแดงสู้รบกับกองทัพของรัฐบาลเจียงไคเช็คในปี 1935 และได้สร้างวีรกรรมพลีชีพในการแย่งยึดสะพานนี้มาจากกองทัพก๊กมิ่นตั๋ง

  • รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

  • เดินทางเข้าที่พัก LAN FENG HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

Day 4 : Danba – Xinduqiao

  • นำท่านชม หมู่บ้านเจียจูจังไช่ สร้างขึ้นจากไม้และหิน โดยชั้นล่างสุดเป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์ ชั้นถัดมาจะเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าบ้าน ส่วนดาดฟ้าด้านบนใช้สำหรับตากพืชผลทางการเกษตร บานหน้าต่างประตูของบ้านแต่ละหลังทำจากไม้ที่ได้รับการแกะสลักและลงสีไว้อย่างงดงาม ลักษณะบ้านสวยโดดเด่นกว่าหมู่บ้านอื่นในตานปา ก็คงตรงที่รู้จักใช้สีสัน สีขาว แดง ดำ คาดบนตัวบ้านที่ก่อด้วยหินแผ่นเล็กๆ เรียงซ้อนกัน มุมของหลังคามียอดแหลมวางหินสีขาว ที่ถือว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ ด้วยความสวยโดดเด่นจึงทำให้ National Geographic ของเมืองจีน ยกให้เป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดของประเทศจีน

  • จากนั้นชม หมู่บ้านธิเบตจงลู่ เป็นหมู่บ้านทิเบตตั้งอยู่บนเนินเขาสูง จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังซินตูเฉียว
  • รับประทานอาหาร และนำท่านเข้าสู่ที่พัก
  • พักที่ SHE YING TIANTANG HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

Day 5 : Xinduqiao – Litang- Yading

  •  นำท่านเดินทางสู่ เมืองหย่าติง (ใช้เวลาประมาณ 9-10 ชั่วโมง) โดยระหว่างทางจะต้องผ่านภูเขาสูงถึง 3 ลูก โดยมีระดับสุงขึ้นไปเรื่อยๆ โดยลูกแรกคือภูเขากอร์ซือ สูงจากระดับน้ำทะเล 4,412 เมตร ลูกที่สองคือภูเขาเจียนจือวาน สูงจากระดับน้ำทะเล 4,659 เมตร และภูเขาลูกที่สามคือคาร์จือลาห์ สูงจากระดับน้ำทะเล 4,712 เมตร

  • นำท่านเดินทางผ่านเมืองหย่าเจียง เป็นเมืองซึ่งได้ชื่อว่าสูงเป็นอันดับสองของโลก ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 4,000 เมตร อาหลี่ถัง เป็นเมืองที่เสนอเรื่องขอขึ้นทะเบียนเป็นเมืองที่สูงที่สุดในโลกเหนือกว่าทิเบตเมืองหลังคาโลก เป็นดินแดนเรียกได้ว่าลึกลับที่สุดที่อยู่ในความสูงระดับ 4,500-6,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ท่านจะได้เห็นภาพชาวเมืองที่มีวิถีชีวิตสบายๆ ในการทำสวนทำไร่ ชาวเมืองจะมีหน้าตาคล้ายชาวทิเบต ท่านจะได้เห็นภูเขาไหจื่อ เป็นเขาที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ และผ่านทะเลสาบสายหลักของเมืองบนภูเขาจะเรียงรายด้วยเจดีย์ทิเบต ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวเมืองอาหลี่ถัง ท่านจะได้เห็นการ์เซียปกคลุมภูเขาจนเป็นภูเขาหิมะสีขาวโพลน ได้รับการขนานนามว่า “ภูเขานกกระเรียนขาวหิมะหยก” 

  • ระหว่างทางท่านจะผ่าน เมืองหลี่ถัง ให้ท่านได้สัมผัสเมืองหลี่ถัง ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่จะเป็นชาวทิเบต
  • รับประทานอาหาร และนำท่านเข้าสู่ที่พัก

  • พักที่ HOLIDAY INN EXPRESS ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

Day 6 : Yading National Park

  • นำท่านเที่ยวชม อุทยานย่าติง เปลี่ยนเป็นรถอุทยาน ดินแดนย่าติงเป็นที่รู้จักของผู้คนในแถบนี้มาอย่างยาวนานนับพันปี เพราะในอดีตที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายชา-ม้า อันเป็นเส้นทางคาราวานการค้าโบราณ ที่เชื่อมดินแดนทิเบตกับมณฑลยูนนานที่อยู่ทางตอนใต้ แต่ผู้ที่ทำให้โลกภายนอกได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่และงดงามของดินแดนย่าติง คือ โจเซฟ ร็อค นักสำรวจและนักธรรมชาติวิทยาชาวอเมริกันที่ให้คำนิยามของย่าติงไว้ว่า “งดงามจนยากจะหาที่ใดเสมอเหมือน” โจเซฟ ร็อค ได้เดินทางสำรวจดินแดนในแถบจีนตะวันตกรวมถึงดินแดนย่าติง และนำออกเผยแพร่ผ่านนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก จนสร้างความตื่นเต้นและตื่นตะลึงในหมู่ชาวตะวันตก ถึงความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติภายในดินแดนแห่งนี้ ดั่งที่เขาได้บรรยายรายละเอียดของยอดเขาเซียนหน่ายรื่อ เอาไว้ว่า “ยอดเขาแห่งองค์พระอวโลกิเตศวร ดูเสมือนดั่งบัลลังก์ของเทพเจ้าบนสรวงสวรรค์” ด้วยภาพของยอดเขาสูงชัน ยอดด้านบนตัดตรงดูคล้ายบัลลังก์ เบื้องหน้าคือทะเลสาบไข่มุกที่ใสบริสุทธิ์ ธงมนต์หลากสีพริ้วไหวอยู่ริมทะเลสาบ บรรยากาศรอบข้างอบอวลไปด้วยแรงศรัทธาและบทสวดที่ล่องลอยผ่านธงมนต์มาตามสาย ลม ผลงานของโจเซฟ ร็อค ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่นวนิยาย Lost Horizon ของนักเขียนชาวอังกฤษ เจมส์ ฮิวส์ตัน ที่กล่าวถึง แชงกรีลา ดินแดนลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา ดินแดนที่ผู้คนดำรงชีวิตอยู่อย่างสงบสุขท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์และงดงาม

  • เที่ยวชม วัดชงกู่ วัดทิเบตที่เก่าแก่ขนาดเล็ก วัดชงกู่ สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน อายุประมาณ 700 ปี ตั้งอยู่บนความสูง 3,880 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่เชิงเขาเซียนหน่ายรื่อภายในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติย่าติง
  • จากนั้นเที่ยวชม ทะเลสาบไข่มุก เป็นทะเลสาบที่อยู่ในหุบเขาที่ความสูง 4,000 เมตร เป็นทะเลสาบเล็กๆสีเขียว ใสเหมือนมรกต โอบล้อมไปด้วยเงื้อมเงาของยอดเขาเซียนหน่ายรื่อ ซึ่งยอดเขาแห่งนี้สูงถึงกว่า 5,000 เมตร นับเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตอนุรักษ์ย่าติง

  • รับประทานอาหาร และนำท่านเข้าสู่ที่พัก

  • พักที่ HOLIDAY INN EXPRESS ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

Day 7 : Yading National Park – Daocheng

  • นำท่านเข้าชมอุทยานย่าติงอีกครั้ง เปลี่ยนเป็นรถอุทยาน เที่ยวชมภูเขาหิมะ 3 พระโพธิสัตว์ ที่ชาวทิเบตนับถืออย่างสูง และได้รับสมญานามว่า “THE LAST SHANGRI-LA”

    ภูเขาหิมะ 3 พระโพธิสัตว์ ประกอบไปด้วย 

    1) เซียนหน่ายยื่อ คือ พระโพธิสัตว์แห่งความกรุณา 

    2) เซี่ยโยโตเจีย คือ เซียนเทวดาผู้สูงส่ง 

    3) ยานม่ายหยง คือ องค์ทิพย์เทพพิทักษ์

  • นำท่านขึ้นรถไฟฟ้าสู่ทุ่งจามรี ซึ่งเป็นเขตที่สามารถมองเห็นยอดเขาหยางเหมยหยง และเซียนโตว้จี๊ ที่สูงเกือบ 6000 เมตร จากจุดนี้ท่านสามารถนั่งม้า ไป-กลับ (3 ชม.)
     *** ไม่รวมค่าขี่ม้า ประมาณ 300 หยวน***
  • สู่ทะเลสาบน้ำนม(หนิวหน่ายไห่) ที่มีความสูงเกือบ 4500 เมตร 

  • รับประทานอาหาร และนำท่านเข้าสู่ที่พัก

  • พักที่ ROCK HOMELAND INTERNATIONAL HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

DAY 8 : Daocheng – Chengdu

  •  นำท่านไปยังสนามบินภายในประเทศ เพื่อเดินทางไปยังเมืองเฉินตู  เดินทางโดยสายการบินภายในประเทศ ……….เที่ยวบินที่……….
  • เมื่อเดินทางถึงเฉินตูนำท่านชม ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 600,000 ตารางเมตร ทางตอนเหนือของเมืองเฉินตู สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1987 ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่จะศึกษาระบบนิเวศน์ , การอยู่อาศัยและการแพร่พันธุ์ของหมีแพนด้าเป็นสถานอภิบาลหมีแพนด้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในได้รับการจัดสภาพแวดล้อม กลมกลืนกับป่าธรรมชาติ ทั้งยังเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์หายากของมณฑลเสฉวนอีกด้วย ที่นี่มีแพนด้าประมาณ 40 กว่าตัว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ได้ให้ความรู้กับท่านพร้อมทั้งอธิบาย เกี่ยวกับหมีแพนด้า เช่น การเกิด การทำคลอด โรงพยาบาลหมีแพนด้า พิพิธภัณฑ์หมีแพนด้า สถานที่อนุบาลหมีแพนด้า 

  • จากนั้นนำท่าน ชมโชว์เปลี่ยนหน้ากาก เป็นการโชว์ที่ผู้แสดงสะบัดหน้าเพียงครั้งเดียวก็สามารถเปลี่ยนหน้าได้เพียงเสี้ยววินาที เป็นศิลปะของคนจีนตั้งแต่สมัยโบราณ ในอดีตเทคนิคการแสดงจะถูกปิดเป็นความลับและจะถ่ายทอดเฉพาะคนในตระกูลเท่านั้น  และนำท่านเข้าสู่ที่พัก

  • พักที่ MERCURE CHENGDU HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

DAY 9 : Chengdu – Bangkok

  • นำท่านเดินทางไปยัง ถนนคนเดินควานจ่ายเจีย หรือซอยกว้างแคบ ซึ่งเป็นบ้านทรงจีนโบราณของท่านนายพลในยุคก่อน ถนนสายนี้มีการตกแต่งแบบย้อนยุค และมีการนำสินค้าท้องถิ่นมาวางขาย ให้ท่านเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งหรือเก็บภาพประทับใจ
  • นำท่านเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 619
  • เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

***รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม***

วันที่จัด

ไปไหนมาดอทคอม • 089-4789334 • 02-045-3445 • Line : @painaima.com • painaima@gmail.com • ติดต่อเรา

ไปไหนมาดอทคอม • ติดต่อเรา

error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม