DAY 1: Bangkok – Mauritius
DAY 2 : Mauritius – Chamarel Falls – Rum Factory – Seven Coloured Earths
- นำท่านเที่ยวชมเมืองพอร์ตลูอิส เมืองหลวงของสาธารณรัฐมอริเชียส หรือที่รู้จักในนาม เกาะมอริเซียส ดินแดนสวรรค์นอกชายฝั่งแอฟริกา กลางมหาสมุทรอินเดีย อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าของฝาก ของที่ระลึก ณ.ตลาดกลาง Central Market
- ชมความงามของปากปล่องภูเขาไฟ Trou Aux Cerfs ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ตั้งอยู่กลางเมืองคูเรปิเป
- แวะถ่ายรูปกับจุดชมวิว Black river gorges ท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของป่าเขา และน้้ำตกที่สุดสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศมอริเชียส
- จากนั้นนาท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบแห่งแม่น้ำคงคา Grand Bassin Sacred Lake เป็น ทะเลสาบอันศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนอินเดียในประเทศมอริเชียสสร้างขึ้นเพื่อ เป็นเกียรติแก่ พระศิวะที่พวกเขาเคารพนับถือ และในสถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของวัดฮินดู ที่ประดิษฐานของรูปเคารพของเหล่าเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ตามศาสนาฮินดู
- นำท่านเดินทางสู่ โรงงานผลิตรัม Rum Factory ซึ่งบนเกาะแห่งนี้ประชาชนนิยมปลูกอ้อย ทาให้รัมเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงมาก อิสระให้ท่านเยี่ยมชมกรรมวิธีการผลิตและทดลองดื่ม
- นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกชามาเรล Chamarel Falls มีความสูง 90 เมตร ผ่านทางเส้นทางเวิ้ง ซึ่งเป็นอ่าวที่มีความสวยงามอีกแห่งของมอริเชียส
- เดินทางสู่เนินทราย 7 สี Seven Coloured Earths ซึ่งเกิดจากการก่อตัวของหินลาวา ซึ่งเป็นหินบะซอลล์ กลายเป็นโคลนและได้เปลี่ยนมาเป็นทรายในที่สุด ซึ่ง 7 สีนั้น ประกอบไปด้วย สีแดง น้ำตาล ม่วงเข้ม เขียว น้ำเงิน ม่วงอ่อน เหลือง จึงได้รับการขนานนามว่า เนินทรายเจ็ดสี
DAY 3 : Mauritius – Antananarivo
Day 4 : Reptiles farm – Andasibe National Park
- Reptiles farm เป็นฟาร์มกิ้งก่า และสัตว์แปลกต่างๆ และสัตว์ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ กิ้งก่า camelion มีสีสรรสวยงามมาก
- เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติอันดาสิเบ (Andasibe National Park) อุทยานแห่งชาติอันดาสิเบ-มันตาเดีย Andasibe-Mantadia National Park อุทยานแห่งนี้ได้ถูกจารึกไว้ในมรดกโลกในปี 2007 เป็นส่วนหนึ่งของป่าฝนของ Atsinanana อุทยานแห่งชาติมีพื้นที่ประมาณ 155 ตารางกิโลเมตร พื้นที่คุ้มครองอยู่ประมาณ 150 ตารางกิโลเมตรและตั้งอยู่ทางตะวันออกของอันตานานาริโว
Day 5 : Andasibe – Marozevo Exotic Farm – Lemurs Park – Antananarivo
- แวะชมฟาร์มมาโรเซโว (Marozevo Exotic Farm) อีกหนึ่งที่ ที่จะได้พบกับสัตว์หายากนานาชนิด เช่น กิ้งก่าคาเมเลี่ยน (Chameleon) สีสันแสบตา จิ้งหรีด กบหายาก นกแก้วสีดำ และ ผีเสื้อหลากสีสวยงาม รวมทั้งสัตว์เลื้อยคลานอื่นๆ หลายสายพันธุ์สามารถพบได้ที่มาดากัสการ์เท่านั้น
- จากนั้นเดินทางกลับเมือง Antananarivo ชมเมืองอันตานานาริโว มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยมาดากัสการ์ (Democratic Republic of Madagascar) เป็นเกาะใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของโลก รอง จาก กรีนแลนด์(Greenland) นิวกินี(Newgini) และบอร์เนียว(Borneo) วัดจากเหนือจรดใต้ยาว 1,600 กิโลเมตร มีขนาดพื้นที่เกือบเท่าครึ่งของประเทศฝรั่งเศส และใหญ่กว่าประเทศไทย 70,000 กว่าตารางกิโลเมตร
- ระหว่างทางชมศูนย์อนุรักษ์ลิเมอร์ Lemurs Park ซึ่งเป็นศูนย์อนุรักษ์ลิเมอร์ที่มีชื่อเสียงแห่งเกาะมาดากัสการ์ให้ท่านได้สัมผัสลิเมอร์ และ เก็บภาพความน่ารักของลิเมอร์นานาชนิด ที่มีมากมายในศูนย์อนุรักษ์แห่งนี้
Day 6 : Antananarivo City Tour
นําท่าน เข้าชมพระราชวังหลวงรูวา (Rova of Antana narivo) เป็นที่ประทับของประมุขของมาดากัสการ์ในสมัยราชวงศ์เมรีนา ช่วง คศ.17-18 รวมทั้งเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรมาดากัสการ์ทุกพระองค์ ตั้งอยู่ใจกลางของกรุงอันตานานาริโว
ถ่ายรูปกับทําเนียบนายกรัฐมนตรี (Prime Minister Palace)
- นําท่านเที่ยวชมจัตุรัสแห่งอิสรภาพ (Independence Square) สถานที่แห่งการรําลึกถึงการ ประกาศอิสระภาพของประเทศมาดากัสการ์
นําท่าน เข้าชม Ambo imanga ซึ่งเป็นป้อมปราการโบราณสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 15 ภายในจัดแสดงวัตถุโบราณและอาวุธที่ใช้ในการป้องกันการรุกรานจากศัตรู ซึ่งบริเวณป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นบนเนินเขา จึงทําให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองอันตานานาริโว ได้โดยรอบ
Day 7 : Antananarivo – Morondava – Betahina
- อิสระช้อปปิ้งห้างสรรพสินค้า และตลาดของที่ระลึก ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองและเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
- เหินฟ้าสู่เมือง Morondava ประตูสู่ป่าเบาบับอันขึ้นชื่อแห่งเกาะมาดากัสการ์ โดยสายการบิน Tsaradia เที่ยวบินที่ TZ702
- ถึงเมือง Morondava ตั้งอยู่ริมทะเล ซึ่งมีทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ มีชายฝั่งตรงข้ามเป็นประเทศโมซัมบิก โดยประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง
- นำท่านเดินทางสัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวท้องถิ่นโดยการล่องเรือชมธรรมชาติของชายป่าโกงกาง ซึ่งสามารถออกสู่ทะเลได้ นาท่านเดินทางสู่ เกาะ Betahina เพื่อแวะเที่ยวหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงการดารงชีพด้วยการจับปลาและสัตว์น้ำต่างๆในแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน
- ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับหาดโมรอนดาวา Morondava Beach ซึ่งเป็นชายหาดที่ขึ้นชื่อแห่งเมืองโมรอนดาวา อิสระให้ท่านได้เดินเล่นพร้อมเก็บภาพธรรมชาติอันสวยงามแห่งเมืองโมรอนดาวา
DAY 8 : Morondava
- นำท่านนั่งรถแบบ 4WD มุ่งหน้าสู่ ป่าแล้ง Kirindy Dry Forest (ระยะทางประมาณ 60 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) หนึ่งในระบบนิเวศน์ที่แปลกประหลาดที่สุดในโลก ซึ่งมีความแตกต่างจากป่าฝนที่อุทยานแห่งชาติอันดาสิเบทางฝั่งตะวันออก เนื่องจากเป็นป่าที่มีต้นไม้และหญ้าแห้งขึ้นปกคลุมจนได้สมญานามว่า “ป่าแล้ง” อย่างไรก็ดีป่าแห่งนี้ยังคงเป็นที่อยู่ของสัตว์นานาชนิดไม่ว่าจะเป็น Fosa สัตว์นักล่าประจำถิ่นที่สามารถพบได้ที่มาดากัสก้าเท่านั้น หรือ ลีเมอร์บางสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติในป่าแล้ง นอกจากนี้ยังเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์นานาชนิดที่มีรูปร่างแปลกตา
- เดินทางสู่ Avenue of the Baobabs ซึ่งมีต้นเบาบับตลอดช่วงสองข้างทางในระหว่างรอยต่อของเมือง Belon’i Tsiribihina กับ Morondava ต้นเบาบับถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาดากัสการ์ เป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนที่สุด และใหญ่ที่สุดในโลก จนได้รับสมญานามว่า Tree of life หรือต้นไม้แห่งชีวิต
- นำท่านแวะชมและถ่ายรูปกับต้นเบาบับรักกัน Baobab Amoureux หรือ Baobab lover ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก และเพลิดเพลินกับ เบาบับ อัลเลย์ ซึ่งเป็นช่วงถนนลูกรัง ที่ท่านจะได้พบกับแนวต้นเบาบับ ที่มีรูปทรงสวยงาม และแปลกตามากมาย ทอดยาวไปตามถนนกว่า 260 เมตร และบางต้นนั้นมีความสูงกว่า 30 เมตร มีอายุมากกว่า 800 ปี ส่วนใหญ่เป็นต้นเบาบับจากสายพันธุ์ Adansonia Grandidieri รอชมพระอาทิตย์ตก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามยิ่งแห่งผืนป่าเบาบับแห่งนี้
DAY 9 : Morondava – Antananarivo
- อิสระช่วงเช้าเก็บสัมภาระเพื่อเตรียมตัวไปยังสนามบิน
- ออกเดินทางไปยังสนามบินภายในประเทศ เพื่อเดินทางกลับเมือง Antananarivo โดยสายการบิน Tsaradia เที่ยวบินที่ TZ703 เวลา 14.55 น.
- เดินทางถึงสนามบินเมือง Antananarivo
- เดินเล่นชมเมือง หรือจะแวะซื้อของฝากที่ตลาดท้องถิ่นตามอัธยาศัย
DAY 10 : Antananarivo – Reunion – Léon Dierx Museum – Jardin de l’État
- จากนั้นไปยังสนามบินภายในประเทศเพื่อเดินทางไปยังเมือง Reunion โดยสายการบิน Air Madagascar เที่ยวบินที่ MD18 (09.10-11.50)
นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ (Léon Dierx Museum) อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวของคนรักศิลปะ โดยภายในพิพิธภัณฑ์นั้น ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ.1911 ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับผลงานศิลปะร่วมสมัยและศิลปะสมัยใหม่เป็นจำนวนมาก
ชมสวนพฤกษศาสตร์ Jardin de l’État อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของเมือง โดยสวนพฤกษศาสตร์ถูกสร้างข้ึนในปีค.ศ. 1767 – 1773 อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติซึ่งเปิดทำการในสิงหาคม 1855 ภายในสวนพฤกษศาสตร์ Jardin de l’État นั้น มีการจัดแสดงเกี่ยวกับพันธุ์ไม้พื้นเมืองและพันธุ์ไม้หายากกวา่ 50 ชนิด
พาท่านไปยัง La Roche Écrite จุดชมวิวทิวทัศน์ที่สำคัญของเมืองแซงต์ เดอนีส์ โดยจุดชมวิวแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ 15 กิโลเมตร ณ จุดชมวิวแห่งนี้ท่านจะได้ชื่นชมความงดงามของวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติภูเขาสูงชัน อันสลับซับซ้อน รวมไปถึงกิจกรรมเดินป่าตามเส้นทางอันแสนท้าทายอีกด้วย
DAY 11 : Reunion – Plaine des Sables – Piton de laFournaise – Bangkok
- นำท่านเดินทางสู่ทุ่งแปลน เด ซาบล์ส (Plaine des Sables) เพื่อชมหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกที่สวยงามและอศัจรรยย์ิ่ง ลัดเลาะผ่านทุ่งหญ้าปศุสัตว์ อันเขียวขจี นำท่านแวะถ่ายรูปอันนาประทับใจของทิวทัศน์เทือกเขาสลับซับซ้อนตระการตา
มุ่งหน้าชมความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟ ปี ตงเดอลาฟูร์แนซ (Piton de laFournaise) หนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกกรุ่นอยู่และมีการระเบิดอยู่อย่างต่อเนื่องทุกปีภูเขาไฟรูปโล่ตั้งอยู่บนปลาย
เกาะรียูเนี่ยน ทางตะวันออก มีความสูง 2,631 เมตร (8,632 ฟุต) จากระดับน้ำทะเล ซึ่งบางครั้งเรียกว่าเป็นพี่น้องกับ ภูเขาไฟเกาะฮาวาย เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันทางด้านภูมิอากาศและธรรมชาติมีการระเบิดขึ้นกว่า 100ครั้ง ตั้งแต่ปีพ.ศ.2183 เป็นต้นมา และยังเป็นที่จับ ตามองมาถึงปัจจุบันการระเบิดคร้ังสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวัน ที่4 เมษายน พ.ศ. 2550 ภูเขาไฟลูกนี้ถือเป็นจุดกำเนิดของเกาะรียูเนียนเมื่อประมาณ 3 ล้านปีก่อน ภูเขาไฟแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติรียูเนียน และยังได้รับการยกย่องจากองคก์ารยเูนสโกเป็นมรดกโลกอีกด้วย
(การชมบริเวณปากปล่องภูเขาไฟ ทางไกด์ท้องถิ่นจะแจ้งให้ทราบอีกคร้ังเนื่องจากต้องดูเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก)
- เหินฟ้ากลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบิน AIR AUSTRAL เที่ยวบินที่ UU887
DAY 11 : Bangkok
- เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
***รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม***