ICELAND WINTER
Roadtrip
สรุปทริป
☀️ Roadtrip ไอซ์แลนด์ ฤดูหนาว
☀️ 9 วัน 6 คืน 
☀️ ล่าแสงเหนือทุกคืน (ขึ้นกับสภาพอากาศ)
☀️ เก็บทุก Signature / Skagafoss / Seljalandsfoss / Kirkjufell ภูเขารูปหมวก
☀️ ทะเลสาบน้ำแข็ง Jokulsarlon และหาด Daimond beach
☀️ ถ้ำน้ำแข็ง (ตค- มีค)
☀️ ทุ่งมอส-ลาวา กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา / หาดทรายดำ เขาหินบะซอลต์ / Hvitserkur หินรูปช้าง
☀️ หาดทรายดำ เขาหินบะซอลต์
☀️ แช่น้ำแร่บลูลากูน 
☀️ พัก 4 ดาว (3 ดาวในเขตชนบท)
☀️ มีช่างภาพถ่ายรูปให้
 
รายละเอียด
 🗓️ เดินทาง 22 กพ – 2 มีค 68
💰 ค่าทริป 129,000
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ วีซ่า (เราแนะนำให้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต 11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่
 
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางไปเมืองโคเปนเฮเกน


วันที่ 2 |
เดินทางถึง Keflavik • อุทยานแห่งชาติ Thingvellir อุทยานที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนประเทศไอซ์แลนด์
*พักที่เมือง Laugarvatn


วันที่ 3 |
Golden Circle • น้ำพุร้อนเกย์เซอร์ Geysir น้ำพุร้อนใต้ดินที่จะพุ่งตัวขึ้นมาจากพื้นเป็นระยะๆ โดยกีเซอร์ตั้งอยู่ที่หุบเขา Haukadalur อันเป็นพื้นที่ในแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพ • ไปเมือง Selfoss เมืองที่ตั้งอยู่ในทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ ริมฝั่งแม่น้ำโอลฟูซา
*พักที่เมือง Selfoss


วันที่ 4 |
น้ำตก Seljalandsfoss น้ำตกนี้มีความสูง60 เมตร และเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำ Seljalandsá ที่ไหลลงมาจากภูเขา Eyjafjallajökull น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์มีความพิเศษตรงที่ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินเข้าไปด้านหลังของน้ำตกได้ • น้ำตกสโกก้าฟอสส์ (Skogafoss) เป็นน้ำตกซึ่งไหลมาจากแม่น้ำสโกกา น้ำตกแห่งนี้ยังเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดและเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไอซ์แลนด์ • แหลม Dyrholaey หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “เกาะเนินประตู (Door hill island)” ลักษณะที่มีซุ้มลาวาโค้งขนาดมหึมายื่นรับอยู่ทางด้านหน้าของแหลม ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและลมที่พัดผ่าน • ชม หาดทรายดำTrolls in Reynisdrangar หินภูเขาไฟที่โผล่ขึ้นมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ที่บริเวณด้านหน้าของหาดทรายดำ (Reynisfjara) • Vik
*พักที่เมือง Vik


วันที่ 5 |
แวะชม LavaField ทุ่งลาวาที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟหลังจากการระเบิดผ่านไปหลายร้อยปี หินลาวาพวกนี้ก็จะถูกปกคลุมด้วยมอสส์สีเขียวซ้อนกันเป็นชั้น ๆ • ทะเลสาบน้ำแข็ง Jokulsarlon เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งอายุกว่า 1,000 ปีที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และใหญ่เป็นอันดับสามของโลก • ชมชายหาด Dimond Beach ชายหาดน้ำแข็ง
*พักที่เมือง Jokulsarlon


วันที่ 6 |
ชมถ้ำ Ice Cave ถ้ำคริสตัลหรือถ้ำน้ำแข็ง เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจ เกิดจากการไหลของน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งและหิมะ ซึ่งไหลผ่านและกัดเซาะน้ำแข็งสร้างเป็นโพรงและอุโมงค์ใต้ดินที่มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ • เดินทางไปเมือง Vik เมืองแห่งหาดทรายดำกับสถานที่ท่องเที่ยวสุดแปลก
*พักที่เมือง Vik


วันที่ 7 |
ชมโบสถ์ Hallgrímskirkja การก่อสร้างโบสถ์นี้เริ่มต้นในปี 1945 และแล้วเสร็จในปี 1986 โดยใช้เวลากว่า 41 ปีในการสร้าง • Sun Voyager เป็นประติมากรรมที่ตั้งอยู่ในเมืองเรคยาวิก เป็นสัญลักษณ์ของการค้นพบดินแดนใหม่, ความหวัง, ความฝัน และเสรีภาพ • ชมอาคาร Harpa ศูนย์การแสดงศิลปะและการประชุม • แช่น้ำแร่ที่ Blue Lagoon เป็นสระน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีน้ำสีฟ้าครามที่มีอุณหภูมิประมาณ 37-40 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี แม้ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น • เดินทางกลับเมือง Keflavik ประตูสู่อัศจรรย์แห่งไอซ์แลนด์
*พักที่เมือง Keflavik 


วันที่ 8 |
บินภายในไปยังเมืองโคเปนฮาเกน จากนั้นต่อเครื่องกลับไทย


วันที่ 9 |
เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

Thingvellir National Park

อุทยานแห่งชาติแห่งแรก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยุโรป กับ ทวีปอเมริกา และยังมีฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์และสามารถชมแสงเหนือได้ที่นี่อีกด้วย

Reynisfjara

ซึ่งเป็นถ้ำหินบะซอลต์ที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดโครงสร้างหินรูปทรงหกเหลี่ยมที่เรียงตัวกันเป็นแถวอย่างน่าทึ่ง ถ้ำนี้มักถูกใช้เป็นฉากหลังในภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์หลายเรื่องเนื่องจากความงดงามและเอกลักษณ์ของมัน

Keflavik

เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศบนชายฝั่งของอ่าว Faxaflói ตามประวัติศาสตร์ เรคยาวิกถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการตั้งถิ่นฐานเก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ประวัติศาสตร์เรคยาวิกเป็นเพียงหมู่บ้านประมงเล็กๆ แต่เมืองนี้ได้พัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างมากในศตวรรษที่ 20 และกลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง, วัฒนธรรม, และเศรษฐกิจของไอซ์แลนด์

Geysir

เป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที น้ำพุร้อนนี้ เกิดจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน

Geysir

เป็นน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที น้ำพุร้อนนี้ เกิดจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน

Skogarfoss

น้ำตกจากหน้าผาสูงถึง 62 เมตร สามารถชมความงามได้ทั้งด้านล่าง หรือเดินขึ้นไปชม และ ถ่ายภาพมุมสูงของน้ำตกจากด้านบนได้

Dyrholaey

เดิมเรียกว่าเคปพอร์ตแลนด์โดยชาวอังกฤษ บนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ ชมหาดลาวาสีดำสนิท ที่ทอดตัวยาวหลายสิบกิโลเมตร ปะติมากรรมจากธรรมชาติบริเวณริมหน้าผา เป็นแหลมหินที่มีโพรงขนาดใหญ่ยื่นลงไปในทะเล เมื่อมองกลับไปด้านหลังจะพบกับ ธารน้ำแข็ง Mýrdalsjökull glacier

Kerid Crater

ปล่องภูเขาไฟสีเลือดที่มีทะเลสาบสีเขียวมรกตยู่บริเวณปากปล่อง ซึ่งแม้ว่าจะมีอายุกว่า 3 พันปีแล้วก็ตาม แต่ยังมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่

Lavafield

ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ามอสที่ปกคลุมอยู่บนหินลาวา เมื่อถ่ายภาพออกมา จะกลายเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา

Lavafield

ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ามอสที่ปกคลุมอยู่บนหินลาวา เมื่อถ่ายภาพออกมา จะกลายเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา

Ice cave

ถ้ำน้ำแข็งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจซึ่งมักพบในพื้นที่ที่มีน้ำแข็งถาวร เช่น ในกรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ และบางพื้นที่ของรัสเซีย และแคนาดา ถ้ำเหล่านี้เกิดจากการไหลของน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งและหิมะ ซึ่งไหลผ่านและกัดเซาะน้ำแข็งสร้างเป็นโพรงและอุโมงค์ใต้ดินที่มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ

Ice cave

ถ้ำน้ำแข็งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจซึ่งมักพบในพื้นที่ที่มีน้ำแข็งถาวร เช่น ในกรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ และบางพื้นที่ของรัสเซีย และแคนาดา ถ้ำเหล่านี้เกิดจากการไหลของน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งและหิมะ ซึ่งไหลผ่านและกัดเซาะน้ำแข็งสร้างเป็นโพรงและอุโมงค์ใต้ดินที่มีความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ

Hallgrimskirkja

โบสถ์สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ (74.5 เมตร) เป็นสถาปัตยกรรม แนวอิมเพรสชั่นนิส เริ่มก่อสร้าง ค.ศ. 1945-1986 บริเวณด้านหน้าของโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของเลฟร์ อีริกสัน ที่เชื่อกันว่าเป็นชาวยุโรปคนแรกที่เดินทางไปถึงทวีปอเมริกาเหนือ ก่อนหน้าคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเกือบ 500 ปี

Sun Voyager

สร้างขึ้นเมื่อปี 1990 ชนะเลิศจากการประกวดประติมากรรมเพื่อเฉลิมฉลองกรุงเรคยาวิกครบ 200 ปี แทนความหมายของเรือแห่งความฝันที่ออกเดินทางไปตามทิศทางแห่งดวงอาทิตย์ ไปสู่ดินแดนที่ยังไม่ถูกค้นพบ

Blue Lagoon

ที่มีอุณหภูมิความร้อนของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส และ มีแร่ธาตุที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยรักษาโรคได้

Blue Lagoon

ที่มีอุณหภูมิความร้อนของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส และ มีแร่ธาตุที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยรักษาโรคได้

error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม