Pakistan
สรุปไฮไลท์

☀️หุบเขาฮุนซา (Hunza Valley) – หุบเขาในตำนานที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวรรค์บนดิน” และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนวนิยายเรื่อง Shangri-La มีชื่อเสียงในเรื่องความงามของธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์

☀️ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake) – ทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์สดใสที่เกิดจากเหตุการณ์ดินถล่มในปี 2010 สร้างภาพที่น่าทึ่งของผืนน้ำสีฟ้าตัดกับเทือกเขาหิมะขาวโพลน

☀️ทะเลทรายซาฟรารังกา (Sarfaranga Cold Desert) – ทะเลทรายเย็นที่สูงที่สุดในโลก สร้างภาพที่แปลกตาของเนินทรายสีทองท่ามกลางเทือกเขาหิมะ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก

☀️ป้อมบัลทิท (Baltit Fort) – ป้อมปราการอายุกว่า 700 ปีที่ตั้งตระหง่านเหนือหมู่บ้านคาริมาบัด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบทิเบตที่สะท้อนประวัติศาสตร์อันยาวนาน

☀️เส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ (Karakoram Highway) – เส้นทางหลวงที่สูงที่สุดในโลกที่เชื่อมต่อปากีสถานกับจีน ผ่านภูมิประเทศที่น่าทึ่งและมีจุดชมวิวยอดเขาสูงเกิน 7,000 เมตรหลายลูก

☀️เลดี้ฟิงเกอร์พีค (Lady Finger Peak) – ยอดเขารูปร่างคล้ายนิ้วมือสูง 6,000 เมตร ที่สวยงามโดยเฉพาะในยามพระอาทิตย์ขึ้น เป็นหนึ่งในภาพที่โดดเด่นที่สุดของเทือกเขาคาราโครัม

☀️ธารน้ำแข็งปัสสุ (Passu Glacier) – ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ทอดตัวลงมาจากยอดเขาสูง เป็นส่วนหนึ่งของระบบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดนอกขั้วโลก ให้ภาพที่น่าทึ่งของพลังธรรมชาติ

☀️พระราชวังคาปลู (Khaplu Palace) – พระราชวังโบราณอายุกว่า 400 ปีของเจ้าผู้ปกครองแห่งคาปลู ที่ผสมผสานศิลปะบัลติ ทิเบต และแคชเมียร์ได้อย่างลงตัว ปัจจุบันเป็นโรงแรมและพิพิธภัณฑ์

☀️น้ำตกมันโทคา (Manthokha Waterfall) – น้ำตกสูง 180 ฟุตที่ไหลลงจากขุนเขา เป็นโอเอซิสแห่งความสดชื่นท่ามกลางภูมิประเทศแห้งแล้ง ล้อมรอบด้วยต้นไม้และขุนเขา

☀️มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) – มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในปากีสถานและใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก มีรูปทรงทันสมัยคล้ายเต็นท์เบดูอิน เป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงอิสลามาบัด

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ xx,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ Full Service
✅️ รวมอาหารทุกมื้อ มีอาหารไทยเสริม
✅️ รวมค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศ 2 เที่ยว
✅️ โรงแรมระดับ 4 ดาวใน Hunza และ ดีที่สุดในเมืองนั้นๆหากไม่มี 3 หรือ 4 ดาว
✅️ เดินทางโดยรถ Minibus กรุ๊ปละ 12 ท่าน
✅️ หัวหน้าทัวร์ถ่ายรูปสวยๆให้ 
✅️ ค่ากิจกรรม ทุกอย่าง ตามระบุในโปรแกรม
✅️ ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง (สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้)

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
ไม่รวมทิป

Place
Place
Place

โปรแกรมทริป ปากีสถาน

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – อิสลามาบัด

  • สนามบินสุวรรณภูมิ: พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเช็คอินและเตรียมตัวสำหรับการผจญภัยในดินแดนเทือกเขาคาราโครัมอันน่าตื่นเต้น
  • เที่ยวบินสู่อิสลามาบัด: เดินทางสู่ปากีสถานโดยสายการบินไทย เพลิดเพลินกับการบริการเต็มรูปแบบตลอดการเดินทาง

วันที่ 2: อิสลามาบัด – สการ์ดู – ชิการ์

  • บินสู่สการ์ดู (Skardu): เดินทางด้วยเที่ยวบินภายในประเทศสู่เมืองสการ์ดู ประตูสู่เทือกเขาคาราโครัม ชมวิวยอดเขาสูงจากหน้าต่างเครื่องบิน
  • ทะเลสาบอัปเปอร์คาชูร่า (Upper Kachura): ทะเลสาบสีเขียวมรกตที่ซ่อนตัวท่ามกลางขุนเขา รายล้อมด้วยป่าสนและหลืบเขา ลิ้มรสปลาเทราต์สดใหม่จากทะเลสาบที่ร้านอาหารท้องถิ่น
  • เมืองชิการ์ (Shigar): หมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่ในหุบเขาชิการ์ เป็นเส้นทางเชื่อมต่อสู่ยอดเขา K2 พร้อมป้อมปราการโบราณอายุกว่า 400 ปีที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม

วันที่ 3: ชิการ์ – ทะเลทรายซาฟรารังกา – คาปลู

  • ทะเลทรายซาฟรารังกา (Sarfaranga Cold Desert): ทะเลทรายเย็นที่สูงที่สุดในโลกที่ระดับความสูง 2,226 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เนินทรายสีทองตัดกับท้องฟ้าสีคราม และเทือกเขาหิมะในระยะไกล สร้างภาพที่แปลกตาน่าอัศจรรย์
  • หมู่บ้านคาปลู (Khaplu Village): หมู่บ้านเก่าแก่ที่ซ่อนตัวในหุบเขา บ้านเรือนโบราณสร้างด้วยหินและไม้ ชมสวนแอปริคอตที่มีชื่อเสียงของภูมิภาคและวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบัลติ
  • พระราชวังคาปลู (Khaplu Fort/Palace): พระราชวังโบราณอายุกว่า 400 ปีของเจ้าผู้ปกครองแห่งคาปลู สร้างด้วยศิลปะผสมผสานระหว่างบัลติ ทิเบต และแคชเมียร์ ปัจจุบันเป็นโรงแรมและพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้าวของโบราณ

วันที่ 4: คาปลู – คาร์มัง – มันโทคา – สการ์ดู

  • หุบเขาคาร์มัง (Kharmang Valley): หุบเขาอันเขียวขจีริมแม่น้ำอินดัส ผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ที่เรียงรายตามเชิงเขา ชมทุ่งข้าวสาลีและแอปริคอตสลับกับฉากหลังเป็นยอดเขาหิมะ
  • น้ำตกมันโทคา (Manthokha Waterfall): น้ำตกสูง 180 ฟุตที่ไหลลงจากขุนเขา ล้อมรอบด้วยต้นไม้และขุนเขา เป็นโอเอซิสแห่งความสดชื่นท่ามกลางภูมิประเทศแห้งแล้ง
  • เมืองสการ์ดู (Skardu): เมืองใหญ่ที่สุดในบัลติสถาน ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,438 เมตร มีประวัติศาสตร์ยาวนานจากการเป็นจุดแวะพักบนเส้นทางการค้าโบราณ เดินเล่นในบาซาร์เก่าแก่เพื่อซึมซับบรรยากาศท้องถิ่น

วันที่ 5: สการ์ดู – ชุนดา – กิลกิต – ฮุนซา

  • หุบเขาชุนดา (Chunda Valley): หุบเขาที่มีชื่อเสียงในเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) ต้นเชอร์รี่ป่า วอลนัท และป๊อปลาร์เปลี่ยนเป็นสีทอง แดง และส้ม สร้างภาพที่สวยงามตัดกับฉากหลังของเทือกเขาคาราโครัม
  • เมืองกิลกิต (Gilgit): เมืองหลวงของจังหวัดกิลกิต-บัลติสถาน ศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมมายาวนานเพราะเป็นจุดตัดของเส้นทางการค้าโบราณระหว่างจีน เอเชียกลาง และเอเชียใต้
  • เส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ (Karakoram Highway): เดินทางบนเส้นทางหลวงที่สูงที่สุดในโลกที่เชื่อมต่อปากีสถานกับจีน ผ่านหุบเขา แม่น้ำ และภูมิประเทศที่น่าทึ่ง พร้อมจุดชมวิวที่ให้เห็นยอดเขาสูงเกิน 7,000 เมตรหลายลูก
  • หุบเขาฮุนซา (Hunza Valley): หุบเขาในตำนานที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวรรค์บนดิน” และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนวนิยายเรื่อง Shangri-La ชาวฮุนซามีอายุยืนยาว และหุบเขานี้มีชื่อเสียงในเรื่องความงามของธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์

วันที่ 6: ฮุนซา – คาริมาบัด – ปัสสุ

  • เลดี้ฟิงเกอร์พีค (Lady Finger Peak/Bublimating): ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขารูปร่างคล้ายนิ้วมือ สูง 6,000 เมตร เป็นหนึ่งในภาพที่โดดเด่นที่สุดของเทือกเขาคาราโครัม
  • ป้อมบัลทิท (Baltit Fort): ป้อมปราการอายุกว่า 700 ปีที่ตั้งตระหง่านเหนือหมู่บ้านคาริมาบัด สร้างในศตวรรษที่ 13 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบทิเบต ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
  • ธารน้ำแข็งปัสสุ (Passu Glacier): ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ทอดตัวลงมาจากยอดเขาสูง มีอายุนับพันปีและเป็นส่วนหนึ่งของระบบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดนอกขั้วโลก

วันที่ 7: ฮุนซา – ไคเบอร์พาส – หมู่บ้านไคเบอร์ – ทะเลสาบอัตตาบัด

  • ช่องเขาไคเบอร์ (Khyber Pass): ช่องเขาประวัติศาสตร์ที่เชื่อมระหว่างปากีสถานและอัฟกานิสถาน เป็นเส้นทางผ่านของกองทัพและพ่อค้าตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา รวมถึงกองทัพของอเล็กซานเดอร์มหาราช
  • หมู่บ้านไคเบอร์ (Khyber Village): หมู่บ้านชาวพื้นเมืองในแถบช่องเขา ที่ยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม มีความเป็นมิตรและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น
  • จุดชมวิวธารน้ำแข็งบาตูรา (Batura Glacier Viewpoint): จุดชมวิวที่ให้ทัศนียภาพอันน่าทึ่งของธารน้ำแข็งบาตูราที่ยาวถึง 57 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดนอกเขตขั้วโลก
  • ทะเลสาบอัตตาบัด (Attabad Lake): ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ที่เกิดจากเหตุการณ์ดินถล่มในปี 2010 กั้นแม่น้ำฮุนซา ทำให้น้ำจากธารน้ำแข็งถูกกักเก็บกลายเป็นทะเลสาบที่สวยงาม ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

วันที่ 8: ฮุนซา – สการ์ดู – ทะเลทรายคัตพานา

  • เดินทางกลับสการ์ดู: เดินทางย้อนกลับสู่เมืองสการ์ดูอีกครั้ง ผ่านเส้นทางที่มีภูมิทัศน์อันหลากหลาย
  • ทะเลทรายคัตพานา (Katpana Cold Desert): ทะเลทรายเย็นที่มีเนินทรายขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยทะเลสาบและเทือกเขาหิมะ สร้างความแปลกประหลาดและความตื่นตาตื่นใจกับภาพของทะเลทรายและหิมะที่อยู่ในที่เดียวกัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

วันที่ 9: สการ์ดู – อิสลามาบัด

  • บินกลับอิสลามาบัด: เดินทางกลับสู่เมืองหลวงของปากีสถานโดยเที่ยวบินภายในประเทศ
  • พิพิธภัณฑ์ตักศิลา (Taxila Museum): ชมโบราณวัตถุจากเมืองโบราณตักศิลา ศูนย์กลางการศึกษาพุทธศาสนาที่สำคัญและเป็นมรดกโลก มีอายุกว่า 2,500 ปี จัดแสดงประติมากรรมพุทธศิลป์แบบคันธาระที่ผสมผสานอิทธิพลกรีกและอินเดีย
  • มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque): มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในปากีสถานและใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก ออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี มีรูปทรงคล้ายเต็นท์เบดูอินที่ทันสมัย เป็นสัญลักษณ์สำคัญของอิสลามาบัด

วันที่ 10: อิสลามาบัด – กรุงเทพฯ

  • เที่ยวบินกลับกรุงเทพฯ: เดินทางกลับสู่ประเทศไทยโดยสายการบินไทย
  • เดินทางถึงกรุงเทพฯ: เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมความทรงจำอันน่าประทับใจจากดินแดนภูเขาสูงแห่งปากีสถานเหนือ
error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม