
สถาปัตยกรรมเก่าแก่ อาคารบ้านช่องที่รูปทรงสวยแปลกตา วิวทิวทัศน์ที่สดใสสวยงาม วัฒนธรรม รวมทั้งวิถีชีวิตของผู้คน สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ช่วยสร้างเสน่ห์ให้ เมืองแห่งสีสัน ที่กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต่างใฝ่ฝันจะมีโอกาสไปสัมผัส ชื่นชมด้วยตาของตัวเอง เมืองแห่งสีสัน จึงเป็นเสมือนต้นทางที่ช่วยสร้างความสุข และความประทับให้กับแขกพิเศษที่ไปเยือน ซึ่งบนโลกกลมๆใบนี้จะมีเมืองไหนที่เต็มไปด้วยสีสันสำหรับการท่องเที่ยวบ้าง ลองมาค้นหาไปพร้อมกันครับ
Burano Island ประเทศอิตาลี
ริมทะเลสาบเวนิส ประเทศอิตาลี เป็นที่ตั้งของเกาะเล็กๆ ชื่อว่า “เกาะบูราโน่” สิ่งที่สะดุดตาเมื่อมาเยือนเมืองนี้ก็คงจะเป็นสีสันอาคารบ้านเรือนที่สดใสราวกับสีลูกกวาด โดยริม 2 ฝั่งคลองเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินลัดเลาะไปช๊อปชิม เกาะแห่งนี้จึงเป็น เมืองแห่งสีสัน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสได้ไม่ขาดสาย
3.เมือง Cape Town ประเทศแอฟริกาใต้
เมืองที่เก่าแก่อายุมากกว่า 300 ปีแห่งนี้ ตั้งอยู่ปลายสุดของแอฟริกาใต้ เสน่ห์ของเมืองนี้อยู่ที่บ้านเรือนที่ตั้งใจแต่งแต้มด้วยสีสันฉูดฉาดสะดุดเหมาะแก่การถ่ายภาพ นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สุดมหัศจรรย์อย่าง Table Mountain ที่มียอดเขาแบนราบ แถมที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นดี ที่มาเยือน เมืองแห่งสีสัน แห่งนี้แล้วต้องไม่พลาดลองลิ้มรสชาติ
4.เมือง Cinque Terra ประเทศอิตาลี
เมืองซิงเคว เทเร อันมีความหมายว่า 5 แผ่นดินแห่งนี้ ด้วยเป็นเมืองที่เกิดจากการรวมกันของ 5 หมู่บ้าน ที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมหน้าผา ติดภูเขา อาคารบ้านเรือนยังคงสถาปัตยกรรมโบราณ ที่มีสีสันสวยงามโดดเด่นจนไม่อาจละสายตา มาเที่ยว เมืองแห่งสีสัน แห่งนี้ การเดินชมเมือง แวะถ่ายรูป หรือกระโดดน้ำทะเลจากหน้าผา ก็เป็นกิจกรรมที่ท้าทายไปอีกแบบ
เมือง Puerto Vallarta ประเทศเม็กซิโก
เมืองติดริมทะเลที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบสะสมงานศิลปะ โดยทุกตรอกซอกซอยของ เมืองแห่งสีสัน แห่งนี้มีให้ได้เลือกชม เลือกซื้อหา ทั้งในรูปแบบภาพวาด รูปปั้น รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันความเป็นท้องถิ่นอีกมากมาย
.เมือง Wroclaw ประเทศโปแลนด์
เมืองวรอตสวัฟ เป็นเมืองใหญ่ที่สุด ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Odre ในประเทศโปแลนด์ 2 ข้างทางของเมืองนี้จะเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนที่ไล่เฉดสีจากอ่อนไปเข้มดูแล้วสดชื่นเพลินตา มี มีตลาดมาร์เก็ต แสวคร์ให้ได้เดินช๊อปิ้ง เมืองแห่งสีสัน เมืองนี้ จึงเป็นอีกเมืองที่พร้อมอ้าแขนต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสงบ และเป็นกันเอง ให้มาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ
เมือง St.Johns ประเทศแคนาดา
อาคารสีสันสดใสที่ตั้งอยู่ริมทะเล เป็นเสน่ห์ที่ช่วยแต่งแต้มให้เมืองเก่าแก่ที่สุดของอเมริกาเหนือ อย่างเมืองเซนต์จอห์น เป็นเมืองแห่งสีสัน ที่นักท่องเที่ยวเลือกมาสัมผัสความสวยงาม ด้วยการล่องเรือรับลม พร้อมชมทัศนียภาพ บันทึกภาพความทรงจำด้วยกล้องตัวโปรด เพื่อไว้ย้อนรำลึกถึงวันวาน สีสันของเมืองนี้น่าจะสร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนไม่น้อย
เมือง Stockholm ประเทศสวีเดน
ปราสาทที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมในสมัยศตวรรษที่ 13 พร้อมบ้านเรือนที่มีสีสดใส เป็นสิ่งที่ช่วยแต่งแต้มเสน่ห์ให้เมืองสตอคโฮล์ม เป็น เมืองแห่งสีสัน นอกจากนั้นเมืองแห่งนี้ยังมีกว่า 14 เกาะ ที่ยื่นออกไปกลางทะเลบอลติก การล่องเรือ ชมทัศนียภาพรอบเมือง จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ผู้เดินทางมาเมืองนี้จะได้รับความเพลิดเพลิน
เมือง Valparaisoประเทศชิลี
หนึ่งในเมืองที่มีการจัดผังเมืองที่ดีที่สุดแห่งนึงในโลก ต้องยกให้กับ เมืองแห่งสีสัน นามว่า บัลปาราอีโซ การก่อสร้างอาคารบ้านเรือนของเมืองนี้ได้รับอิทธิพลจากยุคล่าอาณานิคม จึงสามารถพบเห็นอาคารที่มีรูปทรงและสีสันแปลกตาได้ที่นี่ นอกจากนั้นสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดไปสัมผัสคือพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองนี้
เมื่อการเดินทางสิ้นสุดลง สิ่งที่เหลือไว้คงเป็นรอยยิ้ม และความทรงจำดีๆ ที่นักเดินทางจะเก็บกลับไปยังประเทศที่ตนจากมา เมืองแห่งสีสัน ที่มีมนต์เสน่ห์จึงไม่เคยหนีหาย ยังพร้อมคอยต้อนรับแขกพิเศษใหม่ๆที่ตั้งใจมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ ภาพสวยๆของ เมืองแห่งสีสัน ที่ถูกบันทึกผ่านกล้องตัวโปรดอย่างตั้งใจ ก็คงจะเป็นพิราบน้อยที่พร้อมช่วยกระจายข่าวไปให้ผู้พบเห็นได้มีโอกาสรับการ์ดเชิญ เพื่อมุ่งหน้าไปเยือนด้วยความพิสมัยในสีสันที่เมืองเหล่านี้มี พร้อมไมตรีของเจ้าบ้านที่จะคอยต้อนรับ