สรุปทริป
ทะเลสาบน้ำแข็ง Jokulsarlon และหาด Daimond beach
ถ้ำน้ำแข็ง (ตค- มีค)
ทุ่งมอส-ลาวา กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
หาดทรายดำ เขาหินบะซอลต์
แช่น้ำแร่บลูลากูน สีเขียวฟ้า
โปรแกรมโดยย่อ
วันที่ 1 | พบกันที่สนามบิน เคาน์เตอร์สายการบิน Thai Airways
วันที่ 2 | เดินทางไปยังเมืองปารีส • บินภายในไปยัง Iceland สนามบิน Keflavik • อุทยานแห่งชาติ Thingvellir อุทยานที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนประเทศไอซ์แลนด์
พักที่เมือง Gullfoss
วันที่ 3 | Golden Circle • น้ำตก Gullfoss ไนแอการ่าแห่งไอซ์แลนด์ • น้ำพุร้อนเกย์เซอร์ น้ำพุร้อนใต้ดินที่จะพุ่งตัวขึ้นมาจากพื้นเป็นระยะ • ปากปล่องภูเขาไฟ Kerid Crater • ไปเมือง Selfoss เมืองที่ตั้งอยู่ในทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ ริมฝั่งแม่น้ำโอลฟูซา
พักที่เมือง Selfoss
วันที่ 4 | น้ำตก Seljalandsfoss น้ำตกนี้มีความสูง60 เมตร • น้ำตกสโกก้าฟอสส์ (Skogafoss) • แหลม Dyrholaey ประตูมาจากลักษณะที่มีซุ้มลาวาโค้งขนาดมหึมายื่นรับอยู่ทางด้านหน้าของแหลม ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและลมที่พัดผ่าน • ชม หาดทรายดำ • Trolls in Reynisdrangar หินภูเขาไฟที่โผล่ขึ้นมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ที่บริเวณด้านหน้าของหาดทรายดำ (Reynisfjara) • Vik
พักที่เมือง Vik
วันที่ 5 | แวะชม LavaField ทุ่งลาวามอสส์ขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา • ทะเลสาบน้ำแข็ง Jokulsarlon เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งอายุกว่า 1,000 ปีที่ใหญ่ • ชมชายหาด Diamond Beach ชายหาดน้ำแข็ง
พักที่เมือง Jokulsarlon
วันที่ 6 | ชมถ้ำ Ice Cave ถ้ำน้ำแข็งที่เกิดจากการก่อตัวของหิมะทับถมกันจนเป็นภูเขาน้ำแข็งเป็นเวลานาน • เดินทางไปเมือง ViK
พักที่เมือง Vik
วันที่ 7 | เดินทางกลับ Reykjavik • ชมโบสถ์ Hallgrímskirkja โบสถ์นิกายลูเทอแรนใจกลางกรุงเรคยาวิก • Sun Voyager ประติมากรรมรูปเรือที่ตั้งอยู่ในกรุง Reykyavik มีรูปทรงที่คล้ายกับเรือไวกิ้ง • ชมอาคาร Harpa ศูนย์การแสดงศิลปะและการประชุม • Blue Lagoon สระน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีน้ำสีฟ้าคราม • เดินทางกลับเมือง Keflavik
พักที่เมือง Keflavik
วันที่ 8 | บินภายในไปยังเมืองโคเปนเฮเกน จากนั้นต่อเครื่องกลับไทย
วันที่ 9 |เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
อุทยานแห่งชาติแห่งแรก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยุโรป กับ ทวีปอเมริกา และยังมีฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์และสามารถชมแสงเหนือได้ที่นี่อีกด้วย
ซึ่งเป็นถ้ำหินบะซอลต์ที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดโครงสร้างหินรูปทรงหกเหลี่ยมที่เรียงตัวกันเป็นแถวอย่างน่าทึ่ง ถ้ำนี้มักถูกใช้เป็นฉากหลังในภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์หลายเรื่องเนื่องจากความงดงามและเอกลักษณ์ของมัน
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศบนชายฝั่งของอ่าว Faxaflói ตามประวัติศาสตร์ เรคยาวิกถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการตั้งถิ่นฐานเก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ประวัติศาสตร์เรคยาวิกเป็นเพียงหมู่บ้านประมงเล็กๆ แต่เมืองนี้ได้พัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างมากในศตวรรษที่ 20 และกลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง, วัฒนธรรม, และเศรษฐกิจของไอซ์แลนด์
เป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที น้ำพุร้อนนี้ เกิดจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน
เป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที น้ำพุร้อนนี้ เกิดจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน
น้ำตกจากหน้าผาสูงถึง 62 เมตร สามารถชมความงามได้ทั้งด้านล่าง หรือเดินขึ้นไปชม และ ถ่ายภาพมุมสูงของน้ำตกจากด้านบนได้
เดิมเรียกว่าเคปพอร์ตแลนด์โดยชาวอังกฤษ บนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ ชมหาดลาวาสีดำสนิท ที่ทอดตัวยาวหลายสิบกิโลเมตร ปะติมากรรมจากธรรมชาติบริเวณริมหน้าผา เป็นแหลมหินที่มีโพรงขนาดใหญ่ยื่นลงไปในทะเล เมื่อมองกลับไปด้านหลังจะพบกับ ธารน้ำแข็ง Mýrdalsjökull glacier
ปล่องภูเขาไฟสีเลือดที่มีทะเลสาบสีเขียวมรกตยู่บริเวณปากปล่อง ซึ่งแม้ว่าจะมีอายุกว่า 3 พันปีแล้วก็ตาม แต่ยังมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่
ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ามอสที่ปกคลุมอยู่บนหินลาวา เมื่อถ่ายภาพออกมา จะกลายเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา
ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ามอสที่ปกคลุมอยู่บนหินลาวา เมื่อถ่ายภาพออกมา จะกลายเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา
ถ้ำน้ำแข็งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจซึ่งมักพบในพื้นที่ที่มีน้ำแข็งถาวร เช่น ในกรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ และบางพื้นที่ของรัสเซีย และแคนาดา ถ้ำเหล่านี้เกิดจากการไหลของน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งและหิมะ ซึ่งไหลผ่านและกัดเซาะน้ำแข็งสร้างเป็นโพรงและอุโมงค์ใต้ดินที่มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ
ถ้ำน้ำแข็งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจซึ่งมักพบในพื้นที่ที่มีน้ำแข็งถาวร เช่น ในกรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ และบางพื้นที่ของรัสเซีย และแคนาดา ถ้ำเหล่านี้เกิดจากการไหลของน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งและหิมะ ซึ่งไหลผ่านและกัดเซาะน้ำแข็งสร้างเป็นโพรงและอุโมงค์ใต้ดินที่มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ
โบสถ์สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ (74.5 เมตร) เป็นสถาปัตยกรรม แนวอิมเพรสชั่นนิส เริ่มก่อสร้าง ค.ศ. 1945-1986 บริเวณด้านหน้าของโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของเลฟร์ อีริกสัน ที่เชื่อกันว่าเป็นชาวยุโรปคนแรกที่เดินทางไปถึงทวีปอเมริกาเหนือ ก่อนหน้าคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเกือบ 500 ปี
สร้างขึ้นเมื่อปี 1990 ชนะเลิศจากการประกวดประติมากรรมเพื่อเฉลิมฉลองกรุงเรคยาวิกครบ 200 ปี แทนความหมายของเรือแห่งความฝันที่ออกเดินทางไปตามทิศทางแห่งดวงอาทิตย์ ไปสู่ดินแดนที่ยังไม่ถูกค้นพบ
ที่มีอุณหภูมิความร้อนของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส และ มีแร่ธาตุที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยรักษาโรคได้
ที่มีอุณหภูมิความร้อนของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส และ มีแร่ธาตุที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยรักษาโรคได้