วันที่ 1: กรุงเทพฯ – เอดินบะระ (Edinburgh)

• ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยสายการบิน Qatar Airways มุ่งหน้าสู่เมืองเอดินบะระ เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานของสกอตแลนด์ เตรียมพร้อมสัมผัสบรรยากาศของเมืองเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลางและวิคตอเรียนที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว

วันที่ 2: เอดินบะระ – กลินฟินแนน

• ปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle) – ปราสาทเก่าแก่อายุกว่า 900 ปีที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาหินภูเขาไฟ มองเห็นทัศนียภาพของเมืองแบบพาโนรามา เป็นที่เก็บรักษามงกุฎและคฑาแห่งสกอตแลนด์ พร้อมปืนใหญ่โบราณที่ยังใช้งานได้ ชื่อ Mons Meg

• ถนนรอยัลไมล์ (Royal Mile) – ถนนประวัติศาสตร์ใจกลางเมืองเก่า เชื่อมระหว่างปราสาทเอดินบะระและพระราชวังโฮลีรู๊ด เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ ร้านค้า และพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ

• สะพานรถไฟกลินฟินแนน (Glenfinnan Viaduct) – เดินทางสู่สะพานรถไฟโค้งอันงดงามที่โด่งดังจากภาพยนตร์ Harry Potter ทอดตัวข้ามหุบเขากลินฟินแนน ชมความงามของสถาปัตยกรรมโค้ง 21 ช่วงที่สร้างด้วยคอนกรีตเมื่อปี ค.ศ. 1898 ท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงาม

วันที่ 3: เกาะสกาย (Isle of Skye)

• เมืองพอร์ทรี (Portree) – เยี่ยมชมเมืองหลักบนเกาะสกาย ชมบ้านเรือนหลากสีสันริมอ่าวที่สวยงาม เป็นเมืองท่าประมงที่มีเสน่ห์และมีร้านอาหารทะเลสดอร่อย พร้อมร้านค้าท้องถิ่นที่จำหน่ายงานฝีมือและของที่ระลึก

• โอลด์แมนออฟสตอร์ (Old Man of Storr) – เดินเท้าขึ้นไปชมหินแหลมขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขา เป็นหนึ่งในภูมิทัศน์ที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่นที่สุดของเกาะสกาย เกิดจากการพังทลายของหน้าผา สร้างรูปทรงที่แปลกตาเหมือนชายชราที่ยืนมองทะเล

• ปราสาทดันเวแกน (Dunvegan Castle) – ปราสาทเก่าแก่ที่สุดในสกอตแลนด์ที่ยังมีคนอาศัยอยู่ เป็นที่พำนักของตระกูลแมคลีออดมานานกว่า 800 ปี ภายในมีสมบัติล้ำค่าและเรื่องเล่าเกี่ยวกับนางฟ้ารวมทั้งธงลึกลับที่มีตำนานเกี่ยวกับชัยชนะในสงคราม

วันที่ 4: เกลนโค – ล็อคโลมอนด์ – เบลฟาสต์

• เกลนโค (Glencoe) – เยือนหุบเขาที่สวยงามและมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันเศร้าสลด เคยเป็นที่เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ตระกูลแมคโดนัลด์ในปี 1692 และเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ James Bond 007 Skyfall พร้อมเก็บภาพทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน

• ล็อคโลมอนด์ (Loch Lomond) – พักผ่อนริมทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในบริเตนใหญ่ ที่มีความยาวกว่า 39 กิโลเมตร ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันเงียบสงบและทัศนียภาพของภูเขาสูงที่ล้อมรอบ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Trossachs อันงดงาม

• เดินทางสู่เบลฟาสต์ (Belfast) – นั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามทะเลไอริชไปยังเมืองหลวงที่มีชีวิตชีวาของไอร์แลนด์เหนือ เมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมายจนกลายเป็นเมืองที่ทันสมัยในปัจจุบัน

วันที่ 5: เบลฟาสต์และชายฝั่งแอนทริม

• เดอะดาร์คเฮดเจส (The Dark Hedges) – ตื่นตาตื่นใจกับอุโมงค์ต้นบีชอายุหลายร้อยปีที่เรียงรายสองข้างทาง สร้างเงาและบรรยากาศลึกลับ สถานที่ถ่ายทำซีรีส์ Game of Thrones ในฉาก King’s Road ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

• ยักษ์คอสเวย์ (Giant’s Causeway) – ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติกับแนวหินบะซอลต์หกเหลี่ยมกว่า 40,000 เสาที่เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบริมชายฝั่ง เกิดจากการเย็นตัวของลาวาเมื่อ 60 ล้านปีก่อน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีตำนานเกี่ยวกับยักษ์ฟินน์ แม็คคูล

• ชายหาดดาวน์ฮิลล์ (Downhill Beach) – เดินเล่นบนชายหาดทรายขาวที่ทอดยาวกว่า 11 กิโลเมตร โดยมีฉากหลังเป็นวิหารมัสเซนเดน (Mussenden Temple) โดดเด่นบนหน้าผา สร้างขึ้นในปี 1785 เป็นห้องสมุดส่วนตัวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิหารเวสต้าในอิตาลี

• ไททานิคเบลฟาสต์ (Titanic Belfast) – เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของเรือไททานิคที่สร้างขึ้นในอู่ต่อเรือฮาร์แลนด์และวูล์ฟฟ์แห่งเบลฟาสต์ อาคารดีไซน์ทันสมัยสูง 9 ชั้นที่จำลองประสบการณ์การล่องเรือไททานิค ด้วยนิทรรศการอินเตอร์แอคทีฟและเทคโนโลยีทันสมัย

วันที่ 6: เบลฟาสต์ – กัลเวย์

• เดินทางสู่กัลเวย์ (Galway) – มุ่งหน้าสู่เมืองที่มีชีวิตชีวาทางตะวันตกของไอร์แลนด์ เมืองแห่งศิลปะและดนตรีพื้นเมือง เต็มไปด้วยถนนสายแคบๆ ร้านค้าบูติก บาร์ที่มีดนตรีสด และบรรยากาศศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์

• จัตุรัส Eyre Square – ศูนย์กลางของเมืองกัลเวย์ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และบาร์ มีศิลปินริมถนน และบรรยากาศที่คึกคักตลอดทั้งวัน

• แอบบีย์ไคล์มอร์ (Kylemore Abbey) – เยี่ยมชมปราสาทสไตล์วิคตอเรียนริมทะเลสาบอันเงียบสงบในเขต Connemara สร้างในปี 1868 เดิมเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวก่อนจะกลายเป็นอารามของแม่ชี มีสวนวิคตอเรียนที่ได้รับการดูแลอย่างดีและโบสถ์กอธิคขนาดเล็กที่งดงาม

วันที่ 7: ผาโมเฮอร์ – ลิเมอริค – หมู่บ้านอะแดร์

• ผาโมเฮอร์ (Cliffs of Moher) – ชมวิวจากหอคอยโอไบรอัน (O’Brien’s Tower) บนผาหินสูงชันริมมหาสมุทรแอตแลนติกที่สูงถึง 214 เมตร ทอดยาวกว่า 14 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอร์แลนด์ และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ Harry Potter และ The Princess Bride

• เมืองลิเมอริค (Limerick) – แวะเยือนเมืองเก่าแก่ริมแม่น้ำแชนนอน (Shannon) เมืองที่มีประวัติศาสตร์ย้อนไปถึงยุคไวกิ้ง ชมปราสาทพระเจ้าจอห์น (King John’s Castle) ป้อมปราการเก่าแก่ริมแม่น้ำที่สร้างในศตวรรษที่ 13

• ปราสาทเดสมอนด์แห่งอะแดร์ (Adare Desmond Castle) – ชมซากปราสาทยุคกลางที่เคยเป็นป้อมปราการสำคัญ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 โดยเอิร์ลแห่งคิลเดร์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมาอิก (Maigue) ในหมู่บ้านอะแดร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในไอร์แลนด์

• สลีเฮด (Slea Head) – เก็บภาพทิวทัศน์อันงดงามที่จุดชมวิวบนคาบสมุทรดิงเกิล (Dingle) มองเห็นหมู่เกาะบลาสเก็ต (Blasket Islands) และชายฝั่งที่สวยงาม เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางขับรถชมวิวที่สวยที่สุดในไอร์แลนด์

วันที่ 8: พอร์ตเมจี – เกาะสเกลลิก – ค็อบห์

• หมู่บ้านพอร์ตเมจี (Portmagee) – เยือนหมู่บ้านชาวประมงสีสันสดใสทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอร์แลนด์ เป็นจุดเริ่มต้นสู่เกาะสเกลลิก หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบาร์และร้านอาหารให้ลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่

• เกาะสเกลลิกไมเคิล (Skellig Michael) – สัมผัสความ Unseen ของเกาะหินปูนที่มีอารามโบราณอายุกว่า 1,400 ปี ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และเคยเป็นฉากถ่ายทำ Star Wars ต้องเดินขึ้นบันได 618 ขั้นที่สร้างโดยนักบวชในศตวรรษที่ 6 เพื่อไปถึงอาราม

• หอดูดาวปราสาทแบล็กร็อค (Blackrock Castle Observatory) – ชมป้อมปราการเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1582 เพื่อป้องกันการรุกรานทางน้ำ ปัจจุบันเป็นหอดูดาวและศูนย์วิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลี (Lee) ในเมืองคอร์ก

• เมืองค็อบห์ (Cobh) – เที่ยวชมเมืองท่าประวัติศาสตร์ที่เป็นจุดจอดท้ายสุดของเรือไททานิคก่อนออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก ชมมหาวิหารเซนต์โคลแมน (St. Colman’s Cathedral) ที่มีสถาปัตยกรรมโกธิคอันงดงาม และพิพิธภัณฑ์ไททานิคที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้โดยสารชาวไอริชที่เดินทางบนเรือลำนี้

วันที่ 9: ดับลิน เมืองหลวงแห่งวัฒนธรรม

• เดินทางสู่ดับลิน (Dublin) – เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวาของไอร์แลนด์ เมืองที่ผสมผสานความทันสมัยและประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นเมืองแห่งกวีและนักเขียน รวมถึงเป็นบ้านเกิดของ Guinness เบียร์ดำชื่อดังระดับโลก

• โบสถ์เซนต์แอนดรูว์ (St. Andrew’s Church) – ชมโบสถ์โกธิคใจกลางเมืองที่มีประวัติย้อนไปถึงศตวรรษที่ 18 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและกระจกสีที่งดงาม

• คัมภีร์เคลส์ (The Book of Kells) – ตื่นตาตื่นใจกับคัมภีร์โบราณล้ำค่าที่จัดแสดงที่วิทยาลัยทรินิตี้ (Trinity College) เป็นคัมภีร์ที่ตกแต่งด้วยภาพประกอบแบบเซลติกอันวิจิตรงดงาม สร้างขึ้นโดยนักบวชในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9

• จอร์จส์ สตรีท อาร์เคด (George’s Street Arcade) – เดินเล่นในตลาดในร่มเก่าแก่ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1881 เต็มไปด้วยร้านค้าเล็กๆ ที่ขายของแปลกตา งานฝีมือ และของวินเทจ

• ถนนกราฟตัน (Grafton Street) – สัมผัสบรรยากาศถนนช้อปปิ้งสายหลักที่คึกคักที่สุดของดับลิน เต็มไปด้วยร้านค้า แบรนด์ดัง ร้านอาหาร และมีศิลปินเปิดหมวกมากมาย

วันที่ 10: ประวัติศาสตร์ดับลินและการเดินทางกลับ

• ปราสาทดับลิน (Dublin Castle) – เยี่ยมชมปราสาทที่เป็นอดีตศูนย์กลางการปกครองของอังกฤษในไอร์แลนด์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 จนถึงการประกาศอิสรภาพของไอร์แลนด์ ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดงานและพิธีการสำคัญของรัฐบาลไอร์แลนด์

• โรงกลั่น Jameson – เรียนรู้กระบวนการผลิตวิสกี้ไอริชที่มีชื่อเสียงระดับโลก พร้อมลิ้มรสวิสกี้หลากหลายชนิด

• เดินทางสู่สนามบินดับลิน – เตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน Qatar Airways (เที่ยวบิน QR18 เวลา 15.00 น.) มุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพฯ โดยมีการแวะเปลี่ยนเครื่องที่โดฮา ประเทศกาตาร์

วันที่ 11: เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

• ต่อเครื่องที่โดฮา (เที่ยวบิน QR836 เวลา 02.15 น.) และเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ เวลา 13.10 น. พร้อมความทรงจำอันแสนประทับใจจากการเดินทางในดินแดนแห่งขุนเขา ปราสาทโบราณ และตำนานเซลติกที่น่าหลงใหล