CROATIA MONTENEGRO
Roadtrip
สรุปทริป
☀️ เส้นทางโครเอเชีย มอนเตเนโกร 11 วัน 8 คืน
☀️ เก็บทุก Highlight สำคัญ ของ 2 ประเทศ
☀️ เมือง Zagreb เมืองหลวงโครเอเชีย
☀️ Plitvicka น้ำตกที่สวยที่สุด
☀️ เมืองมรดกโลกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว  Zadar / Trogir / Dubrovnik / Split
☀️ ประเทศมอนเตเนโกร เมืองที่ถูก underate
☀️ เมืองสวยๆ ริมทะเล อย่าง Kotor Budva
☀️ เมืองชิคๆ บรรยากาศสบาย Perast
☀️ Tara Canyon สะพานสูงข้ามช่องเขาที่วิวอลังแบบต้องไปให้ได้
☀️ พักโรงแรม 4 ดาว
☀️ มีช่างภาพถ่ายรูปสวยๆให้
 
รายละเอียด
🗓️ เดินทาง 27 ตค – 6 พย 67 
💰 ค่าทริป 109,000
 
✅️ Road Trip Style* กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆให้
✅️ โรงแรม 4 ดาว สวย สะอาด สะดวก มีอาหารเช้า
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน
⛔ วีซ่า (เราแนะนำให้)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
 
การจอง / ติดต่อ
 
📱 มัดจำท่านละ 30000 บาท ที่เหลือ 30 วันก่อนเดินทาง
📱 Line @painaima
📱 โทร 0894789334 
 
📋painaima.com ในนามบริษัทฟีลโซกู๊ดจำกัด เลขใบอนุญาต  11/8811 เริ่มก่อตั้งปี 2551
📋เงื่อนไขยกเลิกทริป กดที่นี่ 
โปรแกรมโดยย่อ

วันที่ 1 | พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางสู่เมือง Zagrebวันที่ 2 | ถึงเมือง Zagreb เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโครเอเชีย • St. Mark’s Church อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมในใจกลางซาเกร็บ โดดเด่นด้วยหลังคามุงกระเบื้องที่มีลวดลายแบบโครเอเชียและลวดลายของธงชาติซาเกร็บ • City tour • คืนนี้พักที่ Zagreb

วันที่ 3 | ZagrebPlitvicka สวรรค์แห่งธรรมชาติ และมรดกโลกทางธรรมชาติ มีชื่อเสียงในด้านทะเลสาบหลายสีสัน น้ำตกที่สวยงาม • ล่องเรือข้ามทะเลสาบ Kozjak ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ สัมผัสกับความงามของธรรมชาติและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ • คืนนี้พักที่ Plitvicka

วันที่ 4 | Plitvicka • City tour Zadar เมืองเก่าแก่แห่งทะเลอาเดรียติกเป็นอ่าวที่สวยงาม  • Split เมืองมรดกโลกที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและสมัยใหม่ คืนนี้พักที่ Split

วันที่ 5 | Palace of the Emperor Diocletian สถาปัตยกรรมโรมันโบราณ ซึ่งมรดกโลกที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป • ศาลาว่าการเมือง People Square ความสวยงามของสถาปัตยกรรมโบราณและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา • Dubrovnik หมู่บ้านบนเกาะขนาดเล็ก ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก” คืนนี้พักที่ Dubrovnik

วันที่ 6 | DubrovnikCity Tour เดินเล่นที่ถนนสตราดัน หัวใจของเมืองเก่าดูบรอฟนิก เป็นถนนแคบที่ปูด้วยหินทรายสีขาวที่ให้ความรู้สึกคลาสสิก • คืนนี้พักที่ Dubrovnik

วันที่ 7 | ถ่ายรูปจุดชมวิว • ข้ามพรมแดนสู่ ประเทศมอนเตเนโกร มีความหลากหลายทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ มีเมืองประวัติศาสตร์ ชายหาดและภูเขาที่งดงาม • เมือง Kotor เมืองโบราณที่มีเอกลักษณ์ด้วยกำแพงเมืองที่งดงามและสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะโบสถ์และบ้านเรือนในย่านเมืองเก่า • ชมเมืองเก่าเดินเล่นที่จัตุรัสกลางเมือง คืนนี้พักที่ Kotor

วันที่ 8 | Kotor เมืองป้อมปราการสุดโรแมนติกริมอ่าว • Church of Our Lady of Škrpjela • Saint George สถานที่ศักดิ์สิทธิ์กลางอ่าว Kotor • ชมเกาะ Sveti Đorđe • ไปเมือง Budva มรดกทางประวัติศาสตร์และชายหาดที่สวยงาม • ชม Sveti StefanLovcen national park สวรรค์แห่งภูเขาและประวัติศาสตร์ คืนนี้พักที่ Podgorica

วันที่ 9 | Podgoricaอุทยานแห่งชาติ Durmitor ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก • เดินทางต่อสู่ Tara Canyon เป็นหนึ่งในหุบเขาที่ลึกที่สุดในยุโรป มีความลึกประมาณ 1,300 เมตรและยาวประมาณ 82 กิโลเมตร • ข้ามสะพาน Tara Bridge สะพานแขวนที่สูงที่สุดในมอนเตเนโกร • พักที่เมือง Žabljak

วันที่ 10 | เดินทางไป Podgorica • ต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 11 | เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

 

St.Mark

โบสถ์เซ็นต์มาร์ค สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ถือเป็นโบสถ์ Signature ของ Croatia มีความโดดเด่นด้วยหลังคาที่ปูกระเบื้องโมเสกเป็นรูปปราสาทสีขาวบนพื้นสีแดง คู่กับสัญลักษณ์ของโครเอเชีย สโลเวเนีย และดัลเมเชีย ทั้งหมดนี้ปรากฏอยู่บนลวดลายตารางหมากรุกแดงขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโครเอเชียอีกด้วย พาชมสถานที่ที่น่าสนใจ

Dubrovnik

เมืองที่งดงามตั้งอยู่ริมชายฝั่งตะวันออกของทะเลเอเดรียติกในโครเอเชีย เมืองนี้เป็นที่รู้จักจากสถาปัตยกรรมยุคกลางอันงดงาม กำแพงเมืองอันยิ่งใหญ่ และภูมิทัศน์ที่สวยงาม เมืองดูบรอฟนิกได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก วันสบายๆริมทะเลในวันอากาศสดชื่น

Split

เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโครเอเชีย เป็นศูนย์กลางการพาณิชย์และการคมนาคมของแคว้นดัลเมเชีย นอกจากนี้สปลิตยังเป็นเมืองชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชียที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,700 ปี

Zadar

อดีตเมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดัลเมเชีย (Dalmatia) ( 2 ชม.) เป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยโรมัน เป็นย่านค้าขายทางเรือที่สำคัญ ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

Dubrovnik

เมืองที่งดงามตั้งอยู่ริมชายฝั่งตะวันออกของทะเลเอเดรียติกในโครเอเชีย เมืองนี้เป็นที่รู้จักจากสถาปัตยกรรมยุคกลางอันงดงาม กำแพงเมืองอันยิ่งใหญ่ และภูมิทัศน์ที่สวยงาม เมืองดูบรอฟนิกได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก วันสบายๆริมทะเลในวันอากาศสดชื่น

St.Anastasia Cathedral

คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในดัลเมเทียซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 ถึง 5 แม้จะถูกทำลายในสงครามมาแล้วแต่ก็ยังคงสภาพความสวยความให้เห็นจนถึงปัจจุบัน

Plitvicka

มีลักษณะเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือก Pljesevica, Mala Kapela และ Medvedak ทะเลสาบถูกแบ่งเป็นชั้นบนและชั้นล่าง มีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้

Adriatic Sea

คือส่วนหนึ่งของ Mediterranean ถึงแม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งก็ตาม แต่ก็มีความสำคัญไม่น้อยเลย เพราะแต่ละแห่งของชายฝั่งของทะเลนี้จะเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรม และโบราณสถานที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

Lovcen national park

เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ Njegoš Mausoleum ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของมอนเตเนโกร

View from lovcen

สูดอากาศบริสุทธิ์ บนยอดเขาพร้อมกับถ่ายรูปจากจุดชมวิวสุดเก๋ไม่มีซ้ำใคร

Church of Our Lady of Škrpjela

Our Lady of the Rocks สร้างขึ้นเมื่อปี 1452 ตามตำนานกล่าวว่ามีลูกเรือสองคนกลับจากการเดินทางที่แสนลำบาก ระหว่างทางได้ค้นพบสัญลักษณ์ของพระแม่มารีและพระบุตรที่อยู่บนก้อนหินในอ่าว พวกเขาจึงต้องการจะสร้างโบสถ์ขึ้นตรงนั้น ทั้งสองคนใช้หินก้อนเล็กๆค่อยๆก่อสร้างขึ้นเป็นโบสถ์เล็กๆ และต่อมากลายเป็นธรรมเนียมที่ชาวกะลาสีจะวางก้อนหินลงในน้ำรอบๆโบสถ์ก่อนเดินทางเพื่อเป็นการขอพรอย่างหนึ่ง ประเพณีนี้ยังคงปฏิบัติต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

St .George

โบสถ์กลางน้ำแห่งนี้ ความพิเศษของโบสถ์แห่งนี้คือ จะเป็นเสมือนผู้พิกษ์เมือง Kotor หรือเมืองท่าที่เรือกำลังจะไปจอด ใครจะผ่านไปมาต้องส่งสัญญาณทำความเคารพ เรือลำใหญ่อย่างเราเลยบีบแตรส่งสัญญาณเสียงดังก้องไปทั่วน่านน้ำ เมื่อล่องผ่านโบสถ์ และไม่กี่อึดใจก็มีเสียงก้องกังวานไปทั่วคุ้งน้ำ

บ้านเรือนริมอ่าวตลอดแนว

Kotor Bay ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอ่าว Kotor ทางตอนใต้ของประเทศมอนเตเนโกร เมืองนี้เป็นที่รู้จักจากสถาปัตยกรรมยุคกลางอันงดงาม กำแพงเมืองอันยิ่งใหญ่ และภูมิทัศน์ที่สวยงาม เมือง Kotor ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

เมือง Perast

Perast ประเทศมอนเตเนโกร เมืองเล็กๆที่ซ่อนความงามและประวัติศาสตร์ไว้ในทุกมุมมอง เป็นเมืองชายฝั่งที่เงียบสงบและงดงามที่สุดในอ่าว Kotor ชายฝั่งมีความยาวเพียง1.5 กิโลเมตรแต่ทว่าสวยงามมากเหมือนภาพวาด ที่นี่เป็นที่นิยมขึ้นเรือไปยังเกาะและโบสถ์ลอยน้ำ Our Lady of the Rocks

Sveti Stefan

อดีตเคยเป็นเมืองหลวงแห่ง Paštrovići และเคยเป็นเมืองในอารักขาของเวนิส ในช่วงยุคปี คศ. 1500 ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็น โรงแรม 5 ดาว ชมหาดกรวดสีชมพูและน้ำทะเลสีฟ้าครามทำให้บริเวณนี้เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาเยี่ยมชมตั้งแต่ยุคปี คศ 1930

ชิมอาหารทะเลวิวดีๆ

รับประทานอาหารและดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเล

มุมมองจากสะพาน Tara canyon

แม่น้ำทารา มีความยาว 146 กม. แต่สิ่งที่น่าสนใจคือที่นี่เป็นแคนยอนที่ยาวที่สุดในยุโรป และเป็นอันดับสองของโลกรองจากแกรนด์แคนยอน ที่ความยาว 78 กิโลเมตรและลึก 1,300 เมตร และถูกรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

มุมมองจากสะพาน Tara canyon

แม่น้ำทารา มีความยาว 146 กม. แต่สิ่งที่น่าสนใจคือที่นี่เป็นแคนยอนที่ยาวที่สุดในยุโรป และเป็นอันดับสองของโลกรองจากแกรนด์แคนยอน ที่ความยาว 78 กิโลเมตรและลึก 1,300 เมตร และถูกรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

มุมมองจากสะพาน Tara canyon

แม่น้ำทารา มีความยาว 146 กม. แต่สิ่งที่น่าสนใจคือที่นี่เป็นแคนยอนที่ยาวที่สุดในยุโรป และเป็นอันดับสองของโลกรองจากแกรนด์แคนยอน ที่ความยาว 78 กิโลเมตรและลึก 1,300 เมตร และถูกรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

มุมมองจากสะพาน Tara canyon

แม่น้ำทารา มีความยาว 146 กม. แต่สิ่งที่น่าสนใจคือที่นี่เป็นแคนยอนที่ยาวที่สุดในยุโรป และเป็นอันดับสองของโลกรองจากแกรนด์แคนยอน ที่ความยาว 78 กิโลเมตรและลึก 1,300 เมตร และถูกรับรองให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม