Nepal
Everest Base Camp
สรุปไฮไลท์

☀️ประสบการณ์บินเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว – ชมวิวพาโนรามาของเทือกเขาหิมาลัยจากมุมสูง ในการเดินทางจากกาฐมาณฑุสู่เมืองมอนโจ

☀️วัดเต็งโบเช – วัดพุทธนิกายทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค เป็นศูนย์กลางจิตวิญญาณสำคัญของชาวเชอร์ปา ตั้งอยู่ท่ามกลางวิวภูเขาที่สวยงาม

☀️Everest View Hotel – โรงแรมที่ได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่าเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก มีวิวพาโนรามาของยอดเขาหิมาลัยอันน่าประทับใจ

☀️ยอดเขาอามาดาบล้ม – หนึ่งในยอดเขาที่สวยที่สุดในโลก มีรูปทรงคล้ายเพชรยอดมงกุฎ สูง 6,812 เมตร ซึ่งจะได้ชมวิวใกล้ชิดเมื่อพักที่เมืองดิงโบเช

☀️พระอาทิตย์ตกที่ Kala Pattar – ชมพระอาทิตย์ตกดินที่ระดับความสูง 5,550 เมตร พร้อมวิวพาโนรามาของยอดเขาเอเวอเรสต์และธารน้ำแข็งคุมบู

☀️อนุสรณ์สถานนักปีนเขา – แหล่งรวมอนุสรณ์สถานและหินจารึกเพื่อรำลึกถึงนักปีนเขาที่เสียชีวิตบนเอเวอเรสต์ ระหว่างเส้นทางสู่โลบูเช

☀️ธารน้ำแข็งคุมบู – หนึ่งในธารน้ำแข็งที่สูงที่สุดในโลก มีรอยแตกขนาดใหญ่และก้อนน้ำแข็งรูปทรงแปลกตาที่น่าทึ่ง

☀️Everest Base Camp – จุดหมายปลายทางสำคัญที่ระดับความสูง 5,364 เมตร เป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์การพิชิตยอดเอเวอเรสต์ครั้งแรก

☀️คืนพิเศษในเต้นท์นักปีนเขา – ประสบการณ์พักค้างคืนในเต้นท์เดียวกับนักปีนเขามืออาชีพที่รอเดินทางขึ้นไปพิชิตยอดเอเวอเรสต์

☀️พิธีฉลองแบบเชอร์ปา – ร่วมพิธีกรรมแบบดั้งเดิมของชาวเชอร์ปาเพื่อขอพรและฉลองความสำเร็จในการเดินทางถึงเบสแคมป์เอเวอเรสต์

 

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Place
Place
Place

โปรแกรมทริป เนปาล

วันที่ 1

  • เดินทางถึงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล โดยสายการบินไทยสไมล์
  • ช่วงบ่าย: อิสระช้อปปิ้งอุปกรณ์เทรคกิ้งที่ย่านทาเมล
  • ย่านทาเมล: ศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวาของกาฐมาณฑุ เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายอุปกรณ์เดินป่าคุณภาพดีในราคาย่อมเยา
  • วัดกาฐมาณฑุ ดูรบาร์สแควร์ (มรดกโลก) และลองชิมอาหารเนปาลแท้ๆ อย่างโมโม (dumpling) และดาลบัต (แกงถั่วกับข้าว)
  • พักที่: Aloft Kathmandu Thamel – โรงแรมสไตล์โมเดิร์นที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านทาเมล มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมวิวภูเขาที่สวยงาม

วันที่ 2 

  • เดินทางสู่สนามบินเพื่อบินไปเมืองมอนโจ (จุดเริ่มต้นเทรค)
  • เดินทางโดย Helicopter ส่วนตัว (ใช้เวลาประมาณ 45 นาที)
  • ประสบการณ์พิเศษ: การบินเฮลิคอปเตอร์ผ่านเทือกเขาหิมาลัย ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาจากมุมสูง
  • เมืองมอนโจ: เป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติซากามาร์ธา (Sagarmatha) หรือเขตเอเวอเรสต์ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางขุนเขา

วันที่ 3

  • เริ่มเดินทางสู่เมืองนัมเชบาร์ซา (ชุมทางสำคัญของเขตเอเวอเรสต์)
  • ระดับความสูง: 3,500 เมตร  ระยะเวลาเดิน: 4-6 ชั่วโมง
  • จุดน่าสนใจระหว่างทาง: สะพานแขวนแม่น้ำดุดโกซี่, เส้นทางเดินผ่านป่าสนที่สวยงาม
  • นัมเชบาร์ซา: เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงของชาวเชอร์ปา” มีตลาดนัดทุกวันเสาร์ที่มีชื่อเสียง
  • ช่วงบ่าย: เดินเล่นรอบเมืองเพื่อปรับสภาพร่างกาย
  • เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เชอร์ปาเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น

วันที่ 4

  • วันพักเพื่อปรับสภาพร่างกายให้ชินกับความสูง
  • ฝึกซ้อมร่างกายที่ระดับความสูง 3,800 เมตร
  • ชมวิวและรับประทานอาหารกลางวันที่ Everest View Hotel
  • Everest View Hotel: โรงแรมที่ได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่าเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก มีวิวพาโนรามาของยอดเขาหิมาลัยที่สวยงาม รวมถึงเอเวอเรสต์ โลดเซ และนุปต์เซ
  • เดินกลับมาพักที่เมืองนัมเช (ใช้เวลาเดินไป-กลับ 6-8 ชั่วโมง)
  • จุดชมวิว: ระหว่างทางกลับสามารถแวะชมวิวที่เขาคุมจุง และหมู่บ้านคุมจุง

วันที่ 5

  • เดินทางสู่เมืองเต็งโบเช
  • ระดับความสูง: 3,900 เมตร
  • วัดพุทธ-ธิเบตที่สวยงาม วิวยอดเขาเอเวอเรสต์ในยามเช้า
  • วัดเต็งโบเช (Tengboche Monastery): วัดพุทธนิกายทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1916 เป็นศูนย์กลางจิตวิญญาณสำคัญของชาวเชอร์ปา นักปีนเขามักมาขอพรก่อนปีนเอเวอเรสต์
  • จุดชมวิวสุดอลังการของยอดเขาเอเวอเรสต์, อามาดับแลม, ทัมเซอร์คู และโลดเซ
  • ระยะเวลาเดิน: 6-8 ชั่วโมง
  • เส้นทางเดิน: ผ่านลงไปในหุบเขาลึกของแม่น้ำดุดโกซี่ ก่อนไต่ขึ้นเขาอีกฝั่งสู่เต็งโบเช

วันที่ 6

  •  เดินทางสู่เมืองดิงโบเช
  • ระดับความสูง: 4,410 เมตร
  • เมืองในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยขุนเขาสูงกว่า 6,000 เมตร เช่น อามาดาบล้ม
  • อามาดาบล้ม (Ama Dablam): หนึ่งในยอดเขาที่สวยที่สุดในโลก มีรูปทรงคล้ายเพชรยอดมงกุฎ สูง 6,812 เมตร
  • ดิงโบเช: หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ในหุบเขาอิมจา โดดเด่นด้วยทุ่งหญ้าและฟาร์มยาค ถูกล้อมรอบด้วยยอดเขาสูงระฟ้า
  • ระยะเวลาเดิน: 8-10 ชั่วโมง
  • ผ่านสตูปา (เจดีย์) เก่าแก่ สวนสมุนไพรของหมอยาพื้นเมือง

วันที่ 7

  • พักที่เมืองดิงโบเชอีกคืน
  • เดินขึ้นยอดเขาหลังที่พักเพื่อปรับสภาพร่างกาย
  • Nangkartshang Peak: ยอดเขาที่มีความสูง 5,083 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นแนวเทือกเขาหิมาลัยได้อย่างกว้างไกล
  • ทุ่งหญ้าอิมจา: โอกาสได้เห็นสัตว์ป่าหายาก เช่น ทาร์ (แพะภูเขา) และกระจงพันธุ์หิมาลัย
  • ระยะเวลาเดิน: 3-4 ชั่วโมง (ไป-กลับ)

วันที่ 8

  • เดินทางสู่เมืองโลบูเช
  • ระดับความสูง: 4,910 เมตร
  • วันที่ท้าทาย ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม
  • ผ่านธารน้ำแข็งและหินโมเรนที่สวยงามแต่ท้าทาย
  •  อนุสรณ์สถานนักปีนเขา: แหล่งรวมอนุสรณ์สถานและหินจารึกเพื่อรำลึกถึงนักปีนเขาที่เสียชีวิตบนเอเวอเรสต์
  • โลบูเช: หมู่บ้านเล็กๆ ที่ประกอบด้วยที่พักสำหรับนักเดินทาง ตั้งอยู่ริมธารน้ำแข็งขนาดใหญ่
  • ระยะเวลาเดิน: 8-10 ชั่วโมง

วันที่ 9

  • เดินทางสู่เมืองโกรักเชป (ประตูสู่เอเวอเรสต์)
  • ระดับความสูง: 5,140 เมตร  ระยะเวลาเดิน: 4-6 ชั่วโมง
  • โกรักเชป: หมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงเอเวอเรสต์เบสแคมป์ เป็นที่ตั้งของที่พักและร้านอาหารสำหรับนักเดินทาง
  • ธารน้ำแข็งคุมบู: หนึ่งในธารน้ำแข็งที่สูงที่สุดในโลก มีรอยแตกขนาดใหญ่และก้อนน้ำแข็งรูปทรงแปลกตา
  • กิจกรรมเพิ่มเติม (หากมีแรงเหลือ): ชมวิวยอดเขาเอเวอเรสต์ที่ยอด Kala Pattar
  • Kala Pattar: ยอดเขาสีดำที่เป็นจุดชมวิวยอดนิยมของเอเวอเรสต์ ให้ภาพมุมกว้างที่สวยงามของยอดเขาเอเวอเรสต์และธารน้ำแข็งคุมบู
  • ชมพระอาทิตย์ตกที่ระดับความสูง 5,550 เมตร


วันที่ 10

  • เดินทางสู่ Everest Base Camp จุดหมายปลายทางสำคัญที่ผู้คนทั่วโลกใฝ่ฝันจะมาเยือนสักครั้งในชีวิต
  • Everest Base Camp (EBC): ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 5,364 เมตร เป็นจุดตั้งค่ายฐานของนักปีนเขาที่ต้องการพิชิตยอดเอเวอเรสต์
  • ชมปีรามิดน้ำแข็ง (ice pinnacles) ยักษ์บนธารน้ำแข็งคุมบู และทัศนียภาพอันน่าทึ่งของยอดเขาเอเวอเรสต์, นุปต์เซ และโลดเซ
  • เบสแคมป์แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพิชิตยอดเอเวอเรสต์ครั้งแรกโดย เซอร์เอ็ดมันด์ ฮิลลารี และเตนซิง นอร์เกย์ ในปี 1953
  • Exclusive Night: พักค้างคืนในเต้นท์เดียวกับนักปีนเขาที่รอเดินทางขึ้นไปพิชิตยอดเอเวอเรสต์
  • พบปะพูดคุยกับนักปีนเขามืออาชีพ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรับฟังเรื่องราวการผจญภัยสุดท้าทาย
  • สัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นในค่ายฐานที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง และความรู้สึกของการอยู่ที่จุดเริ่มต้นของการพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
  • ฉลองความสำเร็จแห่งความมุ่งมั่นและหัวใจนักสู้ของตนเอง
  • ร่วมพิธีกรรมแบบดั้งเดิมของชาวเชอร์ปาในการขอพรให้ปลอดภัย และฉลองความสำเร็จกับทีมนำทางและผู้ร่วมเดินทาง
error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม