วันแรก : กรุงเทพฯ – อุดรธานี – วัดป่าบ้านตาด – วัดป่าภูก้อน – วัดผาตากเสื้อ-วัดถ้ำดินเพียง – หนองคาย
- นัดพบกันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ทีมงานคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ท่าน
- ถึงสนามบินอุดรธานี
- ไปยังวัดป่าบ้านตาด เป็นวัดที่เงียบสงบ ร่มรื่น ร่มเย็น นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ถึงเรื่องราวของหลวงตามหาบัวว่าทำไมวัดป่าบ้านตาดแห่งนี้ ถึงเป็น”วัดของแผ่นดินทำประโยชน์เพื่อแผ่นดิน”
- เดินทางสู่ วัดป่าภูก้อน เ ที่รายล้อมด้วยผืนป่าเขียวขจีกว่า 3,000 ไร่ ซึ่งจุดเริ่มต้นในการสร้างวัด คือ ความมุ่งหมายที่จะรักษาธรรมชาติของป่าอันสมบูรณ์ และแหล่งต้นน้ำลำธารอันอุดมสมบูรณ์เอาไว้จากการถูกบุกรุกทำลาย นอกจากนี้บริเวณวัดเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม
- ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ วัดผาตากเสื้อและมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก สูงจากระดับน้ำทะเล 550 เมตร จากจุดชมวิววัดผาตากเสื้อ หากมองไปทางซ้ายมือ จะมองเห็นวิวแม่น้ำโขงวาดยาวโค้งเป็นคุ้งน้ำ กลางแม่น้ำมีเกาะ ขนาดใหญ่ มองเห็นประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างชัดเจน
- นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ วัดถ้ำศรีมงคล (ถ้ำดินเพียง) อยู่ที่บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ณ ที่แห่งนี้ เชื่อว่าถ้ำแห่งนี้เป็นเส้นทางสู่เมืองพญานาค ที่สามารถเดินทางไปใต้ลำน้ำโขงไปๆมาๆ ระหว่างหนองคายกับเวียงจันทน์ได้
- เข้าพักที่โรงแรม หนองคาย
วันที่สอง : หนองคาย – บึงกาฬ – หินสามวาฬ – ภูทอก
- เดินทางไป ภูทอก ภูเขาหินทรายที่มี วัดเจติยาคีรีวิหาร ตั้งอยู่เชิงเขา และมีสะพานไม้สร้างวนเวียนขึ้นไปสู่ยอดเขารวม 7 ชั้น ดังนี้ ชั้นที่ 1-2 เป็นบันไดสู่ชั้นที่ 3 ชั้นที่ 4 เป็นสะพานที่สามารถไต่เวียนรอบเขาได้ ชั้นที่ 5 มีศาลาและกุฏิ ชั้นที่ 6 มีที่พักเป็น เป็นสะพานเวียนรอบเขาความยาวทั้งหมด 400 เมตร ชั้นที่ 7 เป็นป่ารกทึบ (ไม่เหมาะที่นักท่องเที่ยวจะนำชม)
- นำท่านออกเดินทางสู่ป่าสงวนแห่งชาติ ภูสิงห์ ชมหินสามวาฬ หนึ่งในจุดสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู
- ถึงที่ทำการ ภูสิงห์ นำท่านเปลี่ยนเป็น รถท้องถิ่นขึ้นชม หินสามวาฬ หินหัวช้าง หินรูปช้าง กำแพงหินยักษ์ หินสามวาฬ มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อน มีอายุประมาณ 75 ล้านปี หนึ่งเดียวของโลก ความพิเศษของหินสามวาฬอยู่ตรงที่ เมื่อมองดูจากระยะไกล หินสามก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ ที่ประกอบด้วยพ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ ซึ่งเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อน
- จากนั้นเข้าพักที่โรงแรม บึงกาฬ
วันที่สาม : บึงกาฬ – น้ำตกถ้ำพระ – บึงโขงหลง – ถ้ำนาคา – แม่น้ำสองสี-พระธาตุท่าอุเทน – นครพนม
- เดินทางไป น้ำตกถ้ำพระ ระหว่างทางนั่งรถจะเห็นความ อลังการของน้ำตกได้แต่ไกล ลงเรือลัดเลาะไปตามลำคลองที่ใสสะอาด สองข้างทางเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ประมาณ 10 นาที จากนั้นเดินเท้าเข้าสู่บริเวณน้ำตก ระยะทางประมาน 300 เมตร ท่านจะพบกับ น้ำตกถ้ำพระ
- ชมบึงโขงหลง คือบึงน้ำขนาดกว้างใหญ่มาก มีน้ำขังตลอดปีลักษณะเหมือนแม่น้ำโขง จึงได้ชื่อว่า “บึงโขงหลง” ซึ่งเป็นบึงน้ำที่อุดมไปด้วยปลาน้ำจืดทุกชนิด ถือเป็นแหล่งน้ำที่หล่อแหล่งชีวิตเกษตรในตำบลนี้และตำบลใกล้เคียงได้ตลอดปี บึงโขงหลงได้ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับนานาชาติอันดับที่ 1,098 ของโลก (Wetland of International Importance)
- เดินทางไปชม “ถ้ำนาคา” ซึ่งถูกสำรวจพบบริเวณ “วัดถ้ำชัยมงคล” ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา ลักษณะภายในถ้ำเป็นหินทราย ผนังถ้ำมีลักษณะเป็นเกร็ดงู หรือเกร็ดปลา รูปทรงขนาดใหญ่ คล้ายงูนอนขดตัว
- เดินทางไปยังนครพนม จุดนี้เป็นจุดที่แม่น้ำสงครามมาบรรจบกับแม่น้ำโขง ซึ่งแม่น้ำทั้งสองสายนั้นมีสีที่แตกต่างกัน ด้วยสีเขียวของแม่น้ำสงครามมาบรรจบกับสีน้ำตาลของแม่น้ำโขง เกิดเป็นภาพความสวยงามอีกแบบหนึ่ง ที่ปากแม่น้ำสงคราม บ้านไชยะบุรี
- นำท่านเดินทางไป วัดพระธาตุท่าอุเทน พระธาตุประจำวันเกิดของชาววันศุกร์ เชื่อกันว่าผู้ที่เกิดวันนี้เป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์รักอิสระรักสวยรักงาม ผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ
- เดินทางไปยังจังหวัดนครพนม และเข้าสู่ที่พัก
วันที่สี่ : จวนผู้ว่าหลังเก่า – พระธาตุพนม – ต้นจามจุรียักษ์ – บ้านลุงโฮ -สนามบิน
- พาชม พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม” (หลังเก่า) ที่ยังคงเอกลักษณ์ความสวยงามตามแบบฉบับตะวันตก ซึ่งได้รับอิทธิพลการสร้างมาจากฝรั่งเศส ในสมัยสงครามอินโดจีน
- เดินทางไปนมัสการ พระธาตุพนม พระธาตุแห่งนี้เป็นพระธาตุประจำคนเกิด “ปีวอก” และ “วันอาทิตย์” ภายในพระธาตุได้บรรจุอุรังคธาตุ(กระดูกส่วนหน้าอก)ของพระพุทธเจ้า อานิสงส์ของการไหว้พระธาตุพนม เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต ให้เป็นผู้มีบุญบารมีจะทำให้ผู้คนเคารพนับถือมาก
- แวะถ่ายรูปกับต้นจามจุรียักษ์ วัดจอมศรี ต.นามะเขือ ต้นก้ามปูต้นนี้ตั้งเด่นอยู่กลางวัด ปกคลุมไปด้วยมอสสีเขียว ดูทั้งขลัง ทั้งร่มรื่น
- แวะเที่ยว บ้านลุงโฮ หรือที่มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า บ้านท่านโฮจิมินห์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ที่ครั้งหนึ่ง อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาอาศัยพึ่งพระบรมโพธิสมภาร พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนามในช่วงระหว่างการทำสงคราม เพื่อเตรียมการ ปฏิวัติสู้กับประเทศฝรั่งเศษ
- ได้เวลาเดินทางไปยังสนามบิน เพื่อกลับ กรุงเทพฯ สนามบินดอนเมือง
- ถึงดอนเมืองด้วยความสวัสดิภาพ