Categories
FullBoard Mid Asia SouthAsia

India : เลห์ ลาดักห์

India
เลห์ ลาดักห์
สรุปไฮไลท์

☀️ ข้าม Khardung La Pass – ถนนที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ขับผ่านเส้นทางระดับความสูงกว่า 5,600 เมตร พร้อมวิวหิมาลัยแบบ 360 องศา

☀️ ทะเลสาบปังกอง (Pangong Lake) – น้ำสีเทอร์ควอยซ์กลางภูเขาหิมะ

หนึ่งในทะเลสาบที่สวยที่สุดในเอเชีย ความงามเปลี่ยนสีตามแสงแดด

☀️ Hunder Sand Dunes – ทะเลทรายกลางเทือกเขาหิมาลัย

ประสบการณ์สุดพิเศษ ขี่อูฐสองโหนกท่ามกลางเนินทรายและวิวเขา

☀️ หมู่บ้าน Turtuk – สัมผัสวัฒนธรรมบัลติสถานใกล้ชายแดนปากีสถาน

หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตเรียบง่ายและวัฒนธรรมผสมผสานอันเป็นเอกลักษณ์

☀️ วัด Thiksey – วัดทิเบตที่สวยที่สุดในลาดัก

ตั้งอยู่บนเนินเขา มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ และสถาปัตยกรรมที่ชวนตะลึง

☀️ พระราชวัง Shey & Stok – เรื่องราวราชวงศ์ลาดักในอดีต

สัมผัสกลิ่นอายประวัติศาสตร์ พร้อมชมวิวหุบเขาแบบพาโนรามา

☀️ เจดีย์ Shanti Stupa – จุดชมวิวเมืองเลห์ยามพระอาทิตย์ตก

แลนด์มาร์กของเมืองเลห์ ที่ให้บรรยากาศสงบและวิวสุดโรแมนติก

☀️ ตลาดเลห์ (Leh Market) – ช้อปปิ้งกลางสายลมภูเขา

เดินเล่นในเมืองเก่า เลือกซื้อของพื้นเมือง งานฝีมือ เครื่องประดับ และชาแบบทิเบต

☀️ Sindhu Ghat – ชมวิวแม่น้ำสินธุอันศักดิ์สิทธิ์

แม่น้ำสายหลักของอินเดียเหนือ พร้อมฉากหลังเป็นภูเขาโทนพาสเทล สวยไม่เหมือนใคร

☀️ นอนกระโจมใต้แสงดาวริมทะเลสาบปังกอง

ประสบการณ์สุดพิเศษ ท่ามกลางความเงียบสงบของธรรมชาติบริสุทธิ์

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ Full Service
✅️ โรงแรมระดับ 3 ดาว
✅️ รวมอาหารทุกมื้อ
✅️ เดินทางโดยรถ innova หรือ tempo
✅️ มีหัวหน้าทัวร์คนไทย ถ่ายรูปให้
✅️ ค่ากิจกรรม ทุกอย่าง ตามระบุในโปรแกรม
✅️ ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง (สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้)

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
ไม่รวมทิป

Place
Place
Place

โปรแกรมทริป เลห์ ลาดักห์

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – เดลี

  • นัดพบที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางสู่ กรุงเดลี ประเทศอินเดีย
  • พักผ่อนระหว่างรอไฟลท์ต่อไปยังเลห์ในเช้าวันรุ่งขึ้น

วันที่ 2: เดลี – เลห์ – ตลาดเลห์ – เจดีย์ Shanti Stupa

  • บินภายในประเทศสู่เมือง เลห์ (Leh) เมืองหลักของแคว้นลาดัก
  • พักผ่อนปรับร่างกายให้ชินกับระดับความสูง
  • ช่วงเย็นเดินเล่น Leh Market และชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ เจดีย์ Shanti Stupa เจดีย์สีขาวตั้งเด่นเหนือเมืองเลห์

วันที่ 3: พระราชวัง Shey – วัด Thiksey – พระราชวัง Stok – Sindhu Ghat

  • พระราชวัง Shey Palace
  • อดีตพระราชวังฤดูร้อน พร้อมเจดีย์และพระพุทธรูปองค์ใหญ่
  • วัด Thiksey Monastery
  • วัดทิเบตใหญ่ที่สุดในลาดัก ตั้งอยู่บนเนินเขา
  • พระราชวัง Stok Palace
  • ที่ประทับของราชวงศ์ลาดักในปัจจุบัน
  • จุดชมวิว Sindhu Ghat
  • ชมวิวแม่น้ำสินธุ ท่ามกลางฉากหลังเป็นแนวเทือกเขาหิมาลัย

วันที่ 4: เลห์ – นูบร้าวัลเลย์ – Khardung La – หมู่บ้าน Diskit – Sand Dunes

  • เดินทางสู่ นูบร้าวัลเลย์ ผ่าน Khardung La Pass หนึ่งในถนนที่สูงที่สุดในโลก
  • แวะชมวิวที่ Diskit Village และรูปปั้นพระพุทธรูปองค์ใหญ่
  • สัมผัสทะเลทรายท่ามกลางภูเขาหิมะที่ Hunder Sand Dunes

วันที่ 5: หมู่บ้าน Turtuk – กลับสู่ Diskit

  • ท่องเที่ยวหมู่บ้านห่างไกล Turtuk ใกล้ชายแดนปากีสถาน
  • หมู่บ้านแห่งวัฒนธรรมบัลติสถาน ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเงียบสงบ
  • เดินทางกลับที่พักใน Diskit

วันที่ 6: นูบร้า – ทะเลสาบแปงกอง (Pangong Lake)

  • เดินทางข้ามภูเขาสู่ ทะเลสาบปังกอง
  • ทะเลสาบน้ำเค็มสีฟ้าเทอร์ควอยซ์กลางภูเขาสูง
  • พักค้างคืนในกระโจมริมน้ำใต้ดวงดาว

วันที่ 7: ทะเลสาบแปงกอง – กลับสู่เมืองเลห์

  • ตื่นเช้าชมบรรยากาศสงบงามของทะเลสาบ
  • เดินทางกลับสู่ เมืองเลห์ พร้อมแวะถ่ายรูปตามจุดชมวิวระหว่างทาง

วันที่ 8: เลห์ – เดลี – เดินทางกลับกรุงเทพฯ

  • อิสระพักผ่อนหรือเดินเล่นช่วงเช้าในเมืองเลห์
  • จากนั้นเดินทางสู่สนามบินเพื่อบินกลับ กรุงเดลี และต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 9: ถึงกรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ พร้อมความทรงจำของการผจญภัยในลาดักที่ไม่เหมือนใคร
Categories
07-Jul 09-Sep 2024 FullBoard Mid Asia

kyrgyzstan

Kyrgistan
เสน่ห์คีร์กีซสถาน ดินแดนเทพนิยายแห่งเอเชียกลาง
สรุปไฮไลท์

☀️ทะเลสาบซองคอล (Song Kol Lake) – ทะเลสาบน้ำจืดอัลไพน์ที่ความสูง 3,016 เมตร พร้อมประสบการณ์พักในกระโจมยูร์ตแบบดั้งเดิม และชมท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านในยามค่ำคืน

☀️หุบเขาสกาซกา (Skazka Canyon) – “หุบเขาเทพนิยาย” ที่มีหินทรายสีแดงและส้มกัดเซาะเป็นรูปทรงแปลกตาคล้ายปราสาท ปีศาจ และสัตว์ต่างๆ เหมือนดินแดนในนิทาน

☀️ทะเลสาบอิสิกกุล (Issyk-Kul Lake) – ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ไม่เคยเยือกแข็งแม้ในฤดูหนาว วิวทะเลสาบสีฟ้าตัดกับเทือกเขาหิมะขาวโพลน

☀️ช่องเขาทูอาชูว์ (Too Ashuu Pass) – เส้นทางข้ามเทือกเขาเทียนซานที่สูงกว่า 3,200 เมตร เปิดวิวพาโนรามาที่น่าทึ่งของภูมิประเทศอันงดงาม

☀️หุบเขาเจตี-โอกุซ (Jeti Oguz Gorge) – “หุบเขาวัวเจ็ดตัว” ที่มีโขดหินทรายสีแดงเรียงกัน 7 แท่ง พร้อมตำนานความรักอันเศร้าสลดและทุ่งดอกไม้ป่าที่สวยงาม

☀️การสาธิตการล่าด้วยนกอินทรี (Eagle Hunting) – ชมศิลปะการล่าสัตว์โบราณของชาวคีร์กีซด้วยนกอินทรีที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่โบคอนบาเยโว

☀️สุเหร่าดังแกน (Dungan Mosque) – สุเหร่าเอกลักษณ์ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนกับอิสลาม สร้างโดยไม่ใช้ตะปู โดดเด่นด้วยหลังคาโค้งสีสันสดใสและการตกแต่งแบบจีน

☀️หอคอยบูราน่า (Burana Tower) – หอมินาเรตโบราณบนเส้นทางสายไหม พร้อมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงรูปสลักหินบาลบัลโบราณของชาวเติร์ก

☀️ประสบการณ์พักในหมู่บ้านกีซีลออย (Kyzyl Oi) – สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวคีร์กีซในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวในหุบเขาแคบ พร้อมลิ้มรสอาหารพื้นเมืองแท้ๆ

☀️มหาวิหารเซนต์ตรีนิตี้ (Holy Trinity Cathedral) – โบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียที่สร้างจากไม้ทั้งหลังโดยไม่ใช้ตะปู โดดเด่นด้วยโดมหัวหอมสีเขียวและสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียที่งดงาม

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ Full Service
✅️ เราทำวีซ่าให้ ไม่ต้องวุ่นวาย
✅️ อาหารทุกมื้อ
✅️ มีหัวหน้าทัวร์คนไทย ถ่ายรูปให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว ในเมือง นอกเมืองเป็นโรงแรมระดับท้องถิ่น เน้นสะอาด ปลอดภัย

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
ไม่รวมทิป

Place

โปรแกรมทริป คีร์กีซสถาน

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – บิชเคก – สัมผัสใจกลางเมือง

  • บิชเคก (Bishkek): เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวาของคีร์กีซสถาน ล้อมรอบด้วยเทือกเขาอลาทอที่สวยงาม เป็นประตูสู่การผจญภัยในดินแดนเอเชียกลาง

  • จัตุรัสโปเบดา (Pobeda Square): จัตุรัสแห่งชัยชนะที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง มีอนุสาวรีย์และแท่งหินหลักอันโดดเด่น

  • สวนสาธารณะดูโบวี (Dubovi Park): สวนสาธารณะเก่าแก่กลางเมืองที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ เป็นที่พักผ่อนยอดนิยมของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

  • จัตุรัสอลาทูว์ (Ala Too Square): จัตุรัสหลักใจกลางเมืองที่เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและการเมือง มีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และรูปปั้นมาเนสผู้เป็นวีรบุรุษแห่งชาติ

วันที่ 2: ข้ามเขา Too Ashuu สู่หมู่บ้าน Kyzyl Oi

  • ช่องเขาทูอาชูว์ (Too Ashuu Pass): เส้นทางข้ามเทือกเขาเทียนซานที่สูงกว่า 3,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เปิดวิวพาโนรามาที่น่าทึ่งของเทือกเขาและหุบเขาเขียวขจี ผ่านอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในเอเชียกลาง

  • หมู่บ้านกีซีลออย (Kyzyl Oi): หมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแคบริมแม่น้ำโคเคเมเรน บ้านเรือนหลังคาสีแดงตัดกับภูเขาสีเขียว สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวคีร์กีซและลิ้มรสอาหารพื้นเมืองแท้ๆ

วันที่ 3: มนต์เสน่ห์แห่งทะเลสาบ Song Kol

  • ทะเลสาบซองคอล (Song Kol Lake): ทะเลสาบน้ำจืดอัลไพน์ที่ความสูง 3,016 เมตร ล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่และเทือกเขาสูง เป็นแหล่งเลี้ยงสัตว์ในฤดูร้อนของชาวคีร์กีซ พักในกระโจมยูร์ตแบบดั้งเดิม สัมผัสดวงดาวนับล้านบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ปราศจากมลพิษทางแสง

วันที่ 4: เสน่ห์เมือง Naryn และการพักผ่อนตามอัธยาศัย

  • เมืองนารีน (Naryn): เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนารีนในหุบเขาลึก เป็นศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดนารีน อากาศเย็นสบายแม้ในฤดูร้อน ชมวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและสงบของผู้คนท้องถิ่น

  • อิสระช่วงเช้า: พักผ่อนหรือเดินเล่นสำรวจพื้นที่โดยรอบที่พัก ซึมซับบรรยากาศธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของภูมิภาคเทียนซาน

วันที่ 5: วิถีชีวิตท้องถิ่น Bokonbayevo

  • โบคอนบาเยโว (Bokonbayevo): เมืองเล็กๆ ริมฝั่งใต้ของทะเลสาบอิสิกกุล เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของชาวคีร์กีซเผ่าบุคุ ชมการสาธิตการล่าด้วยนกอินทรีแบบดั้งเดิม (Eagle Hunting) ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการอนุรักษ์

  • หมู่บ้านโบคอนบาเยโว: เยี่ยมชมบ้านของช่างฝีมือท้องถิ่น เรียนรู้การทอพรม การทำผลิตภัณฑ์จากสักหลาด และงานหัตถกรรมอื่นๆ แบบดั้งเดิม พร้อมชิมขนมและชาพื้นเมือง

วันที่ 6: มหัศจรรย์แห่ง Skazka Canyon และ Jeti Oguz Gorge สู่ Karakol

  • หุบเขาสกาซกา (Skazka Canyon): หรือที่รู้จักในชื่อ “หุบเขาเทพนิยาย” หุบเขาหินทรายสีแดงและส้มที่ถูกกัดเซาะจนมีรูปทรงแปลกตาคล้ายปราสาทในนิทาน ปีศาจ และสัตว์ต่างๆ ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติริมทะเลสาบอิสิกกุล

  • หุบเขาเจตี-โอกุซ (Jeti Oguz Gorge): หรือ “หุบเขาวัวเจ็ดตัว” ชมโขดหินทรายสีแดงขนาดใหญ่เรียงกัน 7 แท่ง คล้ายวัวนอน มีตำนานความรักอันเศร้าสลดเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ เดินชมทุ่งดอกไม้ป่าและลำธารใสเย็น

  • เมืองคาราโคล (Karakol): เมืองสำคัญทางตะวันออกของคีร์กีซสถาน มีประวัติศาสตร์อันยาวนานจากการเป็นฐานทัพของรัสเซียในยุคล่าอาณานิคม ผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลายทั้งคีร์กีซ รัสเซีย จีน และอุยกูร์

วันที่ 7: มรดกทางวัฒนธรรม Karakol และการเดินทางกลับ Bishkek

  • มหาวิหารเซนต์ตรีนิตี้ (Holy Trinity Cathedral): โบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียที่สร้างจากไม้ทั้งหลัง โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว สถาปัตยกรรมแบบรัสเซียที่โดดเด่นด้วยโดมหัวหอมสีเขียว สร้างในปี ค.ศ. 1895 โดยช่างฝีมือชาวรัสเซีย

  • สุเหร่าดังแกน (Dungan Mosque): สุเหร่าที่มีเอกลักษณ์ด้วยการผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนกับอิสลาม สร้างโดยช่างชาวจีนมุสลิม 20 คนในปี ค.ศ. 1910 โดยไม่ใช้ตะปูเช่นกัน หลังคาโค้งสีสันสดใสและการตกแต่งแบบจีนทำให้แตกต่างจากสุเหร่าทั่วไป

  • ทะเลสาบอิสิกกุล (Issyk-Kul Lake): เดินทางเลียบฝั่งเหนือของทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ที่ไม่เคยเยือกแข็งแม้ในฤดูหนาว (“อิสิกกุล” แปลว่า “ทะเลสาบอุ่น”) ชมวิวทะเลสาบสีฟ้าใสขนาบด้วยเทือกเขาหิมะขาวโพลน

  • หอคอยบูราน่า (Burana Tower): หอมินาเรตโบราณสูง 25 เมตร สร้างในศตวรรษที่ 11 เป็นส่วนหนึ่งของเมืองบาลาซากุนโบราณบนเส้นทางสายไหม ชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงรูปสลักหินบาลบัล (Balbals) โบราณของชาวเติร์ก

วันที่ 8: อิสระช้อปปิ้งและเดินทางสู่สนามบิน

  • ตลาดอช (Osh Bazaar): ตลาดพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในบิชเคก เต็มไปด้วยสินค้านานาชนิด ทั้งอาหาร เครื่องเทศ ผลไม้แห้ง งานหัตถกรรม เครื่องเงิน หมวกคีร์กีซแบบดั้งเดิม (Kalpak) และพรมทอมือ

  • จัตุรัสอลาทูว์: แวะเยี่ยมชมจัตุรัสอีกครั้งเพื่อชมพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารที่อนุสรณ์สถานอิสรภาพ

  • เดินทางสู่สนามบิน: เตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ ด้วยความประทับใจ

วันที่ 9: เดินทางถึงกรุงเทพฯ

  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมภาพความทรงจำอันแสนประทับใจจากดินแดนเทือกเขาเทียนซานและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของคีร์กีซสถาน

Categories
FullBoard Mid Asia

Georgia & Arzerbijan

Georgia & Arzerbijan
สรุปไฮไลท์

☀️ xxxx
☀️ xxxx

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Place

โปรแกรมทริป .......

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Categories
10-Oct 2024 FullBoard Mid Asia SouthAsia

Rajasthan

Rajasthan
ราชสถาน เมืองสีฟ้า เมืองสีทอง และเมืองสีชมพู
สรุปไฮไลท์

☀️พระราชวังเลคพาเลซ (Lake Palace) – พระราชวังสีขาวกลางทะเลสาบพิโชลาที่อุไดปูร์ สร้างภาพสะท้อนอันงดงามบนผืนน้ำ เป็นหนึ่งในภาพจำที่สวยที่สุดของราชาสถาน

☀️ป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarh Fort) – ป้อมปราการยิ่งใหญ่บนเนินเขาสูง 125 เมตรที่จอธปูร์ เปิดวิวพาโนรามาของ “เมืองสีฟ้า” ได้อย่างตระการตา

☀️ฮาวา มาฮาล (Hawa Mahal) – “พระราชวังแห่งสายลม” สัญลักษณ์ของชัยปุระ โดดเด่นด้วยหน้าต่างเล็กๆ 953 บาน ออกแบบให้เจ้าหญิงชมขบวนพิธีโดยไม่ถูกมองเห็น

☀️ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort) – ป้อมปราการสง่างามที่ชัยปุระ โดดเด่นด้วยห้องกระจกที่ประดับด้วยกระจกนับแสนชิ้น พร้อมประสบการณ์ขี่ช้างขึ้นป้อม

☀️ป้อมไจซาลเมอร์ (Jaisalmer Fort) – ป้อมปราการหินทรายสีทองที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

☀️ทะเลทรายแซม (Sam Dunes) – สัมผัสประสบการณ์ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตกที่ทะเลทรายทาร์ พร้อมการแสดงพื้นเมืองและดนตรีราชาสถานยามค่ำคืน

☀️จันทรา มาฮัล (Jantar Mantar) – หอดูดาวโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ชัยปุระ มีนาฬิกาแดดที่แม่นยำที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

☀️ทะเลสาบพุชการ์ (Pushkar Lake) – ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู ล้อมรอบด้วยฆาต 52 แห่ง เชื่อว่าเกิดจากหยดน้ำตาของพระศิวะ

☀️ดาร์กาห์ชารีฟ (Dargah Sharif) – สุสานของนักบุญซูฟีที่อัจเมร์ สถานที่แสวงบุญสำคัญของมุสลิมทั่วโลก โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโมกุลอันงดงาม

☀️ฮาเวลีปัตวอน กี (Patwon Ki Haveli) – คฤหาสน์หินทรายที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในไจซาลเมอร์ โดดเด่นด้วยงานแกะสลักระเบียงและหน้าต่างอย่างวิจิตรงดงาม

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Place
Place
Place

โปรแกรมทริป ราชาสถาน

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – อุไดปูร์

  • ทะเลสาบพิโชลา (Pichola Lake): ทะเลสาบน้ำจืดที่สวยงามใจกลางเมืองอุไดปูร์ มีพระราชวังเลคพาเลซตั้งอยู่กลางทะเลสาบ
  • วัดจักดิศ (Jagdish Temple): วัดฮินดูที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1651 อุทิศให้แก่พระวิษณุ มีสถาปัตยกรรมแบบอินโด-อารยันที่งดงาม

วันที่ 2: อุไดปูร์ – จอธปูร์

  • วัดเชน (Jain Temple): วัดของศาสนาเชนที่มีการแกะสลักหินอ่อนอย่างวิจิตรบรรจง
  • พระราชวังซิตี้ (City Palace): พระราชวังหลวงของอุไดปูร์ที่ใหญ่ที่สุดในราชาสถาน สร้างริมทะเลสาบพิโชลา
  • พระราชวังฟาเตห์ปรากาศ (Fateh Prakash Palace): ส่วนหนึ่งของซิตี้พาเลซ ปัจจุบันเป็นโรงแรมหรู

วันที่ 3: จอธปูร์

  • ป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarh Fort): ป้อมปราการขนาดใหญ่บนเนินเขาสูง 125 เมตร สร้างในศตวรรษที่ 15 มองเห็นวิวเมืองจอธปูร์ได้ทั่ว
  • พระราชวังอุไมด์ภวัน (Umaid Bhawan Palace): พระราชวังหินทรายสีทองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บางส่วนเป็นที่ประทับของราชวงศ์และเป็นโรงแรมหรู
  • อนุสรณ์สถานจัสวันต์ทาดา (Jaswant Thada): อนุสรณ์สถานหินอ่อนสีขาวสร้างในปี ค.ศ. 1899 เพื่อรำลึกถึงมหาราชาจัสวันต์ซิงห์ที่ 2

วันที่ 4: จอธปูร์ – อัจเมร์ – พุชการ์

  • ดาร์กาห์ชารีฟ (Dargah Sharif): สุสานของนักบุญซูฟีคาจา มอินุดดิน ชิชติ เป็นสถานที่แสวงบุญที่สำคัญของมุสลิม
  • พุชการ์ (Pushkar): เมืองศักดิ์สิทธิ์ของฮินดู
  • ทะเลสาบพุชการ์ (Pushkar Lake): ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ มีฆาต (ท่าน้ำ) 52 แห่งโดยรอบ เชื่อว่าการอาบน้ำที่นี่จะชำระล้างบาป

วันที่ 5: พุชการ์ – ชัยปุระ

  • ป้อมนาฮาร์การห์ (Nahargarh Fort): ป้อมปราการบนเขาที่สร้างในปี ค.ศ. 1734 มองเห็นวิวเมืองชัยปุระได้ทั้งเมือง
  • ฮาวา มาฮาล (Hawa Mahal): “พระราชวังแห่งสายลม” มีหน้าต่างเล็กๆ 953 บาน ออกแบบให้เจ้าหญิงสามารถมองดูถนนด้านล่างได้โดยไม่ถูกมองเห็น

วันที่ 6: ชัยปุระ – ไจซาลเมอร์

  • ป้อมไจซาลเมอร์ (Jaisalmer Fort): ป้อมปราการหินทรายสีทองที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ สร้างในปี ค.ศ. 1156
  • พระราชวังมหาราวัล (Palace of the Maharawal): พระราชวังภายในป้อมไจซาลเมอร์
  • เนินทรายแซม (Sam Dunes): ทะเลทรายทอง สามารถขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตก

วันที่ 7: ไจซาลเมอร์ – ชัยปุระ

  • วัดเชน (Jain Temples): วัดเชนโบราณภายในป้อมไจซาลเมอร์ มีการแกะสลักที่วิจิตรงดงาม
  • ฮาเวลีปัตวอน กี (Patwon Ki Haveli): คฤหาสน์โบราณที่ใหญ่ที่สุดในไจซาลเมอร์ มีการแกะสลักหินทรายอย่างวิจิตร
  • ฮาเวลีซาลิม ซิงห์ กี (Salim Singh Ki Haveli): คฤหาสน์เก่าแก่ที่มีหลังคาโค้งรูปนกยูง
  • ทะเลสาบกาดิซาร์ (Gadisar Lake): อ่างเก็บน้ำโบราณที่สร้างในศตวรรษที่ 14 มีวัดและศาลาริมน้ำล้อมรอบ

วันที่ 8: ชัยปุระ

  • ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort): ป้อมปราการที่สง่างามบนเนินเขา สร้างจากหินทรายสีแดงและหินอ่อน สามารถขึ้นไปได้โดยขี่ช้าง
  • จัล มาฮาล (Jal Mahal): “พระราชวังกลางน้ำ” ตั้งอยู่กลางทะเลสาบมาน ซาการ์
  • ซิตี้พาเลซ (City Palace): พระราชวังหลวงในชัยปุระ มีสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างราชปุตกับโมกุล
  • จันทรา มานทา (Jantar Mantar): หอดูดาวโบราณที่สร้างในช่วงปี ค.ศ. 1728-1734 เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก

วันที่ 9: เดินทางกลับประเทศไทย 

error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม