วันที่ 1: กรุงเทพฯ – ควีนส์ทาวน์

• ควีนส์ทาวน์ (Queenstown): เมืองรีสอร์ทริมทะเลสาบวาคาติปูที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขารีมาร์คาเบิ้ล ได้รับขนานนามว่า “เมืองหลวงแห่งการผจญภัย” ของโลก เป็นศูนย์กลางกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งที่น่าตื่นเต้นมากมาย

วันที่ 2: ควีนส์ทาวน์

• กระเช้าสกายไลน์ (Skyline Gondola): ขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขาบ็อบส์พีค สูง 450 เมตรเหนือระดับเมือง ชมวิวพาโนรามาอันตระการตาของทะเลสาบวาคาติปู เทือกเขารีมาร์คาเบิ้ล และเมืองควีนส์ทาวน์ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรมรถลูจ (Luge) ที่สนุกสนาน

• มิลฟอร์ดซาวด์ (Milford Sound): ฟยอร์ดที่สวยงามที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์ ล่องเรือชมความงามของหน้าผาสูงชัน น้ำตกมิทเร่พีค และฝูงแมวน้ำแสนน่ารักในธรรมชาติที่บริสุทธิ์

• ร้านอาหารริมทะเลสาบ: ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดโรแมนติคและรับประทานอาหารระดับพรีเมียมที่ร้านอาหารริมทะเลสาบวาคาติปู ชมพระอาทิตย์ตกสุดประทับใจ

วันที่ 3: ควีนส์ทาวน์ – เท อานาอู

• เท อานาอู (Te Anau): เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่เป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์ ล้อมรอบด้วยภูมิประเทศเขียวขจีและเทือกเขาสูง เป็นจุดพักผ่อนที่สงบและเป็นธรรมชาติ

• ดาวท์ฟูลซาวด์ (Doubtful Sound): ฟยอร์ดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์ แต่มีผู้เยี่ยมชมน้อยกว่ามิลฟอร์ดซาวด์ ทำให้มีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่า ล่องเรือชมป่าดิบชื้น น้ำตก และความหลากหลายทางชีวภาพอันอุดมสมบูรณ์

วันที่ 4: เท อานาอู – มิลฟอร์ดซาวด์

• เส้นทางมิลฟอร์ด (Milford Road): เส้นทางขับรถที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ผ่านอุโมงค์โฮเมอร์ (Homer Tunnel) ภูเขา ทะเลสาบกระจก และจุดชมวิวที่น่าทึ่งมากมาย

• ล่องเรือมิลฟอร์ด: ชมฟยอร์ดในอีกมุมมองหนึ่ง สัมผัสใกล้ชิดกับน้ำตกโบเวน (Bowen Falls) และน้ำตกสเตอร์ลิง (Stirling Falls) พร้อมชมสัตว์ป่าทั้งโลมาดัสกี้ นกเพนกวิน และแมวน้ำนิวซีแลนด์

• เส้นทางเดินป่า: เดินเล่นตามเส้นทางธรรมชาติสั้นๆ รอบๆ ฟยอร์ด ชมพืชพันธุ์เฉพาะถิ่นและระบบนิเวศป่าฝน

วันที่ 5: มิลฟอร์ดซาวด์ – ดันีดิน

• ดันีดิน (Dunedin): เมืองใหญ่อันดับสองของเกาะใต้ที่มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมสไตล์สก็อตและวิคตอเรียน มีมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของนิวซีแลนด์ เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และมีชีวิตชีวา

• คาบสมุทรโอตาโก (Otago Peninsula): แหล่งที่อยู่อาศัยของนกเพนกวินตาเหลืองที่หายากที่สุดในโลก ชมเพนกวินในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติขณะที่พวกมันกลับรังหลังออกหาอาหารในทะเล

• ศูนย์อนุรักษ์นกอัลบาทรอส (Royal Albatross Centre): สถานที่เดียวในโลกที่มีอาณานิคมนกอัลบาทรอสแบบถาวรบนแผ่นดินใหญ่ ชมนกขนาดใหญ่ที่สุดที่สามารถบินได้ มีความกว้างปีกกว่า 3 เมตร

วันที่ 6: ดันีดิน

• ตัวเมืองดันีดิน: สำรวจสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เช่น สถานีรถไฟดันีดิน มหาวิทยาลัยโอตาโก ปราสาทลาร์นัค และ Baldwin Street ถนนที่ชันที่สุดในโลก (ตามกินเนสบุ๊คออฟเรคอร์ด)

• โมเอราคิโบลเดอร์ส (Moeraki Boulders): กลุ่มหินทรงกลมขนาดใหญ่บนชายหาด ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอายุกว่า 60 ล้านปี มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5-2.2 เมตร มีตำนานเล่าว่าเป็นตะกร้าอาหารและน้ำเต้าที่ถูกซัดมาจากเรือของบรรพบุรุษชาวเมารี

• เมาท์คุก (Mount Cook): ชมยอดเขาที่สูงที่สุดของนิวซีแลนด์ในยามพระอาทิตย์ตกดิน ถ่ายภาพที่ระลึกกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ

วันที่ 7: ดันีดิน – ทะเลสาบเทกาโป

• ทะเลสาบเทกาโป (Lake Tekapo): ทะเลสาบน้ำสีเทอร์ควอยซ์ที่งดงาม เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็ง มีผงแร่หินที่ละเอียดมากลอยอยู่ในน้ำทำให้เกิดสีฟ้าสวยงาม ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด (Dark Sky Reserve)

• โบสถ์คนเลี้ยงแกะแห่งทะเลสาบเทกาโป (Church of the Good Shepherd): โบสถ์หินขนาดเล็กริมทะเลสาบที่สร้างขึ้นในปี 1935 เป็นแลนด์มาร์คยอดนิยมของนักท่องเที่ยว มีหน้าต่างด้านหลังแท่นบูชาที่เปิดให้เห็นวิวทะเลสาบและภูเขา

• เดินเล่นริมทะเลสาบ: สัมผัสอากาศบริสุทธิ์และทัศนียภาพอันงดงามริมทะเลสาบ ในยามค่ำคืนสามารถชมดาวท่ามกลางท้องฟ้าที่ปราศจากมลพิษทางแสง

วันที่ 8: ทะเลสาบเทกาโป – คริสต์เชิร์ช

• คริสต์เชิร์ช (Christchurch): เมืองใหญ่ที่สุดของเกาะใต้ ที่ผสมผสานความเก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว ฟื้นตัวอย่างน่าประทับใจจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 2011 มีสถาปัตยกรรมแนวอังกฤษและสวนสาธารณะที่สวยงาม

• สวนพฤกษศาสตร์คริสต์เชิร์ช (Christchurch Botanic Gardens): สวนพฤกษศาสตร์ที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1863 ครอบคลุมพื้นที่ 21 เฮกตาร์ มีพันธุ์ไม้นานาชนิดทั้งพืชพื้นเมืองและพืชต่างถิ่น เป็นโอเอซิสเขียวขจีใจกลางเมือง

• พิพิธภัณฑ์แคนเทอร์เบอรี่ (Canterbury Museum): พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ธรรมชาติ วัฒนธรรมเมารี และประวัติการตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรปในนิวซีแลนด์ รวมถึงนิทรรศการเกี่ยวกับการสำรวจแอนตาร์กติกาและนักสำรวจเซอร์เอ็ดมันด์ ฮิลลารี

วันที่ 9: คริสต์เชิร์ช – ควีนส์ทาวน์

• ทรานซ์อัลไพน์ (TranzAlpine): รถไฟเส้นทางที่สวยที่สุดของนิวซีแลนด์ จากคริสต์เชิร์ชสู่เมืองกรีเมาท์ ผ่านทุ่งราบแคนเทอร์เบอรี่ หุบเขาไวมาคาริริ และเทือกเขาเซาเทิร์นแอลป์ ชมวิวสุดตระการตาตลอดเส้นทาง

• อาเธอร์สพาส (Arthur’s Pass): อุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่บนช่องเขาสูงระหว่างชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเกาะใต้ ชมน้ำตก ภูเขา และเส้นทางเดินป่าท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม

• ธารน้ำแข็งฟรานซ์โจเซฟ (Franz Josef Glacier): หนึ่งในธารน้ำแข็งที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในโลก ล้อมรอบด้วยป่าฝนเขตร้อนที่สร้างความแตกต่างอย่างน่าทึ่ง ชมธารน้ำแข็งสีฟ้าขาวที่ทอดตัวจากเทือกเขาเซาเทิร์นแอลป์ลงสู่ระดับต่ำเพียง 240 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

วันที่ 10: ควีนส์ทาวน์ – กรุงเทพฯ

• ควีนส์ทาวน์ฮิลล์: ช้อปปิ้งของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นในย่านเมืองเก่า เช่น ขนแกะเมอริโน น้ำผึ้งมานูกา และไวน์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง

• เที่ยวบินกลับ: เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ พร้อมความทรงจำอันแสนประทับใจจากดินแดนแห่งฟยอร์ดและธรรมชาติอันงดงามของนิวซีแลนด์เกาะใต้