France : Provence
สรุปไฮไลท์

☀️เมืองนีซและชายหาดฝรั่งเศสริเวียร่า (Nice & French Riviera) – สัมผัสความมีชีวิตชีวาของเมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอันมีเสน่ห์ เดินเล่นบน Promenade des Anglais อันโด่งดังและดื่มด่ำกับบรรยากาศสดใสของท้องฟ้าและทะเลสีครามที่ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของศิลปินและนักท่องเที่ยว

☀️ย่านประวัติศาสตร์โมนาโกวิลล์ (Monaco-Ville) – เยือนประเทศเล็กที่สุดอันดับสองของโลก ชมพระราชวังเจ้าชายที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 และทัศนียภาพอันตระการตาของท่าเรือหรูและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจากจุดชมวิวบนเนินเขา

☀️ทุ่งลาเวนเดอร์วาลองโซล (Plateau de Valensole) – ดื่มด่ำกับภาพที่ราบสูงกว้างใหญ่ที่ปกคลุมด้วยทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมที่ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่ง ให้ภาพและกลิ่นหอมที่เป็นสัญลักษณ์ของโพรวองซ์

☀️หมู่บ้านรูซียงและสีโอเคอร์ธรรมชาติ (Roussillon) – ตื่นตากับหมู่บ้านสีสันสดใสที่อาคารบ้านเรือนทาด้วยสีจากดินโอเคอร์ธรรมชาติหลากเฉดสี ตั้งแต่แดง ส้ม และเหลือง สร้างภาพที่แตกต่างจากหมู่บ้านทั่วไปในโพรวองซ์อย่างสิ้นเชิง

☀️หมู่บ้านกอร์ดบนเนินเขา (Gordes) – เยือนหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส ด้วยบ้านหินสีเทาที่เรียงรายลดหลั่นลงมาตามไหล่เขา พร้อมปราสาทศตวรรษที่ 16 และทัศนียภาพของหุบเขาลูเบอรงที่สวยงาม

☀️อารามเซนองก์และทุ่งลาเวนเดอร์ (Sénanque Abbey) – ชมอารามซิสเตอร์เชียนเก่าแก่จากศตวรรษที่ 12 ที่ยังมีนักบวชอาศัยอยู่ ล้อมรอบด้วยทุ่งลาเวนเดอร์ที่สร้างภาพอันเป็นสัญลักษณ์ของโพรวองซ์ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกปรารถนาจะได้เห็นสักครั้งในชีวิต

☀️พระราชวังพระสันตะปาปา (Palais des Papes) – ทึ่งกับพระราชวังโกธิคอันยิ่งใหญ่ในเมืองอาวีญงที่เคยเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาในศตวรรษที่ 14 มรดกโลกที่เป็นพยานประวัติศาสตร์ช่วงเวลาสำคัญของศาสนาคริสต์ในยุโรป

☀️สะพานส่งน้ำโรมันปงดูการ์ (Pont du Gard) – ชมสะพานส่งน้ำโรมันโบราณจากศตวรรษที่ 1 ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม สูงถึง 49 เมตร เป็นตัวอย่างชั้นเลิศของวิศวกรรมโรมันและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

☀️อุทยานแห่งชาติคาลังก์ (Calanques National Park) – ผจญภัยในอ่าวแคบที่ล้อมรอบด้วยหน้าผาหินปูนสูงชันและน้ำทะเลสีเขียวมรกตใสสะอาด ดินแดนธรรมชาติอันน่าทึ่งระหว่างมาร์เซย์และคาสซิส ที่สามารถสำรวจได้ทั้งทางบกและทางทะเล

☀️มหาวิหารโนเทรอะดาม เดอ ลาการ์ด (Notre-Dame de la Garde) – เยือนสัญลักษณ์ของเมืองมาร์เซย์ที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาสูงสุดของเมือง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานและรูปปั้นพระแม่มารีทองคำ พร้อมชมวิวพาโนรามา 360 องศาของเมืองท่าโบราณและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ค่าทริปและการจองทริป
  • ค่าทริป
    • ท่านละ 109,000 บาท (พักห้องคู่หรือ 3 คน)
  • วันเดินทาง  
    • สอบถามทีมงาน
  • สนใจจองทริป
    • ทักเราที่ Line @painaima
    • โทร 089-4789334
สรุปทริป

✅️ รูปแบบการเดินทาง Roadtrip Style
✅️ โรงแรมที่พัก 3-4 ดาว พร้อมอาหารเช้า
✅️ กลุ่มเล็ก 6 ท่าน เที่ยวโดยรถตู้
✅️ นำทริปโดยคนไทย ถ่ายรูปสวยๆ ให้
✅️ ประกันการเดินทาง วงเงิน 2 ล้าน

ค่าทริป ไม่รวม

⛔ วีซ่า (มีบริการรับทำ)
⛔ ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน (เราจัดหาให้ได้)
⛔ ไม่รวมอาหารกลางวันและเย็น
⛔ อาหารเช้า หากโรงแรมเป็นลักษณะ Apartment

Place
Place
Place
Place
Place

โปรแกรมทริป โพรวองซ์

วันที่ 1: กรุงเทพฯ – สู่ฝรั่งเศส

  • พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ – เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางสู่ดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ของฝรั่งเศสและโมนาโก ออกเดินทางด้วยสายการบินชั้นนำสู่เมืองนีซ ประตูสู่ฝรั่งเศสตอนใต้และเฟรนช์ริเวียร่า ดินแดนที่เต็มไปด้วยสีสัน วัฒนธรรม และทัศนียภาพอันงดงาม

วันที่ 2: นีซ – โมนาโก

  • เมืองนีซ (Nice) – เมืองเลียบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอันมีเสน่ห์ เดินเล่นบน Promenade des Anglais ถนนริมชายหาดที่มีชื่อเสียงระดับโลก ดื่มด่ำบรรยากาศสดใสของท้องฟ้าและทะเลสีคราม เยี่ยมชมย่านเมืองเก่า (Vieux Nice) ที่เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยแคบๆ ร้านค้า และร้านอาหารท้องถิ่นที่มีสีสัน
  • โมนาโกวิลล์ (Monaco-Ville) – ย่านประวัติศาสตร์บนเนินเขาของประเทศเล็กที่สุดอันดับสองของโลก ชมพระราชวังเจ้าชายแห่งโมนาโก (Prince’s Palace) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เป็นที่ประทับของราชวงศ์กริมาลดี มีการเปลี่ยนเวรยามทหารที่น่าประทับใจ พร้อมชมทัศนียภาพอันงดงามของท่าเรือ Port Hercule และทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจากจุดชมวิวที่ดีที่สุดของเมือง

วันที่ 3: ทะเลสาบแซงต์-ครัวซ์ – มูสติเยร์-แซงต์-มารี

  • ทะเลสาบแซงต์-ครัวซ์ (Lac de Sainte-Croix) – ทะเลสาบสีฟ้าครามใสสะอาดที่สร้างขึ้นในปี 1973 ตั้งอยู่ในหุบเขาที่สวยงามของแม่น้ำแวร์ดง (Verdon) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานธรรมชาติแวร์ดง (Verdon Natural Regional Park) เหมาะแก่การพักผ่อน พายเรือคายัค หรือว่ายน้ำในฤดูร้อน ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ของภูเขาและป่าไม้ที่สวยงาม
  • มูสติเยร์-แซงต์-มารี (Moustiers-Sainte-Marie) – หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างหน้าผาสองแห่ง มีชื่อเสียงด้านศิลปะการผลิตเครื่องเคลือบดินเผา (Faience) ที่มีความละเอียดและสวยงาม เดินเล่นตามถนนหินที่ลัดเลาะขึ้นเขา ชมโบสถ์ Notre-Dame de Beauvoir และดาวทองคำที่แขวนอยู่เหนือหมู่บ้าน เยี่ยมชมร้านค้าและเวิร์คช็อปที่มีเสน่ห์ของช่างฝีมือท้องถิ่น

วันที่ 4: ทุ่งลาเวนเดอร์วาลองโซล

  • วาลองโซล (Valensole) – สัมผัสความงดงามของที่ราบสูงวาลองโซล (Plateau de Valensole) ที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกลาเวนเดอร์อันสุดลูกหูลูกตา กว้างกว่า 800 ตารางกิโลเมตร โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมที่ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่ง เก็บภาพความประทับใจกับทุ่งสีม่วงที่ทอดยาวจนสุดสายตา บรรยากาศหอมกรุ่นด้วยกลิ่นลาเวนเดอร์ ชมหมู่บ้านเล็กๆ ของชาวบ้านที่ทำการเกษตรและผลิตน้ำมันหอมระเหยจากดอกลาเวนเดอร์ อันเป็นเอกลักษณ์ของแคว้นโพรวองซ์

วันที่ 5: รูซียง – กอร์ด – อารามเซนองก์

  • รูซียง (Roussillon) – หมู่บ้านสีสันสดใสที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในหุบเขาลูเบอรง (Luberon Valley) โดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนที่ทาด้วยสีจากดินโอเคอร์ธรรมชาติ (Ochre) สีแดง ส้ม และเหลือง ที่ขุดจากเหมืองในท้องถิ่น เดินเล่นตามเส้นทาง Sentier des Ocres เพื่อชมแนวหน้าผาสีสันสดใสและทัศนียภาพอันน่าทึ่ง
  • กอร์ด (Gordes) – เมืองสวยบนภูเขาในโพรวองซ์ ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส (Les Plus Beaux Villages de France) โดดเด่นด้วยบ้านหินสีเทาที่เรียงรายลดหลั่นลงมาตามไหล่เขา ชมปราสาทกอร์ด (Château de Gordes) ที่สร้างในศตวรรษที่ 16 พร้อมเก็บภาพทัศนียภาพที่สวยงามของหมู่บ้านและทุ่งนาโดยรอบ
  • อารามเซนองก์ (Sénanque Abbey) – อารามซิสเตอร์เชียนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี 1148 ยังคงความสงบและเรียบง่ายตามวิถีของนักบวช เป็นตัวอย่างที่งดงามของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ ล้อมรอบด้วยทุ่งลาเวนเดอร์ที่นักบวชปลูกไว้ (บานสะพรั่งในเดือนกรกฎาคม) สร้างภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของโพรวองซ์ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องการมาเยือน

วันที่ 6: อาวีญง – ปงดูการ์ – เลโบโดโพรวองซ์ – แซงต์-เรมี-เดอ-โพรวองซ์

  • พระราชวังพระสันตะปาปา (Palais des Papes) – พระราชวังโกธิคอันยิ่งใหญ่ในเมืองอาวีญง (Avignon) ที่เคยเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 เมื่อครั้งที่ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกย้ายจากกรุงโรมมายังอาวีญง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายในมีห้องโถงขนาดใหญ่และภาพเขียนฝาผนังที่งดงาม
  • สะพานปงดูการ์ (Pont du Gard) – สะพานส่งน้ำโรมันโบราณที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 1 สูงถึง 49 เมตร ยาว 275 เมตร เป็นส่วนหนึ่งของระบบส่งน้ำที่ยาว 50 กิโลเมตรจากแหล่งน้ำไปยังเมืองนีมส์ (Nîmes) ได้รับการอนุรักษ์ไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและเป็นมรดกโลกที่ทรงคุณค่า
  • เลโบโดโพรวองซ์ (Les Baux-de-Provence) – หมู่บ้านโบราณบนหน้าผาหินปูนในเทือกเขา Alpilles ที่มีซากปราสาทยุคกลาง ชมทัศนียภาพกว้างไกลของหุบเขาและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี รวมถึง Carrières de Lumières ที่จัดแสดงศิลปะด้วยการฉายภาพบนผนังเหมืองหินปูนเก่า
  • แซงต์-เรมี-เดอ-โพรวองซ์ (Saint-Rémy-de-Provence) – เมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ เป็นสถานที่พักรักษาตัวของศิลปินชื่อดัง วินเซนต์ แวนโก๊ะ ที่โรงพยาบาล Saint-Paul-de-Mausole เดินเล่นในตรอกซอกซอยที่มีร้านค้าและร้านอาหารน่ารัก ชมโบราณสถานโรมัน Glanum และบรรยากาศอันเงียบสงบที่ได้แรงบันดาลใจให้แวนโก๊ะสร้างผลงานมากมาย

วันที่ 7: คาสซิส – คาลังก์เดอปอร์ตมิโอ – มาร์เซย์

  • คาสซิส (Cassis) – เมืองชายทะเลเล็กๆ ที่สวยงาม ตั้งอยู่บนอ่าวที่ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน มีท่าเรือเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ล้อมรอบด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ที่มีสีสัน บรรยากาศผ่อนคลาย เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสำรวจอุทยานแห่งชาติคาลังก์ (Calanques National Park)
  • คาลังก์เดอปอร์ตมิโอ (Calanque de Port Miou) – อ่าวแคบที่ล้อมรอบด้วยหน้าผาหินปูนสูงชันและน้ำทะเลสีเขียวมรกตใสสะอาด เป็นหนึ่งในคาลังก์ (Calanques) อันโด่งดังระหว่างมาร์เซย์และคาสซิส เหมาะสำหรับเดินป่า ปีนเขา หรือล่องเรือเพื่อชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งของชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะโดยทะเล
  • มาร์เซย์ (Marseille) – เมืองท่าเก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศสและเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ เป็นศูนย์กลางการค้าในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ เยี่ยมชมท่าเรือเก่า (Vieux Port) ที่คึกคัก ชมย่านเล ปานิเยร์ (Le Panier) ย่านเมืองเก่าที่มีตรอกซอกซอยแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส
  • มหาวิหารโนเทรอะดาม เดอ ลาการ์ด (Notre-Dame de la Garde) – สัญลักษณ์สำคัญของเมืองมาร์เซย์ ตั้งตระหง่านบนเนินเขาที่สูงที่สุดของเมือง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์และโรมาเนสก์ที่ผสมผสานกัน มีรูปปั้นพระแม่มารีทองคำประดับอยู่บนยอดหอระฆัง ชมทัศนียภาพพาโนรามาของเมืองมาร์เซย์และทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ 360 องศา

วันที่ 8: ตลาดเช้าโพรวองซาล – เดินทางกลับ

  • ตลาดเช้าโพรวองซาล (Marché Provençale) – สัมผัสชีวิตชีวาและสีสันของตลาดท้องถิ่นในยามเช้า ที่เต็มไปด้วยผักผลไม้สดจากสวน ชีส น้ำผึ้ง น้ำมันมะกอก สมุนไพร และสินค้าพื้นเมืองต่างๆ ชิมอาหารท้องถิ่นและซื้อของที่ระลึกจากโพรวองซ์กลับบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมการกินอยู่ของชาวฝรั่งเศสใต้
  • เดินทางสู่สนามบินมาร์เซย์ (Marseille Provence Airport) – เตรียมตัวสำหรับการเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ พร้อมความทรงจำอันแสนประทับใจจากการเดินทางในดินแดนแห่งแสงแดด กลิ่นลาเวนเดอร์ และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความสุขของชาวโพรวองซ์

วันที่ 9: เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

  • เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ พร้อมความทรงจำและประสบการณ์อันแสนพิเศษจากการเดินทางในดินแดนแห่งความงดงามของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่หลากหลายของฝรั่งเศสตอนใต้และโมนาโก
error: บทความทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของไปไหนมาดอทคอม